ตอนที่ 198 ดอกไม้จากอีกด้านหนึ่ง

ในตอนนี้

สิ่งที่ทำให้ หลัว เหล่ยตกใจสุดขีดคือ

ราชันจากทวีปดึกดำบรรพ์ที่ทุกคนหวาดกลัวนั้นดันเป็นคนที่เขารู้จัก

ความตกใจผสานกับความเชื่อเหลือก่อตัวเป็นพายุอยู่ในหัวใจของเขา ทำให้เขาตกตะลึงในที่สุด

นี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึง ซู เซียงตงที่อยู่ข้างๆเขา

หลังจากที่เขาได้ยินว่าเขาเรียกหลิน ยู ว่า พี่ใหญ่หลิน นี้ก็ทำให้เขางุนงงทันที

นี้นายรู้สึกราชันที่แข้งแกร่งคนนี้จริงๆดิ!?

ต้องเข้าใจก่อนว่าคนนี้คือราชันที่แทบจะครอบรายการจัดอันดับทั้งหมดของสนามรบอันดับ 1

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้เห็นทหารพืชที่น่าสะพรึงกลัวอยู่รอบตัวเขา เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก

แต่ตอนนี้

ทั้ง 2 มองไปยังรอบๆด้วยความระมัดระวังอีกครั้ง

"ไม่ต้องกังวล พวกเขาถูกฉันจับเอาไว้แล้ว!"

หลิน ยู รับรู้โดยธรรมชาติว่าพวกเขากำลังหาอะไรอยู่

หลังจากที่ปรบมือ ราชันทั้ง 3 ที่ถูกมัดด้วยเถาวัลย์ก็ลูกลากออกมา พวกเขาเหมือนกำลังจะตาย

"นี้มัน!"

ลั่ว เหล่ย และซู เซียงตง ลุกขึ้นทันทีมองไปยังทั้ง 3 คนตรงหน้าด้วยความตกใจ

นี้หรือคือที่ไล่ตามสังหารพวกเขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด !?

"เมื่อกี้พวกเขาไล่ล่าพวกนายใช่ไหม"หลิน ยู ถามขึ้น

"เอ่อ...." ลั่ว เหล่ย ตอบด้วยสีหน้าว่างเปล่า

"ถ้าอย่างนั้น ฉันจะปล่อยให้พวกนายแก้ปัญญาเอาเอง"

หลิน ยู คาดเดาเรื่องราวทั้งหมดออกมาได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังหารราชันทั้ง 3 ในทันที แต่ปล่อยให้พวกเขาจัดการ

ลั่ว เหล่ย และ ซูเซียงตง มองไปยังคนทั้ง 3 จากนั้นมองไปที่ หลิน ยู อดไม่ได้

"นายต้องการจะมอบพวกเขาให้ฉันจริงๆงั้นเหรอ"

"อืมแล้ว แต่พวกนายจะคิดกันเอาเอง"

หลิน ยู พยักหน้าจากนัน้ เดินหลีกทางให้แก่คววามเขา

ลั่ว เห่วย และ ซู เซียงตง พวกเขาได้นำอาวุธออกมาและเดิน

เมื่อราชันทั้ง 3 เห็นพวกเขาผ่านช่องวางของเถาวัลย์ ความเขาดีดรนด้วยความหวาดกลัว พยายามที่จะดิ้นให้หลุดจาเถาวัลย์

แต่ตัว ลั่ว เหล่า กับ ซู เซียงตงจะให้โอกาศพวกเขาได้อย่างไรกัน?

เมื่อนึกถึงความอัปยศที่พวกเขาได้รับจากการหลบหนีเมื่อกี้ รวมเข้ากับใบหน้าที่ขี้เล่นของอีกง่ายที่ต้องการทรมานพวกเขาให้ตาย เขายกมีดขึ้นมาทันที

"ฟู่"

เลือดสาดกันเด็ดออกมา มีดที่แหลมคนยาวออกมาแทงทะลุหน้าอดของพวกเขาทั้ง 2 คนหยุดดิ้นร้นในทันที

และส่วนที่เหลือนั้น ซู เซียงตงมอลให้ กับลั่ว เหล่ย ด้วยแสงจากหยดโลหิตของมีดทำให้เขาเดินตามรอยเท้าของ 2 คนนั้นไปทันที

เมื่อมาถึงจุดนี้ ราชันทั้ง 3 ที่ตามล่าพวกเขาล้วนถูกสังหารทั้งหมดแล้ว

ลั่ว เหล่ย และ ซู เซียงตง ยืนขึ้นจ้องมองไปยังซากศพที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาอย่างว่างเปล่าพร้อมกับเลือดในมือ

มันรู้สึกแบบนี้งั้นเหรอ

ราชันที่ทรงพลังหลายคนเพิ่มตายด้วยน้ำมือของพวกเขา

มันจะง่ายดานเกินไปแล้ว

แน่นอน

พวกเขารู้ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ หลิน ยู

หลังจากที่มัวแต่ ตกตะลึงอยู่นั้นพวกเขาก็วางอาวุธลงทันทีรีบเข้ามาหาหลิน ยู

"เป็นอย่างไรบ้าง พวกนายได้ทรัพยากรกันมาบ้างแล้วใช่ไหม"

"ได้แล้ว" ลั่ว เหล่ย พยักหน้าอย่างหนัก ความตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่งปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา "พี่ หลิน ฉันไม่คิดว่าจะได้พบกับพี่ที่นี้"

"ใช่ ฉันไม่ได้เจอนายมาเกือบ 4 เดือนได้แล้ว" หลิน ยู ถอนหายใจออกมาด้วยความอาวรณ์ "แล้วทำไมพวกนายถึงได้มาปรากฏตัวในสนามรบหมายเลข 1 กันอีกทั้งยังโผล่มาในสนามนี้แบบนี้อีก?"

"มันเป็นเพราะการจัดสรรแบบสู่มโดยระบบที่โชคร้าย ทำให้ฉันได้ถูกมอบหมายให้มาที่นี้" ความขมขื่นปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา

"ราชันหน้าใหม่อย่างพวกเรา มันยากเกินไปที่เอาตัวรอดในสนามรบแห่งนี้ได้ ดังนั้นเมื่อฉันเห็นชื่อของ พี่ใหญ่หลิน ในรายการจัดอันดับ ฉันก็ควรวิ่งมาหาพี่ จนกระทั่งได้เจอกับ 3 คนนี้ ระหว่างทางผ่าน..."

"นี้พวกนายถูกไล่ล่ามาตลอดทางเลยงั้นเหรอ?" หลิน ยู ถึงกับขมวดคิ้ว

"ใช่" ลั่ว เหล่ยพยักหน้า "ถ้าพี่ใหญ่หลิน ไม่ปรากฏตัวทันเวลา เกรงว่าพวกเราคงจะตายไปแล้ว"

คำพูดของเขาเต้มไปด้วยคามหวาดกลัวอยู่ลึกๆ

แม้แต่ ซู เซียงตงที่อยู่ด้านข้างก็รู้เหมือนกัน ความหวาดกลัวยังไม่หายไปจากใบหน้าของเขาเลย

ดูเหมือนว่าหลังจากที่พวกเขาได้เข้าร่วมกับ หลิน ยู พวกเขาก้ยอมแพ้อย่างสมบูรณ์

หลิน ยู เหลือบมองไปยังท่าทางที่ขะเขินของพวกเขาทั้ง 2 คน และกองกำลังระดับ 7  2 3 ตัวที่อยู่รอบๆตัวเขา เขายิ้มออกมาและพูดว่า "ถ้าเช่นนั้น พวกนายตามฉันมาก่อนก็แล้วกัน"

"จริงๆงั้นเหรอ !?"

เมื่อ ลั่ว เหล่ย ได้ยินคำตอบของ หลิน ยู พวกเขาก็ตื่นเต้นทันที

พวกเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อมายังที่นี้ นั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยุ่งั้นเหรอ?

"แต่ฉันมีเงื่อนไข" หลิน ยู พูดต่อ "ต่อไปนี้ พวกนายทั้งหมดต้องเชื่อฟังฉัน ห้ามทำอะไรโดนพลกาลเด็ดขาด"

"ไม่ต้องห่วง พวกเราจะทำตาม" ทั้ง 2 พยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว "พวกเราจะทำทุกอย่างตามที่พี่ใหญ่หลิน บอก "

"เอาละ งั้นไปพักผ่อนกันก่อน พวกนายเพิ่งบาดเจ็บสาหัสมา พรุ่งนี้เช้าค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ"

ในเวลานี้ท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆมืดลง

นี้จึงเป็นเหตุผลที่หลิน ยู ไม่ได้เข้าไปยังส่วนลึกของวัง

สุดท้ายแล้วที่นั้นมีฝูงซอมบี้มากมายเกินไป เขาไม่รู้ว่าต้องเจออะไรเข้าหากไปที่นั้นตอนเวลากลางคืนจะฉลาดกว่าหากพวกเขาเข้าไปในตอนกลางวัน

เขาคิดว่าราชันจากโลกอื่นก็น่าจะรออยู่ที่ด้านนอกในคืนนี้เหมือนกัน

ในไม่ช้า เขาก็พาลั่ว เหล่ยและคนอื่นๆไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ข้างๆ หาสถานที่ก่อไฟทำอาหาร พูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ที่พวกเขาเจอมาระหว่างทาง

สิ่งที่ทำให้ หลิน ยู ประหลาดใจนั้นคือสถานที่ๆ ลั่ว เหล่ย อยู่นั้นคือ อาณาจักร เย่วฮวา ที่เพิ่งสูญเสียกษัตริย์ไปเมื่อก่อนหน้านี้มันห่างจากเขาเพียงแค่เดินทางข้ามอาณาจักรไปเท่านั้นเอง

สำหรับ ลั่ว เหล่ย เกือบครึ่งเดือนหลังจากที่ภูมิภาคเริ่มต้นถูกปิดกั้นถูกทำลายลง เขาก็ได้มาถึงระดับและมุ่งหน้ามายังทวีปดึกดำบรรพ์

ฉันต้องบอกว่าเขาโชคดีจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ลั่วเหล่ย และเพื่อนของเขานั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก

ในเวลานี้พวกเขาตกใจอย่างมากกับทหารพืชที่อยู่รอบๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่หลากหลายของพวกมัน ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัว หัวใจของพวกเขาสั่งไหวอย่างรุนแรง

โดยเฉพาะ หลัว เหล่ย

เขาคิดว่าความแข็งแกร่งของ หลิน ยู นั้น แข็งแกร่งอย่างมาก แต่ไม่คิดว่ามันแข็งแกร่งอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้

ทหารพืชระดับ 8 2 ตัว และทหารระดับ 7 อีกจำนวนนับไม่ถ้วน

นี้คือสิ่งที่ราชันระดับ 6 จะมีได้จริงๆงั้นเหรอ?

ระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือน!

หากเขาไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่า หลิน ยู นั้นเป็นคนที่มาจากภูมิภาคเริ่มต้นเดียวกันกับเขา

ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกโชคดีมากที่ตอนอยู่ในภูมิภาคเริ่มต้นนั้น เขาได้สร้างความสัมพันธุ์อันดีกับหลิน ยู เอาไว้ทำให้เขาสามารถช่วยชีวิตฉันได้ในช่วงเวลาวิกฤต

อีกทั้งราชันทั้ง 2 ที่เขาเพิ่มสังหารก่อนหน้านี้ยังได้มอบพลังเวทย์ นับแสนให้กับเขานี้เป็นพลังเวทย์จำนวนมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัยตัวเข้าที่เพิ่งมาถึง

ดังนั้น เขาจึงรู้สึกขอบคุณ หลิน ยู อย่างมาก

นี้คือเรื่องราวทั้งหมด

ทั้ง 3 คนพูดคุยขณะรับประทานอาหารจนกระทั่งมืดค่ำ แต่ละคนหาห้องสะอาดใกล้ๆ เพื่อเข้าไปพักผ่อน ทำให้วันอันน่าตื่นเต้นนี้จบลงอย่างสมบูรณ์

......

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลิน ยู นั้นได้ตื่นขึ้นมาให้ยามเช้า

หลังจากที่เตรียมการสั้นๆเสร้จแล้ว พวกเขาก็ออกไปจากคฤหาสน์ไปพร้อมกับลั่ว เหล่ยและเซียงตงเดินไปตามทางพร้อมกับกองทัพพืชมุ่งหน้าไปยังประตูพระราชวัง

เมื่อมองไปยังทางเดินยาวที่นำไปสู่ภายในพระราชวัง ลั่ว เหล่ย อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงไป

"พี่หลิน เราต้องเข้าไปข้างในนั้นจริงๆงั้นเหรอ"

"ฉันต้องหาต้นกำเนิดของโรคระบาดให้เจอก่อนราชันคนอื่นๆน่ะ ฉันรู้สึกกว่าต้นกำเนิดของโรคระบาดต้องเกี่ยวข้องกับสนามหมื่นโลกนี้แน่ๆ" หลิน ยู พูดอย่่างตั้งใจ

"ที่พี่พูดก็มีเหตุผล" ซู เซียงตก หยักหน้า "ระหว่างทางที่มา พวกเขาค้นพบข้อมุลมากมายเกี่ยวกับสนามรบนี้รอบๆหมู่บ้าน ดูเหมือนว่าโรคระบาดจะแพร่ออกจากพระราชวัง"

"นายแน่ใจไหม!?" หลิน ยู มองไปที่เขา

"แน่นอน มันเป็นเบาะแสที่เราพบในบ้านของสาวใช้ที่ทำงานภายในวัง เธอกลับบ้านมา ฉันคิดว่าสาวใช่ในวังจะนำเชื้อโรคระบาดติดตัวเธอมาด้วย ทำให้เชื้อแพร่ออกไปยังหมู่บ้าน"

"เป็นแบบนี้นี่เอง!"

หลิน ยู ก้มหน้าพลางครุ่นคิด

"ถ้าพวกนายพูดแบบนั้นละก่อน ต้นกำเนิดของโรคระบาดต้องอยู่ในพระราชวังนี้แน่นอน พวกนายตามฉันมาติดๆก็แล้วกัน"

เมื่อพูดแบบนั้น เขาก็ขอให้ชิงถัง ให้เถาวัลย์สร้างเป็นบันไดไต่ไปยังด้านข้างของกำแพงพระราชวังเพื่อให้กองทัพพืชของเขาเข้ามายังในเมืองได้

เพราะเขานั้นเพิ่งสังเกตเห้นว่ามันยังคงมีซอมบี้อยู่จำนวนมาก บริเวณทางเดินที่นำไปสู่พระราชวัง

ถึงแม้จะมีพวกมันไม่มากนักแต่ สถานที่ไม่เหมาะแก่การต่อสู้

กองกำลังของเขายังคงข้ามกำแพงเมืองมาอย่างต่อเนื่องนี้มันช่วยประหยัดและให้เขาไปได้เยอะเลยทีเดียว

โดยธรรรมดาแล้ว ลั่ว เหล่ย จะไม่ลังเลที่จะติดตามหลิน ยู ไปอย่างใกล้ชิดมุ่งหน้าไปยังพระราชวังพร้อมกับเขา

จากนั้นภาพที่แตกต่างจากด้านนอกเมืองก็ปรากฏแก่สายตาของพวกเขา

"นี้มัน!!"

ดวงตาของ ลั่ว เหล่ย เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง มองทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขา

แม้แต่หลิน ยู ก็ยังตกตะลึงกับภาพที่เห็นในวังนี้

ไม่ว่าพวกเขาจะทองไปทางไหนที่นั้นก็มีแต่ซอมบี้ละซากศพเกลือนอยู่ทั่วพื้นไปหมด รากไม้สีเทาปกคลุมเกือบจะทั้งหมดของพระราชวัง

แม้แต่ทะเลสาบทีอยู่ใกล้ออกไปยังถูกย้อมด้วยเลือด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าอันน่าขยะแขยงออกมาอย่างต่อเนื่อง

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าคือสถานที่ๆรากและลำต้นมาบรรจบกันนั้น คือบริเวณในกลางวังที่งดงาม

มันมีดอกไม้ขนาดใหญ่ที่แปลกประหลาด ราวกับมันอยู่ระหว่างสวรรค์กับโลก

สีแดงสดของมันนั้นไม่ได้เข้ากับสีเทาและสีขาวของพระราชวังแม้แต่น้อย

"ดูเหมือนว่าจะเป็น เจ้าดอกไม้จากด้านหนึ่ง!?"

ลั่ว เหล่ยพูดออกความสยดสยองเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดอกไม้ใหญ่ขนาดนั้น

มันใหญ่ยิ่งกว่า ชิง ถังของ หลิน ยู หลายเท่า

แม้แต่เมฆดำบนท้องฟ้า ก็ค่อยๆรวมตัวกันขึ้นสู่ท้องฟ้า มันทั้งดูงดงามและน่าสะพรึงกลัว

"นั้นคงจะเป้นที่มาของโรคระบาดใช่ไหม" หลิน ยู ถึงกับขมวดคิ้ว

ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขารู้สึกว่า ดอกไม้มีความผิดปกติ

ในขณะที่เขากำลังสังเกตการณ์ภายในพระราชวังอยุ่นั้น เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น

[ราชันทุกท่านโปรดทราบหมอกโรคระบาดกำลังบีบตัวอีกครั้ง !]

[ในเวลานั้น พื้นที่สนามรบจะลดลงครึ่งหนึ่งจากขนาดเดิม โปรดเตรียมตัวให้พร้อม]

ตูมมม!

เสียงดังสนั่น

หมอกพิษโรคระบาดที่อยู่ด้านนอกเมืองต้าหยานค่อยๆเคลื่อนไหวอีกครั้งบีบตัวเข้ามาภายในเมืองต้นหยาน

หากคำนวนตามระยะทาง เวลานี้มันควรบีบตัวจนเขตรอบนอกเมืองถูกกลืนกินไปหมดแล้ว

กล่าวอีกอย่างคือราชันทั้งหมดจะถูกบังคับให้เข้ามายังเมืองชั้นใน สุดท้ายก็ต้องเข้ามายังพระราชวัง

"ไปกันเถอะ เวลาของพวกเรากำลังหมดลงแล้ว!"

ทันใดนั้น ซอมบี้ที่อยู่ใกล้ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิต พวกมันได้ถูกดึงดูดด้วยเลือดและเนื้อในทันที พวกมันพุ่งเข้าหาเขาพร้อมเสียงคำราม มีแม้กระทั่งมอนสเตอร์ระดับ 8 ผสมโรงมากับพวกมันด้วยมันทรงพลังจริงๆ

แต่ทันใดนั้น พวกเขาก็ถูกขวางด้วยกองทัพดอกไม้มรณะ

จากนั้นด้วยเสียงคำรามที่ดังลั่น พวกมันถูก หลิง ซี ชิงถัง และปิศาจต้นไม้ระดับ 8 อัก 2 ตัวรุมสังหารจะตาย ล้มลงกับพื้นในที่สุด

"แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!"

ลั่ว เหล่ย มองดูมอนสเตอร์ระดับ 8 ทั้ง 2 ถูกสังหารลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมา

ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของ หลิน ยู

และในครั้งนี้

ที่ทางเข้าพระราชวังอีก 3 ทิศ

ราชันคนอื่นๆก้ได้เริ่มลงมือทีละคน นำกองกำลังของพวกเขาเข้าไปในพระราชวังสังหารซอมบี้ไปตลาดทาง ทุกคนต้องค้นหาต้นกำเนิดโรคระบาดโดยเร็วที่สุด

แต่เพียงพวกเขานั้นไม่รู้

เมื่อพวกเขาเข้าไปในพระราชวัง ร่างๆหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกรนั้นก็ตาขึ้นภายในวังใต้ดอกไม้จากอีกด้านหนึ่ง