ในตอนนี้
สิ่งที่ทำให้ หลัว เหล่ยตกใจสุดขีดคือ
ราชันจากทวีปดึกดำบรรพ์ที่ทุกคนหวาดกลัวนั้นดันเป็นคนที่เขารู้จัก
ความตกใจผสานกับความเชื่อเหลือก่อตัวเป็นพายุอยู่ในหัวใจของเขา ทำให้เขาตกตะลึงในที่สุด
นี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึง ซู เซียงตงที่อยู่ข้างๆเขา
หลังจากที่เขาได้ยินว่าเขาเรียกหลิน ยู ว่า พี่ใหญ่หลิน นี้ก็ทำให้เขางุนงงทันที
นี้นายรู้สึกราชันที่แข้งแกร่งคนนี้จริงๆดิ!?
ต้องเข้าใจก่อนว่าคนนี้คือราชันที่แทบจะครอบรายการจัดอันดับทั้งหมดของสนามรบอันดับ 1
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้เห็นทหารพืชที่น่าสะพรึงกลัวอยู่รอบตัวเขา เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก
แต่ตอนนี้
ทั้ง 2 มองไปยังรอบๆด้วยความระมัดระวังอีกครั้ง
"ไม่ต้องกังวล พวกเขาถูกฉันจับเอาไว้แล้ว!"
หลิน ยู รับรู้โดยธรรมชาติว่าพวกเขากำลังหาอะไรอยู่
หลังจากที่ปรบมือ ราชันทั้ง 3 ที่ถูกมัดด้วยเถาวัลย์ก็ลูกลากออกมา พวกเขาเหมือนกำลังจะตาย
"นี้มัน!"
ลั่ว เหล่ย และซู เซียงตง ลุกขึ้นทันทีมองไปยังทั้ง 3 คนตรงหน้าด้วยความตกใจ
นี้หรือคือที่ไล่ตามสังหารพวกเขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด !?
"เมื่อกี้พวกเขาไล่ล่าพวกนายใช่ไหม"หลิน ยู ถามขึ้น
"เอ่อ...." ลั่ว เหล่ย ตอบด้วยสีหน้าว่างเปล่า
"ถ้าอย่างนั้น ฉันจะปล่อยให้พวกนายแก้ปัญญาเอาเอง"
หลิน ยู คาดเดาเรื่องราวทั้งหมดออกมาได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังหารราชันทั้ง 3 ในทันที แต่ปล่อยให้พวกเขาจัดการ
ลั่ว เหล่ย และ ซูเซียงตง มองไปยังคนทั้ง 3 จากนั้นมองไปที่ หลิน ยู อดไม่ได้
"นายต้องการจะมอบพวกเขาให้ฉันจริงๆงั้นเหรอ"
"อืมแล้ว แต่พวกนายจะคิดกันเอาเอง"
หลิน ยู พยักหน้าจากนัน้ เดินหลีกทางให้แก่คววามเขา
ลั่ว เห่วย และ ซู เซียงตง พวกเขาได้นำอาวุธออกมาและเดิน
เมื่อราชันทั้ง 3 เห็นพวกเขาผ่านช่องวางของเถาวัลย์ ความเขาดีดรนด้วยความหวาดกลัว พยายามที่จะดิ้นให้หลุดจาเถาวัลย์
แต่ตัว ลั่ว เหล่า กับ ซู เซียงตงจะให้โอกาศพวกเขาได้อย่างไรกัน?
เมื่อนึกถึงความอัปยศที่พวกเขาได้รับจากการหลบหนีเมื่อกี้ รวมเข้ากับใบหน้าที่ขี้เล่นของอีกง่ายที่ต้องการทรมานพวกเขาให้ตาย เขายกมีดขึ้นมาทันที
"ฟู่"
เลือดสาดกันเด็ดออกมา มีดที่แหลมคนยาวออกมาแทงทะลุหน้าอดของพวกเขาทั้ง 2 คนหยุดดิ้นร้นในทันที
และส่วนที่เหลือนั้น ซู เซียงตงมอลให้ กับลั่ว เหล่ย ด้วยแสงจากหยดโลหิตของมีดทำให้เขาเดินตามรอยเท้าของ 2 คนนั้นไปทันที
เมื่อมาถึงจุดนี้ ราชันทั้ง 3 ที่ตามล่าพวกเขาล้วนถูกสังหารทั้งหมดแล้ว
ลั่ว เหล่ย และ ซู เซียงตง ยืนขึ้นจ้องมองไปยังซากศพที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาอย่างว่างเปล่าพร้อมกับเลือดในมือ
มันรู้สึกแบบนี้งั้นเหรอ
ราชันที่ทรงพลังหลายคนเพิ่มตายด้วยน้ำมือของพวกเขา
มันจะง่ายดานเกินไปแล้ว
แน่นอน
พวกเขารู้ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ หลิน ยู
หลังจากที่มัวแต่ ตกตะลึงอยู่นั้นพวกเขาก็วางอาวุธลงทันทีรีบเข้ามาหาหลิน ยู
"เป็นอย่างไรบ้าง พวกนายได้ทรัพยากรกันมาบ้างแล้วใช่ไหม"
"ได้แล้ว" ลั่ว เหล่ย พยักหน้าอย่างหนัก ความตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่งปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา "พี่ หลิน ฉันไม่คิดว่าจะได้พบกับพี่ที่นี้"
"ใช่ ฉันไม่ได้เจอนายมาเกือบ 4 เดือนได้แล้ว" หลิน ยู ถอนหายใจออกมาด้วยความอาวรณ์ "แล้วทำไมพวกนายถึงได้มาปรากฏตัวในสนามรบหมายเลข 1 กันอีกทั้งยังโผล่มาในสนามนี้แบบนี้อีก?"
"มันเป็นเพราะการจัดสรรแบบสู่มโดยระบบที่โชคร้าย ทำให้ฉันได้ถูกมอบหมายให้มาที่นี้" ความขมขื่นปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา
"ราชันหน้าใหม่อย่างพวกเรา มันยากเกินไปที่เอาตัวรอดในสนามรบแห่งนี้ได้ ดังนั้นเมื่อฉันเห็นชื่อของ พี่ใหญ่หลิน ในรายการจัดอันดับ ฉันก็ควรวิ่งมาหาพี่ จนกระทั่งได้เจอกับ 3 คนนี้ ระหว่างทางผ่าน..."
"นี้พวกนายถูกไล่ล่ามาตลอดทางเลยงั้นเหรอ?" หลิน ยู ถึงกับขมวดคิ้ว
"ใช่" ลั่ว เหล่ยพยักหน้า "ถ้าพี่ใหญ่หลิน ไม่ปรากฏตัวทันเวลา เกรงว่าพวกเราคงจะตายไปแล้ว"
คำพูดของเขาเต้มไปด้วยคามหวาดกลัวอยู่ลึกๆ
แม้แต่ ซู เซียงตงที่อยู่ด้านข้างก็รู้เหมือนกัน ความหวาดกลัวยังไม่หายไปจากใบหน้าของเขาเลย
ดูเหมือนว่าหลังจากที่พวกเขาได้เข้าร่วมกับ หลิน ยู พวกเขาก้ยอมแพ้อย่างสมบูรณ์
หลิน ยู เหลือบมองไปยังท่าทางที่ขะเขินของพวกเขาทั้ง 2 คน และกองกำลังระดับ 7 2 3 ตัวที่อยู่รอบๆตัวเขา เขายิ้มออกมาและพูดว่า "ถ้าเช่นนั้น พวกนายตามฉันมาก่อนก็แล้วกัน"
"จริงๆงั้นเหรอ !?"
เมื่อ ลั่ว เหล่ย ได้ยินคำตอบของ หลิน ยู พวกเขาก็ตื่นเต้นทันที
พวกเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อมายังที่นี้ นั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยุ่งั้นเหรอ?
"แต่ฉันมีเงื่อนไข" หลิน ยู พูดต่อ "ต่อไปนี้ พวกนายทั้งหมดต้องเชื่อฟังฉัน ห้ามทำอะไรโดนพลกาลเด็ดขาด"
"ไม่ต้องห่วง พวกเราจะทำตาม" ทั้ง 2 พยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว "พวกเราจะทำทุกอย่างตามที่พี่ใหญ่หลิน บอก "
"เอาละ งั้นไปพักผ่อนกันก่อน พวกนายเพิ่งบาดเจ็บสาหัสมา พรุ่งนี้เช้าค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ"
ในเวลานี้ท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆมืดลง
นี้จึงเป็นเหตุผลที่หลิน ยู ไม่ได้เข้าไปยังส่วนลึกของวัง
สุดท้ายแล้วที่นั้นมีฝูงซอมบี้มากมายเกินไป เขาไม่รู้ว่าต้องเจออะไรเข้าหากไปที่นั้นตอนเวลากลางคืนจะฉลาดกว่าหากพวกเขาเข้าไปในตอนกลางวัน
เขาคิดว่าราชันจากโลกอื่นก็น่าจะรออยู่ที่ด้านนอกในคืนนี้เหมือนกัน
ในไม่ช้า เขาก็พาลั่ว เหล่ยและคนอื่นๆไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ข้างๆ หาสถานที่ก่อไฟทำอาหาร พูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ที่พวกเขาเจอมาระหว่างทาง
สิ่งที่ทำให้ หลิน ยู ประหลาดใจนั้นคือสถานที่ๆ ลั่ว เหล่ย อยู่นั้นคือ อาณาจักร เย่วฮวา ที่เพิ่งสูญเสียกษัตริย์ไปเมื่อก่อนหน้านี้มันห่างจากเขาเพียงแค่เดินทางข้ามอาณาจักรไปเท่านั้นเอง
สำหรับ ลั่ว เหล่ย เกือบครึ่งเดือนหลังจากที่ภูมิภาคเริ่มต้นถูกปิดกั้นถูกทำลายลง เขาก็ได้มาถึงระดับและมุ่งหน้ามายังทวีปดึกดำบรรพ์
ฉันต้องบอกว่าเขาโชคดีจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ลั่วเหล่ย และเพื่อนของเขานั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก
ในเวลานี้พวกเขาตกใจอย่างมากกับทหารพืชที่อยู่รอบๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่หลากหลายของพวกมัน ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัว หัวใจของพวกเขาสั่งไหวอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะ หลัว เหล่ย
เขาคิดว่าความแข็งแกร่งของ หลิน ยู นั้น แข็งแกร่งอย่างมาก แต่ไม่คิดว่ามันแข็งแกร่งอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้
ทหารพืชระดับ 8 2 ตัว และทหารระดับ 7 อีกจำนวนนับไม่ถ้วน
นี้คือสิ่งที่ราชันระดับ 6 จะมีได้จริงๆงั้นเหรอ?
ระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือน!
หากเขาไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่า หลิน ยู นั้นเป็นคนที่มาจากภูมิภาคเริ่มต้นเดียวกันกับเขา
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกโชคดีมากที่ตอนอยู่ในภูมิภาคเริ่มต้นนั้น เขาได้สร้างความสัมพันธุ์อันดีกับหลิน ยู เอาไว้ทำให้เขาสามารถช่วยชีวิตฉันได้ในช่วงเวลาวิกฤต
อีกทั้งราชันทั้ง 2 ที่เขาเพิ่มสังหารก่อนหน้านี้ยังได้มอบพลังเวทย์ นับแสนให้กับเขานี้เป็นพลังเวทย์จำนวนมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัยตัวเข้าที่เพิ่งมาถึง
ดังนั้น เขาจึงรู้สึกขอบคุณ หลิน ยู อย่างมาก
นี้คือเรื่องราวทั้งหมด
ทั้ง 3 คนพูดคุยขณะรับประทานอาหารจนกระทั่งมืดค่ำ แต่ละคนหาห้องสะอาดใกล้ๆ เพื่อเข้าไปพักผ่อน ทำให้วันอันน่าตื่นเต้นนี้จบลงอย่างสมบูรณ์
......
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลิน ยู นั้นได้ตื่นขึ้นมาให้ยามเช้า
หลังจากที่เตรียมการสั้นๆเสร้จแล้ว พวกเขาก็ออกไปจากคฤหาสน์ไปพร้อมกับลั่ว เหล่ยและเซียงตงเดินไปตามทางพร้อมกับกองทัพพืชมุ่งหน้าไปยังประตูพระราชวัง
เมื่อมองไปยังทางเดินยาวที่นำไปสู่ภายในพระราชวัง ลั่ว เหล่ย อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงไป
"พี่หลิน เราต้องเข้าไปข้างในนั้นจริงๆงั้นเหรอ"
"ฉันต้องหาต้นกำเนิดของโรคระบาดให้เจอก่อนราชันคนอื่นๆน่ะ ฉันรู้สึกกว่าต้นกำเนิดของโรคระบาดต้องเกี่ยวข้องกับสนามหมื่นโลกนี้แน่ๆ" หลิน ยู พูดอย่่างตั้งใจ
"ที่พี่พูดก็มีเหตุผล" ซู เซียงตก หยักหน้า "ระหว่างทางที่มา พวกเขาค้นพบข้อมุลมากมายเกี่ยวกับสนามรบนี้รอบๆหมู่บ้าน ดูเหมือนว่าโรคระบาดจะแพร่ออกจากพระราชวัง"
"นายแน่ใจไหม!?" หลิน ยู มองไปที่เขา
"แน่นอน มันเป็นเบาะแสที่เราพบในบ้านของสาวใช้ที่ทำงานภายในวัง เธอกลับบ้านมา ฉันคิดว่าสาวใช่ในวังจะนำเชื้อโรคระบาดติดตัวเธอมาด้วย ทำให้เชื้อแพร่ออกไปยังหมู่บ้าน"
"เป็นแบบนี้นี่เอง!"
หลิน ยู ก้มหน้าพลางครุ่นคิด
"ถ้าพวกนายพูดแบบนั้นละก่อน ต้นกำเนิดของโรคระบาดต้องอยู่ในพระราชวังนี้แน่นอน พวกนายตามฉันมาติดๆก็แล้วกัน"
เมื่อพูดแบบนั้น เขาก็ขอให้ชิงถัง ให้เถาวัลย์สร้างเป็นบันไดไต่ไปยังด้านข้างของกำแพงพระราชวังเพื่อให้กองทัพพืชของเขาเข้ามายังในเมืองได้
เพราะเขานั้นเพิ่งสังเกตเห้นว่ามันยังคงมีซอมบี้อยู่จำนวนมาก บริเวณทางเดินที่นำไปสู่พระราชวัง
ถึงแม้จะมีพวกมันไม่มากนักแต่ สถานที่ไม่เหมาะแก่การต่อสู้
กองกำลังของเขายังคงข้ามกำแพงเมืองมาอย่างต่อเนื่องนี้มันช่วยประหยัดและให้เขาไปได้เยอะเลยทีเดียว
โดยธรรรมดาแล้ว ลั่ว เหล่ย จะไม่ลังเลที่จะติดตามหลิน ยู ไปอย่างใกล้ชิดมุ่งหน้าไปยังพระราชวังพร้อมกับเขา
จากนั้นภาพที่แตกต่างจากด้านนอกเมืองก็ปรากฏแก่สายตาของพวกเขา
"นี้มัน!!"
ดวงตาของ ลั่ว เหล่ย เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง มองทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขา
แม้แต่หลิน ยู ก็ยังตกตะลึงกับภาพที่เห็นในวังนี้
ไม่ว่าพวกเขาจะทองไปทางไหนที่นั้นก็มีแต่ซอมบี้ละซากศพเกลือนอยู่ทั่วพื้นไปหมด รากไม้สีเทาปกคลุมเกือบจะทั้งหมดของพระราชวัง
แม้แต่ทะเลสาบทีอยู่ใกล้ออกไปยังถูกย้อมด้วยเลือด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าอันน่าขยะแขยงออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าคือสถานที่ๆรากและลำต้นมาบรรจบกันนั้น คือบริเวณในกลางวังที่งดงาม
มันมีดอกไม้ขนาดใหญ่ที่แปลกประหลาด ราวกับมันอยู่ระหว่างสวรรค์กับโลก
สีแดงสดของมันนั้นไม่ได้เข้ากับสีเทาและสีขาวของพระราชวังแม้แต่น้อย
"ดูเหมือนว่าจะเป็น เจ้าดอกไม้จากด้านหนึ่ง!?"
ลั่ว เหล่ยพูดออกความสยดสยองเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดอกไม้ใหญ่ขนาดนั้น
มันใหญ่ยิ่งกว่า ชิง ถังของ หลิน ยู หลายเท่า
แม้แต่เมฆดำบนท้องฟ้า ก็ค่อยๆรวมตัวกันขึ้นสู่ท้องฟ้า มันทั้งดูงดงามและน่าสะพรึงกลัว
"นั้นคงจะเป้นที่มาของโรคระบาดใช่ไหม" หลิน ยู ถึงกับขมวดคิ้ว
ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขารู้สึกว่า ดอกไม้มีความผิดปกติ
ในขณะที่เขากำลังสังเกตการณ์ภายในพระราชวังอยุ่นั้น เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น
[ราชันทุกท่านโปรดทราบหมอกโรคระบาดกำลังบีบตัวอีกครั้ง !]
[ในเวลานั้น พื้นที่สนามรบจะลดลงครึ่งหนึ่งจากขนาดเดิม โปรดเตรียมตัวให้พร้อม]
ตูมมม!
เสียงดังสนั่น
หมอกพิษโรคระบาดที่อยู่ด้านนอกเมืองต้าหยานค่อยๆเคลื่อนไหวอีกครั้งบีบตัวเข้ามาภายในเมืองต้นหยาน
หากคำนวนตามระยะทาง เวลานี้มันควรบีบตัวจนเขตรอบนอกเมืองถูกกลืนกินไปหมดแล้ว
กล่าวอีกอย่างคือราชันทั้งหมดจะถูกบังคับให้เข้ามายังเมืองชั้นใน สุดท้ายก็ต้องเข้ามายังพระราชวัง
"ไปกันเถอะ เวลาของพวกเรากำลังหมดลงแล้ว!"
ทันใดนั้น ซอมบี้ที่อยู่ใกล้ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิต พวกมันได้ถูกดึงดูดด้วยเลือดและเนื้อในทันที พวกมันพุ่งเข้าหาเขาพร้อมเสียงคำราม มีแม้กระทั่งมอนสเตอร์ระดับ 8 ผสมโรงมากับพวกมันด้วยมันทรงพลังจริงๆ
แต่ทันใดนั้น พวกเขาก็ถูกขวางด้วยกองทัพดอกไม้มรณะ
จากนั้นด้วยเสียงคำรามที่ดังลั่น พวกมันถูก หลิง ซี ชิงถัง และปิศาจต้นไม้ระดับ 8 อัก 2 ตัวรุมสังหารจะตาย ล้มลงกับพื้นในที่สุด
"แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!"
ลั่ว เหล่ย มองดูมอนสเตอร์ระดับ 8 ทั้ง 2 ถูกสังหารลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมา
ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของ หลิน ยู
และในครั้งนี้
ที่ทางเข้าพระราชวังอีก 3 ทิศ
ราชันคนอื่นๆก้ได้เริ่มลงมือทีละคน นำกองกำลังของพวกเขาเข้าไปในพระราชวังสังหารซอมบี้ไปตลาดทาง ทุกคนต้องค้นหาต้นกำเนิดโรคระบาดโดยเร็วที่สุด
แต่เพียงพวกเขานั้นไม่รู้
เมื่อพวกเขาเข้าไปในพระราชวัง ร่างๆหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกรนั้นก็ตาขึ้นภายในวังใต้ดอกไม้จากอีกด้านหนึ่ง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved