โจวโจว ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ และซวีอันกำลังรออยู่ในห้องรับรอง
ในหมู่พวกเขา โจวโจวกำลังดื่มเครื่องดื่มที่วิหารอัศวินเพิ่งนำมาให้อย่างสบายอารมณ์
ต้องบอกว่าเครื่องดื่มระดับสูงเช่นนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลของเขา เขาก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาเลยหลังจากดื่มมัน
ทางด้านซ้ายของเขา ลู่ฉ่ายเอ๋อร์กำลังครุ่นคิด เธอแค่มาถามถึงการทะลวงระดับของเธอ ทำไมจู่ๆ เธอได้เข้ามาพัวพันกับเรื่องใหญ่ๆ อย่างการชุบชีวิตผู้กล้าด้วย?
อย่างไรก็ตาม เธอตั้งหน้าตั้งตารอสิ่งนี้จริงๆ
ผู้กล้าคนไหนกันที่โจวโจวจะชุบชีวิตในคราวนี้?
มันมีผู้กล้าที่มีชื่อเสียงหลายคนในประวัติศาสตร์ที่ปรากฏขึ้นในใจของเธอ
อีกด้านหนึ่ง ซวีอันที่ไม่รู้อะไรเลยก็กำลังนั่งอยู่ทางด้านขวาของโจวโจวด้วยสีหน้าว่างเปล่า
ข้าเป็นใครกัน?
ข้าอยู่ที่ไหนเนี่ย?
ข้ามาทำอะไรที่นี่?
ซวีอันที่ไม่ได้รับรู้สถานการณ์อะไรเลยไม่รู้ว่าว่าจะต้องทำยังไงนอกจากนั่งนิ่งๆ
อย่างไรก็ตาม เขาก็สงบนิ่งมาก เขาจะเชื่อฟังลอร์ดของเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าวิหารไป่เหอก็เดินเข้ามา
ข้างๆ เขาคือลูกศิษย์ของเขาอย่างอัศวินอุกกาบาตสีเงินร็อบ
“เจ้าสามารถชุบชีวิตผู้กล้าได้อีกแล้วเหรอ?”
ไป่เหอถามทันทีที่เขามาถึง
“ยังขอรับ แต่…”
“แต่อะไร?”
ร็อบอดถามออกมาไม่ได้
นี่ทำให้เจ้าวิหารไป่เหอถลึงตามองเขา ทำให้ร็อบต้องก้มหัวลงอย่างไม่เต็มใจ
“บอกข้ามา เจ้าต้องการอะไร?”
ถ้าเจ้าวิหารไป่เหอไม่เข้าใจสิ่งที่โจวโจวต้องการ เขาก็คงจะไม่อยู่มาได้นานขนาดนี้
“ข้าต้องการมรดกผู้กล้าประเภทนักฆ่าระดับเทพให้กับลูกน้องคนหนึ่งของข้าขอรับ ข้าไม่อยากได้มรดกผู้กล้าระดับเหนือสามัญที่เจ้าวิหารมอบเป็นรางวัลให้กับข้า”
โจวโจวกล่าว
ในทันทีที่เขาพูดจบ ไป่เหอและร็อบก็เบิกตากว้าง
แม้แต่ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ก็อึ้งไปด้วย
พวกเขามองมาที่โจวโจวและมีเพียงความคิดเดียวในใจของพวกเขาเท่านั้น
“ช่างกล้า…”
บรรยากาศเงียบลง
ในบรรดาห้าคนที่อยู่ที่นี่ ซวีอันเป็นคนที่สับสนที่สุด
มรดกผู้กล้าระดับเทพ…
หรือว่า…
ความคิดอันน่าเหลือเชื่อปรากฏขึ้นในหัวของเขา
หรือว่าท่านลอร์ดจะมาขอมรดกผู้กล้าให้กับข้า?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกอย่างก็สมเหตุสมผลแล้ว
ไม่น่าแปลกเลยที่ท่านลอร์ดส่งคนไปตามเขามาแต่เช้าตรู่และพาเขามาที่นี่โดยไม่อธิบายอะไร
กลายเป็นว่าท่านลอร์ดต้องการมอบมรดกผู้กล้าให้กับข้า
อย่างไรก็ตาม ซวีอันก็ยังพบว่ามันน่าเหลือเชื่อแม้ว่าเขาจะลองคาดเดาดูแล้ว ในเวลาเดียวกัน เขาก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
เขาอยู่ในองค์กรนักฆ่ามานานแล้ว
หัวใจของเขาเย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้กับภารกิจลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์ของเขา มันแทบไม่มีหัวหน้าคนไหนเลยที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยดีขนาดนี้เหมือนกับท่านลอร์ด
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในขณะนี้
เขารู้สึกว่าผลประโยชน์ดังกล่าวไม่ควรตกอยู่กับเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไป่เหอพูดต่อมาก็ทำให้เขาเลิกคิดเรื่องนี้ไป
“คนผู้นั้นงั้นเหรอ?”
เมื่อไป่เหอได้ยินคำขอที่ไร้สาระของโจวโจว เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธมันทันที แต่สายตาของเขาได้มองไปยังซวีอัน
ภายใต้สายตาของสุดยอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของซวีอันจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ยังรู้สึกกดดันอย่างมาก
โจวโจวพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดของไป่เหอ
“เป็นไงบ้างขอรับ ไม่เลวเลยใช่ไหม? เขาคือเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่หาได้ยากยิ่งสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราเลย”
เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
ไป่เหอไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อได้ยินเช่นนี้ในขณะที่เขาประเมินซวีอันต่อ
หลังจากผ่านไปสักพัก แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่หัวใจของเขาก็เต้นระรัว
สายตาของเขาเฉียบแหลมมาก
ภายใต้การตรวจสอบของเขา มันอาจกล่าวได้ว่าภูมิหลังของซวีอันได้ถูกเขามองออกอย่างทะลุทะลวง
นอกจากนี้มันยังเป็นเพราะเรื่องนี้ที่ทำให้เขาตระหนักได้ว่าชายหนุ่มมนุษย์ผู้นี้เป็นดั่งที่เจ้าตะวันสาดแสงได้กล่าวไว้จริงๆ เขาคืออัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่หาได้ยากยิ่งอย่างแท้จริง!
ในความเป็นจริง ศักยภาพของเขาสูงกว่าร็อบที่เป็นลูกศิษย์ของเขาไปด้วยซ้ำ มันต้องรู้ว่าในฐานะสุดยอดผู้พิทักษ์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์และเจ้าวิหารอัศวิน มาตรฐานของเขาจึงสูงมาก
มิฉะนั้นเขาคงจะไม่มีเพียงร็อบและลูกศิษย์อีกเพียงไม่กี่คนหลังจากเป็นมนุษย์ระดับสูงมานานหลายปี
จะเห็นได้ว่าเขาพึงพอใจกับร็อบแค่ไหนเมื่อเขาเห็นอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก
และวันนี้ เขาก็ได้เห็นอัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีศักยภาพสูงกว่าร็อบ มันสามารถจินตนาการได้เลยว่าเขาจะตกใจแค่ไหน
อันที่จริง เมื่อเขาได้ยินคำขอของโจวโจวเป็นครั้งแรก ความคิดแรกของเขาก็คือปฏิเสธมัน
มรดกผู้กล้าระดับเทพ!
มันมีมรดกผู้กล้าระดับนี้ไม่ถึง 5 อันในเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
มันเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ตกลงเพียงเพราะคำพูดของโจวโจว
แต่ในตอนนี้ที่เขาได้เห็นซวีอันตัวเป็นๆ ความมุ่งมั่นในใจของเขาก็เริ่มลังเลเล็กน้อย
เด็กคนนี้มีศักยภาพที่น่าอัศจรรย์ ถ้าไม่มีปัญหากับนิสัยของเขา มันก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ที่จะมอบมรดกผู้กล้าให้กับเขา
สัมผัสที่หกของโจวโจวเฉียยแหลมมาก ดังนั้นเขาจึงสัมผัสได้ถึงความลังเลของไป่เหอ เขาตีเหล็กตอนที่มันกำลังร้อนๆ ทันที และแสดงความมั่นใจในการร้องขอของเขา
“ถ้าเจ้าวิหารยินดีที่จะมอบมรดกผู้กล้าระดับเทพให้กับลูกน้องของข้า ข้าก็จะชุบชึวิตผู้กล้าให้สามคนฟรีๆ ในอนาคต”
โจวโจวกล่าว
หัวใจของไป่เหอสั่นสะท้าน
ร็อบ ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ และซวีอันเองก็ตกใจไปด้วย
“มรดกผู้กล้าระดับเทพไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ข้าต้องเห็นศักยภาพของเขาก่อน”
ไป่เหอพูดหลังจากเงียบไปนาน
“ได้ขอรับ!”
โจวโจวตกลงทันที
เขาอาจจะด้อยในเรื่องอื่นไปบ้าง แต่เรื่องศักยภาพงั้นเหรอ?
ข้อดีที่สุดของซวีอันก็คือศักยภาพของเขา!
“เมื่อข้าพูดถึงศักยภาพ ข้าก็ไม่ได้หมายถึงแค่ศักยภาพของเขาเท่านั้น มันยังรวมถึงนิสัยใจคอของเขาด้วย มรดกผู้กล้าระดับเทพทุกอันคือรากฐานของเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา ข้าไม่อยากให้มรดกผู้กล้านี้กลายเป็นสิ่งที่บ่มเพาะศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราในอนาคต”
ไป่เหอพูดอย่างใจเย็น
โจวโจวพยักหน้าตกลงและถาม “เจ้าวิหารไป่ ท่านจะทดสอบนิสัยใจคอของลูกน้องของข้ายังไง?”
“ไปที่โถงวิญญาณผู้กล้า วิญญาณผู้กล้าย่อมสามารถอ่านจิตใจของเขาได้”
ไป่เหอมองโจวโจวและซวีอันก่อนที่จะพูดออกมา
“อย่ามัวชักช้าเลย ไปกับข้า”
หลังจากไป่เหอพูดจบ เขาก็เดินออกไป
โจวโจวดึงซวีอันให้ลุกขึ้นทันทีและตามไป่เหอไป
มีแค่ลู่ฉ่ายเอ๋อร์และร็อบเท่านั้นที่เหลืออยู่ในห้อง
ทั้งสองคนดูเหลือเชื่อมาก
ไป่เหอมอบโอกาสให้เขาจริงๆ เหรอ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาคิดถึงเงื่อนไขของโจวโจว
ผู้กล้าเหล่านี้ตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้ามันสามารถชุบชีวิตผู้กล้าที่ล่วงลับไปแล้วกลับมาได้ มันก็จะเป็นการฟื้นฟูเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแท้จริง!
นอกจากนี้ หากศักยภาพของบุคคลนั้นดีจริงๆ การมอบมรดกผู้กล้าระดับเทพให้กับเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ทั้งสองคนไม่คิดมากอีกและรีบตามพวกเขาไปทันที
[ประกาศข่าว ขออนุญาตลงวันละ 3 ตอน เป็นเวลา 20 วันต่อจากนี้นะครับ พอดีคนแปลติดภารกิจ]