ตอนที่ 194 รอเจ้ากระต่ายน้อย

"อะไรนะ? หมอกพิษโรคระบาดบีบตัวอีกครั้ง?"

"ไปเร็ว! อย่าให้หมอกพิษนั้นตามทันได้"

"ฉันไม่รู้ว่ามันบีบตัวถึงไหน ดังนั้นรีบไปกันเถอะ"

เสียงร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งสนามรบ

เหล่าราชันจากต่างโลกยังคงต่อสู้กันไม่หยุดรีบมุ่งหน้าไปยังใจกลางของสนามรบ

ผ่านไปไม่นาน

ผู้คนจำนวนมากได้พบกับเมืองต้าหยานที่อยู่ใจกลางสนามรบพวกเขาบุกเข้าไปในทันที

ดังคำกล่าวที่ว่า ที่นี้เป็นสถานที่ๆผู้คนมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ในช่วงเวลาสั้นๆ มีราชันจำนวนมากมารวมตัวกันจากประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ การต่อสู้ขนาดต่างๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ตราบใดที่ราชันจากต่างโลกพบกัน พวกเขาก็จะเข้าต่อสู้กันทันทีเกิดเป็นความโกลาหล ราชันบางคนถูกลอบสังหารท่ามกลางความวุ่นวายนี้ด้วย

รอบนอกเมืองต้าหยานจึงเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

และแน่นอน

สิ่งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ หลิน ยู

ในช่วงเวลานี้เขากำลังเดินสำรวจสอบๆพร้อมกับกองทัพพืช สังหารซอมบี้ตามทาง

ซอมบี้ในเมืองเยอะมาก มันโผล่ออกมาจากทุกที่ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหน

ยิ่งเข้าไปยังส่วนลึกของเมือง จำนวนก็ยิ่งมากขึ้น ทำให้เขาเดินทางไปได้ช้ามาก

จนกระทั่งมาถึงช่วงเที่ยง เขาเดินทางมาได้เพียง 10 กิโลกว่าๆ มันไม่ถึง 1 ใน 10 ของเมืองด้วยซ้ำ

"ดูเหมือนว่าต้นกำเนิดโรคระบาดจะอยู่ที่ใจกลางเมืองนะ"

หลิน ยู มองไปเข้าระยะไกลผ่านฝูงซอมบี้ที่เดินอย่างพลุ่งพล่านไปรอบๆ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้ แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังเต็บไปด้วยซอมบี้และนกผีดิบนาๆชนิด เขาไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปอย่างเร่งรีบด้วยมังกรราชาปิศาจ

ในกรณีที่ไม่สามารถฝ่าพวกมันไปได้ อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับไอ้นกผีพวกนี้ มันปลอดภัยกว่าหากเดินหน้าไปอย่างช้าๆเหมือนในตอนนี้

"แปร๊บบบ"

ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามออกมาจากฝูงซอมบี้

ช้างซอมบี้ยักษ์ร่างกายของมันเน่าเฟะจนเห็นกระดูกโผล่ออกมาพุ่งเข้ามาหาเขา

ไม่ว่ามันจะเดินไปทางไหน พื้นดินก็จะสั่นสะเทือน แม้แต่ซอมบี้ระดับ 7 อยู่ด้านหน้ามันก็ถูกซัดกระเด็น

หลิน ยู เหลือบมองไปยังมอนสเตอร์ตัวใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้น

[ชื่อ : ช้างซากมรณะ]

[เผ่าพันธุ์ : สัตว์ร้าย]

[ระดับ : ระดับ 8]

[ความแข็งแกร่ง : 2000]

[ร่างกาย : 1805]

[ความว่องไว : 1546]

[วิญญาณ : 1883]

[สกิล : หนังเหล็ก , พุ่งชน , ฝนพิษ]

[หมายเหตุ : เดิมทีมันเป็นสัตว์เลี้ยงของคณะละคนสัตว์ที่อยู่ในวัง มันติดเชื้อและกลายเป็นซอมบี้ พิษจากซากศพกระจายอยู่ทั่วร่างของมัน มันสามารถพ่นพิษซากศพออกไปในอากาศ กลายเป็นฝนพิษรอบตัวมัน]

มอนสเตอร์ระดับ 8 !!

ที่นี้มีมอนสเตอร์ระดับ 8 ด้วยงั้นเหรอ

หลิน ยู ตกตะลึงทันที

เขาสั่งให้ หลิง ซี และชิง ถังมาอยู่ข้างเขาอย่างรวดเร็ว

ในพริบตาเดียวนั้น เถาวัลย์ขนาดยักษ์ก็พุ่งเข้าไปหาช้างซากมรณะจากทุกทิศทาง

ในเวลาเดียวกัน หลิง ซี ก็ได้เสกหนามไม้จากบนท้องฟ้าพุ่งไปหามันด้วยเช่นกัน

"แปร๊บบบ"

ในจังหวะนั้นเอง ช้างซากมรณะก็ได้คำรามออกมาและพ่นพิษซากศพไปในที่ด้านบนกลายเป็นฝนตกลงมา

หนามไม้และเถาวัลย์ยักษ์ที่อยู่ระยะของฝนพิษ ก็ถูกกัดกร่อน เกิดเป็นควันสีขาวกลายเป็นซากตกลงสู่พื้น

การโจมตีโดนป้องกันทั้งหมด

ใช้ประโยชน์จากช่องว่างในการโจมตี ช้างซากมรณะสวนกลับซัดการโจมตีใส่ ดอกไม้มรณะรอบๆป่าเถาวัลย์ตายไป มันกระทืบซ้ำอีกครั้งด้วยเท้าขนาดใหญ่

หลิง ซี ตอบสนองทันที โบกไม้เท้าของเธออีกครั้ง ชี้ไปยังกลางอากาศ

เสกเถาวัลย์หนามโผล่ขึ้นมาจากพื้น มัดร่างของช้างซากมรณะเอาไว้ ทำให้แรงกดดันที่พวกเขาได้รับลดลงทันที

จากนั้นชิง ถัง ก็ตามมาโจมตีต่อ

ด้วยแรงระเบิดมันทำอากาศโดยรอบสั่นไหว พวกเขาโจมตีช้างซากมรณะจากทุกทิศทาง ด้วยการกระหน่ำโจมตีของพวกเขาทำให้มันเริ่มบาดเจ็บมากขึ้น

เสียงโหยหวนของช้างซากมรณะดังออกมา ร่างกายอันใหญ่โตของมันถูกโจมตีราวกับเข้าไปในรังแตน ในที่สุดมันก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง

เลือดเนื้อที่เหลืออยู่ในร่างกายของมันก็ถูกเถาวัลย์ยักษ์ดูดกลืนเข้าไปทำให้ เถาวัลย์ที่ถูกพิษกัดกร่อนได้รับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

"เยี่ยมมาก"

หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะชมออกมาเขานำกองทัพพืชของเขาตะลุยเข้าไปยังส่วนลึกของเมืองต่อ

ในขณะนี้ หมอกพิษโรงระบาดก็บีบตัวอีกเข้ามาอีกครั้ง "ฟู่ๆ" และหยุดลงอย่างช้า ห่างจากเมืองต้นหยาน 30 กิโลเมตร

มันเหมือนบังคับให้ราชันทุกคนที่อยู่รอบๆเมืองต้าหยานเข้าไปยังส่วนลึกของเมือง

พวกเขารู้ดีหากวันพรุ่งนี้ เหตุการณ์ยังดำเนินไปแบบนี้อยู่ หมอกพิษจะลดขนาดเข้าไปในเมืองต้นหยานอีกครั้งในวันถัดไป หากพวกเขายังอยู่นอกเมืองมันจะเหลือเพียงทางตันสำหรับพวกเขา

ในขณะเดียวกันก็มีราชันจำนวนมากที่ได้พบกับสหายจากโลกของพวกเขา พวกเขาจึงได้จัดตั้งกลุ่มเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพวกเขา สงครามกลับมาอุบัตขึ้นอีกครั้ง

มันเป็นเช่นนี้ไปจนถีงเที่ยง การต่อสู้ของพวกเขาถูกขัดจังหวะลงด้วยเสียงแจ้งเตือน

[ราชันทุกท่าน โปรดทราบสมบัติสนามรบได้ปรากฏขึ้นแล้วมันจะถูกสู่มกระจายไปทั่วทั้งสนามรบ]

ทันทีที่เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ลำแสง 6 สายก็ตกลงมาจากท้องฟ้าปรากฏขึ้นทุกมุมของสนามรบ

เมื่อมองดูอย่างใกล้ชิด สถานที่ๆสมบัติสนามรบตกลงมาล้วนอยู่ในเมืองต้าหยานเพียงอย่างเดียว

"สมบัติสนามรบอยู่ที่นั้น ! ไปกันเถอะ"

"มันอยู่ในเมืองหมดเลยงั้นเหรอ!"

"อย่าเพิ่งสู้กัน! สิ่งสำคัญคือพวกเราต้องไปเอาสมบัตินั้นมาก่อน!"

"ครั้งนี้มีราชันเยอะมากจริงๆ แต่พวกเราต้องคว้ามันมาให้ได้"

พวกเขาสั่งกองกำลังให้ถอยกลับมาทันที รีบไปมุ่งหน้ายังทิศทางที่มีลำแสงอยู่ซึ่งทำให้บริเวณประตูเมืองว่างเปล่าลง ทำให้เหล่าราชันที่อ่อนแอที่ตอนแรกไม่กล้าเข้าใกล้ ก็มีโอกาสได้เข้าเมือง

ใช่แล้ว

ราชันเหล่านั้นได้จากไปแล้ว

มีราชัน 2 คนปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกของเมืองเดินผ่านประตูเมืองไปอย่างระมัดระวัง

"ลั่ว เหล่ย พวกเราเข้าไปในเมืองตอนนี้จะดีงั้นเหรอ? ถ้าหากพวกเราไปเจอราชันคนอื่นๆเข้าละ!"

"ต้องไปตอนนี้เท่านั้น นี้เป็นโอกาสเดียวที่เราจะเข้าไปในเมืองได้ หากราชันเหล่านั้นกลับมาเฝ้าประตูอีกครั้งหลังจากที่คว้าสมบัติมาได้แล้ว พวกเราคงไม่สามารถเข้าไปได้อีกต่อไป ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็จะตายด้วยพิษ"

"นั่นซินะ งั้นพวกเราไปหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่า"

เมื่อเทียบกับเหล่าราชันที่เฝ้าประตูเมืองแล้ว ราชัน 2 คนนี้อ่อนแออย่าเห็นได้ชัด

พวกเขามีเพียงทหารระดับ 7 ประมาณ 7-8 ตัวเท่านั้นที่อยู่รอบตัวเขาที่เหลือเป็นทหารระดับ 6 หมดเลย

มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบเจอได้ในสนามรบอื่นๆ แม้แต่ในสนามรบหมายเลข 1 นี้ พวกเขาสามารถถูกสังหารได้อย่างง่ายดาย

ต้องขอบคุณความรอบครอบของพวกเขาที่ทำให้อยู่รอดมาถึงตอนนี้

พวกเขานำกองกำลังของพวกเขาผ่านประตูเข้าไปในเมืองทันที หลบหนีออกมาจากทิศทางที่สมบัติสนามรบอยู่ มองไปยังอาคารภายในเมืองเพื่อหาที่หลบซ่อน

ขอแค่รอดชีวิตพวกเขาก็พอใจแล้ว

และในครั้งนี้

อีกด้านหนึ่ง ใกล้กับตลาดภายในเมืองต้าหยวน

ราชันกลุ่มหนึ่งขี่พาหนะวิ่งอย่างรวดเร็วไปบนถนน เฝ้ามองลำแสงสมบัติ เข้าวิ่งเข้าไปใกล้เรื่อยอย่างตื่นเต้น

"ฮ่าฮ่า ฉันไม่นึกเลยว่าสมบัติสนามรบจะอยู่ใกล้ขนาดนี้ พระเจ้าอวยพรให้พวกเราได้เจ้านี้ไปแน่ๆ"

"คิดแล้วว่าราชันจากโลกอื่นน่าจะยังมาไม่ถึงกัน รีบไปคว้าสมบัติแล้วหนีกันเถอะ!"

"เจ้าเต่า พวกนั้นวิ่งไม่ทันพวกเราหรอก"

มีราชันทั้งหมด 4 คนในกลุ่ม พวกเขาแต่ละคนถูกล้อมรอบด้วยทหารระดับ 7 อย่างน้อย 50 ตัวหรือมากกว่านั้น กระจายกันออกไปตามถนนสายหลัก มันเป็นขบวนขนาดใหญ่มาก

ผ่านไปไม่นาน

พวกเขาก็ข้ามถนนสายหลักมายังด้านนอกของตลาดที่อยู่ด้านใน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสมบัติสนามรบ

เมื่อมองไปยังลำแสงที่อยู่แค่เอื้อม ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงความตื่นเต้นออกมา พวกเขารีบพากองกำลังมุ่งหน้าไปยังทางเข้าของตลาดเมืองต้าหยาน

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา สีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นแข็งค้างหยุดอยู่กับที่ทันที

พวกเขาจ้องมองไปยังส่วนลึกภายในตลาด มีร่างๆหนึ่งอยู่บนหลังคา เถาวัลย์เล็กแผ่กระจายไปทั่วทั้งตลาด

"หือ ทำไมถึงมีคนมาถึงที่นี้เร็วนัก!?"

หลิน ยู ค่อยๆ ลุกขึ้นมองไปยังเหล่าผู้คนที่เพิ่งปรากฏตัว

ในมือของเขา ถือพิมพ์เขียวที่เปล่งประกายเป็นจุดศูนย์กลางของลำแสง

เมื่อเห็นว่าพิมพ์เขียนได้อยู่ในเมืองของเขา ตาของราชันทั้ง 4 ก็ปรากฏจิตสังหารออกมาใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

"ไอ้หนู ส่งสมบัติสนามรบมาซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตนาย"

"หึ กล้ายึดสมบัติไว้คนเดียวงั้นเหรอ นายไม่รักชีวิตแล้ว?"

"หยุดพูดไร้สาระซักที ไปสังหารมันและนำสมบัติมาก่อนดีกว่า!"

"ฆ่ามันซะ!"

ด้วยคำสั่งของพวกเขาทหารระดับ 7 มากกว่า 200 ตัวแถมยังมีทหารระดับ 6 อีกกว่า 300 ตัว ขู่คำรามพุ่งเข้ามาหาหลิน ยู

พวกเขาทั้ง 4 เห้น หลิน ยู อยู่คนเดียว พวกเขาก็ยิ้มกว้างออกมา ร่องรอยของความโหดเหี้ยมปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา

แต่ในวินาทีถัดมา สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัวทันที

เนื่องจากในตอนที่พวกเขาสั่งกองกำลังของตัวเองนั้น เถาวัลย์นวนมากก็เริ่มปรากฏขึ้นในรอบๆตลาดล้อมพวกเขาเอาไว้

แม้แต่ในอาคารมันก็ยังมุดออกมาอย่างต่อเนื่อง เถาวัลย์พุ่งออกมาเหมือนงูยักษ์ โจมตีใส่พวกเขาทันที

"สังหารพวกมันให้หมด!"

เมื่อเสียงอันแผ่วเบาออกมาจากปากของ หลิน ยู ทั่วทั้งตลาดเกิดเสียง "บรึ้มมม!" ทั้งหมดพังทลายลงทันที

กองทัพพืชจำนวนนับไม่ถ้วนดอกไม้มรณะเผยร่างของพวกมันออกมา พุ่งเข้าโจมตีกองกำลังของราชันทั้ง 4 ในตอนนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น

ชั่วพริบตาเดียวทหารเกือบจากทั้งหมด 500 ตัวถูกสังหารไป ล้มลงเลือดไหลรินนองเต็มพื้น

ฉากอันน่าสะพรึงกลัวนี้ทำให้ราชันทั้ง 4 จากโลกฟ้าครามหวาดกลัวขึ้นมาในทันที พวกเขาถอยหลังออกไปด้วยความตื่นตะหนก

แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ถอยก้าวที่ 2 3 ร่างกายของพวกเขาแข็งค้าง ดวงตาของพวกเขาเกิดความลุ่มหลง

สกิล จูมพิตของแบนชี ของแบนชีเสน่หาเปิดใช้งานแล้ว

ต้องเข้าใจก่อนว่าราชันเหล่านี้มีระดับเพียง 6 เท่านั้น

เมื่อรวมกับความหวาดกลัวในจิตใจที่พวกเขามีต่อ ชิง ถัง พวกเขาจะหลบหนีจากสกิล จุมพิษของแบนชีได้อย่างไรกัน

หลังจากที่สูญเสียการป้องการกองกำลังทหาร พวกเขาก็เป็นได้แค่ปลาที่อยู่บนเขียง

จากนั้นใต้การควบคุมของแบนชีเสน่หา จู่ๆ พวกเขาก็ชักอาวุธออกมาเล็งไปที่พวกเดียวกันเอง

"ฟู่!"

เสียงใบมีดแทงเข้าไปในเนื้อดังขึ้น

ราชันทั้ง 4 รู้สึกเจ็บที่หน้าอกตื่นขึ้นจากการควบคุมทันที

จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ รวมถึงเพื่อนๆของเขาที่ถืออาวุธอยู่ด้วย

พวกเขาล้มลงกับพื้นสิ้นใจตรงนั้น

กองกำลังของพวกเขาตายไปพร้อมกับราชันที่ถูกแทงต่างล้มลงกับพื้นอย่างต่อเนื่อง

[สังหารราชันต่างโลกระดับ 6 ได้รับพลังวทย์ 13000 แต้ม แก่นแท้ดินแดนระดับ 6 1 อัน]

[สังหารราชันต่างโลกระดับ 6 ได้รับพลังวทย์ 19000 แต้ม แก่นแท้ดินแดนระดับ 6 1 อัน]

[สังหารราชันต่างโลก...]

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น 4 ครั้งติดต่อกัน ทำให้ หลิน ยู ได้รับพลังเวทย์มามากกว่า 70000

พลังเวทย์ของเขาเพิ่มขึ้นมาก 350000

ดูเหมือนว่ายิ่งเวลาผ่านไปนาน เหล่าราชันก็ยิ่งมีพลังเวทย์มากขึ้นเท่านั้น

มันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเมื่อวาน

ในขณะที่เขากำลังตรวจสอบร่างกายของอีกฝ่ายนั้น ได้มีเสียงตะโกนออกมาจากระยะไกลด้านหน้าเขา

"เร็วเข้า! สมบัติอยู่ข้างหน้านี้ ไปกันเร็ว!"