"นี้พวกนายได้ยินไหม ผู้คนอาณาจักรเมฆาทมิฬและจักรวรรดิเซิ่งเหยาถูกบีบบังคับให้ต้องเผชิญหน้าด้วยภารกิจกวาดล้างมอนสเตอร์"
"นั้นเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?"
"มันเป็นเรื่องจริงแน่นอน ฉันเพิ่งกลับมาจากที่นั้น ด้านนอกหุบเขา ณ ดินแดนแห่งความตาย ตอนนี้ผู้คนจากทั้ง 2 อาณาจักรกำลังเผชิญหน้ากันอยู่"
"ดินแดนแห่งความตาย? มันไม่ได้ปนเปื้อนพลังโกลาหลเมื่อเร็วๆนี้งั้นเหรอ แถมที่นั้นยังมีมอนสเตอร์ระดับ 7 อยู่อีกมากมายด้วย"
"ใช่ ที่นั้นดูเหมือนว่าราชันจากทั้ง 2 ฝ่ายได้รับภารกิจในการสังหารมอนสเตอร์เหล่านั้น จึงทำให้ไม่มีใครยอมใคร"
"ฮ่าฮ่าๆ ดูเหมือนที่นั้นจะมีการแสดงให้พวกเราดูนะ"
หลังจากที่การพูดคุยหยุดลง
หลิน ยู ก็ค่อยๆคิดด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่คิดว่าจะได้ยินเกี่ยวกับจักรวรรดิเซิ่งเหยาที่นี้เลย ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะแอบฟัง
สุดท้าย ไม่ว่ายังไงเขาก็ถูกมองว่าเป็นราชันครึ่งหนึ่งของจักรวรรดิเซิ่งเหยา
บนทวีปดึกดำบรรพ์ จะแยกดินแดนขนาดใหญ่ออกมาได้ 2 ประเภท คือ จักรวรรดิ กับ อาณาจักร
ในทางปฏิบัติ กษัตริย์แต่ละอาณาจักรจะถูกมองว่าเป็นขุนนางภายใต้จักรวรรดิ นั้นหมายถึง การเป็นอาณาจักรรองของจักรวรรดิ
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรกับจักรวรรดิจะแตกต่างกันออกไป
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่พวกเขาก็เป็นอิสระจากกัน
เพียงเพราะจักรวรรดินั้นแข็งแกร่ง อาณาจักรรอบข้างจึงต้องพึ่งพาจักรวรรดิ
เหมือนกับราชวงศ์ถังที่ให้ ที่มีตระกูลรอง
ดังนั้นตามทฤษฏีแล้ว ราชันทุกคนในจักรวรรดิเซิ่งเหย่าก็หมายถึงราชันที่มาจากอาณาจักรภายใต้จักรวรรดิเซิ่งเหยา
แต่นี้ไม่ใช่สิ่งที่ให้เขาสิ่งสำคัญ
สิ่งสำคัญจริงๆคือบทสนทนาพวกราชันเหล่านี้ มันดึงดูดเขาอย่างมาก ดวงตาของเขาค่อยๆเปล่งประกายออกมา
ฐานของมอนสเตอร์งั้นเหรอ?
แถมมันยังมีมอนสเตอร์ระดับ 7 อีกเป็นจำนวนมาก?
แต่ที่นั้นไม่ใช่แหล่งทรัพยากรชั้นดีงั้นเหรอ มันเต็มไปด้วยคะแนนเกียรติยศและค่าประสบการณ์
อย่างไรก็ตาม เขานั้นไม่คุ้นเคยกับราชันเหล่านี้ซะเลย
แต่ใครจะสนใจกัน
เอาเป็นว่าไปดูก่อนก็แล้วกัน
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลิน ยู ก็ถามคนเหล่านั้นเกี่ยวกับดินแดนแห่งความตาย
หลังจากที่หาข้อมูลเกี่ยวสถานที่นั้นแล้ว เขาก็ขี่มังกรราชาปิศาจทันที บินออกไปจากด่านตรวจมุ่งหน้าไปยังที่นั้น
....
ในเวลาเดียวกันนั้น
ราวๆ 50 - 60 กิโลเมตรจากด่านตรวจ
ณ ด้านนอกหุบเขาที่มีหมอกหนา
คนทั้ง 2 กลุ่มยืนประจันหน้ากันอยู่ที่ทางเข้าทั้ง 2 ด้าน ต่างจ้องมองกันและกัน
"อาณาจักรเมฆาทมิฬ อย่าให้มันมากเกินไปนัก! ภารกิจกวาดล้างนี้เป็นหน้าที่ได้รับมอบหมายมานะ!"
"หือ ภารกิจนี้มันไม่ใช่ของพวกนายซักหน่อย?"
"ฉันคิดว่าพวกนายกำลังพยายามทำให้จักรวรรดิเซิ่งเหยาของเราตกที่นั่งลำบาก!"
"อย่ามาพูดไร้สาระ สายตาคู่ไหนกันที่บอกว่าพวกเราตั้งใจทำมันกัน"
"ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ แล้วคนของเราที่โดนทำร้ายจะพูดอย่างยังไง"
"โอ้ นั้นมันก็แค่ความผิดพลาดเล็กน้อย ต้องขอโทษด้วย ฮ่าๆ"
ทางด้างข้างของอาณาจักรเมฆาทมิฬ ชายหนุ่มที่หน้าด้านหน้าทนยืนอยู่ตรงนั้น
เห็นได้ชัดว่าเขานั้นกำลังขอโทษ แต่ท่าทางที่เขาแสดงออกมานั้นไม่มีตรงไหนที่เหมือนกับขอโทษซักนิด มันเหมือนกับกำลังเยาะเย้ยมากกว่า
เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้คนจากจักรวรรดิเซิ่งเหยาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้นไป ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการที่จะต่อสู้ แต่พวกเขาถูกหยุดเอาไว้โดย หญิงสาวที่สวมชุดเกราะและครอบครองกองกำลังทตูสวรรค์
"เอาละตอนนี้การพา หลิว หยวน ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส กลับไปรักษาที่ด่านตรวจนั้นสำคัญที่สุด สำหรับภารกิจนี้ พวกเราปล่อยให้พวกเขาไปก็แล้วกัน"
หลังจากที่พูดจบ ดวงตาที่ดุร้ายก็จ้องมองไปยังเหล่าผู้คนจากอาณาจักรเมฆาทมิฬ บังคับให้พวกเขาต้องถอยหลังออกไปเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัว
ชายที่เป็นผู้นำกับมาได้สติอีกครั้ง ดวงตาของเขาค่อยๆหรี่ลง
"อย่างที่คิดว่าเลยสำหรับเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรหวงหวู่ เธอนั้นรักพวกพ้องของเธอจริงๆ เธอคงจะเป็น จี้ หยุนซวง ซินะหรือจะเรียกว่า นางฟ้าวาลคิรี่ ดีละ!"
"แล้วแกมีปัญหาอะไร?"
จี้ หยุนซวง ตามชื่อของเธอนั้น มันเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ดวงตาที่เย็นชาของเธอมองจ้องมาที่เขา
เหล่าทตูสวรรค์ 2 3 ตัวรอบๆตัวเธอสยายปีกปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา สะท้อนกับชุดเกราะของเธอเปล่งประกายระยิบระยับ
ผ่านไปซักพัก
ขณะที่บรรยากาศของทั้ง 2 อาณาจักรกำลังตีงเครียดจากการเผชิญหน้ากันนั้น
แต่พวกเขานั้นไม่ได้สังเกต
ว่าห่างจากพวกเขาไปหลาย 100 เมตรเหนือท้องฟ้า มีเงาสีดำบินผ่านตรงเข้าไปในหุบเขาสายหมอกจากระยะไกล
"มันควรจะอยู่ตรงนี้ซิ"
หลิน ยู มองลงไปยังหุบเขาด่านล่างตามแผ่นที่อย่าง่ายที่เขาซื้อกับราชันคนอื่นมา เขาพูดกับตัวเอง
ในขณะที่เหล่าราชันที่อยู่ด้านนอกหุบเขาในเวลานี้ ถ้าทั้ง 2 กลุ่มที่รวมตัวกันอยู่ที่นั่นรู้เข้าพวกเขาต้องโกรธมากอย่างแน่นอน
"สู้กัน สู้กันไปเลย ฉันจะเสียสละเก็บเกี่ยวทรัพยากรเหล่านี้ไว้ให้พวกนายเอง ฮิฮิ"
หลิน ยู ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเห่ล์เขาไม่ได้ว่างแผนที่จะลงไปหนองโคลนด้านล่าง เขาสั่งให้มังกรราชาปิศาจบินไปยังส่วนลึกของหุบเขา
เขาเห็นคลื่นซอมบี้และโครงกระดูกจำนวนมากกำลังเคลื่อนตัวอยู่ อีกทั้งยังมีมอนสเตอร์โกลาหลจำนวนมาก พวกมันล้วนอยู่ระดับ 6 หรือระดับ 7
ไม่แปลกใจเลยทำไมพวกเขาต้องแย่งชิงกัน
อย่างไรก็ตาม หลิน ยู นั้นสามารถจัดการกับมอนสเตอร์เหล่านี้ได้ตัวคนเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลสิ่งใด
ด้วยการโบกมือของเขา กองกำลังพืชขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้น ภายใต้การนำของ ชิง กัง พวกมันพุ่งเข้าปะทะกับมอนสเตอร์เหล่านั้นทันที
ทันใดนั้น
ร่างอันใหญ่ยักษ์ ของ ชิง ถัง ก็ปรากฏขึ้นตกลงท่ามกลางกลุ่มมอนสเตอร์ที่อยู่หนาแน่น
เถาวัลย์สีเขียวที่หิวกระหายไม่พลาดโอกาศนี้ เถาวัลย์ยักษ์หยั่งลากลงในหุบเขาอย่างรวดเร็วเลือดและหมอกพิษกระจายออกมา เริ่มโจมตีมอนสเตอร์โดยรอบอย่างเมามัน
กองทัพพืชตัวอื่นกระจายกันออกไปสังหารมอนสเตอร์เหล่านั้นอย่างบ้าคลั่ง
"กรรรร!!"
ในขณะนั้นเอง สุนัขซอมบี้ระดับ 7 ที่อยู่บริเวณนั้นได้กลิ่นของสิ่งมีชีวิต มันพุ่งเข้ามาพร้อมกับคำรามออกมาทันที
วิญญาณอาฆาตที่ล่องลอยอยู่ในอากาศส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาโจมตีใส่ หลิน ยู ที่เพิ่งลงมา
อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกมันกำลังจะได้เข้าใกล้ หลิน ยู ก็มีหมอกสีชมพูลอยออกมา แบนชีเสน่หาใช้สกิลจุมพิตแบนชี ควบคุมให้พวกมันต่อสู้กันเอง
ราชาปิศาจเห็นที่อีกฝั่งก็ได้ยิ่งเฉย เขาปาระเบิดเห็ดจากด้านหลังของภูติไม้สงครามโบราณ มันพุ่งออกไปในดงของมอนสเตอร์
เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงหลายชุดทำให้เหล่ามอนสเตอร์ที่กำลังวิ่งอยู่กระเด็นออกไป กลายเป็นซากศพไร้ชีวิตทันที
โชคดีในตอนที่ หลิน ยู เข้ามานั้น เขาจงใจเลือกเข้ามายังส่วนที่ลึกที่สุดของหุบเขามันห่างจากทางเข้าอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะไปดึงดูดความสนใจของเหล่าราชันที่อยู่ภายนอก
ผ่านไปไม่นานเขากำจัดมอนสเตอร์ไปได้เกือบครึ่ง ในที่สุดราชันจากทั้ง 2 อาณาจักรที่อยู่ด้านนอกก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ
ราชันจากอาณาจักรเมฆาทมิฬพูดออกมาอย่างสงสัย
"มีบางอย่างผิดปกติ ในหุบเขามีความเคลื่อนไหวแถมมอนสเตอร์ยังเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ"
ทันทีที่คำพูดของเขาออกมา คนอื่นๆที่อยู่รอบตัวก็พากันตกตะลึง สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที
"ดูเหมือนจะใช่นะ ถึงแม้มันจะเบาบางอย่างมา แต่ฉันได้ยินเหมือนว่าข้างในนั้นมีเสียงระเบิด?"
"ใช่ฉันก็ได้ยินเหมือนกัน!"
"หรือว่าก่อนหน้านี้มีคนเข้าไปก่อนเรา!!"
"ไม่ดีแล้ว เข้าไปดูกันเร็ว!"
เมื่อพูดแบบนั้น ราชันจากทั้ง 2 อาณาจักรก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว สีหน้าของพวกเขาค่อยๆเปลี่ยนไป
ด้วยความสับสน พวกเขารีบวิ่งเข้าไปในหุบเขาพร้อมกับกองกำลังของพวกเขา
แม้กระทั่ง จี้ หยุนซวง ผู้ซึ่งเป็นราชันเผ่าเทวดาที่แข็งแกร่งก็ยังบินขึ้นในอากาศเข้าไปในหุบเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอผ่านหุบเขาเข้าไปยังข้างใน เธอกับเห็นเศษซากของมอนสเตอร์กระจัดกระจายไปทั่ว
นอกจากนี้ยังมีมังกรพืชขนาดยักษ์เพิ่งบินออกไปจากที่นี้ จากระยะไกล
"พืช?"
จี้ หยุนซวง ขมวดคิ้วขึ้น จ้องมองไปร่างที่ค่อยๆหายไป
ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 163
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved