นี้เป็นเหตุผลที่เหล่าเอลฟ์เป็นที่รู้จักในฐานะบุตรแห่งธรรมชาติ
ใต้ต้นไม้เอลฟ์ห่างออกไป 100 เมตร หลิน ยู รู้สึกได้ถึงออร่าแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งอันมหาศาล
มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าต้นโลกในดินแดนของเขาซะอีก
ไม่น่าแปลกใจที่เผ่าเอลฟ์นั้นได้ถือกำเนิดมาจากสิ่งนี้
เอลฟ์ชราที่ถือคถาอยู่ใต้ต้นไม้เอลฟ์ ควรจะเป็นมหาปุโรหิตที่พวกเขาพูดถึง
ความน่ากลัวขอออร่าแห่งชีวิตที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาจากร่างกายไม่ได้อ่อนแอไปกว่าราชันระดับ 11 ที่เขาเคยเห็นแม้แต่น้อย
แม้แต่เหล่าอาวุโสเอลฟ์ก็มีระดับ 10 หรือมากกว่านั้น
พวกเขามีทั้งหมด 12 คน
พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาแห่งอาณาจักรใดๆ ซะอีก
"เทพแห่งธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่ผู้เปี่ยมด้วยความรัก โปรดฟังคำอธิษฐานของพวกข้าผู้เป็นศาสดา โปรดส่งคำทำนายลงมาเพื่อชี้นำพวกเราให้เดินไปในเส้นทาง..."
ใต้ต้นไม้
มหาปุโรหิตตะโกนออกมาเสียงดัง เสียงของเขาดังเข้าไปในหูของทุกคนที่อยู่รอบๆ
ทุกคำพูดที่เว้นช่วง เหล่าผู้อาวุโสและเอลเดอร์ที่คุกเข่าอยู๋ใต้ต้นไม้เอลฟ์ จะคำนับ 1 ครั้งใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสำนึกบุญคุณ
"ถึงเวลาสำหรับช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแล้ว"
ในขณะนั้นเอง อัลเรนที่อยู่ข้างๆก็เตือนพวกเขา
หลิน ยู และคนอื่นๆถึงกับตัวแข็งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น พวกเขาเฝ้ามองอย่างตั้งใจ
ในฐานะคนนอก พวกเขาไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในระยะของต้นไม้เอลฟ์ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเฝ้ามองจากระยะไกลโดยมีเอลฟ์ชาวเมืองอยู่รอบๆ
แต่ถึงอย่างนั้น
หลิน ยู ก็ยังรู้สึกได้ถึงออร่าแห่งชีวิตบนต้นไม้เอลฟ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการสวดภาวนาจากหัวใจของเหล่ามหาปุโรหิตและผู้อาวุโส ออร่าสีเขียวได้กระจายออกมาจากต้นไม้เอลฟ์
"โอววว!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น
ป่าวิญญาณทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ออร่าแห่งชีวิตอันบริสุทธิ์ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่บนยอดของต้นไม้เอลฟ์ กลายเป็นระลอกคลื่นแผ่ออกไปในอากาศ กระจายไปยังรอบนอกของป่าวิญญาณ
ทุกคนที่อยู่ในป่าวิญญาณต่างตกตะลึงกับฉากอันยิ่งใหญ่นี้ และมองไปยังต้นไม้เอลฟ์
"ช่างเป็นออร่าแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งอะไรแบบนี้!"
"เป็นไปได้ไหมว่าพวกเอลฟ์เริ่มที่จะเริ่มพิธีกรรมกันอีกแล้ว"
"ข้าได้ยินว่าดูเหมือนจะเป็นพิธีกรรมที่จะจัดขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญเท่านั้น"
"จะไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ "
"ข้าละอยากเข้าไปดูจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เผ่าพันธุ์อื่นไม่สามารถเข้าไปยังส่วนลึกของป่าวิญญาณได้"
ผู้คนที่อยู่รอบนอกของป่าวิญญาณ ต่างกำลังพูดคุยกัน ทุกคนคาดเดาถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เหล่าเอลฟ์ที่มีหน้าที่รักษาการณ์เมืองพวกเขาหยุดทำหน้าที่ทีละคน พวกเขาต่างคุกเข่าอธิษฐานด้วยหัวใจไปยังทิศทางของต้นไม้เอลฟ์
จากนั้นตัวของพวกเขาก็เกิดละอองแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
ละอองแสงจากตำแหน่งต่างๆในป่าวิญญาณ พวกมันกลายเป็นเส้นด้ายบรรจบกันที่ต้นไม้เอลฟ์ ก่อตัวเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่อลังกาล
"นี้คือพิธีกรรมบูชายัญของเอลฟ์งั้นเหรอ?"
หลิน ยู จ้องมองไปบนท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า ลำแสงได้มารวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง
ข้าแปลกใจจริงๆ
เขาไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีพอที่จะได้มาเห็นปรากฏการณ์นี้ มันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าจริงๆที่ได้มาชมมันจะระยะใกล้ขนาดนี้
แต่ในตอนนั้น
เขาไม่ได้สังเกต
เมื่อละอองแสงเหล่านั้นตกลงมามันได้ห่อหุ้มเขาเอาไว้ เครื่องหมายบนหลังมือของเขาเริ่มเปล่งแสงสว่างขึ้น มันเป็นแสงสลัวๆสะท้อนกับต้นไม้เอลฟ์ที่สว่างไสว
อีกด้านหนึ่ง เหล่าจิตวิญญาณดอกไม้ลอยขึ้นไปในอากาศราวกับได้รับการชี้นำบางอย่าง จู่ๆ พวกเขาก็ลอยออกจากต้นไม้เอลฟ์บินเข้าหาเขา
"เกิดอะไรขึ้น?"
เหล่าเอลฟ์เงยหน้าขึ้นมองไปยังจิตวิญญาณดอกไม้ที่มีท่าทีผิดปกติเหล่านั้น
แม้แต่มหาปุโรหิต รวมถึงกลุ่มผู้อาวุโสและเอลเดอร์ที่อยู่ตำแหน่งศูนย์กลางก็หันไปมองด้วยสายตาที่สงสัย
แม้ว่าจิตวิญญาณดอกไม้จะไม่ได้มีสติปัญญาเหมือนกับเหล่าเอลฟ์ แต่มันก็สัมผัสที่แข็งแกร่งอย่างมาก
ปฏิกิริยาในเวลานี้ดูคล้ายกับมันพบอะไรบางอย่างซึ่งทำให้พวกเขาอยากรู้อย่างมาก
"เจ้าพวกจิตวิญญาณตัวน้อย พวกนั้น .. มันกำลังบินมาหาเราไม่ใช่หรอ?"
ในระหว่างพิธีกรรม มากอร์น ก็ได้พูดออกมาอย่างโง่เขลา
เพราะเขาพบว่าทิศทางที่เหล่าจิตวิญญาณดอกไม้เหล่านั้นลอยเข้ามาดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งที่พวกเขาอยู่
จากนั้นภายใต้การจ้องมองของเหล่าเอลฟ์ทั้งหมด
จิตวิญญาณดอกไม้เหล่านั้นก็ลอยออกไปและหยุดอยู่เหนือหัวของพวกเขาจริงๆ
ไม่! จริงแล้ว พวกมันหยุดอยู่เหนือหัวของ หลิน ยู ต่างหาก
ในขณะนั้นเองพวกมันต่างร้องเพลงและหัวเราะออกมา เต้นรำไปรอบๆตัวเขา ดึงดูดสายตาของทุกคนในทันที
"เอ่อออ.."
หลิน ยู เองก็ตกตะลึงเช่นกัน
เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปที่จิตวิญญาณดอกไม้ที่อยู่ด้านบน พวกมันลอยล่องอยู่รอบตัวเขา
ไม่คาดคิดมาก่อนเลยสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
"เผ่ามนุษย์?"
ดวงตาของมหาปุโรหิตดูล้ำลึกราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่ง
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ได้มองไปที่ หลิน ยู ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เหล่าผู้อาวุโสสามคนในกลุ่มก็จำ หลิน ยู ได้ พวกเขาแสดงความดีใจออกมาทันที
"ท่านน! ในที่สุดท่านก็ได้มาถึง!"
เสียงของเขาไม่ดังจนเกินไป แต่มันได้ดึงดูดสายตาของเหล่าเอลฟ์ในทันที
"เจ้ารู้จักกับเผ่ามนุษย์คนนี้งั้นหรือ?" มหาปุโรหิตแทนเดน ถามขึ้นทันที
"ขอรับ ท่านมหาปุโรหิต เขาเป็นเผ่ามนุษย์ที่เขาเคยบอกก่อนหน้านี้ ผู้ซึ่งได้รับเครื่องหมายแห่งธรรมชาติ" ผู้อาวุโสทั้งสามตอบด้วยความเคารพ
โดยไม่คาดคิด
ทันทีที่คำพูดของเขาจบลง เอลฟ์ที่อยู่รอบๆ ก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที
"ปาร์ค เจ้าพูดจริงงั้นหรือ"
"เครื่องหมายแห่งธรรมชาติได้ถูกมอบให้เผ่ามนุษย์ได้อย่างไรกัน?"
"มันเป็นไปไม่ได้"
ผู้อาวุโสกล่าวออกครั้งแล้วครั้งเหล่า พวกเขามองไปที่ หลิน ยู ที่อยู่ไกลๆอีกครั้ง
หลิน ยู ก็เริ่มรู้สึกงุดงิดกับพวกเขาเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว ตัวตนเหล่านั้นล้วนดำรงอยุ่เหลือระดับ 10 พวกเขาสามารถทำได้ทุกอย่างได้ตามต้องกัน
มีเพียงสีหน้าของมหาปุโรหิตเท่านั้นที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คถาไม้เท้าในมือถูกยกขึ้น หลิน ยู ก็ได้ถูกพลังที่มองไม่เห็นห่อหุ้มค่อยๆบินขึ้นไป
"หลิน ยู!!"
มากอร์น รีบไล่ตามเขาไปอย่างรวดเร็ว
"ไม่ต้องห่วง ข้ายังสบายดี"
หลิน ยู หันกลับมาเพื่อหยุดเขา
จากความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายหากต้องการสังหารเขา ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แค่เพียงขยับนิ้วเขาก็ตายแล้ว
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกโล่งใจปล่อยให้พลังนั้นพาเข้าไปยังใต้ต้นไม้เอลฟ์ มุ่งหน้าไปหาผู้อาวุโส
แต่ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกระทัน
แสงพร่างพราวก็พุ่งออกจากเครื่องหมายบนหลังมือของเขา
"หืออ"
มีเสียงดังสนั่นออกมา
ลำแสงสีเขียวที่ยิ่งใหญ่อันไร้ขอบเขตซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางอยู่บนต้นไม้เอลฟ์ ก็ได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอันไร้ที่สิ้นสุด
"นี้มัน..."
ในตอนนั้น แม้แต่มหาปุโรหิตก็รู้สึกสั่นสะเทือนไปทั้งหัวใจ
สายตาของพวกเขาจับจ้องไปยังเครื่องหมายที่อยู่บนหลังมือของ หลิน ยู
ทันใดนั้นพื้นที่รอบๆตัวเขาก็เกิดบิดเบี้ยว ร่างที่งดงามหาใครเปรียบกับมงกุฏที่พร่างพราวก็ค่อยๆปรากฏขึ้น
"ราชินีเอลฟ์!"
มหาปุโรหิตเอลฟ์คนอื่นๆถึงกับตกตะลึง รีบคุกเข่าทำความเคารพทันที
"ลุกขึ้น"
เสียงอันอ่อนโยนดูสูงศักดิ์ดังก้องขึ้นในหูของทุกคน
ราวกับมีเวทย์มนต์บางอย่าง พวกเขาลุกขึ้นและก้าวออกไปโดยไม่รู้ตัว
ราชินีเอลฟ์ผู้ถูกห้อมล้อมด้วยออร่าแห่งชีวิต ความประหลาดใจบนในหน้าอันสวยงามของเธอบดบังทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเธอ
น่าเสียดาย
หลิน ยู ที่ถูกออร่าขนาดใหญ่ห่อหุ้มอยู่ในเวลานี้ เขาไม่สามารถมองเห็นคนอื่นได้ ไม่ต้องพูดถึงการมาถึงของราชินีเอลฟ์เลย
มันไม่เปิดโอกาศให้เขาคิดด้วยซ้ำ ภายใต้ออร่าแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งนั้น ก็ได้มีลำแสงปรากฏตัวขึ้นข้างๆเขา
ทหารราชวงศ์ที่ควรจะอยู่ในดินแดนถูกเรียกออกมาทีละตัว ปรากฏขึ้นใต้ต้นไม้เอลฟ์
"อะไรกัน!?"
ราชีนีเอลฟ์หาวออกมาเล็กน้อย ก่อนที่สีหน้าของเธอจะเปลี่ยน
ไม่ต้องพูดถึงเหล่าเอลฟ์คนอื่นๆ พวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
"ทหารสายเลือดราชวงศ์! เป็นไปได้ยังไงกัน"
"เป็นไปไม่ได้!"
รายเลือดราชวงศ์ นั้นคือพลังแห่งสายเลือดที่มีแต่ราชาเอลฟ์จากแต่ละราชวงศ์เท่านั้นถึงจะสามารถมีได้
อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาเป็นตัวตนสูงสุดในเหล่าเอลฟ์
แต่ตอนนี้พวกเขามีมากถึง 6 ตัวพร้อมกัน จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไรกัน?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตวิญญาณดอกไม้ที่มีมงกฏอยู่บนศรีษะ มันทำให้พวกเขารู้สึกอยากที่จะยอมจำนน
จิตวิญญาณดอกไม้ที่อยู่รอบๆ บินเข้ามาวนอยู่รอบๆตัว หลิง ซี ราวกับมันเป็นราชาแห่งจิตวิญญาณดอกไม้
ในครั้งนี้ ในที่สุดเหล่าเอลฟ์ก็เข้าใจแล้วว่าทำจิตวิญญาณดอกไม้เหล่านั้นถึงล้อบรอบมนุษย์คนนั้น
จากระยะไกล มากอร์น และคนอื่นๆมีสีหน้าราวกับเห็นผี
ไม่ต้องพูดถึงผู้ที่อยู่นอกป่าวิญญาณ พวกเขาทั้งหมดถึงกับตกตะลึงกับภาพที่เห็น ทันใดนั้นพวกเขาก็มองไปขึ้นบนท้องฟ้าทีละคน
ภายใต้การจับตามองของทุกคน
ลำแสงบนต้นไม้เอลฟ์คอยๆรวมตัวกัน ควบแน่นเป็นสมบัติที่เปล่งประกายบนท้องฟ้า ค่อยๆลอยลงมาด้านล่าง
สุดท้ายแล้ว สิ่งนั้น ลอยลงมาใต้ต้นไม้เอลฟ์ตามเส้นทางลำแสงไป ลอยอย่างเงียบๆอยู่ต่อหน้า หลิน ยู ที่กำลังนั่งหลับตาอยู่
"นี้มัน ... เทวรูปเทวะ!!"
ดวงตาของราชินีเอลฟ์ก็หรี่ลง เธอสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในลำแสงได้อย่างรวดเร็ว
มันคือเทวรูปเทวะ!
มันเป็นชิ้นส่วนเทวะที่สมบูรณ์แบบ
มหาปุโรหิตตกตะลึงเช่นเดียวกัน
ต้นไม้เอลฟ์ควบแน่นเทวรูปเทวะให้กับเผ่ามนุษย์จริงๆงั้นเหรอ
ต้องรู้ก่อนว่า นี้เป็นเหตุการณ์ที่จะปรากฏขึ้นก็ต่อเมืองราชาเอลฟ์ถือกำเนิดเท่านั้น!
เป็นไปได้ไหมว่ามนุษย์ผู้นี้คือร่างอวตารของเทพเจ้าแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่!?
อย่างไรก็ตาม โดยที่ไม่รอให้พวกเขาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย
เครื่องหมายแห่งธรรมชาติที่อยู่บนหลังมือของ หลิน ยุ ก็ค่อยๆลอยขึ้น กลายเป็นอักษรรูนลอยอยุ่ในอากาศ
"คำทำนายแห่งธรรมชาติ!"
มหาปุโรหิตถึงกับสั่นทะท้านไปทั่วทั้งตัว เขาไม่กล้าคิดอะไรอีก รีบตีความจากอักษรรูนอย่างรวดเร็ว
ในฐานะที่เป็นมหาปุโรหิตแห่งเผ่าเอลฟ์ เขาเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใจคำทำนายได้
เหตุผลนั้นก็เป็นเพราะว่าเมื่อมหาปุโรหิตแต่ละคนได้รับการแต่งตั้ง พวกเขาก็จะได้รับตราประทับของเทพเจ้าแห่งธรรมชาติสามารถสื่อสารกับเหล่าเทพเจ้าได้
ทันใดนั้นเอง
เมื่อมหาปุโรหิตอ่านข้อมูลเกี่ยวกับคำทำนาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
"มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?"
เสียงของราชินีดังออกมาจากด้านข้าง
เหล่าผู้อาวุโสมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ฝ่าบาท.. ฝ่าบาทท เจ้าหนุ่มนั้นตื่นแล้วขอรับ"
สีหน้าของมหาปุโรหิตซีดขาว ขาของเสไปว่ายืนเกือบจะไม่มั่นคง
โชคดีที่เหล่าผุ้อาวุโสตอบสนองได้ทันเวลารีบเข้ามาพยุงเขาเอาไว้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
มีเพียงราชินีเอลฟ์เท่านั้นที่มีหน้าเคร่งขรึม ราวกับว่าเธอรู้มานานแล้วว่านี้เป็นผลที่ตามมา ร่องรอยแห่งความเศร้าฉายขึ้นมาบนในหน้าอันงดงามของเธอ
"นี้มัน.. ยังหนีไม่พ้นจากชะตากรรมนั้นอีกเหรอ?"
"ฝ่าบาท พวกเราจะทำอย่างไรกันดี" มหาปุโรหิต ถามอีกครั้ง
"พระมารดาได้บอกอะไรเจ้าอีกหรือไม่"
"มีขอรับ" มหาปุโรหิตพยักหน้าอย่างรุนแรง "นอกจากอธิบายเรื่องนี้แล้ว ยังมีประโยคหนึ่งเพิ่มมาในคำทำนายด้วย"
"ว่าไงนะ?"
"เมื่อช่วงเวลาแห่งการทำลายล้างมาถึงมันก็เป็นช่วงเวลาที่เปลวเพลิงแห่งชีวิตจะลุกโชกเช่นกัน"
"เปลวเพลิงแห่งชีวิต"
ราชินีเอลฟ์พูดเบาๆ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ หลิน ยู และ หลิง ซีที่อยู่ตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้
ในที่สุดฉีกมิติหายไปในทันที
"เมื่อข้าจากไป มนุษย์คนนี้จะถูกมอบให้กับเจ้า ข้ามอบหมายหน้าที่นี้ให้กับเจ้า"
"ขอรับท่านราชินี"
มหาปุโรหิตตอบด้วยความเคารพโค้งคำนับอีกครั้ง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved