ตอนที่ 249 เมอร์ล๊อคกองสงคราม

นี้คือ

สกิล "คลื่นกระแทกสมอง" ของปิศาจสมองบิดเบี้ยว

มันทำให้การแสดงออกของหลิน ยู เปลี่ยนไปทันที

เพราะสกิลนี้ หากเป็นการใช้เพียงแค่หนึ่งหรือสองตัวมันไม่นับว่ามีอะไร แต่ถ้าเปิดใช้งานเป็นร้อยเป็นพันตัวพร้อมกัน ผลลัพธ์ที่มันออกมาจะแตกต่างกันอย่างมาก

เขาเห็นพลังคลื่นเสียงอันทรงพลังที่ปลดปล่อยออกมา ร่างของทหารพืชที่ขยายพันธุ์ออกมาค่อยๆถูกทำลายไปทีละตัว

แม้แต่ตัวเขาเองก็โดนคลื่นกระแทกนี้ หัวของเขาราวกับมันจะระเบิดออกมา

เมื่อปิศาจสมองบิดเบี้ยวเหล่านั้นเห็นสกิลนี้ได้ผล พวกมันก็เพิ่มพลังเข้าในสกิลอีก

กองทัพพืชของ หลิน ยู ถูกบังคับให้ต้องล่าถอยออกมา พวกเขาค่อยๆมารวมตัวกันรอบๆ ชิง ถัง และจากรุกกลายเป็นรับ

อาณาจักรลับระดับยากสูงสุดนี้แข็งแกร่งเป็นบ้า

ทันใดนั้น หลิน ยู ที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้น

ก็เรียกหญ้าโคมไฟทั้ง 16 ตัวออกมาจากดินแดนทันที สกิลทั้งสองอย่างๆความเงียบงันกับสูญญากาศถูกเปิดใช้งานพร้อมกัน ทำให้ความเงียบล่องลอยไปในอากาศ

วินาทีต่อมา

หลิน ยู รู้สึกได้ถึงความเงียบในหูของเขา จริงๆแล้วเขาใส่มันปิดกั้นการโจมตีของปิศาจสมองบิดเบี้ยว กองทัพพืชของเขาค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา

ดีมากป้องสกิลของพวกมันได้แล้ว

หลิน ยู ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งแม้แต่น้อยเปิดฉากบุกโจมตีปิศาจสมองบิดเบี้ยวที่อยู่ด้านนอกป่าเถาวัลย์ทันที

ในตอนนั้นเอง มีเห็ดระเบิดร่วงหล่นมาจากท้องฟ้าราวกับสายฝนกระจายไปทุกทิศทาง

"บรึ้มมๆ"

พื้นที่ทั้งหมดในหอคอยถึงกับสั่นสะเทือน

ราชาปิศาจเห็ดที่เขาส่งไปก่อนหน้านี้ได้มาถึงแล้ว

ภายใต้การนำทัพของมัน เห็ดระเบิดที่โยนออกไปราวกับเศษเงิน พวกมันได้กระจายไปทุกที่ในชั่วพริบตาเดียว

ชั่วครู่หนึ่งนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผลลัพธ์ของสกิล

โดยเฉพาะที่ๆราชาปิศาจเห็ดเป็นคนโยนระเบิดเห็ดลงไปเอง

เห็ดของมันเกิดระเบิดอย่างรุนแรง สังหารปิศาจสมองบิดเบี้ยวไปเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันนั้นปอร์นเห็ดจำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอยฟุ้งแพร่กระจายไปบริเวณโดยรอบ

จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นอีกระลอก ซึ่งทำให้ปิศาจสมองบิดเบี้ยวที่อยู่ใจกลางฝูงถูกระเบิดกลายเป็นเถ้าถ่านไปทันที

หวู่ดด

หวู่ดด

หวู่ดด

เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป ค่อยๆ รัดร่างของปิศาจสมองบิดเบี้ยวทีละตัว

ปิศาจเหล่านั้นดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง เลือดของมันถูกสูบออกไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นซากศพ โดยไม่แบ่งให้ทหารพืชตัวอื่นที่เพิ่งมาถึงแม้แต่น้อย

ฉากทั้งหมดนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมาก มันเต็มไปด้วยเสียงคำรามกรีดร้องอย่างโหยหวนของปิศาจสมองบิดเบี้ยว มันเป็นเวลาเดียวกับที่ดอกไม้มรณะเริ่มเกิดจากศพของพวกมัน

จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่ายี่สิบนาที

ในที่สุดเขาก็สามารถสังหารปิศาจสมองบิดเบี้ยวไปจนหมด ทำให้ภาพตรงหน้ากลายเป็นว่างเปล่า

"ฟู่..!"

"ในที่สุดก็จบซักที"

หลิน ยู ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า จิตวิญญาณที่ตึงเครียดของเขาก็ค่อยๆผ่อนคลายลง

[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านสามารถเคลียร์ชั้นแรกของหอคอยแห่งบาดได้แล้ว]

มีเสียงปิ๊บดังขึ้น

บนพื้นที่โล่งที่อยู่ไกลๆ จู่ก็มีประตูมิติที่สามารถสามารถรองรับคนได้คนหนึ่งปรากฏขึ้น เปล่งแสงที่พร่างพราวออกมา

ถ้า หลิน ยู เดาไม่ผิดนั้นควรจะเป็นทางเข้าสู่ชั้นสอง

เขานั้นไม่รู้ว่าหอคอยแห่งบาปนั้นมีกี่ชั้น

ชั้นแรกยังลำบากขนาดนี้ ชั้นต่อไปนี้ต้องไม่ง่ายอย่างแน่นอน

หลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลิน ยู ก็เปิดหน้าต่างข้อมูลของเป่าเปิงดู

ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นเป็น 1200 แต้มซึ่งขึ้นมาจากตอนที่เพิ่มเข้า 200 แต้ม

เมื่อรวมกับโบนัสค่าประสบการณ์จากปราชญ์แห่งพงไพร ที่สังหารปิศาจสมองบิดเบี้ยวไป 100 ตัวก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวหากว่ามันไม่ได้สังหารด้วยตัวเองก็จะไม่ได้รับค่าประสบการณ์ไม่อย่างนั้นจำนวนของมันคงจะมากกว่านี้

แต่เหล่าปิศาจสมองบิดเบี้ยวก็มีข้อดีตัวของพวกมันถูกมอสชีวภาพคัดลอกค่าสถานะเอาไว้เพราะตัวมันสมดุลในทุกด้าน

ด้วยความว่องไว ร่างกาย ความแข็งแกร่ง และพลังวิญญาณ ที่มากถึง 900 แต้ม มันจึงเข้ากันได้ดีกับเป่าปิง

ด้วยสิ่งนี้ ไม่เพียงแต่จะรับประกันความอยู่รอดของเป่าปิงเท่านั้น ยังเพิ่มพลังให้กับสกิลของมันอีกด้วย ในขณะเดียวกันมันก็ช่วยเสริมพลังให้กับกองกำลังที่เน้นความว่องไว อย่าง กระบองเพชรยอดนักมวยและราชสีห์เงามรณะ

ดังนั้นตอนที่พวกเขาเริ่มต่อสู้ หลิน ยู ก็ได้สั่งให้มอสชีวภาพสิบตัวทำการคัดลอกค่าสถานะของปิศาจสมองบิดเบี้ยวเก็บเอาไว้

"ไปกันเถอะ ได้เวลาขึ้นไปดูชั้นสองกันแล้ว"

หลังจากพักผ่อนอยู่ช่วงขณะหนึ่งเหล่าทหารพืชก็ได้ใช้สกิลขยายพันธุ์ออกมาอีกครั้ง หลิน ยู เดินไปยังประตูมิติเพื่อมุ่งหน้าไปยังชั้นสอง

หวืดดด!

เกิดเป็นแสงสว่างวาบ

เขามาปรากฏตัวบนเกาะที่ล้อมรอบด้วยทะเล

ใช่แล้ว!

มันคือเกาะ!

เกาะที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบหนึ่งกิโลเมตร

ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่น้ำทะเลที่ซัดเข้าหาดทราย

ด้านบนเป็นดวงอาทิตย์ที่สาดแสงลงมา

หลิน ยู ตกตะลึงทันที นี้มันเป็นไปได้ไหมว่าทุกชั้นของ หอคอยแห่งบาป นั้นมีสภาพแวดล้อมของมันเอง?

เพื่อความไม่ประมาทเข้าเรียกกองทัพพืชออกมาอยู่ข้างๆทันที รออยู่ ณ ใจกลางของเกาะมีชิง ถัง และทหารกระจายออกไปรอบๆ เกาะ

แน่นอนว่ามันใช้เวลาไม่นาน

จู่ๆก็มีสายลมกรรโชกพัดไปทั่ว ท้องทะเลปั่นป่วนคลื่นลูกใหญ่ขึ้นเรื่อยซัดเข้าชายหาด

หวืออ!

ทันใดนั้น ก็ได้มีลูกศรพิษพุ่งออกมาจากทะเลพุ่งไปที่ หลิน ยู

หลิน ยู ตอบสนองอย่างทันท่วงที ยื่นมืออกไปด้านหน้า กำแพงโลกกระจกของเต่าหนามเร้นลับก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ด้วยเสียงที่ดัง "ป๊อก" ลูกศรพิษได้ถูกกำแพงกระจกขวางเอาไว้และตกลงสู่พื้น

หลังจากนั้น

จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องแปลกจำนวนมากดังมาจากทะเล ร่างเล็กๆ นับไม่ถ้วนก็โผล่ขึ้นบนเหนือน้ำรอบๆเกาะ

เมื่อมองไปใกล้มันคือเมอร์ล็อคมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์

[ชื่อ : เมอร์ล๊อค]

[เผ่าพันธุ์ : อมนุษย์]

[ระดับ : ระดับ 7(ระดับ SSS)]

[ความแข็งแกร่ง : 1000 (+1000)]

[ร่างกาย : 850 (+850)]

[ความว่องไว : 900 (+900)]

[วิญญาณ : 1000 (+1000)]

[สกิล : เข็มพิษ , คลื่นกระแทกน้ำ , พองตัว ]

[พลังความโกหาหล : ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 100%]

[หมายเหตุ : มอนสเตอร์ที่อยู่ในทะเล เมอร์ล๊อคเก่งกาจในการใช้ยาพิษ มันมีความฉลาดเหนือกว่ามอนสเตอร์ทั่วไป ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง]

ใช่แล้ว

เข็มพิษหนี้มาจากเมอร์ล๊อค

นอกจากเมอร์ล๊อคที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วยังมีเมอร์ล๊อกที่บินอยู่ในมือถือดาบกับโล่อีกหลายตัว

ฟู

ในตอนนั้นเอง น้ำทะเลก็ได้ซัดขึ้นมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง

กรองสงครามที่ถืออยู่ในมือหลายอันปรากฏขึ้น เมอร์ล๊อคที่รายล้อมด้วยน้ำทะเลปรากฏขึ้น กลองศึกที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ถูกตีอย่างรุนแรง

"ตึง ตึงง"

ด้วยเสียงคำรามที่ดังสั่น เสียงกลองกลายเป็นระลอกคลื่นออกไป ปกคลุมเมอร์ล๊อคทั้งหมดที่พุ่งออกมาจากทะเลทันที ทำความเร็วพวกมันเพิ่มขึ้น

บัพหมู่?

หลิน ยู รู้สึกตกตะลึงทันที เมื่อตรวจสอบค่าสถานะของเหล่าเมอร์ล๊อคอีกครั้ง มันสูงกว่าเดิมถึง 20%

เขาไม่กล้าคิดอะไรอีก ออกคำสั่งยังภูติไม้สงครามโบราณที่อยู่แนวหน้า

"ภูติไม้สงครามโบราณทั้งหมดใช้สกิลเหยียบย่ำพสุธา สกัดพวกมันเอาไว้ให้ได้!!"

โกร่วววว

ภูติไม้สงครามโบราณทั้งหมดคำรามออกมาทันที เปิดฉากสงครามด้วยเหยียบย่ำพสุธาและเข้าปะทะกับเมอร์ล๊อคที่พุ่งเข้ามา

ส่วนภูติไม้ธรรมชาติโบราณที่อยู่อีกด้านเรียกพรายไม้ออกมาสนับสนุนทันที

ทหารพืชตัวอื่นตามมาสมทบอย่างเมามัน ในชั่วพริบตา กองทัพเมอร์ล๊อคได้ถูกสกัดไว้ที่ชายฝั่ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ หลิน ยู คิดไม่ถึงก็คือ

ภายการบัพหมู่ที่พวกมันได้รับ เหล่าเมอร์ล๊อคเหล่านั้นไม่ได้สูญเสียกองกำลังของพวกมันเลย แถมพวกมันยังจัดการกองทัพพืชของเขาด้วยความคล่องตัวของพวกมัน

เข็มพิษจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากด้านหลัง พุ่งเข้าไปเสียบเหล่าภูติไม้โบราณที่อยู่ด้านหน้า

พิษเมอร์ล๊อคไหลไปตามบาดแผล กัดกร่อนสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง

หากไม่ใช่เพราะมีเอลฟ์ผู้ส่งสาสน์อยู่ด้านหลังคอยรักษาอยู่ เขาเกรงว่าแนวป้องกันคงพังทลายไปนานแล้ว

หลิน ยู ตกใจอยู่ไม่น้อย

เมื่อเขาผ่านประตูมิติเข้ามา ดอกไม้มรณะที่เป็นทหารที่อัญเชิญออกมานั้นไม่ตามมาด้วย ทำให้ทหารพืชของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเดียวพวกมันต่างบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

"ไปสังหารเจ้ามือกลองนั้นซะ!"

เมื่อเห็นว่าเจ้าพวกเมอร์ล๊อคนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หลิน ยู สั่งการมังกรราชาปิศาจและมังกรสนมปิศาจที่อยู่ในอากาศทันที

เหล่ามังกรพืชทั้งหลายที่ได้รับคำสั่งนั้น ละทิ้งเมอร์ล๊อคที่พวกมันกำลังสังหารอยู่ บินตรงไปยังด้านหลังของกองทัพเมอร์ล๊อคที่เป็นที่อยู่ของเมอร์ล๊อคกลองสงคราม

ดูเหมือนเจ้าพวกครึ่งปลาเหล่านั้นจะค้นพบแผนการของเขาโดยไม่คาดคิด พวกมันเปลี่ยนเป้าหมายไปในทันที ยิงเข็มพิษขึ้นบนอากาศ บังคับให้พวกมันต้องถอยกลับไป

พวกมันย้อนกลับไปสนับสนุนที่ด้านหลัง!

อย่างไรก็ตามมังกรพืชของ หลิน ยู เป็นถึงกับทหารหายาก เพียงกระโจมตีเพียงแค่นี้ไม่สามารถหยุดมันได้หรอก

เมื่อเห็นว่าเข็มพิษเหล่านั้นพุ่งมาถึงด้านหน้า พวกมันก็ปลดปล่อยเสียงคำรามที่ดังสนั่นออกมา กลายเป็นพื้นติดตา บินวนรอบเป็นวงกลมด้วยความเร็วสูง

ทันใดนั้นก็เกิดลมกรรโชกแรง

เกิดเป็นเสียงที่ดังสนั่น เหล่าเมอร์ล๊อคที่อยู่ด้านล่าง รวมถึงน้ำทะเล ถูกพัดขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อเป็นพายุทอร์นาโดขนาดยักษ์ที่อยู่เหนือทะเล

แม้แต่เมอร์ล๊อคกลองศึก สองสามตัว ก็ไม่อาจรอด ถูกกระแสน้ำฉีกกระชากร่าง ตายที่ตรงนั้น

มันทำให้เหล่าเมอร์ล๊อคอ่อนแอลงอีกครั้ง

"โอกาศมาถึงแล้ว! โต้กลับบ!!"

หลิน ยู ที่กำลังตกตะลึงอยู่นั้นออกคำสั่งแก่เหล่ากองทัพพืชของเขาทันที

ในขณะนั้น เสียงคำรามแห่งโทสะของ ชิง กัง ก็ได้คลูดาวน์เสร็จ มันคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที ทำให้ความแข็งแกร่งของกองทัพพืชทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น

อีกฝั่งแข็งแกร่งขึ้น อีกฝั่งอ่อนแอลง

ในที่สุดกองทัพพืชก็กลับมาได้เปรียบอีกครั้ง พวกมันสังหารเมอร์ล๊อคที่หลบหนีไม่ทัน ซากศพของพวกมันได้กลายเป็นดอกไม้มรณะ

ทำให้ดอกไม้มรณะค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ใน่ที่สุดมันก็มาถึงกับจุดที่จำนวนของมันเท่ากับเมอร์ล๊อค

ภายใต้การนำของทหารพืชราชวงศ์ กองกำลังของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก

ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเหล่าเมอร์ล๊อคส่วนใหญ่ก็ได้ถูกสังหารลง

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มแย่ลงไปทุกที เมอร์ล๊อคที่เหลือต่างพากันโยนหมวกและชุดเกราะทิ้งทันที หนีกลับลงไปในทะเลพร้อมกับเสียงร้องแปลกใจช่วงเวลาสั้นๆ

[ขอแสดงความยินด้วย ท่านได้เคลียร์ชั้นสองของหอคอยแห่งบาดได้แล้ว]

มันเป็นเช่นเดียวกับชั้นแรก

ทันทีที่สิ้นเสียง ประตูมิติที่เห็นได้จากระยะไกลก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือเกาะ

ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกวาดล้างดินแดนัลบ

เขาไม่รู้ว่าอาณาจักรลับแห่งนี้มีกี่ชิ้น!

ตัว หลิน ยู เริ่มจะมีปัญหากับอาณาจักรลับบ้านี้แล้วจริงๆ

เขาไม่คิดมากนัก นั่งลงบนพื้นปล่อยทหารพืชเหล่านั้นฟื้นตัวซักพักก่อน รอให้พลังเต็มเปี่ยมอีกครั้งค่อยไปลุกที่ชั้นสามก็ยังไม่สาย

และในตอนนั้นเอง

เหนือเกาะลอยฟ้าในเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรลับ

ได้มีแสงสองดวงสว่างวาบขึ้น

ได้มี ชายร่างกำยำที่มีขวานขนาดยักษ์อยู่บนหลัง และมีชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมปรากฏตัวด้วย

"ซือถู เจี้ยน? ข้าไม่คิดว่าเลยจะได้พบกับเจ้าที่นี้ ชั่งโชค์ไม่ดีจริงๆ"

เมื่อเห็นชายคนนั้นตะคอกออกมาด้วความขยะแขยง

ซือถู เจี้ยน เหลือบไปมองเขาและพูดออกมาอย่างแผ่เบา "มันควรจะเป็นข้าที่ต้องบอกว่าโชคร้าย ก่อนหน้า่นี้เจ้าอยู่ที่เมืองหินบ้าคลั่งนิ เจ้ามาทำอะไรที่นี้กันละ"

"มันไม่น่าจะเหมือนกับเจ้าหรอก จักรวรรดิต้าหยานเคลื่อนไหวเร็วดีนิ? มาทำอะไรกันที่นี้? หรือว่าพวกเจ้าเบื่ออาหารอันแสนอร่อยแถบภูเขาและทะเลแล้วงั้นเหรอ"

เมื่อเผชิญหน้ากับการโต้กลับของ ซือถู เจี้ยน ชายผู้นี้ก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย

แต่เขานั้นไม่ได้สนใจอีกฝ่ายมากนักจึงรีบเดินไปยังประตูมิติแห่งอาณาจักรลับ

เมื่อราชันคนอื่นๆที่อยู่บนเห็นสองคนนี้ สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ

"นั้นไม่ใช่องค์ชายซือถู เจี้ยน แห่งจักรวรรดิต้าหยาง และ หยาน ลี่ชายคนนั้นมีชื่อเสียงจากการเป็นคนกลุ่มแรกๆของเผ่าอมนุษย์ที่ก้าวขึ้นสู่ระดับ 7"

"พวกเขามาที่นี้กันได้่อย่างไร"

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 253