ตอนที่ 432 : ซวีอันผู้น่าพรั่นพรึง!

เขาไม่ได้คิดอยู่นาน ไป่อี้ได้จัดการกับสมรภูมิแล้วและเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของโจวโจว

“ท่านลอร์ด พวกเราควรเดินทางต่อเลยไหม?”

เธอสามารถบอกได้ว่าลอร์ดของเธอดูเหมือนจะกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ดังนั้นเธอจึงถามออกมา

“ไปกันเถอะ ไปหาลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดคนอื่นต่อ”

โจวโจวได้สติกลับมาและพูดออกไป

เขามีไอเดียแล้ว

เข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นมีสามเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการใช้งาน

พวกมันประกอบไปด้วยชื่อจริง สมญานาม และรูปลักษณ์ของศัตรู ซึ่งก็หมายความว่าเขาสามารถหาตำแหน่งของลอร์ดคนใดก็ได้ที่เขาเคยต่อสู้บนสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์ผ่านเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้น

อย่างไรก็ตาม เขาก็คงจะไม่สามารถหาตำแหน่งของมหาเทพแห่งเผ่าพันธุ์เทพแห่งความโกลาหลหรือผู้เที่ยงแท้แห่งเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดได้เนื่องจากเขาไม่เคยเจอกับอีกฝ่ายมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ลอร์ดคนอื่นอย่างเช่นเจ้าล่าสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะ พระบิดาแห่งเผ่าพันธุ์จักรกล และเจ้าเหนือหัวแห่งเผ่าพันธุ์เจ้ามังกร… เหล่าลอร์ดชั้นนำเหล่านี้ก็เป็นเป้าหมายที่เขาสามารถล่าสังหารได้

โจวโจวตั้งเป้าหมายของเขาไว้เมื่อเขาคิดได้เช่นนี้

เขาจะจัดการกับลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ฝ่ายของลอร์ดกว่า 100,000 ฝ่ายนี้ก่อน จากนั้นเขาก็จะลองทดสอบเอฟเฟกต์ของเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นต่อไป

หลังจากนั้นเขาก็หยุดคิดเกี่ยวกับมัน หลังจากมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์อินเจซอลกินเปลือกไข่ของมันจนเสร็จแล้ว พวกเขาก็กลับขึ้นไปบนราตรีประดับดาวและมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้ตำแหน่งที่แม่นยำของเหวินหยา โจวโจวและคนอื่นๆ ก็พบกองกำลังของลอร์ดฝ่ายอื่น จากนั้นพวกเขาก็สามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่าพวกเขาก็พลาดไปหลายครั้งเช่นกัน

มันเป็นไปไม่ได้ที่ลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์เหล่านี้จะรั้งอยู่ที่เดิมไปตลอด

แต่ถึงกระนั้น ด้วยจำนวนที่มากกว่า 100,000 ฝ่าย และความเร็วอันน่าทึ่งของราตรีประดับดาว ประสิทธิภารในการสังหารของโจวโจวและคนอื่นๆ จึงยังน่าตกใจมาก

ซึ่งผลลัพธ์ก็ตามที่โจวโจวคิดไว้ มันยากมากที่ลอร์ดอย่างโจวโจวจะแย่งชิงตำแหน่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาได้เพราะเขาเจอแต่ลอร์ดที่อ่อนแอกว่าเขาเท่านั้นเนื่องจากขนาดของสมรภูมิสุดท้าย

ลอร์ดที่เขาพบ ส่วนใหญ่ก็อยู่ต่ำกว่าอันดับเหนือสามัญ พวกมันต่างก็เป็นลอร์ดที่สามารถบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย

ในตอนแรกโจวโจวยังคงสนใจที่จะออกไปกับทหารและดูการต่อสู้อยู่ แต่ต่อมา เขาก็ค่อยๆ หมดความสนใจไปและรั้งอยู่ในราตรีประดับดาวเพื่อดูการต่อสู้ผ่านทางหน้าจอแทน

สุดท้ายเขาก็ไม่ดูการต่อสู้ด้วยซ้ำและบอกให้เหวินหยาแสดงสถานการณ์ทางฝั่งของซวีอันให้เขาดูแทน

หน้าจอเสมือนจริงอันหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าของโจวโจว

มันแสดงให้เห็นร่างอันผอมบางที่ถือดาบโลหิตและกำลังเดินไปหาฐานที่มั่นชั่วคราวของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก

มันคือซวีอัน!

ในเวลานั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งและหันไปมองด้านหลัง

เขาเห็นหน้าจอเสมือนจริงอันหนึ่งกำลังเล็งมาที่เขา ซึ่งมันก็กำลังแสดงภาพของเขาอยู่

“คาราวะท่านลอร์ด”

ซวีอันก้มหัวลงด้วยความเคารพและถามด้วยความสงสัย

“ท่านลอร์ดสามารถมาพบข้าได้ในลักษณะนี้แม้ว่าข้าจะไม่ได้อยู่ในยานบินงั้นเหรอ?”

“แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้อยู่ในยานบิน แต่เจ้าก็อยู่ภายในระยะของราตรีประดับดาว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงสามารถสื่อสารกับเจ้าได้ในลักษณะนี้”

โจวโจวพูดด้วยรอยยิ้มบนหน้าจอเสมือนจริง

มันมีดาวเทียมดวงเล็กๆ อยู่ภายในราตรีประดับดาว ดาวเทียมนี้มีเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงที่ก้าวหน้ามากๆ และสามารถควบคุมพลังงานในอากาศเพื่อสร้างภาพเสมือนจริงเช่นนี้ออกมาได้

ว่ากันว่าเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงนี้ได้ถูกนำไปใช้ในระดับที่ธรรมดามากในหมู่เผ่าพันธุ์จักรกลที่มีการพัฒนาอย่างสูงของอารยธรรมเทคโนโลยี

พวกมันสามารถฉายภาพเสมือนจริงได้ทุกรูปแบบได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานและต้องการเพียงการควบคุมสัญญาณเท่านั้น

หน้าจอเสมือนจริงตรงหน้าซวีอันนั้นเป็นแค่การปรับใช้เทคโนโลนีในระดับพื้นฐานที่สุดเท่านั้น

ซวีอันพยักหน้าอย่างว่างเปล่า

จักรวรรดิรัตติกาลที่เขาอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้เป็นอาณาจักรแห่งผู้ฝึกยุทธ์ เทคโนโลยีในระดับนี้แทบจะไม่เคยปรากฏขึ้นในชีวิตของเขามาก่อนเลย ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจสิ่งที่โจวโจวพูดเลย

อย่างไรก็ตาม ซวีอันก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะถามอีก

เขาคือนักฆ่า เขาแค่ต้องทำในสิ่งที่เขาต้องทำเท่านั้น

“เจ้ากำลังจะไปลอบสังหารลอร์ดของอีกฝ่ายใช่ไหม?”

“ขอรับท่านลอร์ด”

“เจ้าต้องการทหารคนอื่นให้ไปช่วยไหม?”

“ข้าได้บอกให้ทหารมารับข้าเมื่อข้ากลับไปเท่านั้น แค่ข้าเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการลอบสังหาร”

ซวีอันพูดอย่างใจเย็น

“งั้นเจ้าก็จัดการได้เลย ข้าจะไม่รบกวนเจ้า ข้าแค่อยากจะรู้วิธีการลอบสังหารของเจ้าก็เท่านั้น”

โจวโจวเองก็สงสัยว่าวิธีการลอบสังหารของอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร

“ขอรับ”

ซวีอันย่อมไม่ปฏิเสธ

ในอดีต เมื่อเขาดำเนินการลอบสังหารให้กับจักรวรรดิรัตติกาล บางครั้งมันก็จะมีขุนนางหรือเบื้องบนขององค์กรจากจักรวรรดิรัตติกาลต้องการดูฝีมือของเขา เขาไม่คุ้นเคยกับมันในตอนแรก แต่เขาก็ชินกับมันเมื่อเวลาผ่านไป

ทักษะการลอบสังหารเหล่านี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ความทรงจำที่ยังคงอยู่ในใจของเขา

ตลอดการเดินทางที่เหลือ โจวโจวก็ทำตามที่เขาบอก เขาไม่ได้รบกวนซวีอันเลยและเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบๆ ในแง่หนึ่ง เขาก็ต้องการจะดูการลอบสังหาร ส่วนอีกแง่หนึ่ง เขาก็ไม่อยากจะไปเปิดเผยตัวตนของอีกฝ่าย

ในขณะที่ซวีอันกำลังจะไปถึงป้อมยามที่อีกฝ่ายจัดไว้ ร่างกายของซวีอันก็เริ่มเงียบเสียงลงในทันใดและเงียบลงจนกระทั่งมันหายไปอย่างสมบูรณ์

พรสวรรค์—สุดยอดการอำพราง!

พรสวรรค์—ย่างก้าวไร้เสียง

ดวงตาของโจวโจวเบิกกว้างขึ้นมา

แม้ว่าการรับรู้ของเขาจะแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ไร้ประโยชน์ในขณะนี้ผ่านวิดีโอเสมือนจริงนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมองเห็นตำแหน่งของซวีอันได้เลย

แต่ในไม่ช้า ร่างมนุษย์อันพร่ามัวร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

“เจ้าหาเจอได้ยังไง?”

โจวโจวอึ้งไปและถาม

“ข้าได้วางตัวส่งสัญญาณไว้ที่ตัวของซวีอัน ด้วยวิธีนี้ ข้าก็จะรับรู้ได้ถึงตำแหน่งของซวีอันทุกเมื่อเพื่อให้ง่ายต่อการมารับเขา ในทางกลับกัน มันก็มีประโยชน์สำหรับช่วงเวลานี้ด้วย”

เสียงของเหวินหยาดังขึ้น

โจวโจวพยักหน้ารับ

เหวินหยามองขาดจริงๆ

ด้วยวิธีการของเหวินหยา โจวโจวจึงมองดูในขณะที่ซวีอันเดินเข้าไปยังฐานที่มั่นของศัตรูทีละก้าว

ลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ผู้นี้คือลอร์ดจากเผ่าพันธุ์อเวจีที่มีชื่อว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจตาเดียว

ตามข้อมูลจากสารบัญสรรพเผ่าพันธุ์ ปีศาจตาเดียวนี้ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์วิญญาณและเวทมนตร์ควบคุมทาส แต่ดวงตาเพียงข้างเดียวของมันยังสามารถทำลายภาพลวงตา มองผ่านการพรางตัว และมีความสามารถอื่นๆ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดนักฆ่าอย่างซวีอัน แม้ว่ามันจะมีความสามารถในการมองผ่านการพรางตัวแต่ก็ดูเหมือนว่าพวกมันจะตาบอดไป พวกมันไม่ได้ตระหนักเลยว่าสุดยอดนักฆ่าซึ่งมีใบมีดอันแหลมคมได้เดินเข้ามาในดินแดนของพวกมันทีละก้าวๆ แล้ว และเริ่มการค้นหาลอร์ดของพวกมัน