ตอนที่ 453 : คำขอของโจวโจวและความมั่นใจ!

โจวโจว ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ และซวีอันกำลังรออยู่ในห้องรับรอง

ในหมู่พวกเขา โจวโจวกำลังดื่มเครื่องดื่มที่วิหารอัศวินเพิ่งนำมาให้อย่างสบายอารมณ์

ต้องบอกว่าเครื่องดื่มระดับสูงเช่นนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลของเขา เขาก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาเลยหลังจากดื่มมัน

ทางด้านซ้ายของเขา ลู่ฉ่ายเอ๋อร์กำลังครุ่นคิด เธอแค่มาถามถึงการทะลวงระดับของเธอ ทำไมจู่ๆ เธอได้เข้ามาพัวพันกับเรื่องใหญ่ๆ อย่างการชุบชีวิตผู้กล้าด้วย?

อย่างไรก็ตาม เธอตั้งหน้าตั้งตารอสิ่งนี้จริงๆ

ผู้กล้าคนไหนกันที่โจวโจวจะชุบชีวิตในคราวนี้?

มันมีผู้กล้าที่มีชื่อเสียงหลายคนในประวัติศาสตร์ที่ปรากฏขึ้นในใจของเธอ

อีกด้านหนึ่ง ซวีอันที่ไม่รู้อะไรเลยก็กำลังนั่งอยู่ทางด้านขวาของโจวโจวด้วยสีหน้าว่างเปล่า

ข้าเป็นใครกัน?

ข้าอยู่ที่ไหนเนี่ย?

ข้ามาทำอะไรที่นี่?

ซวีอันที่ไม่ได้รับรู้สถานการณ์อะไรเลยไม่รู้ว่าว่าจะต้องทำยังไงนอกจากนั่งนิ่งๆ

อย่างไรก็ตาม เขาก็สงบนิ่งมาก เขาจะเชื่อฟังลอร์ดของเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าวิหารไป่เหอก็เดินเข้ามา

ข้างๆ เขาคือลูกศิษย์ของเขาอย่างอัศวินอุกกาบาตสีเงินร็อบ

“เจ้าสามารถชุบชีวิตผู้กล้าได้อีกแล้วเหรอ?”

ไป่เหอถามทันทีที่เขามาถึง

“ยังขอรับ แต่…”

“แต่อะไร?”

ร็อบอดถามออกมาไม่ได้

นี่ทำให้เจ้าวิหารไป่เหอถลึงตามองเขา ทำให้ร็อบต้องก้มหัวลงอย่างไม่เต็มใจ

“บอกข้ามา เจ้าต้องการอะไร?”

ถ้าเจ้าวิหารไป่เหอไม่เข้าใจสิ่งที่โจวโจวต้องการ เขาก็คงจะไม่อยู่มาได้นานขนาดนี้

“ข้าต้องการมรดกผู้กล้าประเภทนักฆ่าระดับเทพให้กับลูกน้องคนหนึ่งของข้าขอรับ ข้าไม่อยากได้มรดกผู้กล้าระดับเหนือสามัญที่เจ้าวิหารมอบเป็นรางวัลให้กับข้า”

โจวโจวกล่าว

ในทันทีที่เขาพูดจบ ไป่เหอและร็อบก็เบิกตากว้าง

แม้แต่ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ก็อึ้งไปด้วย

พวกเขามองมาที่โจวโจวและมีเพียงความคิดเดียวในใจของพวกเขาเท่านั้น

“ช่างกล้า…”

บรรยากาศเงียบลง

ในบรรดาห้าคนที่อยู่ที่นี่ ซวีอันเป็นคนที่สับสนที่สุด

มรดกผู้กล้าระดับเทพ…

หรือว่า…

ความคิดอันน่าเหลือเชื่อปรากฏขึ้นในหัวของเขา

หรือว่าท่านลอร์ดจะมาขอมรดกผู้กล้าให้กับข้า?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกอย่างก็สมเหตุสมผลแล้ว

ไม่น่าแปลกเลยที่ท่านลอร์ดส่งคนไปตามเขามาแต่เช้าตรู่และพาเขามาที่นี่โดยไม่อธิบายอะไร

กลายเป็นว่าท่านลอร์ดต้องการมอบมรดกผู้กล้าให้กับข้า

อย่างไรก็ตาม ซวีอันก็ยังพบว่ามันน่าเหลือเชื่อแม้ว่าเขาจะลองคาดเดาดูแล้ว ในเวลาเดียวกัน เขาก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

เขาอยู่ในองค์กรนักฆ่ามานานแล้ว

หัวใจของเขาเย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้กับภารกิจลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์ของเขา มันแทบไม่มีหัวหน้าคนไหนเลยที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยดีขนาดนี้เหมือนกับท่านลอร์ด

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในขณะนี้

เขารู้สึกว่าผลประโยชน์ดังกล่าวไม่ควรตกอยู่กับเขา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไป่เหอพูดต่อมาก็ทำให้เขาเลิกคิดเรื่องนี้ไป

“คนผู้นั้นงั้นเหรอ?”

เมื่อไป่เหอได้ยินคำขอที่ไร้สาระของโจวโจว เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธมันทันที แต่สายตาของเขาได้มองไปยังซวีอัน

ภายใต้สายตาของสุดยอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของซวีอันจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ยังรู้สึกกดดันอย่างมาก

โจวโจวพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดของไป่เหอ

“เป็นไงบ้างขอรับ ไม่เลวเลยใช่ไหม? เขาคือเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่หาได้ยากยิ่งสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราเลย”

เขาพูดด้วยรอยยิ้ม

ไป่เหอไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อได้ยินเช่นนี้ในขณะที่เขาประเมินซวีอันต่อ

หลังจากผ่านไปสักพัก แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่หัวใจของเขาก็เต้นระรัว

สายตาของเขาเฉียบแหลมมาก

ภายใต้การตรวจสอบของเขา มันอาจกล่าวได้ว่าภูมิหลังของซวีอันได้ถูกเขามองออกอย่างทะลุทะลวง

นอกจากนี้มันยังเป็นเพราะเรื่องนี้ที่ทำให้เขาตระหนักได้ว่าชายหนุ่มมนุษย์ผู้นี้เป็นดั่งที่เจ้าตะวันสาดแสงได้กล่าวไว้จริงๆ เขาคืออัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่หาได้ยากยิ่งอย่างแท้จริง!

ในความเป็นจริง ศักยภาพของเขาสูงกว่าร็อบที่เป็นลูกศิษย์ของเขาไปด้วยซ้ำ มันต้องรู้ว่าในฐานะสุดยอดผู้พิทักษ์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์และเจ้าวิหารอัศวิน มาตรฐานของเขาจึงสูงมาก

มิฉะนั้นเขาคงจะไม่มีเพียงร็อบและลูกศิษย์อีกเพียงไม่กี่คนหลังจากเป็นมนุษย์ระดับสูงมานานหลายปี

จะเห็นได้ว่าเขาพึงพอใจกับร็อบแค่ไหนเมื่อเขาเห็นอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก

และวันนี้ เขาก็ได้เห็นอัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีศักยภาพสูงกว่าร็อบ มันสามารถจินตนาการได้เลยว่าเขาจะตกใจแค่ไหน

อันที่จริง เมื่อเขาได้ยินคำขอของโจวโจวเป็นครั้งแรก ความคิดแรกของเขาก็คือปฏิเสธมัน

มรดกผู้กล้าระดับเทพ!

มันมีมรดกผู้กล้าระดับนี้ไม่ถึง 5 อันในเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด

มันเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ตกลงเพียงเพราะคำพูดของโจวโจว

แต่ในตอนนี้ที่เขาได้เห็นซวีอันตัวเป็นๆ ความมุ่งมั่นในใจของเขาก็เริ่มลังเลเล็กน้อย

เด็กคนนี้มีศักยภาพที่น่าอัศจรรย์ ถ้าไม่มีปัญหากับนิสัยของเขา มันก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ที่จะมอบมรดกผู้กล้าให้กับเขา

สัมผัสที่หกของโจวโจวเฉียยแหลมมาก ดังนั้นเขาจึงสัมผัสได้ถึงความลังเลของไป่เหอ เขาตีเหล็กตอนที่มันกำลังร้อนๆ ทันที และแสดงความมั่นใจในการร้องขอของเขา

“ถ้าเจ้าวิหารยินดีที่จะมอบมรดกผู้กล้าระดับเทพให้กับลูกน้องของข้า ข้าก็จะชุบชึวิตผู้กล้าให้สามคนฟรีๆ ในอนาคต”

โจวโจวกล่าว

หัวใจของไป่เหอสั่นสะท้าน

ร็อบ ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ และซวีอันเองก็ตกใจไปด้วย

“มรดกผู้กล้าระดับเทพไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ข้าต้องเห็นศักยภาพของเขาก่อน”

ไป่เหอพูดหลังจากเงียบไปนาน

“ได้ขอรับ!”

โจวโจวตกลงทันที

เขาอาจจะด้อยในเรื่องอื่นไปบ้าง แต่เรื่องศักยภาพงั้นเหรอ?

ข้อดีที่สุดของซวีอันก็คือศักยภาพของเขา!

“เมื่อข้าพูดถึงศักยภาพ ข้าก็ไม่ได้หมายถึงแค่ศักยภาพของเขาเท่านั้น มันยังรวมถึงนิสัยใจคอของเขาด้วย มรดกผู้กล้าระดับเทพทุกอันคือรากฐานของเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา ข้าไม่อยากให้มรดกผู้กล้านี้กลายเป็นสิ่งที่บ่มเพาะศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราในอนาคต”

ไป่เหอพูดอย่างใจเย็น

โจวโจวพยักหน้าตกลงและถาม “เจ้าวิหารไป่ ท่านจะทดสอบนิสัยใจคอของลูกน้องของข้ายังไง?”

“ไปที่โถงวิญญาณผู้กล้า วิญญาณผู้กล้าย่อมสามารถอ่านจิตใจของเขาได้”

ไป่เหอมองโจวโจวและซวีอันก่อนที่จะพูดออกมา

“อย่ามัวชักช้าเลย ไปกับข้า”

หลังจากไป่เหอพูดจบ เขาก็เดินออกไป

โจวโจวดึงซวีอันให้ลุกขึ้นทันทีและตามไป่เหอไป

มีแค่ลู่ฉ่ายเอ๋อร์และร็อบเท่านั้นที่เหลืออยู่ในห้อง

ทั้งสองคนดูเหลือเชื่อมาก

ไป่เหอมอบโอกาสให้เขาจริงๆ เหรอ?

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาคิดถึงเงื่อนไขของโจวโจว

ผู้กล้าเหล่านี้ตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้ามันสามารถชุบชีวิตผู้กล้าที่ล่วงลับไปแล้วกลับมาได้ มันก็จะเป็นการฟื้นฟูเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแท้จริง!

นอกจากนี้ หากศักยภาพของบุคคลนั้นดีจริงๆ การมอบมรดกผู้กล้าระดับเทพให้กับเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ทั้งสองคนไม่คิดมากอีกและรีบตามพวกเขาไปทันที

[ประกาศข่าว ขออนุญาตลงวันละ 3 ตอน เป็นเวลา 20 วันต่อจากนี้นะครับ พอดีคนแปลติดภารกิจ]