ตอนที่ 199 - บทที่ 199 คะแนน 29 ล้าน!!

บทที่ 199 คะแนน 29 ล้าน!!

ในกลุ่มนั้น หลังจากที่จูนิเปอร์ส่งข้อความพร้อมรูปภาพออกมาแล้ว

หลังจากนั้น..

ผ่านไปหนึ่งหรือสองนาทีและไม่มีใครพูดอะไร

"เป็นอะไรไป?"

ซูเจี๋ยพิมพ์ถามไปว่า "ทำไมพวกเจ้าไปพูดอะไรออกมาอีกล่ะ? เมื่อเช้าข้ายังเห็นมีคนจำนวนมากตั้งคำถามถึงความแข็งแกร่งของน้องเฉินฟานไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่มีใครพูดอะไรล่ะ มีใครสงสัยอะไรอีกไหม?”

ทุกคนโกรธมากเมื่อเห็นข้อความนี้

แต่ไม่มีทางที่จะปฏิเสธอะไรได้

เพราะหลักฐานอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

และถ้ายังคิดว่าสำนักงานใหญ่ช่วยเหลือสาขาเมืองอันซาน มันก็ยิ่งไร้สาระเขาไปอีก

"นอกจากนี้" ซูเจี๋ยกล่าวต่อ "พวกเจ้าพูดคุยกันว่าอย่างไรนะ สาขาเมืองอันชานของเราให้เครดิตทั้งหมดกับคนๆเดียวงั้นเหรอ มันไร้สาระซะไม่มี ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนนี้ พวกเราทุกคนยังคงอยู่ในฐาน หากพวกเจ้าไม่เชื่อข้า พวกเจ้าสามารถขอให้ผู้จัดการทั่วไปมาติดตามการทำงานของพวกเราได้

แต่ในความคิดของข้าอันดับ 2 และ 3 ในปัจจุบันคือเป็นคนรับเครดิตของทั้งทีมมากกว่าใช่ไหม? พวกเจ้าว่าอย่างไร?"

ทันทีที่ข้อความนี้ถูกส่งออกไป ทุกคนที่อยู่หน้าจอก็อยากจะสอดมือเข้าไปในหน้าจอและทุบกระโหลกของเขาจริงๆ

โดยเฉพาะผู้คนรอบๆหวังห่าวและเฉิงเหว่ยต่างพากันโกรธแค้นอย่างมาก

แต่ไม่มีทางที่จะหักล้างเขาได้เลย เพราะนี่คือสิ่งที่ใครก็ตามที่พอมีความคิดอยู่บ้างก็จะสามารถมองเห็นได้

“พอเถอะ ซูเจี๋ย” ตู้เยว่กลอกตาแล้วพูดว่า “อย่างไปยั่วยุพวกเขามากกว่านี้เลย หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ”

“ใช่แล้ว ซูเจี๋ยรีบถอนคำพูดซ่ะ อย่านำความเกลียดชังมาสู่น้องเฉินฟาน”

เกาซานและทุกคนพยายามหยุดเขาไว้ก่อน

“เอาล่ะ ข้าแค่ตื่นเต้นเกินไปเท่านั้น และข้าก็โกรธเมื่อคิดว่าพวกเขาดูถูสาขาของเราเมื่อเช้านี้” ซูเจี๋ยบ่นและลบข้อความสุดท้ายออก

“เรายอมรับว่าเฉินฟานจากสาขาเมืองอันชานของเจ้ามีพลังมากจริงๆ แต่ยังมีเวลาอีกสองวันก่อนสิ้นเดือน เจ้าคงไม่คิดว่าเขาจะยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่ในอันดับแรกหรอกใช่ไหม?”

“ถูกต้อง ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในตอนนี้”

“อย่าดีใจเร็วเกินไป ระวังจะถอยกลับไม่ทัน”

หลังจากตั้งสติได้ทุกคนก็พูดออกมาอย่างไมาอยากเสียหน้า

“เอาล่ะ แล้วแต่พวกเจ้าพิมพ์ไปล่ะกัน แล้วเราจะได้เห็นกันในอีกสองวัน” ซูเจี๋ยต่อ “ไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน เพราะข้าเชื่อในความแข็งแกร่งของเฉินฟาน”

จากนั้นทั้งกลุ่มก็เงียบไปอีกครั้ง

เกือบทุกคนเริ่มจ้องมองอันดับแรกในรายชื่อ หรืออีกนัยหนึ่งคือจ้องมองไปที่คะแนนของเฉินฟาน

ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ภายใต้การจับตามองของทุกคน คะแนนการบริจาคของเฉินฟานก็เพิ่มขึ้น 4 ล้านคะแนนไปถึง 19 ล้านคะแนน!

ทุกคนที่อยู่หน้าจออ้าปากกว้าง ดูเหมือนหัวใจมาจุกที่ลำคอ

และพวกเขาก็มองไปที่เวลาเป็นพิเศษ

ใช่แล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ

“ผู้แซ่เฉินคนนี้เอาอีกแล้วงั้นเหรอ?”

หลายคนมองดูเฉิงเหว่ยอย่างตกตะลึงและพูดไม่ออก

“เป็นพวกเราเองที่ดูเบาคนๆนี้เกินไป” เฉิงเว่ยยิ้มอย่างเบี้ยว “ตามแนวโน้มนี้ ข้าเกรงว่าคะแนนการบริจาคของเขาจะเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง”

“ยังจะเพิ่มขึ้นอีกงั้นหรือ...”

คราวนี้พวกเขาไม่สงสัยอีกต่อไป แต่มองที่หน้าจอและเลียริมฝีปากที่แห้งผาก

หากขึ้นได้อีกคะแนนการบริจาคของเขาก็จะเกิน 20 ล้านไปแล้ว

ในความทรงจำของพวกเขา ผลงานสูงสุดในรายชื่อนักรบประจำเดือนคือมากกว่า 20 ล้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้นใช่ไหม?

หนึ่งชั่วโมงต่อมา คะแนนการบริจาคของเฉินฟานเพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านเป็น 22 ล้าน และตอนนี้มันก็ทำลายสถิติไปแล้ว

และจูนิเปอร์ก็เพิ่มข้อมูลรูปภาพอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีใครในกลุ่มพูดอะไรได้อีก

“พะ…พี่หวัง”

นักรบคนหนึ่งเหลือบมองที่หน้าจอ จากนั้นก็มองไปที่หวังห่าวแล้วกลืนน้ำลายลงดังอึก

ความแตกต่างของคะแนนการบริจาค 6 ล้านคะแนน นั่นคือสัตว์อสูรระดับสูงสองตัว

เหลือเวลาอีกแค่สองวันพวกเขาจะทำได้จริงๆเหรอ?

หวังห่าวยังคงเงียบ

แต่ความรู้สึกไร้พลังเพิ่มขึ้นในใจของเขา

แม้ว่าในอีกสองวันข้างหน้า ทีมของเขาจะระเบิดออกมาและเขาโชคดีสามารถตามล่าสัตว์อสูรระดับสูงสองตัว แต่บุคคลที่ชื่อเฉินฟานคนนี้ เขาจะนั่งดูอย่างเงียบเพื่อให้ตัวเองถูกแซงงั้นหรือ?

ถ้าเป็นเขาคงไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วในการล่าสัตว์อสูรระดับสูงของคู่ต่อสู้นั้นน่าทึ่งเกินไปหรือป่าว?

เขาเป็นนักรบฮัวจินจริงๆเหรอ?

ท้องฟ้ามืดลงแล้ว

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในรายชื่ออีก

ทุกคนที่อยู่หน้าจอถอนหายใจด้วยความโล่งอกโดยไม่รู้ตัว

ดูเหมือนว่าการล่าของเฉินฟานจะจบลงแล้วสินะ?

แม้ว่าพวกเขาจะคิดอย่างนั้น แต่ทุกคนก็ยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลาย เพราะเวลากำลังจะถึงหนึ่งชั่วโมงอีกครั้งแล้ว และเหมือนมันเป็นความรู้สึกหลอนของพวกเขาเอง

แต่จู่ๆในขณะนั้นเอง คะแนนการบริจาคของเฉินฟานในรายชื่อเพิ่มขึ้นโดยตรง 7 ล้าน จาก 22 ล้านเป็น 29 ล้านคะแนนทันที!

สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือจำนวนสัตว์อสูรที่ถูกล่าเพิ่มขึ้นจาก 5 ตัวเป็น 7 ตัว

ทุกคนที่อยู่ด้านหน้าของหน้าจอนั้น พวกเขาต่างก็ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ราวกับถูกฟ้าผ่า

สัตว์อสูรระดับสูงสองตัวงั้นหรือ?

ครั้งนี้ผู้ชายคนนี้ออกไปล่าสัตว์อสูรระดับสูงสองตัวได้จริงๆงั้นเหรอ?

มีคนไม่เชื่อก็จ้องมองในกลุ่มเพื่อรอภาพยืนยัน

ไม่นานจูนิเปอร์ก็ส่งรูปเข้ามาสองรูป สุนัขสิงโตป่าและงูจุดสีเทา

"เฮือก..."

แม้แต่หวังห่าวก็หายใจไม่ออกในขณะนี้

ความแข็งแกร่งที่น่ากลัวเช่นนี้คืออะไร?

แม้แต่ทีมนักรบที่เขาเป็นผู้นำยังต้องต่อสู้อย่างสิ้นหวังเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสูง แต่เมื่อเขาพบกับสิ่งที่รับมือได้ยาก เช่น หมีคลั่ง พวกเขาทำได้เพียงหลบหนีเท่านี้น

สำหรับสัตว์อสูรระดับสูงสองตัวนั้นล่ะ?

ไม่ว่าจะเป็นหลังจากล่าตัวหนึ่ง แล้วเผชิญหน้าตัวที่สอง หรือเผชิญหน้าสองตัวพร้อมกัน ล้วนเป็นสัตว์อสูรที่อันตรายมาก ถ้าประมาทแม้เพียงเสี้ยววินาทีพวกเขาจะโดนเก็บทั้งทีมอย่างแน่นอน!

แต่เฉินฟานคนนี้ เขาสามารถยิงและฆ่ามันสองหัวได้ในคราวเดียวเลยงั้นเหรอ?

“อันดับแรก ข้าคงต้องยอมแพ้”

หวังห่าวหัวเราะอย่างเศร้าหมอง "คราวนี้ ถ้าเราสามารถรักษาอันดับสองได้ ก็เพียงพอแล้ว"

อีกสองคนมองหน้ากันเมื่อได้ยินคำพูดของเขา และต่างพากันพยักหน้าอย่างอ่อนแรง

แล้วถ้าพวกเขาไม่ยอมแพ้แล้วยังไงล่ะ? ถ้าไม่ยอมแพ้ก็สู้ไม่ได้เหมือนเดิมนั้นแหละ

ไม่เพียงแต่หวังห่าว, เฉิงเว่ย, ชูเฉียวและคนอื่น ๆ เท่านั้น แต่ทุกคนมองหน้าจอโดยไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เป็นเวลานาน

26 ล้านคะแนนการบริจาค!

เดือนที่แล้วแค่ 20 ล้านคะแนนก็ถือว่ามากที่สุดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่ 10 ล้านต้นๆ และเหลือเวลาเพียงสองวันก่อนสิ้นเดือน หากพวกเขาต้องการเพิ่มคะแนนการบริจาค 16 ล้านคะแนนในช่วงเวลาสั้น ๆ มันจะเป็นไปได้หรือ?

แทนที่จะฝันถึงการแข่งขันเพื่อชิงอันดับหนึ่ง การมุ่งเป้าในเข้าสู่สองสามอันดับแรกจะดูจะมีหวังมากกว่า

“เฉินฟานกลับมาที่ค่ายแล้ว การล่าในวันนี้ควรสิ้นสุดตรงนี้ นอกจากนี้เมื่อล่าสัตว์อสูรระดับสูง เจ้าตรงระมัดระวังอย่างมากและอย่ากระทำการอย่างหุนหันพลันแล่นเกินไป”

หลังจากที่จุนซ่งพิมพ์ตักเตือนแล้วเขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ และถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ดูเหมือนว่าสาขาเมืองอันซานจะผลิตบุคคลที่น่าทึ่งออกมาแล้วใช่ไหม? เขาเป็นเพียงนักรบขอบเขตฮัวจิน แต่พลังการต่อสู้ของเขาเทียบได้กับนักรบในระยะแรกของขอบเขตกลั่นชีพจรใช่ไหม?

เขาไม่รู้ว่าบุคลลนั้นจะแข็งแกร่งถึงระดับไหนถ้าเขาเข้าสู่ขอบเขตกลั่นชีพจร

ในกลุ่มทุกคนตอบทีละคน แต่ไม่มีใครพูดคุยเรื่องอื่นอีก

หลายคนรู้สึกเขินอายมาก

พวกเขายังบอกว่าสาขาเมืองอันซานด้วยว่าอย่าชะล่าใจเกินไปนัก ยังเหลือเวลาอีกสองวันและยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

แต่จากนั้นความจริงก็ตบพวกเขาอย่างแรง

คะแนนการบริจาค 26 ล้าน แม้ว่าเฉินฟานจะนอนอยู่ที่ฐานอีกสองวันข้างหน้า แต่จะมีใครสามารถเอาชนะเขาได้ล่ะ?

ไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าเขาออกไปล่าสัตว์อีกครั้ง คะแนนการบริจาคของเขาจะไม่สามารถวิ่งไปถึง 50 ถึง 60 ล้านคะแนนเลยเหรอ?

"คนพวกนี้..นี่.."

ซูเจี๋ยมองไปที่ในกลุ่มสนทนา ยิ้มและกล่าวว่า "ประธานกล่าวก่อนหน้านี้ว่าคะแนนการบริจาค 7.5 ล้านนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นสำหรับเฉินฟาน แต่พวกเขาก็ตอบโต้อย่างรุนแรงมากทีละคน ตอนนี้คะแนนการบริจาคของเฉินฟานใกล้จะถึง 30 ล้านแล้ว กลับไม่มีใครพูดอะไรออกมา”

“หยุดยั่วยุพวกเขาได้แล้ว” ตู่เยว่จ้องมองเขา

ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย และเป็นผลงานของเฉินฟานทั้งหมด

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้โง่” ซูเจี๋ยปิดโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ "เฉินฟานได้น้างชื่อเสียงให้กับสาขาของเราอย่างมากมาย"

“ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา สาขาของเราก็คงไม่เป็นที่รู้จักขนาดนี้ และแม้ว่าจะเป็นที่รู้จักบ้าง แต่มันก็คงจะเป็นในเชิงลบ”

“ตอนนี้ท่านประธานคงจะมีความสุขมากจนนอนไม่หลับอย่างแน่นอน”

"ข้าคิดว่ามันคงเป็นอย่างนั้น"

ตามที่พวกเขาคาดไว้ ซุนเว่ยนั่งอยู่ในห้องทำงานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและแต่มีความรู้สึกเศร้าใจแฝงอยู่

ในขณะที่เขามีความสุข ก็มีความเศร้าอยู่ในใจของเขาเช่นกัน

เพราะสัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าเฉินฟานอาจจะไม่อยู่ที่นี่นานนัก

“ยังไงก็ตามน้องเฉินควรจะกลับมาแล้ว ข้าไม่รู้ว่าคนหอการค้ากำลังวางแผนอะไรอีก ข้าควรจะไปดูด้วยตัวเองดีกว่า”

เขาลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอกทันที

เวลาย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว

“น้องเฉิน คะแนนเข้าแล้วหรือยัง?”

หลินฮุ่ยที่เพิ่งติดต่อกับสำนักงานใหญ่เสร็จถามด้วยรอยยิ้ม

“เข้ามาในบัญชีแล้ว ขอบคุณผู้อาวุโสหลินมาก” เฉินฟานรีบพูดตอบ เขาเหลือบมองบัญชี และคะแนนการบริจาคที่เกือบหมดก่อนหน้านี้พุ่งสูงขึ้นมาเกือบ 26 ล้านคะแนนทันที

ตามราคาซื้อของสัตว์อสูรระดับสูง จริงๆ แล้วมีมูลค่ามากกว่า 22 ล้านหยวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่หลังจาก 3 ตัวขึ้นไป เขาจะได้รับค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม 10% ของราคาซื้อทั้งหมด ซึ่งเขาได้รับมากกว่า 5 ล้านคะแนน และจะได้รับเพิ่มเป็น 15% หากเขาล่าสัตว์อสูรตั้งแต่ 10 ตัวขึ้นไป จากนั้นเขาก็จะได้รับ 20% แน่นอนถ้าเพิ่มยอดขึ้นไปอีก

"26 ล้านคะแนน..."

เฉินฟานถอนหายใจในใจ ถ้าเขาคะแนนเหล่านี้เพื่อซื้อเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงสุด เขาสามารถซื้อได้มากกว่า 260 เม็ด และแปลงเป็นคะแนนศักยภาพก็จะได้ 20.8 ล้านคะแนน!

แล้วถ้าใช้ทั้งหมดเพื่อซื้อวัตถุดิบมาปรุงยาด้วยตัวเองล่ะ?

หากหนึ่งชุดมีมูลค่า 20,000 หยวน เขาสามารถซื้อได้ 1,300 ชุดโดยไม่ได้คำนวนส่วนลด และแต่ละชุดแม้ว่าจะคำนวณจากเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงเขาก็จะได้รับ 150 ล้านคะแนนศักยภาพเลยทีเดียว!

มันเป็น 7 ถึง 8 เท่าของราคาซื้อโดยตรง!....

……………..