เขาไม่ได้คิดอยู่นาน ไป่อี้ได้จัดการกับสมรภูมิแล้วและเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของโจวโจว
“ท่านลอร์ด พวกเราควรเดินทางต่อเลยไหม?”
เธอสามารถบอกได้ว่าลอร์ดของเธอดูเหมือนจะกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ดังนั้นเธอจึงถามออกมา
“ไปกันเถอะ ไปหาลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดคนอื่นต่อ”
โจวโจวได้สติกลับมาและพูดออกไป
เขามีไอเดียแล้ว
เข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นมีสามเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการใช้งาน
พวกมันประกอบไปด้วยชื่อจริง สมญานาม และรูปลักษณ์ของศัตรู ซึ่งก็หมายความว่าเขาสามารถหาตำแหน่งของลอร์ดคนใดก็ได้ที่เขาเคยต่อสู้บนสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์ผ่านเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้น
อย่างไรก็ตาม เขาก็คงจะไม่สามารถหาตำแหน่งของมหาเทพแห่งเผ่าพันธุ์เทพแห่งความโกลาหลหรือผู้เที่ยงแท้แห่งเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดได้เนื่องจากเขาไม่เคยเจอกับอีกฝ่ายมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ลอร์ดคนอื่นอย่างเช่นเจ้าล่าสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะ พระบิดาแห่งเผ่าพันธุ์จักรกล และเจ้าเหนือหัวแห่งเผ่าพันธุ์เจ้ามังกร… เหล่าลอร์ดชั้นนำเหล่านี้ก็เป็นเป้าหมายที่เขาสามารถล่าสังหารได้
โจวโจวตั้งเป้าหมายของเขาไว้เมื่อเขาคิดได้เช่นนี้
เขาจะจัดการกับลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ฝ่ายของลอร์ดกว่า 100,000 ฝ่ายนี้ก่อน จากนั้นเขาก็จะลองทดสอบเอฟเฟกต์ของเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นต่อไป
หลังจากนั้นเขาก็หยุดคิดเกี่ยวกับมัน หลังจากมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์อินเจซอลกินเปลือกไข่ของมันจนเสร็จแล้ว พวกเขาก็กลับขึ้นไปบนราตรีประดับดาวและมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้ตำแหน่งที่แม่นยำของเหวินหยา โจวโจวและคนอื่นๆ ก็พบกองกำลังของลอร์ดฝ่ายอื่น จากนั้นพวกเขาก็สามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าพวกเขาก็พลาดไปหลายครั้งเช่นกัน
มันเป็นไปไม่ได้ที่ลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์เหล่านี้จะรั้งอยู่ที่เดิมไปตลอด
แต่ถึงกระนั้น ด้วยจำนวนที่มากกว่า 100,000 ฝ่าย และความเร็วอันน่าทึ่งของราตรีประดับดาว ประสิทธิภารในการสังหารของโจวโจวและคนอื่นๆ จึงยังน่าตกใจมาก
ซึ่งผลลัพธ์ก็ตามที่โจวโจวคิดไว้ มันยากมากที่ลอร์ดอย่างโจวโจวจะแย่งชิงตำแหน่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาได้เพราะเขาเจอแต่ลอร์ดที่อ่อนแอกว่าเขาเท่านั้นเนื่องจากขนาดของสมรภูมิสุดท้าย
ลอร์ดที่เขาพบ ส่วนใหญ่ก็อยู่ต่ำกว่าอันดับเหนือสามัญ พวกมันต่างก็เป็นลอร์ดที่สามารถบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย
ในตอนแรกโจวโจวยังคงสนใจที่จะออกไปกับทหารและดูการต่อสู้อยู่ แต่ต่อมา เขาก็ค่อยๆ หมดความสนใจไปและรั้งอยู่ในราตรีประดับดาวเพื่อดูการต่อสู้ผ่านทางหน้าจอแทน
สุดท้ายเขาก็ไม่ดูการต่อสู้ด้วยซ้ำและบอกให้เหวินหยาแสดงสถานการณ์ทางฝั่งของซวีอันให้เขาดูแทน
หน้าจอเสมือนจริงอันหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าของโจวโจว
มันแสดงให้เห็นร่างอันผอมบางที่ถือดาบโลหิตและกำลังเดินไปหาฐานที่มั่นชั่วคราวของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
มันคือซวีอัน!
ในเวลานั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งและหันไปมองด้านหลัง
เขาเห็นหน้าจอเสมือนจริงอันหนึ่งกำลังเล็งมาที่เขา ซึ่งมันก็กำลังแสดงภาพของเขาอยู่
“คาราวะท่านลอร์ด”
ซวีอันก้มหัวลงด้วยความเคารพและถามด้วยความสงสัย
“ท่านลอร์ดสามารถมาพบข้าได้ในลักษณะนี้แม้ว่าข้าจะไม่ได้อยู่ในยานบินงั้นเหรอ?”
“แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้อยู่ในยานบิน แต่เจ้าก็อยู่ภายในระยะของราตรีประดับดาว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงสามารถสื่อสารกับเจ้าได้ในลักษณะนี้”
โจวโจวพูดด้วยรอยยิ้มบนหน้าจอเสมือนจริง
มันมีดาวเทียมดวงเล็กๆ อยู่ภายในราตรีประดับดาว ดาวเทียมนี้มีเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงที่ก้าวหน้ามากๆ และสามารถควบคุมพลังงานในอากาศเพื่อสร้างภาพเสมือนจริงเช่นนี้ออกมาได้
ว่ากันว่าเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงนี้ได้ถูกนำไปใช้ในระดับที่ธรรมดามากในหมู่เผ่าพันธุ์จักรกลที่มีการพัฒนาอย่างสูงของอารยธรรมเทคโนโลยี
พวกมันสามารถฉายภาพเสมือนจริงได้ทุกรูปแบบได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานและต้องการเพียงการควบคุมสัญญาณเท่านั้น
หน้าจอเสมือนจริงตรงหน้าซวีอันนั้นเป็นแค่การปรับใช้เทคโนโลนีในระดับพื้นฐานที่สุดเท่านั้น
ซวีอันพยักหน้าอย่างว่างเปล่า
จักรวรรดิรัตติกาลที่เขาอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้เป็นอาณาจักรแห่งผู้ฝึกยุทธ์ เทคโนโลยีในระดับนี้แทบจะไม่เคยปรากฏขึ้นในชีวิตของเขามาก่อนเลย ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจสิ่งที่โจวโจวพูดเลย
อย่างไรก็ตาม ซวีอันก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะถามอีก
เขาคือนักฆ่า เขาแค่ต้องทำในสิ่งที่เขาต้องทำเท่านั้น
“เจ้ากำลังจะไปลอบสังหารลอร์ดของอีกฝ่ายใช่ไหม?”
“ขอรับท่านลอร์ด”
“เจ้าต้องการทหารคนอื่นให้ไปช่วยไหม?”
“ข้าได้บอกให้ทหารมารับข้าเมื่อข้ากลับไปเท่านั้น แค่ข้าเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการลอบสังหาร”
ซวีอันพูดอย่างใจเย็น
“งั้นเจ้าก็จัดการได้เลย ข้าจะไม่รบกวนเจ้า ข้าแค่อยากจะรู้วิธีการลอบสังหารของเจ้าก็เท่านั้น”
โจวโจวเองก็สงสัยว่าวิธีการลอบสังหารของอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร
“ขอรับ”
ซวีอันย่อมไม่ปฏิเสธ
ในอดีต เมื่อเขาดำเนินการลอบสังหารให้กับจักรวรรดิรัตติกาล บางครั้งมันก็จะมีขุนนางหรือเบื้องบนขององค์กรจากจักรวรรดิรัตติกาลต้องการดูฝีมือของเขา เขาไม่คุ้นเคยกับมันในตอนแรก แต่เขาก็ชินกับมันเมื่อเวลาผ่านไป
ทักษะการลอบสังหารเหล่านี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ความทรงจำที่ยังคงอยู่ในใจของเขา
ตลอดการเดินทางที่เหลือ โจวโจวก็ทำตามที่เขาบอก เขาไม่ได้รบกวนซวีอันเลยและเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบๆ ในแง่หนึ่ง เขาก็ต้องการจะดูการลอบสังหาร ส่วนอีกแง่หนึ่ง เขาก็ไม่อยากจะไปเปิดเผยตัวตนของอีกฝ่าย
ในขณะที่ซวีอันกำลังจะไปถึงป้อมยามที่อีกฝ่ายจัดไว้ ร่างกายของซวีอันก็เริ่มเงียบเสียงลงในทันใดและเงียบลงจนกระทั่งมันหายไปอย่างสมบูรณ์
พรสวรรค์—สุดยอดการอำพราง!
พรสวรรค์—ย่างก้าวไร้เสียง
ดวงตาของโจวโจวเบิกกว้างขึ้นมา
แม้ว่าการรับรู้ของเขาจะแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ไร้ประโยชน์ในขณะนี้ผ่านวิดีโอเสมือนจริงนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมองเห็นตำแหน่งของซวีอันได้เลย
แต่ในไม่ช้า ร่างมนุษย์อันพร่ามัวร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“เจ้าหาเจอได้ยังไง?”
โจวโจวอึ้งไปและถาม
“ข้าได้วางตัวส่งสัญญาณไว้ที่ตัวของซวีอัน ด้วยวิธีนี้ ข้าก็จะรับรู้ได้ถึงตำแหน่งของซวีอันทุกเมื่อเพื่อให้ง่ายต่อการมารับเขา ในทางกลับกัน มันก็มีประโยชน์สำหรับช่วงเวลานี้ด้วย”
เสียงของเหวินหยาดังขึ้น
โจวโจวพยักหน้ารับ
เหวินหยามองขาดจริงๆ
ด้วยวิธีการของเหวินหยา โจวโจวจึงมองดูในขณะที่ซวีอันเดินเข้าไปยังฐานที่มั่นของศัตรูทีละก้าว
ลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ผู้นี้คือลอร์ดจากเผ่าพันธุ์อเวจีที่มีชื่อว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจตาเดียว
ตามข้อมูลจากสารบัญสรรพเผ่าพันธุ์ ปีศาจตาเดียวนี้ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์วิญญาณและเวทมนตร์ควบคุมทาส แต่ดวงตาเพียงข้างเดียวของมันยังสามารถทำลายภาพลวงตา มองผ่านการพรางตัว และมีความสามารถอื่นๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดนักฆ่าอย่างซวีอัน แม้ว่ามันจะมีความสามารถในการมองผ่านการพรางตัวแต่ก็ดูเหมือนว่าพวกมันจะตาบอดไป พวกมันไม่ได้ตระหนักเลยว่าสุดยอดนักฆ่าซึ่งมีใบมีดอันแหลมคมได้เดินเข้ามาในดินแดนของพวกมันทีละก้าวๆ แล้ว และเริ่มการค้นหาลอร์ดของพวกมัน