เมื่อคิดได้เช่นนี้ โจวโจวก็มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของประตูชัยทันที

ในทันทีที่เขามาถึง ไป่อี้ อู๋ซิน และคนอื่นๆ ก็กำลังจัดกลุ่มให้กับทหารที่ออกมาจากภูติทมิฬเหนือค่ายกลข้ามมิติและเริ่มจัดทัพ

ทหารกว่า 100,000 คนของกองทัพตะวันสาดแสงและกองทัพมอนสเตอร์ต่างก็จัดแถวกันอย่างเป็นระเบียบในเวลาไม่นาน

“คาราวะท่านลอร์ด”

ไป่อี้และอู๋ซินเดินออกมาแสดงความเคารพ

โจวโจวพยักหน้าเล็กน้อยและมองไปยังอู๋ซิน เขาเผยรอยยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ ผมของอู๋ซินก็เป็นสีดำสนิท ดวงตาของเขาเป็นสีดำและขาว เขาสดใสและมีพลัง ไม่มีรอยย่นบนใบหน้าของเขาเลย เขาเต็มไปด้วยพลัง ใครจะพูดได้อีกว่าเขาดูแก่แล้ว?

เห็นได้ชัดว่าเขาคือชายหนุ่มคนหนึ่ง!

นอกจากนี้ ร่างกายของเขายังเต็มไปด้วยออร่า เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ของเขาหายดีแล้วและความแข็งแกร่งของเขาก็ฟื้นกลับคืนมาแล้ว

โจวโจวมองดูความแข็งแกร่งของอู๋ซิน

ตามที่คาดไว้ ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายกลับมาเป็นระดับเพชรขั้นสูงแล้ว!

นี่คือความแข็งแกร่งของอู๋ซินในจุดสูงสุด

โจวโจวพึงพอใจมาก

ผู้กล้าระดับเพชรขั้นสูง!

ความแข็งแกร่งนี้เพียงพอแล้วที่จะต่อสู้และสังหารได้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือสามัญทั่วๆ ไปในการต่อสู้แบบซึ่งๆ หน้า

“ดูเหมือนว่าในอนาคตข้าต้องเรียกผู้อาวุโสอู๋ว่าพี่อู๋แล้ว”

โจวโจวพูดยออู๋ซิน

“ตามประสงค์ของท่านลอร์ดเลยขอรับ”

อู๋ซินหัวเราะอย่างเต็มที่

จากนั้นเขาก็ประสานมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า

“ขอบคุณท่านลอร์ดสำหรับเค้กน้ำผึ้งโลหิตราชวงศ์ ขนมนั่นวิเศษจริงๆ ไม่เพียงแต่มันจะเลิศรส แต่มันยังทำให้ชายชราเช่นข้ากลับคืนสู่วัยหนุ่มได้ด้วย”

อู๋ซินถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์อันหลากหลาย

เดิมทีเขามาที่เมืองตะวันสาดแสงเพื่ออยากจะหาสถานที่สำหรับการปลดเกษียณก็เท่านั้น

เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะได้กลับคืนสู่วัยหนุ่มเช่นนี้

ด้วยความเมตตานี้ เขาย่อมไม่คิดเรื่องการปลดเกษียณอีกต่อไป มิฉะนั้นเขาก็คงจะรู้สึกว่าเขาต้องทำให้ท่านลอร์ดผิดหวังแน่ๆ

โจวโจวพยักหน้าและถามว่า

“พี่อู๋ อาการบาดเจ็บของท่านเป็นยังไงบ้าง?”

ในเมื่ออู๋ซินตกลงแล้ว โจวโจวก็เลยเรียกเขาว่าพี่อู๋ซะเลย

นอกจากนี้มันยังดูแปลกๆ เล็กน้อยที่เขาจะเรียกชายหนุ่มเช่นนี้ว่าผู้อาวุโสอู๋

“มันเริ่มหายดีแล้วขอรับ ข้าน่าจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์หลังจากกินยาทั้งหมดที่หมอเทวะทิ้งไว้ให้ เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าก็จะสามารถสะสมพลังงานเสริมแกร่งตามปกติและเลื่อนระดับได้”

อู๋ซินถอนหายใจออกมา

ก่อนหน้านี้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะสะสมพลังงานเสริมแกร่งเพื่อเลื่อนระดับได้เพราะอาการบาดเจ็บของเขา

แต่ตอนนี้หลังจากที่อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว เขาก็จะสามารถเลื่อนระดับได้อีกครั้ง

โจวโจวพยักหน้ารับ

เขาตั้งความหวัง

ตอนนี้อู๋ซินอยู่ในระดับเพชรขั้นสูงแล้ว เมื่อเขาเลื่อนระดับอีกครั้ง เขาก็จะกลายเป็นผู้กล้าระดับเหนือสามัญ!

กล่าวอีกนับหนึ่ง มันคือพลังรบระดับแนวหน้าของอาณาจักรได้เลย!

เมื่อเวลานั้นมาถึง แม้ว่าอาณาจักรทาฮันจะส่งผู้กล้าระดับเหนือสามัญมา อู๋ซินก็จะสามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้!

“สถานการณ์ในเมืองปฐมอาณาจักรเป็นยังไงบ้าง? อาณาจักรทาฮันได้ส่งกองกำลังมารึยัง?”

“ยังขอรับ”

ไป่หยุนส่ายหัว

“งั้นก็อย่าประมาท เมืองปฐมอาณาจักรเคยเป็นหนึ่งในดินแดนสำคัญของอาณาจักรทาฮัน อาณาจักรทาฮันคงจะไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆ แน่”

โจวโจวกล่าว

“ขอรับ!”

ไป่อี้และอู๋ซินกล่าวด้วยความเคารพ

โจวโจวพยักหน้ารับ

“พวกเจ้าอาจจะเพิ่งกลับมาเลยยังไม่รู้ แต่ผู้อาวุโสเจิ้งได้สร้างประตูชัยเสร็จแล้ว”

เขาหันไปยิ้ม

ดวงตาของทั้งสองเปล่งประกายขึ้นมา

ทั้งสองคนได้ยินเกี่ยวกับประตูชัยจากโจวโจวมานานแล้ว พวกเขารู้เอฟเฟกต์ของประตูชัยและกำลังคิดอยู่เลยว่าเมื่อไหร่มันจะสร้างเสร็จ

สุดท้ายมันก็สร้างเสร็จแล้ว

“นำทหารตามข้าผ่านประตูชัยกันเถอะ!”

โจวโจวพูดด้วยโทนเสียงต่ำ

“ขอรับ!”

ไป่อี้และอู๋ซินเต็มไปด้วยความคาดหวัง จากนั้นพวกเขาก็นำทหารเดินไปตรงหน้าประตูชัยทันที

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองสิ่งปลูกสร้างประจำเผ่าพันธุ์และชื่นชมความยิ่งใหญ่ของมันอยู่ภายในใจ

โจวโจวก็ไม่มีข้อยกเว้น

แม้ว่าเขาจะเคยเห็นมาแล้ว แต่มันก็เป็นตอนกลางคืนและไม่ได้ชัดเจนเช่นนี้

แสงแดดในตอนกลางวันส่องกระทบพื้นผิวของสิ่งปลูกสร้างนี้ ทำให้ประตูชัยดูราวกับเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่เลย

ในฐานะเจ้าเมืองตะวันสาดแสง โจวโจวจึงเป็นคนแรกที่เดินผ่านประตูชัย

น่าเสียดาย บางทีคงเป็นเพราะเขาเพิ่งเลื่อนระดับขึ้นมาถึงระดับทองคำเหลืองขั้นต้นและพลังงานเสริมแกร่งในร่างกายของเขาก็ยังสะสมไม่ถึง 80% เขาจึงไม่กระตุ้นให้เกิดโอกาส 50% ที่จะได้รับพลังงานเสริมแกร่งเพิ่มเติมและเลื่อนระดับทันที

แต่โจวโจวก็ไม่ได้ใส่ใจนัก

เขาหันไปมองทหารกว่า 100,000 คนที่อยู่ด้านหลัง และบอกให้พวกเขาเริ่มเดินผ่านประตูชัย

กำหนดเวลาสำหรับประตูชัยคือหนึ่งเดือน

ซึ่งก็หมายความว่าตราบใดที่เขาและทหารเดินผ่านประตูชัยภายในหนึ่งเดือนหลังจากกลับมาพร้อมกับชัยชนะในการต่อสู้ มันก็จะกระตุ้นเอฟเฟกต์ของสิ่งปลูกสร้างนี้ได้

ถ้าผ่านไปมากกว่า 1 เดือน มันก็จะไม่เกิดผลอะไรอีก

มันเป็นเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เขาพิชิตเมืองปีศาจตะวันออกและดินแดนภูมิภาคแห่งอื่นๆ ได้ ดังนั้นเขาย่อมสามารถกระตุ้นเอฟเฟกต์ของประตูชัยได้

ในไม่ช้า ทหาร 1,000 คนแรกก็เดินมาตรงหน้าของประตูชัยและเดินผ่านมันด้วยความคาดหวังและความประหม่า

ในขณะที่พวกเขาเดินผ่านประตูชัย ออร่าจากร่างของทหารเหล่านี้ก็ปะทุขึ้นมาในทันทีอย่างต่อเนื่อง

ทหารเหล่านี้รู้สึกว่าระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นและพากันดีใจทันที

“ข้าทะลวงระดับขึ้นมาเป็นระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลางแล้ว!”

“ข้าเองก็กลายเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นสูงแล้วด้วย!”

“ข้าทะลวงระดับขึ้นมาเป็นระดับเงินขาวขั้นต้นได้จริงๆ!”

“ข้า… ข้ากลายเป็นระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้นแล้ว!!!”

ทหารจำนวนมากส่งเสียงโห่ร้อง

อย่างไรก็ตาม พวกเขามีวินัยมาก แม้ว่าพวกเขาจะมีความสุขกับความก้าวหน้า แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย พวกเขาเดินผ่านประตูชัยอย่างเชื่อฟังและยืนอย่างเรียบร้อยในระยะไกล รอให้พี่น้องคนอื่นๆ เดินผ่านประตูชัย

ทหารกลุ่มละ 1,000 คนทยอยเดินผ่านประตูชัยพร้อมกับมีทหารเป็นจำนวนมากที่เลื่อนระดับ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทหารทุกคนก็เดินผ่านประตูชัยกันจนครบ

แม้แต่ออกุสต์ มาริส อู๋ซิน และไป่อี้ก็เดินผ่านประตูชัยด้วย

สุดท้ายมันก็มีแค่เนซาริโอ้เท่านั้นที่ยังไม่ได้เดินผ่านประตูชัย

โจวโจวและคนอื่นๆ หันไปมอง

เนซาริโอ้บินผ่านประตูชัยอย่างช้าๆ โดยไม่ลังเล

อึดใจต่อมา คลื่นลมที่มองไม่เห็นก็ปะทุออกมาจากร่างกายของมันและกวาดไปทั่ว

จากนั้นพลังงานธาตุไฟที่พลุ่งพล่านและแผดเผาก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของมัน

ในพริบตา โลกทั้งใบก็ร้อนระอุขึ้นมา

ทุกคนมองเห็นได้รางๆ ว่าดูเหมือนจะมีภาพลวงตาสะท้อนอยู่บนท้องฟ้า

มันคือภาพสะท้อนของเทือกเขาเพลิง

กลางเทือกเขาเพลิงนี้มีภูเขาไฟที่สูงสุดหยั่ง

ลาวาร้อนและเหนียวไหลออกมาจากภายในและภายนอกของภูเขาไฟ เผยให้เห็นลาวาสีแดงเจิดจ้า

ใจกลางของภูเขาไฟนี้ มันมีเนซาริโอ้ที่กำลังอาบอยู่ในลาวา

ในเวลานั้นเอง ความเปลี่ยนแปลงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

สายธารธาตุไฟหลายร้อยสายที่ดูเหมือนแม่น้ำขนาดใหญ่ก่อกำเนิดขึ้นจากความว่างเปล่า

จากนั้นพวกมันก็หลั่งไหลเข้าไปในร่างกายของเนซาริโอ้ราวกับกำลังไหลมารวมกันที่ทะเล

ในระหว่างกระบวนการนี้ ออร่าของเนซาริโอ้ก็ทวีความยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ และร่างกายของมันก็ขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว

200 เมตร… 300 เมตร… 400 เมตร… 500 เมตร…

สุดท้ายร่างกายของเนซาริโอ้ก็ขยายขนาดขึ้นจาก 120 เมตรเป็น 570 เมตรก่อนที่จะหยุดลง!

มันผงกหัวไปข้างหลัง และคำรามขึ้นฟ้าราวกับจะประกาศให้โลกรู้ว่ามันแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง