ม่านแสงรอบๆอัฒจันทร์ที่ปิดกั้นเส้นทางระหว่างโลกต่างเท่านั้น แต่ไม่ปิดกั้นเสียง
เมื่อได้ยินเสียงร้องจากรอบด้าน ดวงตาของหลิน ยู ก็ค่อยๆกลายเป็นจริงจังมากขึ้น
จากที่พวกเขาพูด มันมีความแตกต่างกันระหว่างขนาดของโลกต่างๆใช่หรือไม่
หากเป็นแบบนี้ เมื่อตอนที่จักรพรรดิเซิ่งเหยาเลื่อนระดับ เขาก็น่าจะต้องเห็นการขยายตัวของโลกดึกดำบรรพ์
เพราะยิ่งมีจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ภายในโลกนั้นมากเท่านั้น ความแข็งแกร่งและอาณาเขตของโลกนั้นๆก็จะมากขึ้นตาม
ซึ่งเป็นธรรมดาที่โชคชะตาจะได้รับการเสริมให้แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน
หลิน ยู ไม่รู้ว่าจะเข้าใจสิ่งที่ลึกลับอย่างโชคชะตาได้อย่างไรกัน
นี้เป็นเพียงการคาดเดาว่ามันเชื่อมโยงกับทรัพยากรภายในโลก ซึ่งมันส่งผลต่อการกำเนิดของราชันที่ทรงพลัง ทำให้ง่ายต่อการพัฒนาผู้มีความสามารถ
นี้คือความแข็งแกร่งที่สะสมมาอย่างยาวนาน
แต่ไม่ได้หมายความว่าราชันแห่งโลกอันยิ่งใหญ่จะแข็งแกร่งในระดับเดียวกัน
เมื่อจำนวนมากขึ้นระดับก็จะครอบคลุมมากขึ้นด้วย
หลิน ยู เองก็พบปัญหานี้เช่นกัน
นั้นคือการจัดเรียงระหว่างโลกต่างๆ บนสังเวียนทั้งหมด ดูเหมือนว่ามันจะจัดตามโลกที่อยู่ติดกัน
ครึ่งหนึ่งของสถานที่พวกเขาอยู่นั้นถูกปกครองโดยราชันมนุษย์
แต่เมื่อมองไกลออกไปยังฝั่งตรงข้าม ราชันครึ่งมนุษย์ก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นทีน้อย เช่น ออร์คต่างๆ นางเงือก และอมนุษย์
และส่วนน้อยที่อยู่ท้ายๆตรงข้ามกับพวกเขา
พวกเขาทั้งหมดเป็นเผ่าพันธุ์ที่แปลกประหลาด ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ที่หลิน ยู พอจะเห็นได้มี นากา เซิร์ก เอลเดอร์ ซึ้งอยู่ในขอบเขตที่เขาพอมองเห็น
ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่เคยพบราชันคนอื่นนอกจากราชันมนุษย์บนภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์ กลับกลายเป็นว่าโลกของพวกเขาอยู่ไกลอย่างมากจึงไม่สามารถติดต่อได้แม้แต่น้อย
"ให้ตายเถอะ! ดูที่โลกอสูรวิญญาณที่อยู่ตรงข้ามนั้นซิ มีแมวสาวอยู่หลายตัวเลย!"
"ดูนั้นโลกประมุขปิศาจ หากข้าจำไม่ผิด พวกเขาคือมนุษย์นกใช่ไหม?"
"มีงูสาวอยู่ที่นั้นด้วย! ฮ่า ข้าอยากจะไปตามหลอกหลอนเธอซะจริงๆ!"
"เจ้าา!! หากเจ้าสงบสติอารมณ์ไม่ได้... อย่างน้อยก็ควร...."
"ถึงแม้ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่ข้าแนะนำว่าเจ้าควรพบแพทย์นะ"
"นี่ ไม่มีใครคิดว่าปลาหมึกสาวตรงนั้นสวยกว่าเลยงั้นเหรอ?"
"...."
เสียงพูดคุยของเหล่าราชันคนอื่นๆดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขัดจังหวะความคิดของหลิน ยู
เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของราชันเหล่านั้นก็ทำให้เขาใบหน้ามืดครึมไม่กล้ามองตรงๆ
แต่ทันใดนั้น เสียงที่เหยียดหยามก็ดังออกมาจากด้านข้าง
"ฮ่าฮ่า นั้นไม่ใช่พวกขยะจากโลกดึกดำบรรพ์งั้นเหรอ ทำไมไปกองกันอยู่ตรงนั้นซะละ!"
ทันทีที่เสียงของเขาดังขึ้น ราชันแห่งโลกดึกดำบรรพ์ ก็เคร่งขรึมทันทีมองไปยังตำแหน่งของโลกหยวนซาที่อยู่ถัดไปจากเขา
"ไอ้บัดซบ ตัวไหนมันมาพ่นขี้แถวนี้วะ เหม็นเป็นบ้า"
ด้วยอารมณ์ที่เดือดดาล พวกเขาต่างพุ่งตัวออกมาจากฝูงชน ณ ม่านแสงจุดที่ทั้ง 2 โลกมาบรรจบกัน
เขาเห็นว่าชายหนุ่มที่มีร่างเพรียวยืนอยู่ด้านของกลุ่มราชันโลกหยวนซา มีรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
คำพูดเมื่อกี้น่าจะออกมาจากปากของเขา
"ข้าก็คิดว่าใคร? กลายเป็นว่าเขาคือเจ้าลูกชู้ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ตงลี่ นี้เอง ทำไมเมืองหลักเพิ่งถูกทำลายไม่มีที่ไปงั้นเหรอ แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี้กันละอยากโดนสั่งสอนอีกงั้นเหรอ?"
หยาน ลี่ กอดออกของเขามองออกไปด้วยความเหยียดหยาม
"เจ้า!!"
ท่าทางของชายหนุ่มที่ทรงเสน่ห์กลายเป็นแข็งค้าง ดวงตาของเขากลายเป็นมืดมน
แต่ทันใดนั้น เขานึกบางอย่างขึ้นมาได้ใบหน้ากลับมายิ้มอีกครั้ง "หยาน ลี่ ข้าเคยได้ยินมาว่าดูเหมือนเจ้าจะตามหาน้องสาวของเจ้าซินะ หาเท่าไรก็หาไม่พบ หรือว่าน้องสาวของเจ้าถูกสังหารกลายเป็นซากไปซะแล้ว ฮ่าฮ่า!"
"เจ้าพูดอะไร!!"
บูมม!
ทันใดนั้นออร่าที่แข็งแกร่งก็ได้ระเบิดออกมาบนร่างของ หยาน ลี่
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารที่กระหายเลือดดั่งกับสัตว์ร้ายโบราณ
แม้จะเป็นเพียงไม่กี่ครั้งก็ตาม
แต่หลิน ยู ไม่คิดว่ามาก่อนว่า หยาน ลี่ ปกติจะผ่อนคลายจะระเบิดอารมณ์ออกมา
ด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวนั้น แม้แต่ราชันแห่งโลกดึกดำบรรพ์ก็ยังตกใจพวกเขาถอยหนีออกมาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
"หยาน ลี่ พอแล้ว เจ้าไม่เห็นต้องไปใส่ใจคนประเภทนี้เลย!"
โชคดีที่ในเวลานั้น ซือถู เจี้ยน ก้าวออกมาด้านหน้าบอกให้หยาน ลี่ สงบสติลง
หยาน ลี่ ที่ใกล้จะระเบิดก็สูดลมหายใจและพ่นออกมา
"อ่าว เหวินหยู อย่าให้ข้าเจอเจ้าอีกก็แล้วกัน!"
"เมื่อไรก็ได้!"
หลังจากที่พูดจบ ทั้ง 2 คนก็กลับไปยังกลุ่มของตนไม่ได้สนใจพวกเขา
ดวงตาของ หลิน ยู เป็นประกายเล็กน้อย
อ่าว เหวินหยู
ปรากฏว่าสกุลของจักรพรรดิตงลี่ ก้คือ แส่ อ่าว?
อ่าว ตงลี่ ชื่อนี้ทำให้เขากดดันจริงๆ
จักรพรรดิตงลี่ ในฐานะที่เป้นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ใกล้กับโลกดึกดำบรรพ์มากที่สุด จึงไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเขาเลย
ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถสกัดการบุกของโลกดึกดำบรรพ์ได้
แต่สิ่งที่ หลิน ยู ไม่รู้นั้นก็คือ
เมื่อตอนที่เขามุ่งความสนใจไปที่โลกหยวนซา
อีกด้านหนึ่งของโลกอู๋ซาง ดวงตาคู่หนึ่งก็ได้จับจ้องมาที่เขา
"นั้นแหละเขา"
ด้านบนชายขอบอัฒจันทร์ หลี่ เหนียน ที่สีหน้าเคร่งขรึมจ้องมองไปที่หลิน ยู ที่หันหลังให้เขา
แม้ว่าเขาจะไม่เห็นใบหน้า แต่เขาก็สามารถจดจำหลิน ยู ได้ในทันที จำชายคนที่เกือบสังหารเขาได้
แม้แต่ซู หยูเจียวที่อยู่ข้างๆก็ยังถูกดึงดูดด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด
"ข้าไม่ได้คิดว่าพวกเขาจะมาด้วย ดูเหมือนว่าข้าต้องระวังตัวมากขึ้นซะแล้ว"
"ยังเร็วเกินไปที่จะพูดแบบนั้น พวกเรายังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในอาณาจักรแห่งนี้"
จริงๆแล้ว
ราชันหลายคนมาพเพราะพวกเขาได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่ามีรางวัลเป็นสมบัติมากมาย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้อะไรซักอย่างแม่แต่วิธีเคลียร์อาณาจักรลับ
แม้แต่ราชันที่เคยเขาสู่อาณาจักรขนาดใหญ่ก็ยังมีแววตาที่เคร่งขรึม เพราะนี้แตกต่างจากอาณาจักรที่พวกเขาเคยเห็นมาก่อนอย่างสิ้นเชิง
ในไม่ช้า การสนทนาของเหล่าราชันๆก็ค่อยเต็มไปด้วยความสงสัย ราชันจากหลายๆโลกมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ
มันแปลกจริงๆ
ทุกคนที่เขามาในสังเวียนคือราชันระดับ 7
ดูเหมือนว่าราชันระดับ 8 จะไม่สามารถเข้ามายังที่นี้ได้
และครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่เหล่าราชันได้มาถึงจำนวนหนึ่งประตูที่เป็นดั่งทางเข้าก็พังลงมาในที่สุด
ในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของราชันทุกคน
[ราชันทุกท่านโปรดทราบ วิหารบูชายัญเปิดออกอย่างเป็นทางการแล้ว]
[เมื่อถึงเวลา สถานที่จะถูกแบ่งออกมา 3 พื้นที่หลัก รวมเป็นทั้งหมด 72 แห่ง]
[ในแต่ละสนามจะส่งราชัน 2 คนเข้าไปในเวลาเดียวกัน และสามารถเรียกทหารออกมาช่วยได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น จนกว่าศัตรูจะถูกสังหารหรือยอมรับความพ่ายแพ้]
[โลกของผู้ชนะจะได้รับคะแนน 1 แต้ม หลังจากครบ 3 ชั่วโมง โลกแต่ละแห่งจะถูกจัดอันดับตามคะแนน โลก 10 อันดับแรกจะได้รับรางวัลจำนวนมาก ส่วนที่เหลือจะได้รับตามจำนวนคะแนน]
[โปรดทราบราชันแต่ละคนมีโอกาสเพียง 2 ครั้งเท่านั้น]
วิหารบูชายัญ?
นี้คงจะเป็นชื่อจริงๆของที่นี้ซินะ
การแสดงออกของ หลิน ยู เปลี่ยนไปเล็กน้อย
คล้ายกับว่าชนเผ่าหนึ่งกำลังจัดพิธีบูชายัญแปลกๆ อย่างนั้นแหละ
กลัวว่าจะไม่มีใครขึ้นต่อสู้งั้นเหรอ
หยาน ลี่ ที่อยู่ข้างๆเขากังวลเกี่ยวกับกฏของอาณาจักรลับมากกว่า คิ้วของเขาค่อยๆย่นลง
"หมายความว่ายังไงกัน? สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้งั้นเหรอ? เจ้าระบบนี้ใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
"นี้เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินเกี่ยวกับกฏแบบนี้"
ซือถู เจี้ยนพูดด้วยความประหลาดใจ
ราชันคนอื่นๆ ต่างพูดคุยกันมากขึ้น
ภายใต้อิทธิพลของกฏบนโลกใบหน้านี้ โลกของพวกเขาไม่เคยมีกฏให้หลบหนีจากความตาย อีกทั้งเขายังไม่เคยได้ยินว่าระบบจะใจดีที่จะสามารถให้ยอมรับความพ่ายแพ้ได้
แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น แต่มันก็ทำให้พวกเขาประหลาดใจไม่น้อย
เป็นไปได้ไหมว่ากฏของภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์จะไม่เหมือนกับกฏของโลกพวกเขา?
น่าเสียดาย
แต่ไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาครุ่นคิดแม้แต่น้อย สังเวียนขนาดใหญ่ "แยกออกจากกัน" ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนล้อมรอบด้วยม่านแสงหลายอันที่ปรากฏขึ้น
ใน 3 พื้นที่นั้นแบ่งออกเป็นสนามต่อสู้ที่ละ 24 แห่ง
แม้แต่สภาพแวดล้อมภายในก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองดูอย่างใกล้ชิด
จริงๆมันถูกแบ่งออกมาเป็นสามพื้นที่หลัก : ทะเล บก และ อากาศ
และยังมีพื้นที่ยิบย่อยตามสภาพแวดล้อมต่าๆง เช่น พื่นที่ป่า ที่ราบ ทะเลทราย
ดูเหมือนพวกเขาต้องการให้เหล่าราชันเหลือสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา
"พวกเราเอายังไงกันดี พวกเราไปกันก่อนดีไหม"
ราชันคนอื่นๆ มองไปยังหยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน
เห็นได้ชัดว่ากฏนี้ต้องการให้โลกของพวกเขาทำงานกันเป็นทีม และแข่งขันด้วยทหารที่แข็งแกร่งที่สุดรวมถึงความแข็งแกร่งของราัชนคนนั้น
ในบรรดาราชันโลกดึกดำบรรพ์ พวกเขา 2 คนเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและยังแข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นเสาหลักของทุกคนไปโดยธรรมชาติ
"ไป! พวกเจ้าไม่อยากได้รางวัลงั้นหรอ ข้ากลัวจะมีคนเข้าไปในสนามต่อสู้ก่อนข้า ข้าไปก่อนละ"
โดยไม่ลังเลใดๆ หยาน ลี่ เดินเข้าไปในประตูมิติที่เพิ่งปรากฏขึ้นบนอัฒจันทร์
หวืดด!!
แสงสว่างวาบขึ้น
เขาปรากฏตัวบนพื้นที่ๆเต็มไปด้วยผืนดินที่แตกระแหง
ด้วยการเคลื่อนไหวของเขา เขาเรียกออร์คแดงขนาดใหญ่ออกมา ขวานยักษ์ปรากฏขึ้นในมือของเขา
เขามองไปรอบๆพร้อมกับยกขวานยักษ์ในมือขึ้นทันที พูดอย่างหยิ่งผยอง : "ใครไม่กลัวตาย ก็ลงมาสู้กับเหล่าจู่ซะ!!"
"บัดซบ! ยโสเกินไปแล้ว"
"นี้ใครกันวะ กล้าดียังไงขึ้นไปก่อนข้า!"
"หลีกไป! ข้าไปเจอไอ้โง่นั้นเอง"
เมื่อได้ยินคำพูดยั่วยุของหยาน ลี่ ราชันจากโลกอื่นๆก็ระเบิดโทสะออกมาทันที
ในทันที ราชันหลายคนได้ถูกเทเลพอร์ตไปยังสนามต่อสู้ ก็มีแสงสว่างวาบขึ้นบนสนาม
ตามเสียงแจ้งเตือนของระบบ
แต่ละสนามต่อสู้สามารถเข้าได้ครั้งละ 2 คนเท่านั้นและสามารถอัญเชิญทหารออกมาบนสนามต่อสู้ได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น
ดวงของ หลิน ยู หรี่ลงเล็กน้อย
หากต้องต้องสู้ด้วยความแข็งแกร่งโดยรอบเขาคงไม่สามารถเอาชนะได้ มันต่างราวกับสวรรค์และโลก
แต่ถ้าให้แข่งกันด้านความแข็งแกร่งของราชันและความสามารถของทหารแต่ละคน เขาก็ยังพอมีหวังอยู่บ้าง
เมื่อนึกได้แบบนี้ เขาก็อดไม่ได่ที่จะมองไปยังฝั่งตรงข้ามของ หยาน ลี่
เขาเป็นราชันออร์ค
เช่นเดียวกับ หยาน หลี่ กล้ามเนื้อของเขาปูดโปดออกมาดูแข็งแกร่งอย่างมาก
นอกจากนี้เขายังถือมีดพร้าหนักคู่หนึ่ง มองไปยังหยาน หลี่ด้วยสีหน้าที่เคร่งขร้ม และออร์คที่อยู่ข้างๆเขา
"เจ้ามนุษย์ เจ้ากล้าใช้ญาติของข้าในการต่อสู้งั้นหรอ เจ้าใจกล้าดีนิ!"
หลังจากที่พูดจบ เขาก็เรียกหมียักษ์ดำที่ห่อหุ้มด้วยโลหะออกมาทันที
"ข้าก็ไม่รู้ว่ากล้าพอหรือป่าว แต่ข้านั้นรู้ว่าความตายของเจ้ากำลังใกล้เข้ามาแล้ว"
หยาน หลี่ ถือขวานขนาดใหญ่ไปบนบ่ามองตรงไปอย่างดุดัน
"ฮึ่มมม! ค่อยดูกันว่าจะยังปากดีอย่างนี้อยู่อีกหรือไม่ เข้ามาเลย ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!"
ทันใดนั้น ราชันออร์ตก็ระเบิดความแข็งแกร่งออกมา ขี่หมียักษ์พุ่งเข้าหาหยาน ลี่
ไม่ว่าเขาจะมุ่งหน้าไปทางใด พื้นดินบริเวณนั้นก็จะสั่งสะเทือน ควันพวยพุ่งออกมา เกิดเป็นเสียงดังกึกก้อง "เจ้านั้นแหละที่ต้องถูกฉีกเป็นชิ้นๆ! เข้ามา!!!"
"โกร๋วววว"
หยาน ลี่ ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาวิ่งนำทหารของเขาไป จากนั้นฝ่าเท้าของเขาก็ระเบิดออก ร่างของเขากระโดดขึ้นสูง ฟันขวานลงมาอย่างรุนแรงจากด้านบนลงล่าง
"ตูมมมม!!"
ราชันออร์คที่อยู่บนหมียักษ์ไขว้มีดพร้าไว้บนหัวของเขาผืนดินที่เขาอยู่นั้นยุบลงไปทันทีด้วยการโจมตีที่ดุร้ายนี้ ควันฟุ่งกระจายออกมา
แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างไกล แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวในการโจมตีนั้น
"แข็งแกร่งมาก!!!"
ใบหน้าของ หลิน ยู กลายเป็นเคร่งขรึม
เมื่อก่อนหน้าที่นี้ตอนที่ต่อสู้ร่วมกันเขาไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก
แต่ตอนนี้เมื่อเขาตั้งใจดูด้วยตาของเขาเอง เขาก็รู้วึกได้ถึงความแข็งแกร่งของหยาน ลี่ ตัวเขานั้นไม่ได้ด้วยไปกว่าทหารระดับ 8 แม้แต่น้อย
เขาเกรงว่าพลังแห่งความศรัทธาของเขานั้นก็เกินกว่าระดับ 8 ไปแล้วแน่ๆ !!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved