ตอนที่ 222 ความหวังในการกลับบ้าน

"ยังไงก็ตาม ทำไมเธอถึงไม่ทิ้งฉันแล้วหนีไปละ"

ใต้ต้นไม้ใหญ่ หลิน ยู ถามขึ้นขณะที่ใช้สกิลรักษา รักษาอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขา

แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ยังพอรับรู้สถานการณ์โดยรอบได้อย่างคลุมเครือ

เนื่องจากในตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย ในตอนนั้น จี้ หยุนซวงสามารถทิ้งเขาไว้ตามลำพังและหนีไปคนเดียวได้

ด้วยวิธีนี้ ทำให้เธอมีโอกาสในการรอดชีวิตสูง

"นายคิดว่าฉันไม่ต้องการแบบนั้นหรอ" จี้ หยุนซวงชำเลืองมองเข้า หยิบอาหารแห้งที่อยู่ในมือเข้าปาก และพูดอย่างคลุมเครือว่า "ถ้าไม่ใช่เพราะนายช่วยฉันจากกระแสอวกาศที่ปั่นป่วนนั้น ฉันคงไม่สนใจนายเหมือนกัน ถือว่าตอนนี้พวกเราเสมอกันแล้ว!"

หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บหาย จี้ หยุนซวงก็กลับมามีท่าทีเช่นเดิมอีกครั้ง

อาจเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป มันจึงทำให้ตัวเธอผ่อนคลาย เธอไม่ได้กลายเป็นหญิงสาวผู้หวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้ ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ

หลิน ยู เฝ้ามองเธอ อย่างเงียบชั่วคณะหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา "เอาละ งั้นพวกเขาเสมอกันแล้ว แผนต่อไปคืออะไร"

"พวกเราจะแผนต่อไปได้อีก? เราต้องหาทางกลับไปยังทวีปดึกดำบรรพ์ให้ได้ซะก่อน มันอันตรายเกินไปที่เราจะอยู่ที่นี้"

การแสดงออกของ จี้ หยุนซวง กลายเป็นจริงจัง

"ใช่" หลิน ยู พยักหน้าเบาๆอย่างเห็นด้วย "ตอนนี้พวกเรายังมีอาการบาดเจ็บกันอยู่ มันต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะฟื้นตัวเต็มที่ รอออกเดินทางตอนที่อาการบาดเจ็บหายก็ยังไม่สาย"

"อืม ฉันก้คิดแบบนั้นเหมือนกัน"

นี้คือเรื่องราวทั้งหมด

หลังจากที่สรุปแผนการทั้งหมดแล้ว พวกเขาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บด้วยสกิลรักษาและยารักษา ทั้งเดินเดินไปรอบๆป่าเพื่อมองหาที่ซ่อนรอบๆป่า

จนกระทั่งตกดึก

ในที่สุดพวกเขาก็พบเข้ากับถ้ำที่ใช้สำหรับซ่อนตัว มันเพียงพอให้พวกเขาสองคนซ่อนตัวอยู่

หลังจากที่เคลื่อนย้ายกิ่งไม้มาปิดที่หน้าปากทางเข้าถ้ำ เขาก็กลับเข้าไปในถ้ำเพื่อก่อไฟพลางรักษาบาดแผล อย่างเขาต้องกินอาหารเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

"เป็นไงบ้าง ไหวไหม"

หลิน ยู นั่งลงข้างกองไฟและถาม

"ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ได้อ่อนแอนขนาดนั้น นายเจ็บมากกว่าฉันอีก แน่ใจหรอว่าจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้"

จี้ หยุนซวง หยิบฟืนขึ้นมาพลางเงยหน้าขึ้นมอง หลิน ยู

"ตอนนี้ฉันนั้นไม่รู้ว่าสถานการณ์การต่อสู้อีกฝั่งของสนามรบเป็นอย่างไรบ้าง"

"มันควรที่จะยังดำเนินต่อไป" จี้ หยุนซวง จ้องไปที่เปลวไฟ ดวงตาของเธอค่อยๆขยายออก "ฉันไม่รู้ว่าที่นี้อยู่ห่างจากสนามรบมาแค่ไหน เมื่อพวกเรากลับไปถึง สงครามอาจจะจบลงแล้ว"

"บางทีละนะ"

หลิน ยู หยักหน้าอย่างเงียบๆ ไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

สุดท้ายแล้ว ในตอนนี้พวกเขานั้นอยู่ในโลกหยวนซา สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือหาวิธีหลบหนีออกจากที่นี้อย่างปลอดภัย

เพราะที่นี้นั้นมีศัตรูอยู่ทุกที่ เขาสามารถพบเจอกับอันตรายได้ทุกเมื่อ

สิ่งเดียวที่โชคดีคือเขานั้นมีชิ้นส่วนเทวะอยู่ ทำให้พอจะสามารถป้องกันตัวเองได้บ้าง

ตราบใดที่เขาไม่พบกับราชันหรือผู้ฝึกตนที่อยู่เหนือกว่าระดับ 7 ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ด้วยคำพูดของจี้ หยุนซวง การต่อสู้คนเดียวนั้นอย่างน้อยต้องอยู่ในระดัย 7 ถึงสามารถช่วย

ตราบใดที่เขาระมัดระวัง เขาอาจจะสามารถกลับไปยังทวีปดึกดำบรรพ์ได้อย่างราบรื่น

"เอาละ สุกแล้ว มากินข้าวกันก่อน พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า"

ในตอนนั้น เสียงของ จี้ หยุนซวงก็ได้ขัดจังหวะความคิดของ หลิน ยู

ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น ชามไม้ที่เต็มไปด้วยซุปก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา พร้อมกับกลิ่นเนื้อที่หอมกรุ่นผสมกับเครื่องเทศหลากชนิด

"ฉันไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะมีฝีมือด้านการทำอาหารด้วย"

หลิน ยู ประหลาดใจรับน้ำซุปมา

เขาคิดเสมอว่า จี้ หยุนซวงในฐานะองค์หญิง คงจะมีความละเอียดอ่อนจะไม่สามารถทำงานที่หยาบกระด้างแบบนี้ได้ แต่ผลที่ออกมากับผิดคาด

"ไม่มีอะไรหรอก ฉันพอจะรู้ต้องที่ฉันไปเที่ยวกับท่านพ่อท่านแม่"

จี้ หยุนซวง พูดอย่างสบายๆ และกลับไปนั่งที่ของเธอ

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ หลิน ยู ยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ "หลงทาง?"

"ก็ก่อนที่ท่านพ่อของฉันจะไปถึงระดับ 10 ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก พวกเราเผชิญหน้ากับกระแสสัตว์ร้าย ดินแดนของท่านพ่อไม่สามารถต้านทานมันได้ พวกเราถูกบังคับให้ย้ายดินแดนไป จนในที่สุดก็ได้มาถึงที่นี้"

"นี้มันเป็นเรื่องที่..." หลิน ตระหนักได้ในทันที

ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมเขามักรู้สึกว่า จี้ หยุนซวง นั้นไม่ได้เหมือนกับองค์หญิงเลยซักนิด เพราะเธอประสบกับสถานการณ์แบบนี้มานี่เอง

จากนั้น เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้และถามทันที "แล้วท่านแม่ของเธอละ ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนเลย"

"ท่านแม่ของฉัน ... เธอเสียชีวิตท่ามกลางเหล่ากระแสสัตว์ร้าย"

จี้ หยุนซวงหยุดลงชั่วคราว ดวงของเธอหดหู่เต็มไปด้วยความเสียใจ

แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะปกปิดมันแต่ หลิน ยู ก็ยังสัมผัสได้ว่าร่างกายของเธอสั่นสะท้านเล็กน้อย แม้แขนข้างที่ถือชามซุปก็ยังอดสั่นไม่ได้

ดูเหมือนว่าเขาจะถามคำถามผิดไปแล้ว

"ฉันเสียใจด้วย..."

เข้ากล่าวออกมาเชิงขอโทษ

ทันใดนั้นทั้งถ้ำก็เงียบลง

มีเพียงเสียงปะทุของเปลวไฟไที่ดังออกมา

หลังจากนั้นไม่นาน จี้ หยุนซวง ก็ส่ายหัวเล็กน้อย "ไม่เป็นไร เรื่องมาผ่านมานานหลายปีแล้ว ที่นายถามฉันว่าทำไมฉันถึงไม่ทิ้งนายเอาไว้แล้วหนีไปคนเดียว? นั้นเป็นสิ่งที่ท่านแม่ของฉันสอนไว้..."

"ในตอนนั้นที่ฉันถูกกระแสสัตว์ร้ายล้อมเอาไว้ ท่านแม่ของฉันรีบเข้ามาช่วยฉัน เธอโอบกอดฉันเอาไว้จนกระทั่งท่านพ่อกลับมา ตอนนั้นฉันสาบานกับตัวเองว่าต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ จะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก"

เสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยควมหนักแน่นดังก้องอยู่ในถ้ำ

หลิน ยู ฟังอยู๋เงียบๆอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่า จี้ หยุนซวง จะมีด้านแบบนี้อยู่ด้วย

ไม่แปลกใจเลยทั้งๆที่เธอเป็นถึงองค์หญิงสามารถเสกทรัพยากรจำนวนมากออกมาได้เพียงกระดิกนิ้ว แต่เธอก็ยังเลือกที่ยังมายังสนามรบเพียงลำพังต่อสู้อย่างกล้าหาญและสังหารศัตรูลงได้

เธแแข็งแกร่งกว่าราชันหลายคนมาก

สำหรับจี้ หยุนซวง ดูเหมือนเธอจะมีความคิดฝังอยู่ในใจมานานหลายปี ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไป

เธอดื่มน้ำซุปอึกใหญ่พรางกล่าว "อะไรกัน นายไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ อย่ามองว่าฉันเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กๆ ใน อนาคต ฉันนั้นจะเหลือกว่าท่านพ่อของฉันกลายเป็นจักรพรรดินีที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้!!"

"เอ่อ..."

หลิน ยู เปิดปากของเขารู้สึกทึ้งความฝันของเธอ

อย่างไรก็ตาม เปลี่ยนเพราะการเปลี่ยนแปลงของ จี้ หยุนซวง ทำให้เขาติดเชื้อพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ถ้าหากแม้แต่เธอยังเป็นจักรพรรดินีได้ ฉันก็คงเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต ฮ่าฮ่า"

"งั้นพวกเรามาพยายามด้วยเถอะ"

"ใช่ มาพยายามด้วยกันเถอะ"

ทั้ง 2 คนมองหน้าพลางขบขันเล็กน้อย

คนทั้ง 2 ที่ต้องทนทุกข์ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาจะกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งหรือไม่ อยู่ภายในถ้ำเล็กๆที่ถูกซ่อนอยู่ กล่าวคำพูดมี่เย่อหยิ่งออกมาโดยไม่กลัวว่าจะถูกหัวเราะเยาะ

อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นี้ ความสัมพันธุ์ระหว่าง หลิน ยู และจี้หยุนซวง ก็สนิทกันมากขึ้น

มันไม่ใช่ความรักระหว่างชายหญิง  แต่มันเป็นความรู้สึกเห็นใจซึ้งกันและกัน

อาจเป็นเพราะทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกัน

นี้คือเรื่องราวทั้งหมด

หลังจากที่กินดื่มและพูดคุยเกี่ยวกับแผนของวันพรุ่งนี้เสร็จแล้ว ทั้ง 2 ก็แยกย้ายไปยังมุมของถ้ำเพื่อพักผ่อน

.....

ค่ำคืนที่เงียบสงบ

เช้าวันต่อมา หลิน ยู และจี้ หยุนซวง ตื่นแต่เช้า

หลังจากที่ตรวจสอบข้าวของและอาการบาดเจ็บตามร่างกายแล้ว พวกเขาก็ออกหน้ากันออกจากถ้ำในทันที

หลังจากที่ได้พักผ่อนและรักษาบาดแผลมาทั้งคืน แม้ว่าอาการบาดเจ็บของทั้ง 2 คนจะยังไม่หายดี แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของพวกเขา

นี้เป็นเพราะพลังแห่งกฏของ หลิน ยู

ไม่อย่างนั้นเขาเกรงว่าต้องใช้เวลาซ่อนตัวอีกนานก่อนที่จะพร้อมเดินทาง

"ไปกันเถอะ ฉันได้ศึกษาทิศทางของดวงอาทิตย์มาแล้วเมื่อวานนี้ ทวีปดึกดำบรรพ์ควรจะอยู่ทางนั้น"

จี้ หยุนซวง ชี้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้และพูด ในขณะเดียวกันก็หยิบดาบยาวออกมาจากกระเป๋ามิติมาเหน็บไว้ที่เอวของเธอเพื่อป้องกันตัว

"ฉันไม่รู้ว่ามันอีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงสนาม มันคงจะดีที่สุดห่างพวกเราหาผู้ฝึกตนระดับต่ำแล้วสอบถาม"

หลิน ยู มองไปรอบๆและโบกมือ พลังธรรมชาติได้โอบล้อมทั้ง 2 คนเอาไว้ ส่งพลังให้กับร่างกายพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นพวกเขาก็รีบตรงไปที่ถนน มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่จี้ หยุนซวง ชี้ ออกจากป่าที่พวกเขาอยู่อย่างรวดเร็ว

.....

ในตอนนั้นเอง

ณ แนวหน้าของสนามรบ

จี้ ชิงเห่อ ที่เพิ่มกลับมาจากแนวหน้า ได้รับการหายตัวไปของจี้ หยุนซวง

"เจ้าพูดว่าไงนนะ! หยุนซวง กับ หลิน ยู หายตัวไป!?"

จี้ ชิงเห่อ จ้องไปยังลูกน้องของเขาที่กลับมาเพื่อรายงานต่อเขา

"เรียนฝ่าบาท นี้เป็นสิ่งที่ราชันคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นั้นบอก พวกเขาหลุดเข้าไปในรอยแยกมิติโดนดูดเข้าไปในอวกาศที่ปั่นป่วน พวกเราไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดอยู่ไหม!"

"มันเกิดเรื่องบ้านี้ได้อย่างไรกัน! พวกเขาอยู่รอบหน้าของสนามชัดๆ พวกเขาจะถูกดูดเข้าในรอยแยกมิติได้ยังไงกัน!"

ทันใดนั้นพลังของ จี้ ชิงเห่อ ก็ระเบิดออกไปเหล่าลูกน้องของเขาแทบจะหยุดหายใจ

"คือ... มัน น เป็น ... ราชันระดับ 11 ของโลกหยวนซา เขากำลังต่อสู้กับราชันระดับ 11 ของเรา ..."

"สารเลว! เป็นถึงระดับจักรพรรดิกล้าโจมตีใส่ราชันระดับต่ำจริงๆ!?"

ตูมม!

จู่ๆ จี้ ชิงเห่อ ก็ตบก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นชิ้น ทำให้พื้นที่โดยรอบถึงกับสั่นสะเทือน

อย่างไรก้ตามในฐานะกษัตริย์ เขาก็สงบลงอย่างรวดเร็วและพูด "กลับไปดูว่าดินแดนของหยุนซวงยังปล่อดภัยดีหรือไม่ ใช้ความเร็วสูงสุดไปยังที่นั้น!! และกลับมารายงานข้าทันที!"

"ขอรับ"

ลูกน้องของเขาผ่อนคลายคง เช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขารีบไปทันที

ด้วยการเคลื่อนไหวสั้นๆ เพียงไม่กี่ครั้ง พวกเขาก็หายไปจากสายตาของ จี้ ชิงเห่อ

จี้ ชิงเห่อ ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ภาวนาของให้ลูกสาวตัวน้อยปลอดภัย สุดท้ายเขาทำได้เพียงถอนหายใจยาวๆออกมา

.....

อีกด้านหนึ่ง

พวกหลิน ยู ได้ออกมาจากป่า ก็มาถึงถนนสายหลักในที่ช้า

ในบางครั้ง เขาก็พบกับผู้ฝึกตนที่เดินทางผ่านไปมา

"ระวังด้วย ดูเหมือนว่าจะมีอาณาเขตอยู่ใกล้ๆนี้"

หลิน ยู ที่ซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังพุ่มไม้ก็กระซิบบอก จี้ หยุนซวงที่อยู่ข้างๆเขา

เขาหลังพวกเขามีซากศพหลายศพที่มีดวงตาเบิกกว้างนอนอยู่

พวกนั้นคือโจรภูเขาที่พวกเขาเพิ่งพบบนถนน เห็นพวกเขาที่อยู่ในสภาพย่ำแย่จึงต้องการปล้นพวกเขา

สุดท้าย ไม่คิดมาก่อนว่าคนที่พวกเขาพบจะเป็น หลิน ยู ทำให้พวกเขาถูกสังหารทันที

หลิน ยู ยังได้สอบถามเกี่ยวกับสถาพแวดล้อมโดยรวมจาก1 ในเหล่าโจรภูเขา ในที่สุดเขาก็เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันทันที

สถานที่ๆพวกเขาอยู่ในตอนนี้เป็นดินแดนที่เรียกว่าอาณาจักรแปดประตู และยังมีอีก 2 อาณาจักรที่คั่นกลางระหว่างจักรวรรดิตงลี่ ในสนามรบชายแดน

กล่างอีกอย่างคือ

หากพวกเขาต้องการกลับไปยังทวีปดั่งเดิม พวกเขาต้องเดินทางข้ามถึง 2 อาณาจักร!

"ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเราจะถูกเทเลพอร์ตมาไกลขนาดนี้ มันกลายเป็นเรื่องยุ่งยากซะแล้วซิ" จี้ หยุนซวงขมวดคิ้ว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล

พูดง่ายๆก็คือพวกเขาต้องเดินทางข้าม 3 อาณาจักร แถมยังมันเป็น 3 อาณาจักรของโลกหยวนซาอีกด้วย

หากพวกเขาประมาทเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะถูกค้นพบโดยราชาโลกหยวนซาทำให้ถูกไล่ล่าอย่างแน่นอน

ใน กรณีที่ได้พบกับราชันที่อยู่เหนือกว่าระดับ 8 พูดได้เพียงเขาคงจะเอาชีวิตไม่รอดแน่ๆ

หลิน ยู รับรู้เรื่องนี้ได้ทันที ดงนั้นหัวใจของเขาจึงกลายเป็นหนักอึ้ง

ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีเสียงกระพูดคุยอย่างแผ่วเบาดังมาจากระยะไกล

"ฉันได้ยินมาว่ามีการสร้างแท่นเทเลพอร์จระยะไกลพิเศษขึ้นในเมืองหลวง ซึ่งมันเชื่อมต่อกับแนวหน้าของสนามรบ ราชันหลายคนได้เดินทางไปสนับสนุนที่นั้น"

"หะ? มีเรื่องแบบนั้นด้วยงั้นเหรอ? การโจมตีของทวีปดึกดำบรรพ์รุนแรงขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?"

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 225