[แต้มทักษะที่สามารถจัดสรรได้: 1,016,334 แต้ม]

หลินอี้เปิดหน้าต่างทักษะ เลือกสายธาตุไฟ แล้วหยุดที่หน้าทักษะระดับ 8 "การยกระดับสูงสุด ร่างอวตารแห่งเพลิง"

เพิ่มแต้ม! ต้องเพิ่มแต้ม!

เขาเปิดหน้าต่างเพิ่มแต้ม ปุ่มเพิ่มแต้มที่เคยเห็นก่อนหน้านี้เปลี่ยนจากสีเทาเป็นสว่าง

หลินอี้สูดหายใจลึก เวทมนตร์ต้องห้ามอยู่แค่เอื้อม

[คุณต้องการใช้แต้มทักษะ 1 ล้านแต้มเพื่อยกระดับทักษะของคุณเป็นระดับ 9 หรือไม่?]

ใช่!

เพิ่มแต้มทีเดียว เริ่ม!

ในชั่วขณะถัดมา เสียงแจ้งเตือนไพเราะดังขึ้นข้างหูหลินอี้

[ติ๊ง! ใช้แต้มทักษะ 1 ล้านแต้ม การยกระดับสูงสุด: ร่างอวตารแห่งเพลิงของคุณอัพเกรดแล้ว, คุณได้รับเวทมนตร์ใหม่ เวทมนตร์ต้องห้ามระดับ 9 - อุกกาบาตแปดทิศ!]

ทันทีที่เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น สายตาของหลินอี้พร่าเลือนไปชั่วครู่ ภาพรอบข้างหายไปหมด

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางภาพลวงตา!

นี่คือภาพลวงตาของโลกที่ใกล้วินาศ

หลินอี้ลอยอยู่กลางอากาศ ราวกับมองจากมุมมองของพระเจ้า

เบื้องล่างคือมหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาลและแผ่นดินอันกว้างขวางไร้ขอบเขต

ทุกอย่างดูปกติ จนกระทั่ง—

ท้องฟ้าถูกย้อมสีแดงด้วยเปลวเพลิง ราวกับถูกจุดไฟเผาไหม้!

อุกกาบาตไฟขนาดมหึมาน่าสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาจากอวกาศ

ในชั่วพริบตา แผ่นดินแข็งแกร่งถูกอุกกาบาตไฟแยกออก แตกละเอียด กลายเป็นหินหลอมเหลวสีแดงฉาน

หลอมรวมเข้ากับมหาสมุทร!

ส่วนทะเลที่เคยสงบนิ่งก็ถูกความร้อนเผาจนเดือดพล่าน ไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมา ระเหยเป็นไอน้ำมหาศาลด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า พุ่งทะยานสู่ชั้นบรรยากาศ!

ในชั่วพริบตาถัดมา

มหาสมุทรเหือดแห้ง

แผ่นดินหลอมละลาย

ทุกสิ่งราวกับย้อนกลับไปเมื่อสี่พันล้านปีก่อน

ตอนที่โลกเพิ่งกำเนิดขึ้น

ทุกสรรพสิ่งกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นดั้งเดิม

เป็นสสารที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน ร้อนระอุ วุ่นวายไร้การแบ่งแยก!

ภาพลวงตาหายไป

หลินอี้กลับคืนสู่ความเป็นจริง เขาถึงพบว่าตัวเองเหงื่อโซมกายไปหมดแล้ว

เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าเขาเพิ่งได้เห็นอะไร

นั่นคือพลังระดับสร้างโลกและทำลายล้างโลก

นั่นคือ—

เวทมนตร์ต้องห้ามเหนือเทพ!

คำนี้ผุดขึ้นในความคิดของเขา!

เปิดหน้าต่างทักษะอีกครั้ง

หลินอี้พบว่าเป็นไปตามที่เขาคาดไว้จริงๆ

เวทมนตร์ต้องห้ามระดับ 9 ไม่ใช่จุดสิ้นสุด

แม้แต่ใกล้เคียงกับจุดสิ้นสุดก็ยังไม่ใช่!

หลินอี้สามารถดูตัวอย่างทักษะที่จะได้รับหลังจากยกระดับขั้นต่อไปได้แล้ว

[เวทมนตร์ต้องห้ามโบราณ - เพลิงนรกชำระโลก]

[แต้มทักษะที่ต้องการในการยกระดับ: 10 ล้าน]

[เส้นทางวิวัฒนาการต่อไป: เวทมนตร์ต้องห้ามโบราณ - อาทิตย์ทองคำยิ่งใหญ่]

[เงินที่ต้องการในการวิวัฒนาการ: 100 ล้าน เหรียญต้าเซี่ย]

[แต้มทักษะที่ต้องการในการวิวัฒนาการ: 20 ล้าน]

[คำแนะนำ: เวอร์ชันที่เปลี่ยนแปลงของเวทมนตร์ต้องห้ามโบราณ - อาทิตย์ทองคำยิ่งใหญ่ สามารถวิวัฒนาการต่อไปเป็นเวทมนตร์ต้องห้ามขั้นสุดยอดได้]

"เหนือเวทมนตร์ต้องห้ามโบราณ ยังมีเวทมนตร์ต้องห้ามขั้นสุดยอด..."

"และเวทมนตร์ต้องห้ามขั้นสุดยอดก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุด เวทมนตร์ต้องห้ามที่สามารถทำลายดาวเคราะห์ทั้งดวงได้จริงๆ ทำให้โลกกลับไปสู่ทะเลเพลิงเมื่อสี่พันล้านปีก่อน มีชื่อว่าเวทมนตร์ต้องห้ามเหนือเทพ!"

หลินอี้เข้าใจแล้วว่าภาพลวงตาที่เขาเห็นเมื่อครู่ น่าจะเป็นฉากการใช้เวทมนตร์ต้องห้ามเหนือเทพ

นั่นคือเวทมนตร์ทำลายล้างโลกจริงๆ!

สามารถหลอมละลายทวีป เดือดพล่านมหาสมุทร!

นี่คือขีดสุดของเวทมนตร์สายไฟ!

พลิกฝ่ามือทำลายดาวเคราะห์!

หลินอี้สูดหายใจลึก พยายามสงบอารมณ์ที่ปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง

หลินอี้คิดว่าเขาเคยเห็นรูปแบบของพลังระดับสูงสุดของโลกนี้มาแล้ว

ตอนนี้เขาถึงได้ตระหนักว่า

ก่อนหน้านี้ตัวเขาก็เป็นเพียงกบในกะลาเท่านั้น

แต่นี่กลับทำให้หลินอี้กำมือแน่น

นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจมากขึ้นหรอกหรือ?

แม้ว่าแต้มทักษะที่ต้องการจะสูงถึงหลักร้อยล้านในที่สุด

สำหรับเขาแล้ว ก็แค่รอไม่กี่ปีเท่านั้น

เขารอได้!

แต่ในช่วงนี้ เป้าหมายต่อไปของหลินอี้แน่นอนว่าไม่ใช่การยกระดับเวทมนตร์ต้องห้ามแรกที่ได้รับเป็นเวทมนตร์ต้องห้ามโบราณ

แต่เป็นการกระจายเวทมนตร์ต้องห้าม!

อย่างน้อยเวทมนตร์ทุกสายที่เขามีตอนนี้ ต้องยกระดับเป็นระดับเวทมนตร์ต้องห้ามก่อน!

หลินอี้มองดูรายละเอียดของเวทมนตร์ต้องห้ามที่เขาเพิ่งได้รับ

[เวทมนตร์ต้องห้าม - อุกกาบาตแปดทิศ]

[ประเภท: ทักษะแอคทีฟ]

[ระดับ: 9]

[สาย: ธาตุไฟ]

[พลังเวท: 1 จุด]

[เวลาร่ายเวทมนตร์: 10 นาที]

[เวลาคูลดาวน์: 3 วัน]

[ผลลัพธ์: เรียกเปลวไฟป่าเถื่อนลงมาจากฟากฟ้า จุดไฟเผาไหม้เป้าหมายทั้งหมดในพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล ก่อความเสียหายจากไฟอย่างมหาศาลต่อเป้าหมายทั้งหมด]

[ผลการจุดไฟของทักษะนี้คงอยู่ถาวร ไม่สามารถขจัดออกได้]

[ทักษะนี้ละเลยการลดความเสียหายและภูมิต้านทานความเสียหายทั้งหมดของเป้าหมายที่ต่ำกว่าระดับ 9]

[หมายเหตุ: ไฟนี้ลุกไหม้มาตั้งแต่ยุคโบราณอันป่าเถื่อน จนถึงปัจจุบัน]

ฮืดดด...

หลินอี้สูดหายใจเฮือก

10 นาทีในการร่ายเวทมนตร์

ใช้พลังเวท 1 ล้าน

ต้องบอกว่าสมกับเป็นเวทมนตร์ต้องห้าม เงื่อนไขในการใช้ก็โหดร้ายเหลือเกิน

หลินอี้รู้สึกโชคดีมากที่ตอนเพิ่มแต้มให้ทักษะสายไฟระดับ 8 ก่อนหน้านี้ เขาได้รับโอกาสในการวิวัฒนาการฟรีหนึ่งครั้ง

เพราะในสภาวะยกระดับ เวทมนตร์สายไฟทั้งหมดที่เขาใช้จะเป็นการร่ายแบบทันที และไม่มีการใช้พลัง

ถ้าในอนาคตหลินอี้สามารถแก้ปัญหาเรื่องเวลาคูลดาวน์ของทักษะได้

เขาอาจจะสามารถทำการร่ายเวทมนตร์ต้องห้ามต่อเนื่องในสภาวะยกระดับได้ด้วยซ้ำ!

ไม่ว่าอย่างไร เวทมนตร์ต้องห้ามที่หลินอี้คิดถึงมาตลอดก็มาถึงมือเขาแล้ว

หลินอี้ถือโอกาสดูว่าเวอร์ชันวิวัฒนาการของเวทมนตร์ต้องห้ามระดับ 9 นี้เป็นอย่างไร

[เวอร์ชันวิวัฒนาการ: เวทมนตร์ต้องห้าม - ดอกบัวไฟพิโรธแห่งพุทธะ]

[งินที่ต้องการในการวิวัฒนาการ: 2 ล้าน เหรียญต้าเซี่ย]

[แต้มทักษะที่ต้องการในการวิวัฒนาการ: 1 ล้าน]

หลินอี้: "?"

เฮ้ย พี่ชาย ทำไมชื่อทักษะนี้ฟังดูคุ้นหูจังเลย!

หลินอี้คิดอีกที

พูดถึงเรื่องนี้

พูดถึงเรื่องนี้จริงๆ

อย่างไรก็เล่นกับไฟเหมือนกัน ไฟแปลกๆ ก็เป็นเพียงการแสดงออกของเวทมนตร์สายไฟที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่หรือ...

ช่างเถอะ ไม่คิดมากแล้ว อย่างไรก็ได้เวทมนตร์ต้องห้ามมาแล้ว ไปนอนดีกว่า

......

คืนหนึ่งผ่านไป

เช้าวันรุ่งขึ้นตอนตี 5 ครึ่ง นาฬิกาปลุกของหลินอี้ยังไม่ดัง เขาก็ถูกเสียงเคาะประตูปลุกให้ตื่นแล้ว

เปิดประตูออกมา ก็เห็นแม่ของเขา ซวี่ชิงฟาง สวมผ้ากันเปื้อน มีรอยคล้ำใต้ตา เรียกให้เขามากินอาหารเช้า

พ่อของเขา หลินกั๋วตง ก็ตื่นแล้วเช่นกัน กำลังใช้ประแจเคาะๆ ที่หน้าบ้าน ซ่อมรถเก่าของครอบครัวที่ไม่ได้ขับมานานแล้ว

วันสำคัญแบบนี้ เขาตั้งใจจะขับรถไปส่งลูกชายที่สถานีรถไฟด้วยตัวเอง

ไม่อย่างนั้นถ้านั่งรถอื่นไป สายแล้วจะยุ่งยาก

หลินอี้ขยี้ตาที่ยังง่วงงุน ไม่มีทางเลือก ดูเหมือนว่าพ่อแม่คงไม่ได้นอนทั้งคืน คงจะงีบไปแค่สองสามชั่วโมง แล้วตื่นมาทำอาหารและซ่อมรถให้เขาแต่เช้า

เขาจึงต้องสละเวลานอนครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ กินอาหารเช้าที่อุดมสมบูรณ์กว่าเมื่อคืนเสียอีก เตรียมบัตรนักเรียน บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ และอื่นๆ ให้พร้อม แล้วขึ้นรถของพ่อ

หลินกั๋วตงขับรถเต็มกำลัง มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟเจียงเฉิง

ทุกปี สถานที่จัดสอบวัดระดับผู้ใช้พลังทั่วประเทศจะอยู่ที่เมืองหลวงของแต่ละมณฑล

มณฑลตงเจียงก็แน่นอนว่าจะจัดที่เมืองเทียนไห่ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑล

เพื่อควบคุมระเบียบวินัยและลำดับการเข้าสอบของผู้เข้าสอบ ทุกปีทางการจะจัดรถไฟใต้ดินด่วนพิเศษ เพื่อรับส่งผู้เข้าสอบจากทั่วมณฑลไปยังสถานที่สอบโดยเฉพาะ

มาถึงสถานีรถไฟเจียงเฉิง

หลินอี้พบว่าที่นี่คนแน่นขนัดไปหมดแล้ว