ตอนที่ 422 : ผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียง—ซวีอัน! จักรวรรดิรัตติกาล!

โจวโจวตกใจ

เจตจำนงสูงสุดตอบกลับมาจริงๆ?

มันตอบเรื่องเล็กๆ เช่นนี้กลับมาได้ด้วยเหรอ?

อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็ลองคิดดูและเข้าใจได้ เพราะนี่คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรสวรรค์แห่งลอร์ด

ในฐานะตัวตนที่สร้างพรสวรรค์แห่งลอร์ดขึ้นมา เจตจำนงสูงสุดจะต้องตอบคำถามส่วนใหญ่ในด้านนี้อย่างแน่นอน

เขาไม่ได้ถามอะไรอีกเพราะเกรงว่าเจตจำนงสูงสุดจะคิดว่าเขาเรื่องมากเกินไป และมันคงไม่ดีแน่ถ้าอีกฝ่ายไม่สนใจเขาอีก

ในเวลานั้นเอง มันก็มีการแจ้งเตือนดังมาจากตลาดซื้อขาย

โจวโจวเปิดขึ้นมาดูและพบว่าใบเปลี่ยนอาชีพกับสินค้าอื่นๆ ที่เขาเพิ่งลงขายได้ถูกขายจนหมดแล้ว

[ผลลัพธ์การแลกเปลี่ยน: แกนหมอกระดับเหล็กดำ 812,459,665 ชิ้น!]

ไม่เลวเลย

โจวโจวเก็บแกนหมอกทั้งหมดลงไปในถุงสมบัติหมอกสวรรค์ของเขา

“ท่านลอร์ด มันมีคนแปลกหน้าผู้หนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บมายังดินแดนของพวกเรา ก่อนที่เขาจะหมดสติไป เขาได้บอกว่าเขามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมกับดินแดนของพวกเรา”

ในเวลานั้นเอง ไป่อี้ก็เข้ามารายงานด้วยความเคารพ

“ทำไมเจ้าต้องมารายงานเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ด้วย? หาคนไปสืบประวัติของเขา ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่วายร้ายตัวฉกาจ เราก็ให้เขาอยู่ในเมืองตะวันสาดแสงได้”

โจวโจวสับสน

“รายงานท่านลอร์ด คนผู้นี้แข็งแกร่งมากแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้กล้า”

ไป่อี้กล่าวด้วยความเคารพ

โจวโจวเลิกคิ้วขึ้น

คนที่แม้แต่ไป่อี้ยังบอกว่าแข็งแกร่ง หรือว่า…

“เขาชื่ออะไร? อยู่ที่ไหน?”

โจวโจวถาม

“อีกฝ่ายเรียกตัวเองว่าซวีอัน ข้าได้ให้คนพาเขาพาไปหาท่านไป่เยว่จิงเพื่อทำการรักษาแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสไป่ก็บอกว่าอาการบาดเจ็บของคนผู้นี้สาหัสมาก มันเป็นไปได้อยู่ที่จะรักษาเขา แต่ข้าเกรงว่ามันก็คงจะต้องใช้เวลา”

ไป่อี้กล่าว

โจวโจวครุ่นคิด

ฟังดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดเข้ามาโดยคะแนนชื่อเสียงเลย?

“เขาเข้าร่วมกับดินแดนตะวันสาดแสงของพวกเรารึยัง?”

โจวโจวถามออกมาในทันใด

“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

ไป่อี้พยักหน้า

“พาเขาไปยังที่พักพิงของเทพีแห่งชีวิตและให้พวกสาวกทำการรักษาเขา เขาต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด เมื่อเขาหายดีแล้วก็ให้พามาหาข้า”

โจวโจวกล่าว

หมอนั้นเชี่ยวชาญในการรักษาอาการเจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการรักษาอาการบาดเจ็บนั้น เหล่าสาวกที่เชี่ยวชาญในคาถาศักดิ์สิทธิ์ก็มีประโยชน์ยิ่งกว่า

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

ไป่อี้พยักหน้าและไปจัดการต่อ

หลังจากผ่านไปสักพัก ไป่อี้ก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายคนหนึ่ง

อีกฝ่ายมีรูปร่างผอมบางและสวมชุดผู้ฝึกยุทธ์สีแดงดำ ผมของเขายุ่งเหยิง ดวงตาของเขาว่างเปล่าและมีถุงใต้ตาที่เห็นได้ชัด

ในเวลาเดียวกัน เขาก็ถือดาบยาวสีเลือดที่เปล่งแสงสีโลหิตจางๆ และแกว่งไปมาในขณะที่เขาเดิน

น่าประหลาดที่แม้ว่าดาบสีเลือดนั้นจะไม่ได้เคลื่อนไหวนัก แต่มันก็มีภาพติดตาปรากฏออกมา

“คาราวะท่านลอร์ด! เขาคือซวีอันที่เพิ่งเข้าร่วมกับดินแดนตะวันสาดแสงของพวกเรา!”

“ข้าคือซวีอันขอรับ คาราวะท่านลอร์ด”

อีกฝ่ายทำตาม

โจวโจวพยักหน้าและถามออกมาอย่างจริงจัง

“ทำไมเจ้าถึงมาหาข้าพร้อมกับดาบแบบนั้นด้วย? นั่นมันหยาบคายมากเลยนะ”

“ข้าคิดว่ามันเป็นเพราะ… ข้าทำฝักดาบหายไปขอรับ”

ซวีอันเกาหัวที่ยุ่งเหยิงของเขาและพูดอย่างไม่แน่ใจ

“คิดว่างั้นเหรอ?”

“ขออภัยด้วยท่านลอร์ด ดูเหมือนข้าจะสูญเสียความทรงจำไป ข้าจำได้แค่ว่าดาบเงาโลหิตนี้เป็นสหายคนสำคัญของข้า มันไม่เคยอยู่ห่างจากมือของข้าเลย สำหรับความทรงจำอื่นๆ ข้าจำได้แค่คร่าวๆ ข้าลืมที่เหลือส่วนใหญ่ไปแล้ว”

ซวีอันพูดอย่างละอายใจ

ความจำเสื่อม…

โจวโจวพูดไม่ออก

ช่างเป็นพล็อตโบราณซะจริง

เขาหรี่ตามองศีรษะของอีกฝ่าย

ฉันควรกระแทกหัวเขาอีกเพื่อให้ความทรงจำของเขากลับมาไหม?

ซวีอันมองไปยังลอร์ดของเขาที่กำลังมองมาที่ศีรษะของตัวเอง เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันทีโดยไม่รู้เหตุผล

เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวโจวก็เบนสายตาออกไป

ด้วยกระแสจิตระดับสูงของเขา เขาสามารถสัมผัสได้ว่าในหัวของอีกฝ่ายนั้นว่างเปล่าทั้งหมด ทุกสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมานั้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเขาเลย

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสูญเสียความทรงจำไปจริงๆ

“อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีหรือยัง?”

โจวโจวถาม

“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือขอรับท่านลอร์ด เคล็ดวิชารักษาของสาวน้อยพวกนั้นสุดยอดมาก ข้าหายดีแล้วขอรับ”

เมื่อซวีอันพูดออกมา ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้น

โจวโจว: “…”

ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคนผู้นี้คิดอะไรแปลกๆ อยู่…

จากนั้นเขาก็มองไปยังข้อมูลของอีกฝ่าย

เมื่อได้ดู โจวโจวก็ตกใจขึ้นมา

[ลูกน้อง: ซวีอัน]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: ราคชาซารัตติกาล]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับมหากาพย์ขั้นต้น]

[ความสามารถโดยรวม: เด็กกำพร้าจากอาณาจักรที่ถูกทำลาย เขาถูกพาตัวไปโดยหอคอยราคชาซารัตติกาลจากจักรวรรดิรัตติกาลและเริ่มฝึกฝนการเป็นนักฆ่ากับเด็กคนอื่นๆ เมื่อเขาโตขึ้น เขาโดดเด่นขึ้นมาด้วยความแข็งแกร่งระดับมหากาพย์ขั้นต้นและกลายเป็นราคชาซารัตติกาลที่มีเพียงบุตรแห่งรัตติกาลระดับตำนานเท่านั้นที่สามารถเป็นได้ ต่อมาเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างปฏิบัติภารกิจและสูญเสียความทรงจำส่วนใหญ่ไป อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงรักษาทักษะการลอบสังหารในฐานะมือสังหารชั้นยอดไว้ได้!]

[ทักษะ: พรสวรรค์–นักฆ่าโดยกำเนิด, พรสวรรค์–สัมผัสอันตราย, พรสวรรค์–สุดยอดการอำพราง, พรสวรรค์–ย่างก้าวไร้เสียง, พรสวรรค์–เจตจำนงผู้พิฆาตมังกร, คัมภีร์เจ็ดมรณะระดับมหากาพย์ขั้นต้น (ยังไม่เชี่ยวชาญ), ทักษะดาบเงาโลหิตระดับมหากาพย์ขั้นต้น, สังหารเงาโลหิตระดับมหากาพย์ขั้นต้น, เงาโลหิตไร้ขอบเขตระดับมหากาพย์ขั้นต้น, ร่างบุตรแห่งรัตติกาล (เทียม) ระดับมหากาพย์ขั้นต้น, พรางตัวยามกลางวันระดับมหากาพย์ขั้นต้น, ก้าวย่างว่างเปล่าระดับมหากาพย์ขั้นต้น, การสร้างหุ่นเชิดแห่งความว่างเปล่าระดับมหากาพย์ขั้นต้น, รัตติกาลทมิฬอำพรางระดับมหากาพย์ขั้นต้น, การเสริมความแข็งแกร่งทางร่างกายระดับมหากาพย์ขั้นต้น, การคัดแยกและเก็บรักษาศพระดับมหากาพย์ขั้นต้น, ทักษะแกล้งตายระดับมหากาพย์ขั้นต้น…]

[ความภักดี: 85]

[ศักยภาพ: ระดับเทพชั้นกลางขั้นสูง]

“พระเจ้าช่วย… ระดับมหากาพย์ขั้นต้น?!”

โจวโจวเดาะลิ้น

ไม่ต้องพูดแล้ว คนผู้นี้คือผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียงจริงๆ

มิฉะนั้นทำไมคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้จึงมาเป็นลูกน้องของเขาโดยไม่ร้องขออะไรด้วย?

สิ่งที่ทำให้โจวโจวประหลาดใจก็คืออีกฝ่ายยังเป็นผู้พิฆาตมังกรด้วย

ในฐานะราชาผู้พิฆาตมังกร มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่ามันยังมีทายาทของเหล่าผู้พิฆาตมังกรหลงเหลืออยู่ในโลกนี้

บางคนก็รู้ภูมิหลังของตัวเอง และบางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้พิฆาตมังกรคืออะไร

สำหรับจักรวรรดิรัตติกาล โจวโจวก็เคยได้ยินเรื่องของมันมาจากอู๋ตู่อยู่บ้าง

มันคือจักรวรรดิที่อยู่ห่างจากอาณาจักรไททันไป 500,000 กิโลเมตร!

มันถูกบันทึกไว้ในหนังสือเท่านั้นและมีเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นมันแม้แต่ในอาณาจักรไททัน

เขาไม่คิดเลยว่าคนผู้นี้จะมาจากจักรวรรดิรัตติกาล

“ยินดีต้อนรับสู่เมืองตะวันสาดแสงนะ ว่าแต่เจ้ามาถึงที่นี่ได้ยังไงกัน?”

โจวโจวถามด้วยความสงสัย

“ข้าลืมไปแล้วขอรับ”

ซวีอันพูดอย่างตรงไปตรงมา

โจวโจวพยักหน้าและเลิกถามอีก

เขาน่าจะลืมไปหมดแล้วจริงๆ

“อีกสักพักพวกเราจะไปยังสมรภูมิ เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าก็สามารถติดตามข้าไปได้ มาดูกันว่าเจ้าจะทำอะไรได้บ้าง”

“โอ้ใช่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด เมื่อเจ้าอยู่กับพวกเราก็หาฝักดาบมาใช้ด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ”

โจวโจวกล่าว

“ขอรับ”

ซวีอันพยักหน้า

โจวโจวยิ้ม

กำลังรบระดับมหากาพย์ขั้นต้นจะไปร่วมรบกับเขา!

ดูเหมือนว่าวันนี้เขาคงจะได้ผลกำไรก้อนโตมาจากสมรภูมิสุดท้ายแน่ๆ