มันราวกับว่าพวกเขาได้พบกับการดำรงอยู่ของสายเลือดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่แก่นแท้ของสายเลือดของพวกเขาก็ผลักดันให้เจตจำนงราชาผู้พิฆาตมังกรต้องต่อสู้และเข่นฆ่าจนกว่ามันจะทำลายการดำรงอยู่ทางสายเลือดนี้ได้โดยสิ้นเชิง

โจวโจวถามทหารคนอื่นๆ ผ่านระบบกองทัพว่าพวกเขารู้สึกเหมือนกันไหม

เหล่าทหารตอบกลับมาทีละคน และบอกว่าพวกเขาก็รู้สึกแบบเดียวกัน แต่แรงกระตุ้นในการต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้รุนแรงเท่ากับของโจวโจว

โจวโจวเลิกคิ้วขึ้น

“พูดตามหลักการแล้ว ยิ่งระดับสายเลือดของศัตรูสูงมากเท่าไร ปฏิกิริยาระหว่างเจตจำนงของราชาผู้พิฆาตมังกรและเจตจำนงผู้พิฆาตมังกรก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นเท่านั้น และแม้แต่เผ่าพันธุ์ระดับแนวหน้าอย่างเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะก็ยังไม่ทำให้เจตจำนงราชาผู้พิฆาตมังกรในร่างกายของฉันมีแรงกระตุ้นได้เท่านี้เลย”

เมื่อคิดได้เช่นนี้ สายตาของเขาก็มองไปยังตัวตนที่สองที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสง

เขาไม่สามารถมองเห็นข้อมูลของอีกฝ่ายได้ ซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาก็มีอุปกรณ์สำหรับการปิดบังข้อมูลด้วยเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกับข้อมูลเกี่ยวกับลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ระดับแนวหน้าที่เจ้าเหนือหัวบอกกับเขา โจวโจวก็พอจะมั่นใจได้แล้วว่าอีกฝ่ายคือใคร

“ผู้เที่ยงแท้แห่งเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด!”

โจวโจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

สำหรับแสงสว่างอันไม่ธรรมดาที่แผ่ออกมารอบๆ ร่างของอีกฝ่ายนั้นก็น่าจะเป็นพลังเทวะของพวกเขา

ตามที่ฮาริสกล่าว ในฐานะเผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดแข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์ไร้บรรจบ เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดได้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับโลกใบเล็กๆ และถือกำเนิดมาพร้อมกับทรัพยากรในโลกใบเล็กๆ นั้น

มันมีกระทั่งโลกใบเล็กๆ ของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการหล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตเมื่อพวกมันถือกำเนิดขึ้นมา

ดังนั้นเมื่อเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว พวกเขาก็จะสามารถใช้โลกใบเล็กๆ นั้นเป็นรากฐานในการบ่มเพาะศรัทธาและสร้างพลังเทวะเฉพาะตัวขึ้นมาได้

ด้วยความช่วยเหลือจากบรรพบุรุษของพวกเขา พวกเขายังสามารถอพยพสิ่งมีชีวิตทั่วไปบางส่วนจากโลกภายนอกไปยังโลกใบเล็กๆ ของพวกเขาเพื่อเพิ่มพลังของศรัทธาในโลกใบเล็กๆ ของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดได้อีก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มระดับพลังเทวะของพวกเขาทางอ้อม!

นี่คือความน่ากลัวของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด!

เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ ในฐานะที่เผ่าพันธุ์เทพแห่งความโกลาหลเป็นรองเพียงแค่เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีเส้นพลังเทวะโกลาหลเมื่อพวกเขาถือกำเนิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เส้นพลังเทวะโกลาหลก็ไม่ได้มีความพิเศษเพิ่มเติมอะไร มันก็แค่แสดงให้เห็นเพียงแค่ว่าพลังเทวะเริ่มต้นของพวกเขานั้นวุ่นวายและไม่มีกฎเกณฑ์ที่พิเศษอะไร พวกเขาสามารถเข้าใจเส้นทางแห่งกฎเกณฑ์และเส้นพลังเทวะของตัวเองได้หลังจากพวกเขาเติบโตขึ้นเท่านั้น

แต่เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดกลับมีพลังเทวะมาตั้งแต่ต้น!

อีกฝ่ายถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับโลกใบหนึ่งและสามารถครอบครองพลังเทวะได้อย่างง่ายดาย มันคือเทพเจ้าแห่งโลกหล้าโดยกำเนิด!

ความแตกต่างระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์นี้มีชัดเจนมาก

“แค่สองคน?”

โจวโจวมองไปยังเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดทั้งสองและมีความต้องการที่จะฆ่าพวกมันทันที

อย่างไรก็ตาม เขาก็รีบข่มความต้องการนี้เอาไว้ก่อน

“นั่งรอก่อนแล้วค่อยเก็บเกี่ยวผลกำไรทีเดียว ฉันจะลงมือเมื่อมีผู้ชนะระหว่างศึกของผู้เที่ยงแท้และเจ้าล่าสวรรค์แล้ว!”

โจวโจวคิดกับตัวเอง

จากนั้นเขาสั่งให้ราตรีประดับดาวทั้งหมดใช้การพรางตัวระหว่างมิติและซ่อนตัวอยู่ในมิติอย่างเงียบๆ เพื่อรอให้การต่อสู้ระหว่างสุดยอดลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ทั้งสองคนนั้นสิ้นสุดลง

จากนั้นโจวโจวก็เริ่มสังเกตการต่อสู้ระหว่างทั้งสองผ่านหน้าจอเสมือนจริง

เจ้าล่าสวรรค์นำชาวเทพเลี้ยงแกะ 8 คน และทหารอีกนับล้านคนของพันธมิตรแห่งลอร์ดกระโจนเข้าใส่เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดทั้งสอง

ทหารมากกว่าหนึ่งล้านคนปลดปล่อยเทคนิคการต่อสู้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น วรยุทธ์ เวทมนตร์ การโจมตีด้วยธาตุ การโจมตีวิญญาณ การโจมตีทางเทคโนโลยี และการโจมตีอื่นๆ ยิ่งกว่านั้น มันยังมีการโจมตีด้วยกฎเกณฑ์จากชาวเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะทั้งแปดคนนี้ที่กวาดเข้าหาชาวเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดทั้งสองคน

การโจมตีประสานเหล่านี้ดูน่าสะพรึงกลัวสุดหยั่ง แต่เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดก็ไม่คิดที่จะหลบ

ในขณะที่การโจมตีเหล่านี้กำลังจะมาถึงตัวของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดทั้งสอง รอยแยกมิติสีดำสนิทที่สูงกว่าพันเมตรก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าตรงหน้าของ ‘เขา’

อึดใจต่อมา รอยแยกมิติก็ปะทุขึ้นพร้อมกับแรงดูดที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นภายใต้สายตาอันตกตะลึงของทหารเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะทุกคน การโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากทหารกว่าล้านคนและชาวเทพเลี้ยงแกะอีก 8 คนก็ถูกดูดเข้าไปในรอยแยกมิติทั้งหมดและหายไป

หลังจากทำเช่นนี้แล้ว รอยแยกมิติที่สูงกว่าพันฟุตก็ค่อยๆ ผสานตัวเข้าด้วยกันและหายไปในที่สุด

สำหรับเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด มันราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรลงไปเลย พวกเขาแค่ลอยอยู่ในอากาศอย่างใจเย็นเท่านั้น

ด้านหลังสมรภูมิ

เมื่อเจ้าล่าสวรรค์ได้เห็นภาพฉากนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นเขาก็ค่อยๆ จริงจังขึ้นมา

“สองคนนี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว ในอดีตที่พวกเราเคยต่อสู้กันบนสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์ โลกของพวกมันสามารถดูดซับการโจมตีที่ไม่ใช่กฎเกณฑ์ได้เท่านั้น ส่วนการโจมตีด้วยกฎเกณฑ์อาจจะอ่อนกำลังลง แต่มันก็ไม่ได้ดูดซับไปได้ตรงๆ แบบตอนนี้”

เมื่อเจ้าล่าสวรรค์คิดได้เช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ไม่น่าดูยิ่งขึ้นไปอีก

การควบคุมพลังแห่งกฎเกณฑ์เป็นวิธีการที่ดีที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะ

ในตอนนี้วิธีการที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาถูกตอบโต้โดยอีกฝ่าย พวกเขาก็เรียกได้ว่าไม่มีโอกาสชนะแล้ว

เจ้าล่าสวรรค์รู้ว่าการเดินทางของมันในสมรภูมิสุดท้ายคงจะจบลงแล้ว แต่ไม่เพียงแต่มันจะไม่ตื่นตระหนก แต่มันยังใจเย็นขึ้นไปอีกด้วย

“ช่างมันเถอะ”

เขาเงยหน้าขึ้นมองผู้เที่ยงแท้

“ผู้เที่ยงแท้ คราวนี้ข้าแพ้ อย่างไรก็ตาม การชิงชัยในศึกชิงเจ้าแห่งลอร์ดก็เพิ่งเริ่มขึ้น ไว้พวกเราจะได้ต่อสู้กันอีก”

หลังจากที่เจ้าล่าสวรรค์พูดจบ มันก็มองไปยังทิศทางของโจวโจวและแค่นเสียงออกมา จากนั้นมันก็หยิบเอาคัมภีร์อันหนึ่งออกมาและโยนมันขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นคัมภีร์นี้ก็ขยายขนาดขึ้นจนยาวกว่า 10 กิโลเมตร

มันถูกสลักเป็นรูปดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ภูเขา แม่น้ำ และยอดเขา มันพาดผ่านท้องฟ้าสีเลือด และดูราวกับจะปกคลุมท้องฟ้า

อึดใจต่อมา

ภาพวาดแม่น้ำขุนเขาดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ก็ส่องแสงสีขาวพร่างพรายที่สามารถส่องสว่างโลกหล้าได้

หลังจากที่แสงสว่างนั้นหายไป โจวโจวและคนอื่นๆ ก็มองไปยังเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด

เจ้าล่าสวรรค์ได้หายไปแล้วพร้อมกับลูกน้องทุกคนของมันและสมาชิกของพันธมิตรแห่งลอร์ด

ภาพวาดนั้นก็ได้หายไปด้วย

“มันหนีไปแล้ว”

เทพแห่งสายฟ้าและเมฆมืดแอนเซลรู้สึกว่าหากพวกเขาสามารถสังหารลอร์ดที่หลบหนีไปทั้งหมดได้ พวกเขาก็คงจะสามารถชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งมาจากเจ้าตะวันสาดแสงแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้แล้ว

“แอนเซล ใจเย็นก่อน ลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่กล้าอยู่ในสมรภูมิสุดท้ายในเวลานี้ย่อมต้องมีไพ่ตายเป็นของตัวเอง พวกเราไม่จำเป็นต้องแปลกใจไป ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้รับอะไรเลย อย่างน้อยเราก็บังคับให้อีกฝ่ายใช้ไพ่ตายช่วยชีวิตไปได้”

หลังจากเจ้าเหนือหัว หรือก็คือเทพแห่งมิติและกาลเวลาอดัมพูดจบ สายตาของเขาก็มองไปยังมิติที่ยานบินของโจวโจวซ่อนตัวอยู่

“ตอนนี้มาต้อนรับคู่ต่อสู้คนต่อไปกันเถอะ”

“เจ้าตะวันสาดแสง เวลาบนสมรภูมิสุดท้ายมีจำกัด รีบออกมาเร็วเข้าเถอะ หรือต้องให้ข้าเชิญ?”

อดัมกล่าวด้วยเสียงอันดัง

ในยานราตรีประดับดาว โจวโจวไม่ประหลาดใจเลยเมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้เที่ยงแท้

เขาได้เตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายน่าจะมองทะลุการซ่อนตัวอยู่ในมิติของยานบินของเขาได้

เพราะเจ้าล่าสวรรค์ก็ดูเหมือนจะมองเห็นได้ก่อนหน้านี้แล้ว

มันน่าเสียดายที่เขาไม่ประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด

จากนั้นเขาก็สั่งให้เหวินหยานำยานบินทั้งหมดออกมาจากการซ่อนตัวและปรากฏขึ้นตรงหน้าสมาชิกเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดทั้งสอง

“ไม่เลว ตามที่คาดไว้จากลอร์ดที่สามารถมาถึงอันดับหนึ่งได้ในฐานะมนุษย์ เมื่อลองดูแล้ว เจ้าก็เหนือกว่าลอร์ดอย่างพวกเราทุกคนในด้านการพัฒนาดินแดนจริงๆ”

อดัมกวาดสายตาไปรอบๆ และสามารถบอกได้ถึงระดับของทหารเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยานบินและระดับของอุปกรณ์สวมใส่ที่พวกเขามี

แม้ว่า ‘เขา’ จะมีทั้งประสบการณ์และความรู้ แต่เขาก็ยังอดประหลาดใจอยู่เล็กน้อยไม่ได้

แค่ทหารระดับเหนือสามัญเพียงอย่างเดียวก็มีมากกว่า 2,000 คนแล้ว!

นอกจากนี้ยังมีผู้กล้าเผ่าพันธุ์มนุษย์ระดับมหากาพย์ขั้นต้นด้วย!

อุปกรณ์สวมใส่ก็ค่อนข้างครบ!

ความเร็วในการพัฒนาของดินแดนอีกฝ่ายนั้นสุดยอดจริงๆ

ผู้ที่ไม่ทราบดีเท่าไรอาจคิดว่าอีกฝ่ายได้ทะลุมิติกลับมาจากอนาคต

แต่ถึงกระนั้น แม้ว่าลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าของเขาจะทะลุมิติกลับมาจากอนาคตจริงๆ เขาก็ยังสามารถเอาชนะอีกฝ่ายและชิงคะแนนการจัดอันดับมาได้อยู่ดี

รางวัลสำหรับการเป็นลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดในสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์

เขาต้องได้มันมาให้ได้!

“เจ้าก็เยินยอข้าเกินไปแล้ว แต่ไม่ว่าเจ้าจะพูดดีแค่ไหน แต่วันนี้ข้าก็จะพยายามสังหารเทพลงให้ได้!”

โจวโจวพูดออกมา

ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้มออกมา

อึดใจต่อมา!

“สังหาร!”

“สังหาร!”

คำพูดแบบเดียวกันดังออกมาจากโจวโจวและผู้เที่ยงแท้แทบจะพร้อมๆ กัน

จากนั้นลูกน้องของทั้งสองฝ่ายก็พุ่งเข้าใส่กันทันที

การต่อสู้กำลังจะปะทุขึ้นมาแล้ว!