ตอนที่ 281 บุตรแห่งธรรมชาติ

นี้เป็นเหตุผลที่เหล่าเอลฟ์เป็นที่รู้จักในฐานะบุตรแห่งธรรมชาติ

ใต้ต้นไม้เอลฟ์ห่างออกไป 100 เมตร หลิน ยู รู้สึกได้ถึงออร่าแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งอันมหาศาล

มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าต้นโลกในดินแดนของเขาซะอีก

ไม่น่าแปลกใจที่เผ่าเอลฟ์นั้นได้ถือกำเนิดมาจากสิ่งนี้

เอลฟ์ชราที่ถือคถาอยู่ใต้ต้นไม้เอลฟ์ ควรจะเป็นมหาปุโรหิตที่พวกเขาพูดถึง

ความน่ากลัวขอออร่าแห่งชีวิตที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาจากร่างกายไม่ได้อ่อนแอไปกว่าราชันระดับ 11 ที่เขาเคยเห็นแม้แต่น้อย

แม้แต่เหล่าอาวุโสเอลฟ์ก็มีระดับ 10 หรือมากกว่านั้น

พวกเขามีทั้งหมด 12 คน

พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาแห่งอาณาจักรใดๆ ซะอีก

"เทพแห่งธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่ผู้เปี่ยมด้วยความรัก โปรดฟังคำอธิษฐานของพวกข้าผู้เป็นศาสดา โปรดส่งคำทำนายลงมาเพื่อชี้นำพวกเราให้เดินไปในเส้นทาง..."

ใต้ต้นไม้

มหาปุโรหิตตะโกนออกมาเสียงดัง เสียงของเขาดังเข้าไปในหูของทุกคนที่อยู่รอบๆ

ทุกคำพูดที่เว้นช่วง เหล่าผู้อาวุโสและเอลเดอร์ที่คุกเข่าอยู๋ใต้ต้นไม้เอลฟ์ จะคำนับ 1 ครั้งใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสำนึกบุญคุณ

"ถึงเวลาสำหรับช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแล้ว"

ในขณะนั้นเอง อัลเรนที่อยู่ข้างๆก็เตือนพวกเขา

หลิน ยู และคนอื่นๆถึงกับตัวแข็งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น พวกเขาเฝ้ามองอย่างตั้งใจ

ในฐานะคนนอก พวกเขาไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในระยะของต้นไม้เอลฟ์ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเฝ้ามองจากระยะไกลโดยมีเอลฟ์ชาวเมืองอยู่รอบๆ

แต่ถึงอย่างนั้น

หลิน ยู ก็ยังรู้สึกได้ถึงออร่าแห่งชีวิตบนต้นไม้เอลฟ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการสวดภาวนาจากหัวใจของเหล่ามหาปุโรหิตและผู้อาวุโส ออร่าสีเขียวได้กระจายออกมาจากต้นไม้เอลฟ์

"โอววว!"

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น

ป่าวิญญาณทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ออร่าแห่งชีวิตอันบริสุทธิ์ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่บนยอดของต้นไม้เอลฟ์ กลายเป็นระลอกคลื่นแผ่ออกไปในอากาศ กระจายไปยังรอบนอกของป่าวิญญาณ

ทุกคนที่อยู่ในป่าวิญญาณต่างตกตะลึงกับฉากอันยิ่งใหญ่นี้ และมองไปยังต้นไม้เอลฟ์

"ช่างเป็นออร่าแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งอะไรแบบนี้!"

"เป็นไปได้ไหมว่าพวกเอลฟ์เริ่มที่จะเริ่มพิธีกรรมกันอีกแล้ว"

"ข้าได้ยินว่าดูเหมือนจะเป็นพิธีกรรมที่จะจัดขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญเท่านั้น"

"จะไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ "

"ข้าละอยากเข้าไปดูจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เผ่าพันธุ์อื่นไม่สามารถเข้าไปยังส่วนลึกของป่าวิญญาณได้"

ผู้คนที่อยู่รอบนอกของป่าวิญญาณ ต่างกำลังพูดคุยกัน ทุกคนคาดเดาถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น

เหล่าเอลฟ์ที่มีหน้าที่รักษาการณ์เมืองพวกเขาหยุดทำหน้าที่ทีละคน พวกเขาต่างคุกเข่าอธิษฐานด้วยหัวใจไปยังทิศทางของต้นไม้เอลฟ์

จากนั้นตัวของพวกเขาก็เกิดละอองแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

ละอองแสงจากตำแหน่งต่างๆในป่าวิญญาณ พวกมันกลายเป็นเส้นด้ายบรรจบกันที่ต้นไม้เอลฟ์ ก่อตัวเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่อลังกาล

"นี้คือพิธีกรรมบูชายัญของเอลฟ์งั้นเหรอ?"

หลิน ยู จ้องมองไปบนท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า ลำแสงได้มารวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง

ข้าแปลกใจจริงๆ

เขาไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีพอที่จะได้มาเห็นปรากฏการณ์นี้ มันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าจริงๆที่ได้มาชมมันจะระยะใกล้ขนาดนี้

แต่ในตอนนั้น

เขาไม่ได้สังเกต

เมื่อละอองแสงเหล่านั้นตกลงมามันได้ห่อหุ้มเขาเอาไว้ เครื่องหมายบนหลังมือของเขาเริ่มเปล่งแสงสว่างขึ้น มันเป็นแสงสลัวๆสะท้อนกับต้นไม้เอลฟ์ที่สว่างไสว

อีกด้านหนึ่ง เหล่าจิตวิญญาณดอกไม้ลอยขึ้นไปในอากาศราวกับได้รับการชี้นำบางอย่าง จู่ๆ พวกเขาก็ลอยออกจากต้นไม้เอลฟ์บินเข้าหาเขา

"เกิดอะไรขึ้น?"

เหล่าเอลฟ์เงยหน้าขึ้นมองไปยังจิตวิญญาณดอกไม้ที่มีท่าทีผิดปกติเหล่านั้น

แม้แต่มหาปุโรหิต รวมถึงกลุ่มผู้อาวุโสและเอลเดอร์ที่อยู่ตำแหน่งศูนย์กลางก็หันไปมองด้วยสายตาที่สงสัย

แม้ว่าจิตวิญญาณดอกไม้จะไม่ได้มีสติปัญญาเหมือนกับเหล่าเอลฟ์ แต่มันก็สัมผัสที่แข็งแกร่งอย่างมาก

ปฏิกิริยาในเวลานี้ดูคล้ายกับมันพบอะไรบางอย่างซึ่งทำให้พวกเขาอยากรู้อย่างมาก

"เจ้าพวกจิตวิญญาณตัวน้อย พวกนั้น .. มันกำลังบินมาหาเราไม่ใช่หรอ?"

ในระหว่างพิธีกรรม มากอร์น ก็ได้พูดออกมาอย่างโง่เขลา

เพราะเขาพบว่าทิศทางที่เหล่าจิตวิญญาณดอกไม้เหล่านั้นลอยเข้ามาดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งที่พวกเขาอยู่

จากนั้นภายใต้การจ้องมองของเหล่าเอลฟ์ทั้งหมด

จิตวิญญาณดอกไม้เหล่านั้นก็ลอยออกไปและหยุดอยู่เหนือหัวของพวกเขาจริงๆ

ไม่! จริงแล้ว พวกมันหยุดอยู่เหนือหัวของ หลิน ยู ต่างหาก

ในขณะนั้นเองพวกมันต่างร้องเพลงและหัวเราะออกมา เต้นรำไปรอบๆตัวเขา ดึงดูดสายตาของทุกคนในทันที

"เอ่อออ.."

หลิน ยู เองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปที่จิตวิญญาณดอกไม้ที่อยู่ด้านบน พวกมันลอยล่องอยู่รอบตัวเขา

ไม่คาดคิดมาก่อนเลยสิ่งนี้จะเกิดขึ้น

"เผ่ามนุษย์?"

ดวงตาของมหาปุโรหิตดูล้ำลึกราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่ง

ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ได้มองไปที่ หลิน ยู ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เหล่าผู้อาวุโสสามคนในกลุ่มก็จำ หลิน ยู ได้ พวกเขาแสดงความดีใจออกมาทันที

"ท่านน! ในที่สุดท่านก็ได้มาถึง!"

เสียงของเขาไม่ดังจนเกินไป แต่มันได้ดึงดูดสายตาของเหล่าเอลฟ์ในทันที

"เจ้ารู้จักกับเผ่ามนุษย์คนนี้งั้นหรือ?" มหาปุโรหิตแทนเดน ถามขึ้นทันที

"ขอรับ ท่านมหาปุโรหิต เขาเป็นเผ่ามนุษย์ที่เขาเคยบอกก่อนหน้านี้ ผู้ซึ่งได้รับเครื่องหมายแห่งธรรมชาติ" ผู้อาวุโสทั้งสามตอบด้วยความเคารพ

โดยไม่คาดคิด

ทันทีที่คำพูดของเขาจบลง เอลฟ์ที่อยู่รอบๆ ก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที

"ปาร์ค เจ้าพูดจริงงั้นหรือ"

"เครื่องหมายแห่งธรรมชาติได้ถูกมอบให้เผ่ามนุษย์ได้อย่างไรกัน?"

"มันเป็นไปไม่ได้"

ผู้อาวุโสกล่าวออกครั้งแล้วครั้งเหล่า พวกเขามองไปที่ หลิน ยู ที่อยู่ไกลๆอีกครั้ง

หลิน ยู ก็เริ่มรู้สึกงุดงิดกับพวกเขาเช่นกัน

สุดท้ายแล้ว ตัวตนเหล่านั้นล้วนดำรงอยุ่เหลือระดับ 10 พวกเขาสามารถทำได้ทุกอย่างได้ตามต้องกัน

มีเพียงสีหน้าของมหาปุโรหิตเท่านั้นที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คถาไม้เท้าในมือถูกยกขึ้น หลิน ยู ก็ได้ถูกพลังที่มองไม่เห็นห่อหุ้มค่อยๆบินขึ้นไป

"หลิน ยู!!"

มากอร์น รีบไล่ตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

"ไม่ต้องห่วง ข้ายังสบายดี"

หลิน ยู หันกลับมาเพื่อหยุดเขา

จากความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายหากต้องการสังหารเขา ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แค่เพียงขยับนิ้วเขาก็ตายแล้ว

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกโล่งใจปล่อยให้พลังนั้นพาเข้าไปยังใต้ต้นไม้เอลฟ์ มุ่งหน้าไปหาผู้อาวุโส

แต่ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกระทัน

แสงพร่างพราวก็พุ่งออกจากเครื่องหมายบนหลังมือของเขา

"หืออ"

มีเสียงดังสนั่นออกมา

ลำแสงสีเขียวที่ยิ่งใหญ่อันไร้ขอบเขตซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางอยู่บนต้นไม้เอลฟ์ ก็ได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอันไร้ที่สิ้นสุด

"นี้มัน..."

ในตอนนั้น แม้แต่มหาปุโรหิตก็รู้สึกสั่นสะเทือนไปทั้งหัวใจ

สายตาของพวกเขาจับจ้องไปยังเครื่องหมายที่อยู่บนหลังมือของ หลิน ยู

ทันใดนั้นพื้นที่รอบๆตัวเขาก็เกิดบิดเบี้ยว ร่างที่งดงามหาใครเปรียบกับมงกุฏที่พร่างพราวก็ค่อยๆปรากฏขึ้น

"ราชินีเอลฟ์!"

มหาปุโรหิตเอลฟ์คนอื่นๆถึงกับตกตะลึง รีบคุกเข่าทำความเคารพทันที

"ลุกขึ้น"

เสียงอันอ่อนโยนดูสูงศักดิ์ดังก้องขึ้นในหูของทุกคน

ราวกับมีเวทย์มนต์บางอย่าง พวกเขาลุกขึ้นและก้าวออกไปโดยไม่รู้ตัว

ราชินีเอลฟ์ผู้ถูกห้อมล้อมด้วยออร่าแห่งชีวิต ความประหลาดใจบนในหน้าอันสวยงามของเธอบดบังทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเธอ

น่าเสียดาย

หลิน ยู ที่ถูกออร่าขนาดใหญ่ห่อหุ้มอยู่ในเวลานี้ เขาไม่สามารถมองเห็นคนอื่นได้ ไม่ต้องพูดถึงการมาถึงของราชินีเอลฟ์เลย

มันไม่เปิดโอกาศให้เขาคิดด้วยซ้ำ ภายใต้ออร่าแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งนั้น ก็ได้มีลำแสงปรากฏตัวขึ้นข้างๆเขา

ทหารราชวงศ์ที่ควรจะอยู่ในดินแดนถูกเรียกออกมาทีละตัว ปรากฏขึ้นใต้ต้นไม้เอลฟ์

"อะไรกัน!?"

ราชีนีเอลฟ์หาวออกมาเล็กน้อย ก่อนที่สีหน้าของเธอจะเปลี่ยน

ไม่ต้องพูดถึงเหล่าเอลฟ์คนอื่นๆ พวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

"ทหารสายเลือดราชวงศ์! เป็นไปได้ยังไงกัน"

"เป็นไปไม่ได้!"

รายเลือดราชวงศ์ นั้นคือพลังแห่งสายเลือดที่มีแต่ราชาเอลฟ์จากแต่ละราชวงศ์เท่านั้นถึงจะสามารถมีได้

อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาเป็นตัวตนสูงสุดในเหล่าเอลฟ์

แต่ตอนนี้พวกเขามีมากถึง 6 ตัวพร้อมกัน จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไรกัน?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตวิญญาณดอกไม้ที่มีมงกฏอยู่บนศรีษะ มันทำให้พวกเขารู้สึกอยากที่จะยอมจำนน

จิตวิญญาณดอกไม้ที่อยู่รอบๆ บินเข้ามาวนอยู่รอบๆตัว หลิง ซี ราวกับมันเป็นราชาแห่งจิตวิญญาณดอกไม้

ในครั้งนี้ ในที่สุดเหล่าเอลฟ์ก็เข้าใจแล้วว่าทำจิตวิญญาณดอกไม้เหล่านั้นถึงล้อบรอบมนุษย์คนนั้น

จากระยะไกล มากอร์น และคนอื่นๆมีสีหน้าราวกับเห็นผี

ไม่ต้องพูดถึงผู้ที่อยู่นอกป่าวิญญาณ พวกเขาทั้งหมดถึงกับตกตะลึงกับภาพที่เห็น ทันใดนั้นพวกเขาก็มองไปขึ้นบนท้องฟ้าทีละคน

ภายใต้การจับตามองของทุกคน

ลำแสงบนต้นไม้เอลฟ์คอยๆรวมตัวกัน ควบแน่นเป็นสมบัติที่เปล่งประกายบนท้องฟ้า ค่อยๆลอยลงมาด้านล่าง

สุดท้ายแล้ว สิ่งนั้น ลอยลงมาใต้ต้นไม้เอลฟ์ตามเส้นทางลำแสงไป ลอยอย่างเงียบๆอยู่ต่อหน้า หลิน ยู ที่กำลังนั่งหลับตาอยู่

"นี้มัน ... เทวรูปเทวะ!!"

ดวงตาของราชินีเอลฟ์ก็หรี่ลง เธอสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในลำแสงได้อย่างรวดเร็ว

มันคือเทวรูปเทวะ!

มันเป็นชิ้นส่วนเทวะที่สมบูรณ์แบบ

มหาปุโรหิตตกตะลึงเช่นเดียวกัน

ต้นไม้เอลฟ์ควบแน่นเทวรูปเทวะให้กับเผ่ามนุษย์จริงๆงั้นเหรอ

ต้องรู้ก่อนว่า นี้เป็นเหตุการณ์ที่จะปรากฏขึ้นก็ต่อเมืองราชาเอลฟ์ถือกำเนิดเท่านั้น!

เป็นไปได้ไหมว่ามนุษย์ผู้นี้คือร่างอวตารของเทพเจ้าแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่!?

อย่างไรก็ตาม โดยที่ไม่รอให้พวกเขาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย

เครื่องหมายแห่งธรรมชาติที่อยู่บนหลังมือของ หลิน ยุ ก็ค่อยๆลอยขึ้น กลายเป็นอักษรรูนลอยอยุ่ในอากาศ

"คำทำนายแห่งธรรมชาติ!"

มหาปุโรหิตถึงกับสั่นทะท้านไปทั่วทั้งตัว เขาไม่กล้าคิดอะไรอีก รีบตีความจากอักษรรูนอย่างรวดเร็ว

ในฐานะที่เป็นมหาปุโรหิตแห่งเผ่าเอลฟ์ เขาเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใจคำทำนายได้

เหตุผลนั้นก็เป็นเพราะว่าเมื่อมหาปุโรหิตแต่ละคนได้รับการแต่งตั้ง พวกเขาก็จะได้รับตราประทับของเทพเจ้าแห่งธรรมชาติสามารถสื่อสารกับเหล่าเทพเจ้าได้

ทันใดนั้นเอง

เมื่อมหาปุโรหิตอ่านข้อมูลเกี่ยวกับคำทำนาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที

"มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?"

เสียงของราชินีดังออกมาจากด้านข้าง

เหล่าผู้อาวุโสมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"ฝ่าบาท.. ฝ่าบาทท เจ้าหนุ่มนั้นตื่นแล้วขอรับ"

สีหน้าของมหาปุโรหิตซีดขาว ขาของเสไปว่ายืนเกือบจะไม่มั่นคง

โชคดีที่เหล่าผุ้อาวุโสตอบสนองได้ทันเวลารีบเข้ามาพยุงเขาเอาไว้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

มีเพียงราชินีเอลฟ์เท่านั้นที่มีหน้าเคร่งขรึม ราวกับว่าเธอรู้มานานแล้วว่านี้เป็นผลที่ตามมา ร่องรอยแห่งความเศร้าฉายขึ้นมาบนในหน้าอันงดงามของเธอ

"นี้มัน.. ยังหนีไม่พ้นจากชะตากรรมนั้นอีกเหรอ?"

"ฝ่าบาท พวกเราจะทำอย่างไรกันดี" มหาปุโรหิต ถามอีกครั้ง

"พระมารดาได้บอกอะไรเจ้าอีกหรือไม่"

"มีขอรับ" มหาปุโรหิตพยักหน้าอย่างรุนแรง "นอกจากอธิบายเรื่องนี้แล้ว ยังมีประโยคหนึ่งเพิ่มมาในคำทำนายด้วย"

"ว่าไงนะ?"

"เมื่อช่วงเวลาแห่งการทำลายล้างมาถึงมันก็เป็นช่วงเวลาที่เปลวเพลิงแห่งชีวิตจะลุกโชกเช่นกัน"

"เปลวเพลิงแห่งชีวิต"

ราชินีเอลฟ์พูดเบาๆ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ หลิน ยู และ หลิง ซีที่อยู่ตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้

ในที่สุดฉีกมิติหายไปในทันที

"เมื่อข้าจากไป มนุษย์คนนี้จะถูกมอบให้กับเจ้า ข้ามอบหมายหน้าที่นี้ให้กับเจ้า"

"ขอรับท่านราชินี"

มหาปุโรหิตตอบด้วยความเคารพโค้งคำนับอีกครั้ง