บนท้องฟ้า ราตรีประดับดาวกำลังเร่งความเร็วไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรออโรร่า
ด้วยความเร็วในปัจจุบันของราตรีประดับดาว มันจึงใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงในการเดินทางจากเมืองตะวันสาดแสงไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรออโรร่า
นอกจากนี้เขายังอยากจะเห็นสถานการณ์ในปัจจุบันของดินแดนต่างๆ ภายในอาณาจักรออโรร่าด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้ค่ายกลข้ามมิติ
ถึงกระนั้น เมื่อโจวโจวนั่งอยู่ในห้องกัปตันของราตรีประดับดาวและมองไปยังสถานการณ์ของอาณาจักรออโรร่าบนหน้าจอตรงหน้าของเขาแล้ว เขาก็อดเงียบไปไม่ได้
สิ่งปลูกสร้างในเมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง ซากศพของชาวอาณาจักรออโรร่าจำนวนนับไม่ถ้วนเกลื่อนพื้น การตายของพวกเขาช่างน่าสลดใจ ทำให้มันรู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจ
ยิ่งเขาเข้าใกล้เมืองหลวงของอาณาจักรออโรร่าเท่าไร มันมียิ่งมีสถานการณ์เช่นนี้ปรากฏมากยิ่งขึ้น
สุดท้ายโจวโจวก็ได้บทสรุปที่ทำให้หัวใจของเขาต้องหดเกร็ง
เมืองและชาวเมืองส่วนใหญ่ในอาณาจักรออโรร่าน่าจะพินาศในสงครามไปแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ไป่อี้ที่อยู่ด้านหลังของโจวโจวก็มองไปยังหน้าจอเสมือนจริงตรงหน้าของเธอด้วย
แม้ว่าเธอจะทนดูไม่ได้ แต่เธอก็รู้สึกมึนงงไปด้วย
“ข้าเข้าใจเหตุผลว่าทำไมอาณาจักรทาฮันถึงเลือกสังหารหมู่ เจตจำนงสูงสุดและเจ้าแห่งลอร์ดสีชาดต่างก็อยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะอยู่ร่วมกันได้ แต่ทำไมพวกมันต้องทำลายเมืองเช่นนี้ด้วย? พวกมันไม่อยากยึดครองเมืองพวกนี้เหรอ?”
เธอถามด้วยความสงสัย
สำหรับมอนสเตอร์แห่งหมอก สิ่งปลูกสร้างบางอันก็ยังมีประโยชน์อยู่
“กลยุทธ์การทำสงครามในปัจจุบันของอาณาจักรทาฮันน่าจะมุ่งเน้นไปที่ความเร็ว พวกมันคงอยากจะพิชิตอาณาจักรออโรร่าทั้งหมดให้ได้โดยเร็วที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันไม่สนใจที่จะเก็บเมืองที่พิชิตได้ไว้ พวกมันน่าจะกังวลขึ้นมาเล็กน้อยเพราะถูกโจมตีโดยอาณาจักรไททัน”
โจวโจวกล่าว
ไป่อี้พยักหน้าเมื่อทราบแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกเศร้าอยู่หน่อยๆ
ในเมืองที่ถูกทำลายเหล่านี้ ทุกเมืองมีสิ่งปลูกสร้างอยู่เป็นจำนวนมาก สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ต่างก็เป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในเมือง
น่าเสียดายที่มันต้องถูกทำลายไปทั้งแบบนี้…
ไม่นานหลังจากนั้น ณ อาณาจักรออโรร่า
เมื่อโจวโจวมาถึง เขาก็เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ไม่เพียงแต่มันจะมีชาวเมืองน้อยลงเท่านั้น แต่ชาวเมืองที่เหลือส่วนใหญ่ก็ดูกระสับกระส่ายด้วย ร้านค้ามากกว่าครึ่งในเมืองหลวงได้ปิดตัวลง มันดูค่อนข้างรกร้าง ไม่รุ่งเรืองเหมือนครั้งแรกที่มาเมื่อวันก่อนเลย
โจวโจว ไป่อี้ และคนอื่นๆ ต่างก็พากันตกใจเมื่อพวกเขาเห็นภาพฉากนี้
เขาแทบจะจำไม่ได้เลยว่านี่คือเมืองหลวงของอาณาจักรออโรร่า
มันน่าจะเป็นเพราะข่าวการบุกของอาณาจักรทาฮันได้แพร่มาถึงเมืองหลวงแล้วจึงทำให้มันเป็นเช่นนี้ใช่ไหม?
โจวโจวคิด
เขาเม้มปากและสายตาของเขาก็มั่นคงขึ้น
เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นและไม่ปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับดินแดนของเขา
จากนั้นเขาก็บอกให้เหวินหยาจอดยานบินในระยะไกลและให้ทุกคนออกมา
จากนั้นมันก็เหมือนกับครั้งล่าสุดที่เขามา
เนซาริโอ้ได้รับผิดชอบในการลาดตระเวนอยู่บนท้องฟ้าเพื่อปกป้องเขา
ส่วนทหารระดับแพลตตินั่มขาว 10,000 คนและทหารระดับเพชร 500 คนก็ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ กับประตูเมืองเผื่อว่าจะมีเหตุการณ์อะไร
มันมีแค่ไป่อี้และมอนสเตอร์ระดับเหนือสามัญขั้นต้น 3 ตัวเท่านั้นที่ตามเขาเข้าไปในเมืองหลวง
ทหารที่รับหน้าที่เฝ้าย่อมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชามาแล้ว เมื่อเขาเห็นโจวโจวมาถึง เขาก็เชิญเขาและผู้ใต้บังคับบัญชาไปที่วังทันทีด้วยความสุภาพ
โจวโจวและคนอื่นๆ ย่อมไม่ปฏิเสธ พวกเขาเดินตามทหารยามไปยังวังและมาพบกับหลี่หยวนกันในวังที่มีชื่อว่าวังฟ้าดิน
ในเวลานี้แม้ว่าหลี่หยวนกันจะดูเด็กลง แต่สีหน้าของเขาก็จริงจังมาก เขาไม่ได้มีความสุขเท่าไรเลยในตอนนี้
ในทางตรงกันข้าม ตอนนี้เขาก็กำลังอารมณ์ไม่ดีเท่าไรเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์สงครามที่รุนแรงขึ้นในอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นโจวโจว ไป่อี้ และคนอื่นๆ มาถึง เขาก็อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะยิ้มออกมา
จากนั้นเขาก็ถาม
“เจ้าตะวันสาดแสง ลูกสาวของข้าเป็นยังไงบ้าง?”
“หลี่ย่ายังหลับใหลอยู่ขอรับ ข้ายังไม่สามารถช่วยเธอได้ในตอนนี้”
โจวโจวส่ายหัว
คริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์ไม่ใช่ของที่จะหาได้ง่ายๆ
แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเทวะอย่างราชาแห่งการดรอป แต่เขาก็ยังต้องพึ่งดวงอยู่ในการจะได้รับมันมา
สีหน้าของหลี่หยวนกันมืดลงเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่พูดอะไร และยิ้มออกมาแทนพร้อมกับกล่าวว่า
“ไม่เป็นไร ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้”
ในตอนนี้ โจวโจวเป็นเพียงแค่ความหวังเดียวของเขาเท่านั้นในการช่วยลูกสาวของตัวเอง นอกจากนี้เขายังรู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะช่วยลูกสาวของเขาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะให้อีกฝ่ายกดดันมากนัก
โจวโจวพยักหน้าและตรงเข้าประเด็น
“ฝ่าบาท ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพราะสองเรื่อง เรื่องแรกก็คือวิธีการพิเศษที่ข้าเคยใช้ไป ข้าวางแผนที่จะใช้มันอีกครั้งในวันนี้”
ดวงตาของหลี่หยวนกันเปล่งประกายขึ้นมา
เขายังไม่ลืมเหตุการณ์อันน่ามหัศจรรย์ที่อีกฝ่ายเพียงแค่ยกมือขวาขึ้นและสามารถลดความกดดันจากการโจมตีของฝ่ายศัตรูลงไปได้
“เรื่องที่สองข้าอยากถามท่านว่าท่านมีอัญมณีธาตุชีวิตและอัญมณีธาตุความตายไหม ข้าขอซื้อพวกมันหน่อย”
โจวโจวกล่าว
“อัญมณีธาตุชีวิตและอัญมณีธาตุความตายเหรอ? มีสิ แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกใช้ไปเพื่ออัพเกรดดินแดนของข้าแล้ว มันจึงเหลือไม่มากเท่าไร”
หลี่หยวนกันคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับมา
“ตราบใดที่ท่านมีก็ได้ทั้งนั้นขอรับ”
ดวงตาของโจวโจวเปล่งประกายขึ้นมา
หลี่หยวนกันพยักหน้าและเรียกขันทีคนหนึ่งเข้ามา
“หยวนเจี่ย ไปที่คลังสมบัติและเอาอัญมณีธาตุชีวิตและอัญมณีธาตุความตายที่เหลือทั้งหมดมา”
“ขอรับฝ่าบาท”
ขันทีหยวนเจี่ยพยักหน้าและจากไป
“ฝ่าบาท ท่านไปได้อัญมณีธาตุชีวิตและอัญมณีธาตุความตายมาจากไหนขอรับ?”
โจวโจวถามด้วยความสงสัยในขณะที่อีกฝ่ายไปนำอัญมณีพวกนี้มา
“อัญมณีนี้พวกนี้เป็นสินสงครามที่อาณาจักรออโรร่าของพวกเราได้มาจากการทำสงครามกับอาณาจักรไททัน ภายใต้อารยธรรมแห่งเผ่าพันธุ์ของอาณาจักรไททัน มันมีแร่หายากมากมายในดินแดนที่พวกมันไม่รู้วิธีใช้ เป็นผลให้พวกมันสูญเสียทรัพยากรที่ดีไปเป็นจำนวนมากอย่างเปล่าประโยชน์”
“ถ้ามันไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ทางด้านร่างกายของพวกมันโดดเด่นมากและกลบช่องว่างด้านความแข็งแกร่งในการต่อสู้ระหว่างเราก่อนหน้านี้ได้อย่างสมบูรณ์ อาณาจักรไททันของพวกมันก็คงจะถูกอาณาจักรรอบๆ ยึดครองไปนานแล้ว”
หลี่หยวนกันส่ายหัว
“มันไม่มีอัญมณีธาตุชีวิตและอัญมณีธาตุความตายอยู่ที่อื่นเลยเหรอ?”
โจวโจวถาม
“ไม่มี”
หลี่หยวนกันส่ายหัวโดยไม่ลังเล
อาณาจักรออโรร่าก่อตั้งมาหลายร้อยปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถให้คำตอบยืนยันเรื่องนี้ได้
“ถ้ามีแค่อาณาจักรไททันเท่านั้นที่มีเหมืองแร่อัญมณีธาตุชีวิตและอัญมณีธาตุความตาย กองกำลังระดับอาณาจักรที่อยู่รอบๆ จะไม่บุกมันเหรอ?”
โจวโจวเลิกคิ้วขึ้น
อัญมณีธาตุชีวิตและอัญมณีธาตุความตายคือทรัพยากรที่สำคัญสำหรับดินแดนระดับแพลตตินั่มขาวเพื่อใช้ในการอัพเกรดดินแดน
ลอร์ดคนไหนก็ตามที่มีความทะเยอทะยานย่อมไม่ปล่อยทรัพยากรเหล่านี้ไว้เฉยๆ เป็นแน่