ตอนที่ 610 : ความโกรธ (1)



สีหน้าของโจวโจวเย็นชา

เดิมทีเขาวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปยังโลกใบเล็กหมื่นมายาและค้นหาเผ่าพันธุ์ชะตามายา

แต่หลังจากที่เรื่องนี้เกิดขึ้น โจวโจวก็เปลี่ยนใจทันทีและตัดสินใจไปช่วยผู้ลี้ลัยที่ถูกลักพาตัวไปก่อน

ประการแรก พวกเขาคือชาวเมืองในอนาคตของเขา ในฐานะราชาในอนาคตของพวกเขา เขาย่อมไม่อาจทอดทิ้งคนพวกนี้ได้

ประการที่สอง กิจกรรมราชันหมื่นราชาเพิ่งเข้าสู่วันที่สองเท่านั้น มันยังพอมีเวลาอยู่ เขาไม่จำเป็นต้องรีบไปหาเผ่าพันธุ์ชะตามายาก็ได้

ประการที่สาม ในฐานะผู้ใหญ่ เขาจะผิดคำสัญญากับเด็กน้อยได้ยังไง!

เนื่องจากเธอขอความช่วยเหลือแล้ว เขาก็ย่อมต้องช่วยเธอทันที!

เขาบอกให้เจิ้งหยวนฉีคอยจัดการเรื่องต่างๆ ในอาณาจักรตะวันสาดแสง จากนั้นเขาก็เรียกซื่อซวนเถียน ซวีอัน และอู๋ตู่ให้มุ่งหน้าไปยังอาณาจักรอสูรเหมันต์ด้วยกัน

ณ ชายแดนของอาณาจักรอสูรเหมันต์

อสูรเหมันต์ที่สวมชุดเกราะสีฟ้าน้ำแข็งตัวหนึ่งกำลังคุยกับมนุษย์คนหนึ่งที่สวมชุดสีแดงดำ

“ฝ่าบาทช่างฉลาดจริงๆ ท่านสามารถจับกุมมนุษย์มาได้นับสิบล้านคนเลย! ถ้ามนุษย์จำนวนมากมายขนาดนี้กลายเป็นทาส ความแข็งแกร่งของอาณาจักรอสูรเหมันต์คงเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ใช่ไหม?! ถ้าข้าออกมาจับมนุษย์พวกนี้ไปเรื่อยๆ อาณาจักรอสูรเหมันต์ก็คงจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นอาณาจักรขั้นสูงหรือกระทั่งจักรวรรดิเลยก็ได้!”

เจิ้งชวี่พูดด้วยความตื่นเต้น

แม่ทัพอสูรเหมันต์ไอซ่ามีสีหน้าเย่อหยิ่งและลำพองใจ

“มนุษย์แค่สิบกว่าล้านคนก็เป็นแค่ฝูงมด นอกจากนี้ยังเป็นมนุษย์ที่หน้ามืดตามัวด้วย พวกมันคิดจะลอบผ่านอาณาจักรอสูรเหมันต์ของข้าไปเข้าร่วมกับอาณาจักรตะวันสาดแสงงั้นเหรอ? พวกมันไม่รู้เหรอว่าอาณาจักรตะวันสาดแสงคือศัตรูคู่อาฆาตของอาณาจักรอสูรเหมันต์?”

“พวกมันช่างรนหาที่ตายจริงๆ! ในเมื่อพวกมันไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเอง พวกเราก็จะจับพวกมันไปเป็นทาสของอาณาจักรอสูรเหมันต์ของพวกเรา! ช่างบัญเอิญจริงๆ ที่อาณาจักรอสูรเหมันต์ของข้ามีเหมืองคริสตัลเหมันต์ลึกที่ต้องการทาสขุดเหมืองเป็นจำนวนมากอยู่พอดี มนุษย์พวกนี้น่าจะสามารถขุดเหมืองให้กับอาณาจักรอสูรเหมันต์ของพวกเราได้เป็นจำนวนมากเลย!”

มันพูดด้วยความเย่อหยิ่ง

“ท่านไอซ่าพูดถูก แต่ข้าแค่สงสัยว่า… เมื่อไหร่ที่ข้าจะได้รับของรางวัลตามที่ตกลงกันไว้?”

เจิ้งชวี่กล่าว

ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยความคาดหวัง

เดิมทีเขาคือลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินซึ่งมีดินแดนอยู่ใกล้กับอาณาจักรอสูรเหมันต์

ก่อนหน้านี้ มันก็มีอาณาจักรเผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ในภายหลัง อาณาจักรเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้ก็ได้ถูกทำลายโดยอาณาจักรอสูรเหมันต์ไปอย่างรวดเร็ว

เจิ้งชวี่กลัวมากเมื่อเขารู้เรื่องนี้

อาณาจักรเผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งนี้ก็ถือว่าสูงเกินเอื้อมสำหรับเขาแล้ว

เขาไม่คิดเลยว่าอาณาจักรอสูรเหมันต์นั้นจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า

เขากลัวมาก…

เขากลัวว่าในวันหนึ่ง เขาก็จะถูกอาณาจักรอสูรเหมันต์ทำลายไปด้วย

เพราะแม้แต่อาณาจักรเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังไม่อาจรอดพ้นไปจากเงื้อมมือของอาณาจักรอสูรเหมันต์ได้

แล้วกับอีแค่ลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างเขาล่ะ?

ดังนั้นเขาจึงคิดหาทางเอาตัวรอด

หลังจากคิดได้แล้ว เขาก็ตัดสินใจเข้าร่วมกับอีกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมกับอีกฝ่ายก็ต้องพิสูจน์ความภักดีของเขาซะก่อน ดังนั้นเจิ้งชวี่จึงตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาก็ตื่นตระหนกได้ไม่นาน

นี่เป็นเพราะเมื่อสองวันก่อน เขาได้พบว่ามีผู้ลี้ภัยจำนวนมากมารวมตัวกันจากทุกทิศทางและกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน

ผ่านการส่งคนไปสอบถาม เจิ้งชวี่จึงรู้ได้ในไม่ช้าว่าพวกเขาต้องการไปเข้าร่วมกับอาณาจักรตะวันสาดแสงและกลายเป็นชาวเมืองของอาณาจักรตะวันสาดแสง!

นอกจากนี้ ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ยังเป็นผู้หญิงด้วย

มันมีทั้งผู้หญิงที่ร่ำรวยและเป็นผู้เชี่ยวชาญ ไม่ก็ทั้งคู่

เหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรตะวันสาดแสงก็คล้ายๆ กัน นั่นก็คือเหตุผลสามข้อนี้

ข้อแรกมันก็เป็นเพราะคนที่เข้าร่วมกับอาณาจักรตะวันสาดแสงจะมีรูปลักษณ์ที่ดีขึ้น!

ข้อสองมันก็เป็นเพราะพวกเขาได้ยินมาว่าอาณาจักรตะวันสาดแสงเป็นสถานที่แห่งความสงบสุข ดังนั้นพวกเขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้มาใช้ชีวิตอยู่ในสรวงสวรรค์เช่นนี้ที่ปราศจากสงคราม

ข้อสามมันก็เป็นเพราะสองข้อแรกและเหตุผลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน

เมื่อเจิ้งชวี่รู้เรื่องนี้ เขาก็ทั้งหวาดกลัวและอิจฉามาก

ดินแดนของเขาอยู่ติดกับดินแดนของอาณาจักรอสูรเหมันต์

มันไม่ได้อยู่ใกล้หรือไกลจากอาณาจักรตะวันสาดแสงนัก

ถ้าอาณาจักรตะวันสาดแสงยังคงแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ อาณาเขตของพวกเขาก็คงจะบรรจบกับอาณาเขตของเขาในที่สุด

หากลอร์ดที่ไม่มีความทะเยอทะยานรู้เรื่องนี้ พวกเขาอาจจะยอมรับความแตกต่างได้และยอมจำนนต่อเจ้าตะวันสาดแสงทันที

เพราะลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินบนกระดานสนทนาต่างก็รู้เรื่องหนึ่งดีว่าลอร์ดจากพันธมิตรดาราภายใต้การนำของเจ้าตะวันสาดแสงต่างก็แข็งแกร่งขึ้นนับสิบนับร้อยเท่าหลังจากได้เข้าร่วมกับพันธมิตรดารา!

การกลายเป็นดินแดนรองของเจ้าตะวันสาดแสงอาจจะหมายถึงการสูญเสียสถานะลอร์ดไปและสูญเสียความเป็นไปได้ในการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งสูงสุด แต่พวกเขาก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายขึ้นมาก!

พวกเขาจะไม่สูญเสียโอกาสในการแข็งแกร่งขึ้น!

เพราะเจ้าตะวันสาดแสงจะปฏิบัติต่อลูกน้องของเขาเป็นอย่างดี!

ตราบใดที่ไม่มีความคิดที่จะก่อกบฎ เจ้าตะวันสาดแสงก็จะเลี้ยงดูพวกเขาเป็นอย่างดีราวกับเป็นคนของตัวเอง!

อย่างไรก็ตาม เจิ้งชวี่ก็ไม่เต็มใจ

สถานะลอร์ดทำให้เขาได้ลิ้มรสของอำนาจ

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอมละทิ้งสถานะลอร์ดไปเพื่อกลายเป็นลูกน้องของคนอื่น

ดังนั้นเขาจึงคิดถึงอาณาจักรอสูรเหมันต์

ดังนั้นเขาจึงบอกเบื้องบนของอาณาจักรอสูรเหมันต์เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อพยพผ่านชายแดนของอาณาจักรอสูรเหมันต์และมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรตะวันสาดแสงเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของเขา

เขารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น

อาณาจักรอสูรเหมันต์ได้ส่งกองกำลังไปดักซุ่มรอผู้ลี้ภัยระหว่างทางไปยังอาณาจักรตะวันสาดแสงในวันนี้ จากนั้นพวกมันก็จับผู้ลี้ภัยนับสิบล้านคนมาได้อย่างง่ายดาย!

อาณาจักรอสูรเหมันต์ย่อมดีใจมาก

เมื่อเจิ้งชวี่เห็นภาพฉากนี้ เขาก็ลังเลและทนมองไม่ได้

เพราะเขารู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ลี้ภัยกว่าสิบล้านคนพวกนี้

อย่างไรก็ตาม เขาก็ปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

ทุกคนย่อมทำเพื่อตัวเอง!

ได้โปรดลงนรกไปเพื่ออนาคตอันสดใสของฉันด้วย!

“เจ้าอยากได้ชุดอุปกรณ์สวมใส่ของทหาร 10,000 ชุดใช่ไหม? กลับไปรอได้เลย”

แม่ทัพอสูรเหมันต์ไอซ่าพูดออกมาอย่างใจเย็น

เจิ้งชวี่อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ท่านช่วยบอกเวลาที่แน่นอนให้กับข้าหน่อยได้ไหมขอรับ? ท่านก็รู้ว่าลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์อย่างพวกเรากำลังอยู่ในกิจกรรมราชันหมื่นราชาของเจตจำนงสูงสุดอยู่ ดินแดนของข้าไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไร ดังนั้นข้าจึงต้องการเซ็ตอุปกรณ์สวมใส่พวกนี้ให้ทหารของข้าได้ใช้”

“ข้าบอกให้เจ้ากลับไปรอ? เจ้าหูหนวกเหรอ?!”

แม่ทัพอสูรเหมันต์ไอซ่ามองไปที่เขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดขาด

เจิ้งชวี่อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและขาว

“งั้น… งั้นข้ากลับไปรอก็ได้ขอรับ”

เขาฝืนยิ้มออกมาและพยักหน้า จากนั้นเขาก็เดินกลับไปยังดินแดนของเขา

ยิ่งเขาเดินออกไปไกลแค่ไหน ใบหน้าของเขาก็ยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ และมันยิ่งมีเส้นเลือดสีน้ำเงินปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขามากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น

เขากำลังโกรธสุดขีด

จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และข่มความโกรธในหัวใจของเขาลง

“ใจเย็นไว้ๆ ฉันต้องได้เช็ตอุปกรณ์สวมใส่ของทหาร 10,000 ชุดมาก่อน เมื่อความแข็งแกร่งของฉันเพิ่มขึ้น ฉันจะต้องมีโอกาสได้แก้แค้นให้กับความอัปยศในวันนี้แน่ๆ!”

เขากัดฟัน

“เจ้าขายผู้ลี้ภัยกว่าสิบล้านคนเพื่อแลกกับอุปกรณ์สวมใส่ของทหารแค่ 10,000 ชุดเท่านั้นเองเหรอ?!”

ในเวลานั้นเอง เสียงอันเย็นชาและเต็มไปด้วยจิตสังหารก็ดังขึ้น

เจิ้งชวี่ตกใจและเงยหน้าขึ้น

เขาเห็นชายที่หล่อเหลามากในชุดคลุมจักรพรรดิมังกรกำลังยืนอยู่ไม่ไกลและมองมาที่เขาอย่างเย็นชา

ข้างหลังของเขาคือเซียนกระบี่ มือสังหาร และนักทำแผนที่

ทุกคนแผ่ออร่าของยอดฝีมือระดับสูงอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

“ราชาตะวันสาดแสง?!”

เจิ้งชวี่พูดด้วยความหวาดกลัว

รูปของเจ้าตะวันสาดแสงแพร่ไปทั่วกระดานสนทนาแล้ว

รูปลักษณ์ของคนผู้นั้นย่อมเป็นภาพที่ไม่อาจลืมเลือนได้สำหรับผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน

และเจิ้งชวี่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นโจวโจว หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

โดยไม่ต้องคิด เขาหันหลังหนีในทันที

ในเวลานั้นเอง ซื่อซวนเถียนที่อยู่ข้างๆ โจวโจวก็มองไปยังเจิ้งชวี่ที่กำลังหนีไปอย่างเย็นชาและยื่นมือขวาของเขาออกมา

ร่างของเจิ้งชวี่แข็งค้างไป เขาพบว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย จากนั้นเขาก็ลอยกลับมาหาโจวโจวและคุกเข่าลงอย่างไม่สามารถควบคุมได้

โจวโจวและคนอื่นๆ มองไปที่เขาอย่างเย็นชา

พวกเขากำลังโกรธจัด

โดยเฉพาะโจวโจว

เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย

เพื่อประโยชน์ของตัวเอง อีกฝ่ายได้ขายเพื่อนมนุษย์ไปกว่าสิบล้านคน

นี่ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินเลย

คนร้ายที่โง่และชั่วช้าเช่นนี้ยังถือว่าหาได้ยากยิ่งแม้แต่ในทวีปจื้อเกานี้