ตอนที่ 218 - บทที่ 218 ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของเมืองอันชาน

บทที่ 218 ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของเมืองอันชาน

"ดี"

เฉินกัวตงพยักหน้า

ในไม่ช้าหลิวหยงและคนอื่น ๆ ก็รวมตัวกันเพื่อถามกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองอันชาน

จะเห็นได้ว่าใครๆ ก็โหยหาชีวิตในเมืองใหญ่

เฉินฟานตอบทีละคนด้วยรอยยิ้ม และไม่รู้สึกหมดความอดทนใดๆ

โดยธรรมชาติแล้วเมืองอันชานดีกว่าเฉินเจียเป่าถึงสิบเท่าหรือดีกว่าร้อยเท่าด้วยซ้ำ แต่เมืองอันชานไม่สามารถให้ความอบอุ่นแบบนี้ได้

"แอ๊กๆ"

ในขณะนี้ เสียงไอที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่? ไม่ต้องฝึกซ้อมกันแล้วเหรอ?”

ทุกคนตกตะลึง จากนั้นพวกเขาก็จากไปอย่างไม่เต็มใจ

“ลุงจาง”

เฉินฟานยิ้มเล็กน้อยให้จางเหรินที่อยู่ตรงหน้าเขา

"อืม"

จางเหรินพยักหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโล่งใจ

เมื่อเห็นว่าเฉินฟานกลับมาอย่างปลอดภัย ในที่สุดก้อนหินก้อนใหญ่ในใจเขาก็ถูกวางลงกันพื้น

นอกจากนี้ เนื่องจากเฉินฟานปรากฏตัวที่นี่ นั่นหมายความว่าผู้อเวคแซ่กวนได้ปรากฏตัวออกมาแล้วใช่หรือไม่? และเขาน่าจะถูกเฉินฟานจัดการไปแล้ว

เขากลัวเล็กน้อยที่จะคิดถึงเรื่องนี้

เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เฉินฟานจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?

“พ่อ ข้าขอคุยกับลุงจางสักพัก”

เฉินฟานหัวเราะ

"เอาล่ะ งั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปฝึกต่อเถอะ"

เฉินกัวตงยิ้มออกมาอย่างรู้เท่าทัน เขาเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือ

ถ้าเขาเดาถูก จางเหรินออกไปข้างนอกในตอนเช้า เขาน่าจะได้พบกับเสี่ยวฟานใช่ไหม?

เบื้องหลังเฉินเจียเป่าที่ดูเหมือนสงบสุขตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าเฉินฟานต้องเจอความยากลำบากและอุปสรรคมากมายเพียงใด

เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินกลับพร้อมกับอาวุธที่อยู่ในมือ

ไม่ไกลนักกู่เจ๋อมองไปที่ด้านหลังของเฉินฟาน

และเฉินฟานเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู

จางเหรินแทบรอไม่ไหวที่จะถามว่า "เป็นยังไงบ้าง เสี่ยวฟาน คนที่ชื่อกวนออกมาหรือป่าว?"

เฉินฟานพยักหน้า และอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

หลังจากฟังแล้ว จางเหรินก็ตกใจจนเกินจะวัดได้

โล่ป้องกัน?

การเคลื่อนย้ายมิติ?

การโจมตีทางจิต?

แม้แต่หนึ่งในสามสิ่งนี้ก็น่ากลัวอย่างมากสำหรับเขาแล้ว

ไม่สิ..ถ้าเป็นเขา เขากลัวว่าเขาจะไม่มีโอกาสบังคับคู่ต่อสู้ให้เผยไพ่ตายออกมาด้วยซ้ำ

เพราะนักรบขอบเขตการกลั่นชีพจรทั้งหกที่รอบๆกวนเต๋อฮวาก็เพียงพอที่จะฆ่าเขาหลายเป็นร้อยครั้งแล้ว

แต่เฉินฟานเพียงลำพังใช้ 1 ต้าน 7 และกวาดล้างกลุ่มของคู่ต่อสู้อย่างราบคาบ นี่คือความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวขนาดไหน?

นอกจากความตกใจแล้ว เขายังรู้สึกโล่งใจอย่างมากอีกด้วย

เขาเฝ้าดูเฉินฟานเติบโตขึ้นทีละขั้น แม้ว่าเฉินฟานจะไม่ใช่ศิษย์ของเขา แต่ก็ถือว่าเป็นศิษย์ของเขาครึ่งหนึ่ง และสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับอาจารย์ก็คือการได้เห็นลูกศิษย์ของเขามีความสามารถเหนือกว่าตัวเอง

"ข้าให้ท่าน"

เฉินฟานพูดออกมาอีก

"นี่คือ…?"

จางเหรินตื่นขึ้นมาทันที และมองดูขวดเล็กๆ บนโต๊ะตรงหน้าเขาอย่างสงสัย

“ขออภัยด้วย ลุงจาง ครั้งนี้ข้ากลับมาอย่างเร่งรีบ ข้ามีเพียงขวดเม็ดยาพลังงานเลือดนี้เท่านั้น เมื่อข้ากลับมาครั้งหน้า ข้าจะนำยาที่ดีกว่านี้มาให้ท่านอย่างแน่นอน”

เฉินฟานหัวเราะ

"ไม่"

จางเหรินยิ้มอย่างเบี้ยวและพูดว่า "เม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงสุดนี่ก็เพียงพอสำหรับข้าแล้ว"

เพราะท้ายที่สุด มันขวดละ 200,000 หยวน แม้กระทั่งกับเขาที่เคยอยู่ในสมาคมนักรบมาก่อน การซื้อมันยังรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธ

เพราะเฉินฟานเป็นนักรบขอบเขตการกลั่นชีพจรแล้ว และเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงสุดนี้ก็มีประโยชน์กับเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“เสี่ยวฟาน ขอบคุณเจ้ามาก”

จางเหรินกล่าวอย่างซาบซึ้ง

“ลุงจาง ระหว่างท่านกับข้า ท่านไม่จำเป็นต้องพูดคำสุภาพขนาดนั้นหรอก?” เฉินฟานส่ายหัว

จางเหรินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

แต่เขาขมวดคิ้วทันทีและมองไปที่เฉินฟานแล้วพูดว่า: "เสี่ยวฟาน ข้ารู้ว่าคำที่ข้าจะพูดต่อไปอาจไม่เหมาะสม แต่ข้าก็ยังรู้สึกว่าต้องพูดคำเหล่านี้"

“ลุงจาง ถ้าท่านอยากจะเตือนข้าว่าอย่าชะล่าใจเพียงเพราะวันนี้ข้าฆ่าผู้อเวคระดับ C ได้ใช่ไหม?”

จางเหรินถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดว่า "ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ข้าก็ยังต้องเตือนเจ้าว่ากวนเต๋อฮวาคนนั้นแข็งแกร่งมาก และแข็งแกร่งกว่านักรบขอบเขตการกลั่นชีพจรอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับคนที่ผู้อเวคระดับสูงแล้ว เขาก็ไม่นับว่ามีอะไร"

“ ลุงจาง นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ข้ามาหาท่าน”

เฉินฟานพยักหน้า “คนอื่นๆ ที่ตื่นแล้ว ความสามารถของพวกเขาคืออะไร?”

การตายของกวนเต๋อฮวาจะไม่สามารถถูกซ่อนไว้เป็นเวลานาน นอกจากนี้หากเขาต้องการช่วยเหลือพี่สาวของเหมิงหยู เขาต้องต่อสู้กับคนเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคืออีกฝ่ายพบเขาก่อน หรือเขาจะเป็นคนริเริ่มที่จะไปเคาะประตูของพวกเขาก่อน?

จางเหรินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า "มีผู้อเวคระดับ C ระดับสูงสี่คนในเมืองอันชาน และผู้ที่ทรงพลังที่สุดคือหยานหมิง เจ้าเมืองอันชาน เขาปลุกความสามารถพิเศษลูกไฟและเปลวเพลิงที่ร้อนแรงที่มีจุดเด่นเรื่องพลังโจมตีและระยะการโจมตีไกล และยังสามารถติดไว้บนร่างกายเพื่อสร้างเกราะได้ หรือติดไว้ที่หมัดและเท้า ทำให้เขาสามารถทุบสัตว์อสูรระดับสูงให้เละเป็นโจ๊กด้วยหมัดเดียว”

"อย่างนั้นหรือ"

เฉินฟานหรี่ตาลงเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

เจ้าเมืองอันชานดูเหมือนเขามีพลังการต่อสู้ที่ดี

หากมีพลังแปลก ๆ นี้บนร่างกายของเขา มันก็เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะจัดการ

“คนที่สองคือฟางหยุน ความสามารถที่เขาปลุกขึ้นคือความสามารถทางกายภาพที่สามารถทำให้ร่างกายของเขาแข็งเป็นโลหะได้ ข้าได้ยินมาว่าแม้ว่าเขาจะถูกโจมตีด้วยปืนครก 75 มม. ด้วยความสามารถของเขาเขาก็ยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แม้แต่การโจมตีของสัตว์อสูรระดับสูงเหล่านั้นก็เป็นเพียงการเกาคันให้เขาเท่านั้น"

จางเหรินนึกอยู่ครู่หนึ่งว่า "แม้ว่าเขาจะต้องต่อสู้กับหยานหมิง เขาก็ยังสู้ได้หลายสิบรอบโดยไม่แพ้"

“ดังนั้น หยานหมิงน่าจะแข็งแกร่งมากจริงๆ” เฉินฟานคิดกับตัวเอง

“คนที่สามคือผู้อเวคซึ่งปลุกความสามารถแห่งแรงโน้มถ่วง”

"แรงโน้มถ่วง?"

เฉินฟานสะดุ้ง

ความสามารถนี้ฟังดูไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอน

"ใช่แล้วล่ะ"

จางเหรินหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "เมื่อสามปีที่แล้ว ตอนที่คลื่นของสัตว์อสูรปะทุขึ้น ข้ายืนอยู่บนกำแพงเมืองและเห็นเขาด้วยตาของตัวเอง เขาชี้ไปที่สัตว์ร้ายระดับสูงด้วยมือขวา ยกมันขึ้นและกระแทกมันลงทำให้สัตว์อสูรตัวนั้นเละเป็นชิ้นเนื้อ ข้าจำได้ว่า ทัศนคติของหยางหมิงที่มีต่อเขาก็ค่อนข้างให้เกียรติอยู่เช่นกัน”

เฉินฟานพยักหน้า

เช่นนั้นความแข็งแกร่งของความสามารถในการดึงดูดแรงโน้มถ่วงของคนผู้นี้เทียบได้กับของหยางหมิงที่เป็นเจ้าเมือง

และผู้ชายที่ชื่อฟางหยุนก็อ่อนแอกว่าทั้งคู่เล็กน้อย

"แล้วคนที่สี่ล่ะ"

เฉินฟานสงบลงอย่างรวดเร็วและรอฟัง

"คนที่สี่งั้นเหรอ"

จางเหรินขมวดคิ้วและพูดว่า "ข้าไม่รู้ว่าความสามารถของเขาคืออะไร และข้าไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเขาเลย เขาเป็นคนที่ลึกลับอย่างมาก"

"โอ้..?"

เฉินฟานประหลาดใจและพูดว่า: "ในเมืองอันชานทั้งหมด ไม่มีใครรู้ความสามารถของเขาเลยเหรอ?"

"ใช่แล้ว"

จางเหรินพยักหน้า

“ตอนนั้นข้าถามประธานแล้ว แต่ประธานก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“แม้แต่ประธานก็ไม่รู้”

เฉินฟานคาดไม่ถึงเล็กน้อย

แน่นอนว่าข้อมูลนี้เป็นของสามปีที่แล้วแล้ว บางทีประธานอาจจะรู้เรื่องนี้แล้วหลังจากสามปีผ่านมา

แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายลึกลับคนนี้สามารถทัดเทียมกับอีกสามคนได้ ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถประมาทได้

และไม่มีใครรู้ว่าความสามารถของเขามายาวนานขนาดนี้ นั่นก็หมายความว่าคนส่วนใหญ่ที่เห็นความสามารถของเขาเสียชีวิตแล้วงั้นเหรอ?

“ในความทรงจำของข้าทั้งสี่คนนี้มีพลังมากที่สุด และไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสามปีต่อมานี้ จะต่อมีผู้อเวคคนอื่น ๆ ที่เติบโตในเมืองอันชาน ในเวลานั้นเจ้าอาจต้องเผชิญหน้าไม่เพียงแต่สี่คนนี้เท่านั้น”

จางเหรินมองดูเฉินฟาน รู้สึกไร้พลังในใจ

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเติมตัวเองเข้าในประโยคสุดท้ายหรอก แต่เป็นเพราะเขารู้จักความแข็งแกร่งของตัวเองดี

อย่าว่าแต่ปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับหนึ่งในนั้น แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับนักรบขอบเขตการกลั่นชีพจรที่เป็นผู้ใต้อาณัติของอีกฝ่าย เขาก็ทำได้เพียงวิ่งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้น

“เอาล่ะ ลุงจาง ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะระวังก็แล้วกัน”

เฉินฟานพยักหน้าอย่างจริงจัง

เขาวางแผนที่จะรับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับผู้อเวคเหล่านี้จากประธาน หลังจากที่เขากลับไปที่เมืองอันชานแล้ว

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกฝนของเขาไม่สามารถหยุดชะงักได้

ตราบใดที่ความแข็งแกร่งของเขายังแข็งแกร่งเพียงพอ ไม่ต้องพูดถึงผู้อเวคระดับ C มากกว่าสี่คน แม้ว่าบางคนจะเป็นผู้อเวคระดับ B แล้วไงล่ะ?..

“ยังไงก็ตาม ลุงจาง ยังมีรถทหารอยู่สองสามคันและปืนใหญ่สองกระบอกจอดอยู่ที่เฉินเจียไจ้ หลังจากนี้ท่านสามารถพาใครสักคนไปนำพวกมันกลับมาได้ อย่างไรก็ตามอย่าพึ่งใช้สิ่งนี้ในตอนนี้ ควรเก็บเป็นความลับไว้ก่อนดีกว่า”

“เอาล่ะ ข้าจะพาคนไปเอาข่นพวกมันกลับก่อน และจะไม่สายเกินไปที่จะใช้มัน หลังจากเรื่องนี้คลี่คลายแล้ว”

จางเหรินพยักหน้า

ทั้งสองเดินออกจากบ้าน จางเหรินเดินไปหาเฉินกัวตงและคนอื่นๆ และกู่เจ๋อก็เดินตามมาและพูดว่า

“เฉินฟาน เราคุยกันได้ไหม?”

เฉินฟานยิ้มให้เขาและพยักหน้า

ผ่านไปสองหรือสามวันแล้ว กู่เจ๋อคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

เขาไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะตัดสินใจอยู่ที่นี่หรือต้องการเข้าร่วมสมาคมผู้อเวค

แต่ไม่ว่าอันไหนเขาก็จะสนับสนุนกู่เจ๋อเหมือนเดิม

ทั้งสองคนเข้าไปในบ้าน

กู่เจ๋อสูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปที่เฉินฟานแล้วพูดว่า "เฉินฟาน ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าอยากจะเข้าร่วมสมาคมผู้อเวค"

ครั้งสุดท้ายที่เฉินฟานพูด เขากลับไปคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง

แม้ว่าหมู่บ้านจะสงบสุขในขณะนี้ แถมอาหารและเสื้อผ้าก็ไม่ได้ขาดแคลน และดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานอีกด้วย

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เบาะบางเกินไปถ้าไร้กำลังจะรักษา

ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ คลื่นของสัตว์อสูร และผู้อเวคหรือสัตว์อสูรระดับหัวหน้าขึ้นไปก็สามารถทำลายทุกสิ่งของที่นี่ได้อย่างง่ายดาย………..

…………..