ตอนที่ 600 : เทพแห่งทุ่งหิมะและหมาป่าขาว—เสออู๋

โจวโจวมองไปยังจักรพรรดินีเอลฟ์

โจวโจวมั่นใจว่าเขาสามารถทำภารกิจของจักรวรรดิอัศวินให้สำเร็จได้เพราะเขามีไพ่ตายบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถทำมันให้สำเร็จได้โดยไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆ

ในตอนนี้ที่มันมีโอกาสจะขอความช่วยเหลือเช่นนี้ เขาจึงไม่อยากจะปล่อยโอกาสไป

“เจ้าอยากขอรางวัลล่วงหน้าก่อนที่จะทำภารกิจของข้าได้สำเร็จงั้นเหรอ…” จักรพรรดินีเอลฟ์มองมาที่โจวโจวโดยไม่มีร่องรอยของความโกรธใดๆ “ไม่หน้าด้านไปหน่อยเหรอ?”

สีหน้าของโจวโจวไม่เปลี่ยนไปเลย

เขาจะถูกเยาะเย้ยแล้วมันจะยังไง? สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการลดความสูญเสียของทหารและเพิ่มผลประโยชน์ที่ได้รับให้ได้มากที่สุด

“ข้าจะไม่มอบรางวัลให้กับเจ้าล่วงหน้า แต่เจ้าสามารถเชิญยอดฝีมือของจักรวรรดิเอลฟ์ไปได้ถ้าเจ้ามีแกนหมอกเพียงพอ เจ้าจะจ้างคนได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าแล้ว” จักรพรรดินีเอลฟ์พูดอย่างใจเย็น

ถึงกระนั้นเธอก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเชิญยอดฝีมือเอลฟ์ไปได้มากเท่าไร

ฝ่ายของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่เพิ่งมาถึงทวีปจื้อเกาและพัฒนาตัวเองมาไม่ถึงหนึ่งเดือน ไม่ว่าเขาจะพัฒนามาได้ดีแค่ไหน แต่เขาจะมีแกนหมอกเก็บไว้มากขนาดไหนเชียว?

เขาน่าจะหมดตัวแล้วหลังจากจ้างยอดฝีมือไปได้สักคนหรือสองคน

โจวโจวดีใจมาก

สิ่งที่เขาต้องการก็คือคำอนุญาตของจักรพรรดินี หากไม่มีสิ่งนี้ ยอดฝีมือของจักรวรรดิเอลฟ์ก็อาจจะไม่คุยกับเขาด้วยซ้ำ

ไม่ต้องพูดถึงการเชิญอีกฝ่ายไปทำภารกิจด้วยเลย

“ขอบคุณมากขอรับฝ่าบาท”

โจวโจวพูดออกมาทันที

จักรพรรดินีเอลฟ์พยักหน้าและโบกมือของเธอ

โจวโจวเข้าใจและเดินออกมา

ณ วังที่จัดไว้ชั่วคราว

เมื่อโจวโจวถูกนำทางมาโดยอัลลี เขาก็เห็นซื่อซวนเถียน ซวีอัน และลอร์ดจากพันธมิตรดาราคนอื่นๆ รออยู่แล้ว

นอกเหนือจากนั้นเขายังเห็นเพื่อนเก่าด้วยคนหนึ่ง

เธอคือเอลฟ์ศรเพลิงโลหิตรุ่นแรก—นาเดีย!

โจวโจวมองไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ

“ฝ่าบาทเป็นคนเรียกข้ามาเอง นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าจะติดตามเจ้าไปในฐานะผู้ช่วยจนกว่าหายนะสรรพเผ่าพันธุ์จะจบลง ในเวลาเดียวกัน ข้าก็จะรับผิดชอบในการเป็นผู้ประสานงานของเจ้ากับฝ่าบาทด้วย”

“เจ้าสามารถบอกข้าถึงสิ่งที่เจ้าต้องการได้เมื่อเจ้าเตรียมที่จะไปทำภารกิจประจำฝ่าย ข้าจะช่วยเจ้าเองถ้าทำได้ ถ้าข้าทำไม่ได้ ข้าก็จะติดต่อไปหาฝ่าบาทโดยตรงและดูว่าพระองค์จะช่วยได้ไหม”

นาเดียยิ้ม มุมปากของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย และดูน่ารักน่าชัง

“ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”

โจวโจวดีใจ

เขากำลังเป็นกังวลอยู่เลยว่าไม่รู้จะเริ่มหายอดฝีมือเอลฟ์จากที่ไหน

มันง่ายขึ้นมากสำหรับเขาที่จะหายอดฝีมือด้วยการมีนาเดียอยู่ด้วย

“เจ้ารู้ไหมว่ายอดฝีมือระดับเทพที่รับใช้จักรวรรดิเอลฟ์อาศัยอยู่ที่ไหนกันบ้าง? โดยเฉพาะคนที่ว่างอยู่ในตอนนี้”

โจวโจวถามออกมาทันที

“ข้า… ข้ารู้”

นาเดียอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้า

ในฐานะผู้กล้าแห่งจักรวรรดิเอลฟ์ เธอย่อมเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดินี ดังนั้นเธอจึงรู้เรื่องพวกนี้

“ในตอนนี้มันมียอดฝีมือระดับเทพสองคนเท่านั้นที่ไม่ถูกฝ่าบาทส่งออกไปและยังอยู่ในจักรวรรดิเอลฟ์อยู่”

“คนแรกคือเทพแห่งทุ่งหิมะและหมาป่าขาวเสออู๋ ยอดฝีมือระดับเทพชั้นกลางขั้นต้น”

“ส่วนอีกคนคือเทพแห่งตะวันฉายและการเผาไหม้ฮารอส ยอดฝีมือระดับเทพชั้นสูงขั้นต้น”

“พวกเขาต่างก็อยู่ในวิหารของตัวเอง อย่างไรก็ตาม วิหารเหล่านี้ก็อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของวังหลวง ปกติเหล่าจิตวิญญาณเทพเจ้าย่อมไม่ออกมา แม้ว่าพวกเราจะไปหา ข้าก็เกรงว่าคนคุ้มกันคงจะไม่ปล่อยให้พวกเราผ่านไปง่ายๆ…”

นาเดียดูลังเลและจนปัญญา

เธอเพิ่งบอกว่าเธออยากจะช่วย แต่เธอก็ไม่คาดคิดเลยว่าตัวเธอจะไร้อำนาจเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีทางเลือก จิตวิญญาณเทพเจ้าถือเป็นตัวตนที่น่าเคารพแม้แต่ในจักรวรรดิเอลฟ์

แม้แต่จักรพรรดินีเอลฟ์ก็ยังต้องสุภาพกับจิตวิญญาณเทพเจ้าระดับต่ำที่สุด นับประสาอะไรกับผู้กล้าเอลฟ์ธรรมดาๆ อย่างเธอ

“ไม่ต้องห่วง องค์จักรพรรดินีอนุญาตข้าแล้ว ข้าน่าจะสามารถเข้าพบจิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งสองคนนั้นได้ด้วยตรานี้ใช่ไหม?”

โจวโจวหยิบเอาตราเอลฟ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาและพูดด้วยรอยยิ้ม

“ฝ่าบาทมอบตรานี้ให้กับเจ้าด้วยเหรอ?”

นาเดียตกใจเมื่อเธอเห็นตราเอลฟ์ศักดิ์สิทธิ์ในมือของโจวโจว

“เพื่ออำนวยความสะดวกน่ะ”

โจวโจวยิ้ม

“แน่นอนว่าเจ้าสามารถทำได้ด้วยตรานี้”

นาเดียพูดโดยไม่ลังเล

การมีตราเอลฟ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในจักรวรรดิเอลฟ์นั้นแทบจะเทียบได้กับการมีองค์จักรพรรดินีติดตัวไปด้วยเลย

มันมีแค่เสนาบดีที่จักรพรรดินีไว้ใจอย่างถึงที่สุดเท่านั้นที่จะมีตรานี้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

และพวกเขาก็ต้องคืนมันกลับมาด้วยหลังจากใช้มันไปแล้ว

ด้วยการมีมันอยู่ในมือ โจวโจวก็แทบจะสามารถทำทุกอย่างที่เขาต้องการในจักรวรรดิเอลฟ์ได้

มันเป็นเรื่องปกติที่ตรานี้จะสามารถใช้เข้าพบจิตวิญญาณเทพเจ้าได้

“ดีจริงๆ ที่ใช้ได้ เวลาไม่คอยท่าแล้ว ไปกันเถอะ”

โจวโจวพูดออกมา

เนื่องจากมันมีจิตวิญญาณเทพเจ้าเหลืออยู่แค่สองคนในเมืองหลวงเอลฟ์ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเชิญจิตวิญญาณเทพเจ้าสองคนนี้ไปคุ้มกันเขา

สำหรับราคา… โจวโจวก็เตรียมไว้แล้ว

มันรับประกันได้เลยว่าจิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งสองจะไม่มีทางปฏิเสธแน่ๆ

ณ วิหารในส่วนลึกของวังหลวง

โจวโจวมองไปยังสิ่งปลูกสร้างสูงตระหง่านสีขาวเบื้องหน้าเขา เขาสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นเหมือนฤดูหนาวจากข้างใน ยิ่งกว่านั้นมันยังมีตัวตนที่เปล่งออร่าแห่งชีวิตจำนวนมหาศาลอาศัยอยู่ภายใน

“นี่คือวิหารของเทพแห่งทุ่งหิมะและหมาป่าขาวเสออู๋” นาเดียกล่าว

โจวโจวพยักหน้า

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปและมาถึงทางเข้าวิหาร

คนเฝ้าวิหารสองคนที่สวมเสื้อผ้าฝ้ายหนาสีขาวราวหิมะ โดยมีหมาป่าสีขาวสูง 2-3 เมตรนอนอยู่ข้างๆ คอยคุ้มกันสถานที่นี้เอาไว้

โจวโจวสามารถบอกความแข็งแกร่งของพวกเขาได้ในทันที

ระดับมหากาพย์ขั้นต้น!

เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

นี่คือพลังของจิตวิญญาณเทพเจ้าแห่งจักรวรรดิเอลฟ์งั้นเหรอ? ยอดฝีมือระดับมหากาพย์ขั้นต้นกลับถูกใช้เป็นแค่คนเฝ้าประตูงั้นเหรอ?

“หยุด! เจ้าไม่รู้เหรอว่านี่คือวิหารของท่านเสออู๋?”

คนเฝ้าประตูทั้งสองคนพูดอย่างเคร่งขรึมทันทีเมื่อเห็นโจวโจวมาถึงประตู

“โปรดถ่ายทอดข้อความให้ด้วยว่ารุ่นเยาว์เจ้าตะวันสาดแสงขอเข้าพบท่านเสออู๋ ข้ามีบางสิ่งจะหารือกับท่าน”

โจวโจวหยิบตราเอลฟ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาและพูดด้วยรอยยิ้ม

เดิมทีคนเฝ้าประตูทั้งสองอยากจะตะโกนบอกให้ชายหนุ่มคนนี้กลับไป

เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเข้าพบจิตวิญญาณเทพเจ้าได้เพียงเพราะเจ้าอยากเจองั้นเหรอ?

อย่างไรก็ตาม พวกเธอก็อึ้งไปเมื่อพวกเธอเห็นตราสีทองในมือของโจวโจว

“ให้ข้าดูหน่อย”

คนเฝ้าประตูทางฝั่งซ้ายพูดออกมาอย่างเย็นชา

แต่ท่าทีของเธอก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

โจวโจวส่งตราให้อีกฝ่าย

คนเฝ้าประตูรับมันไปและพลิกมันดูเพื่อตรวจสอบ จากนั้นเธอก็เอามันไปให้คนเฝ้าประตูอีกคนดู

เมื่อพวกเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง พวกเธอทั้งคู่ก็มองมาที่โจวโจวด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

มันคือตราเอลฟ์ศักดิ์สิทธิ์ของจริงงั้นเหรอ?

มนุษย์ผู้นี้มีสิทธิอะไรถึงได้รับตราสิทธิพิเศษนี้จากองค์จักรพรรดินี?

เจ้าตะวันสาดแสง…

หรือว่าจะเป็นลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ในข่าวลือเมื่อเร็วๆ นี้?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทั้งสองคนก็มองหน้ากันและเข้าใจได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

“โปรดตามข้ามา”

คนเฝ้าประตูทางฝั่งซ้ายพูดออกมาด้วยความสุภาพ

โจวโจวพยักหน้าและหันไปมองนาเดีย

“รอข้าอยู่ที่นี่ก่อนนะ”

“ได้เลย”

นาเดียพยักหน้า

โจวโจวไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกและเข้าไปยังวิหารพร้อมกับคนเฝ้าประตู

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้ามา คนเฝ้าประตูอีกคนก็ลังเลอยู่นานก่อนที่เธอจะอดถามไม่ได้

“ลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้นั้นคือผู้ที่ได้รับตำแหน่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดจากกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นโดยเจตจำนงสูงสุดงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว”

“คิกๆ ช่างน่าประทับใจจริงๆ”

“ข้าเคยได้ยินแต่เรื่องของเขา ข้าไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้เห็นเขาแบบตัวเป็นๆ เขาช่างน่าทึ่งจริงๆ ที่ได้รับตำแหน่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาจากลอร์ดที่ทรงพลังจำนวนมากมายด้วยรากฐานของเผ่าพันธุ์มนุษย์”

คนเฝ้าประตูถอนหายใจออกมา

นาเดียมองท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรงและการชื่นชมโจวโจวเป็นอย่างมากของเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอก็ยิ้มออกมาและรู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดว่าเขามีหลี่ย่าอยู่แล้ว เธอก็อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้