"ปัง!"
เกิดเสียงดังไปทั่วโบสถ์ใต้ดิน
หลังจากต่อสู้มานานกว่าสิบนาที ในที่สุด หลิน ยู ก็กำจัดสัตว์ประหลาดใต้ดินทั้งหมดในโบสถ์จนเสร็จสิ้น ทำให้ทั้งโบสถ์กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ในเวลาต่อมา
เขาก็นำทหารพืชเข้าไปในโบสถ์ มาแท่นคริสตัลที่ถูกปิดผนึกอยู่ มองดูอย่างระมัดระวัง
เห็นได้ว่ามันมีอายุเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
มันมีหัวกระโหลดที่ใช้จุดเทียนล้อมรอบเป็นวงกลมด้วย
อย่างไรก็ตาม หลิน ยู กล้าที่ก้าวเข้าไปในขอบเขตของพิธีกรรม เพื่อหลักเลี่ยงเรื่องไม่คาดฝัน
เขามองผ่านคริสตัลไปยังเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ หน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏขึ้น
[ชื่อ : อลิสซา ไอร์แลนด์ (ราชัน)]
[เผ่าพันธุ์ : อันเดด]
[ระดับ : ระดับ 8 (ระดับ SSS)]
[ความแข็งแกร่ง : 4500 (+4500)]
[ร่างกาย : 4500 (+4500)]
[ความว่องไว : 4200 (+4200)]
[วิญญาณ : 4800 (+4800)]
[สกิล : คำสาปโลหิต , พายุโลหิต , เนตรแห่งความตาย]
[พลังความโกหาหล : ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 100%]
[หมายเหตุ : ลูกสาวของคนขายเนื้อ ถูกนักบวชในโบสถ์ สังเวยในพิธีกรรมชั่วร้าย เพื่อให้สายเลือดบรรพชนผีดูดเลือดที่แท้จริงให้ตื่นขึ้นและผนึกไว้ในร่างของเด็กสาวตัวน้อย]
หะ?
กลายเป็นว่าเด็กสาวตัวน้อยคนนี้คือมอนสเตอร์
แถมยังเป็นมอนสเตอร์ราชันอีกด้วย?
หลิน ยู ขมวดคิ้วขึ้น
เดิมทีเขานั้นคิดว่ามันเป็นพิธีกรรมต้องห้ามที่เก็บรักษาเด็กสาวตัวน้อยเอาไว้ ข้ามผ่านแม่น้ำแห่งกาลเวลาเพื่อรอให้เธอตื่นขึ้นในวันใดวันหนึ่ง
ตอนนั้นดูเหมือนเขาจะคิดมากเกินไป
เขาไม่คิดว่าคริสตัลนี้ตั้งอยู่ที่นี้มานานแค่ไหนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้คนยังมีชีวิตหลงเหลืออยู่
โชคดีที่มอนสเตอร์ตัวน้อยนี้ยังถูกคริสตัลผนึกเอาไว้อยู่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ไม่อยากนั้น มันคงจะยากเกินไปสำหรับเขาที่จัดการกับมอนสเตอร์ที่มีค่าสถานะที่แข็งแกร่งในพื้นที่ใต้ดินที่แข็งเช่นนี้
ด้วยสกิลทั้งสามที่สามารถมองเห็นได้โดยระบบ
ด้วยค่าสถานะวิญญาณที่เกือบจะถึง 10000 สกิลที่มันปล่อยออกมา ไม่รู้ว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน
มันแข็งแกร่งซะยิ่งกว่าจิตวิญญาณหอกที่เขาเคยเจอภายในหอคอยแห่งบาปก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถรับมือได้ในตอนนี้
แต่ในขณะที่เขากำลังจะหันหลังกลับและจากไป
ทันใดนั้นเขามองเหลือบไปเห็นหีบสมบัติทางคำที่อยู่ด้านหลังวงแหวนค่ายกล
ใช่แล้ว
มันคือหีบสมับติ
อย่างที่เขาเคยเห็นในพื้นที่ก่อนหน้านี้มาก่อน หีบสมบัติที่มีโทเค็นทหารหายากและสมบัติต่างๆจะเหมือนกันทุกประการ
"เป็นไปได้ไหมว่า..."
ดวงตาของ หลิน ยู กลายเป็นสั่นไหวอย่างกระทันหัน จ้องมองไปที่หีบสมบัติที่ไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
หลังจากเฝ้ามองอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ผ่านวงแหวนเข้าไปอย่างระมัดระวังมาถึงหีบสมบัติด้วยความตื่นเต้นก่อนที่จะเปิดมัน
[หีบสมบัติไม่สามารถเปิดได้]
[หีบสมบัติถูกปิดกั้นด้วยพลังบางอย่างต้องใช้บางอย่างในการเปิด]
ไม่สามารถเปิดได้งั้นเหรอ?
หลิน ยู ตกตะลึง
มองไปยังรอบๆหีบสมบัติ มันมีเลือดจางๆ อยู่รอบๆ ค่อยปกป้องหีบสมบัติอยู่
ด้านบนเหนือรูกุญแจนั้น มีช่องกากบาทอยู่ ดูเหมือนจะต้องใช้กุญแจในการเปิด
ด้วยความสงสัย เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังรอบๆ คอยมองหาเบาะแส
แต่ในวินาทีต่อมา เสียงระเบิดก็ดังขึ้น
ในทางเดินใต้ดินที่ห่างไกล จู่ๆ ก็มีเข็มพิษพุ่งเข้ามากระแทกเข้าใส่เขาตริงๆ
"ใครกัน!?"
หลิน ยู หลบเข็มพิษได้อย่างเฉียดฉิว ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังทางเดิน
ทันใดนั้น ก็มีร่างสี่ร่างเดินทางเข้ายังทางเดินใต้ดินพร้อมกับกองกำลังของพวกเขา
"ข้าไม่คิดว่าเลยว่าเจ้าจะหลบมันได้ ปฏิกิริยาตอบสนองไม่เลวเลยนิ"
"ไอ้หนู ส่งหีบสมับตินั้นมาซะแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!"
"ข้าไม่ได้คิดว่าที่นี้จะมีหีบสมบัติอยู่จริงๆซะด้วย ตอนนี้ดูเหมือนข้าจะได้รับโชคครั้งใหญ่ซะแล้ว"
คนเหล่านี้ ตาม หลิน ยู เข้าในทางเดินใต้ดินอย่างเงียบๆ
เดิมทีเขาต้องมองหาโอกาศที่ดีกว่านี้ในการแอบโจมตีหลิน ยู แต่เมื่อพบว่ามีหีบสมบัติอยู่ที่นี้ ในที่สุดพวกเขาก็รอไม่ไม่ไหวอีกต่อไปรีบโจมตีทันที
หลิน ยู มองไปยังคนทั้งสี่ที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้น เขาค่อยๆขมวดคิ้ว
เขาไม่ได้คิดว่าจะมีคนตามเขามาเร็วขนาดนี้
แถมราชันที่เป็นผู้นำกลุ่มยังเป็นระดับ 8 อีกด้วย
ถ้าต้องต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆคงไม่เกิดประโยชน์แม้แต่น้อย
สิ่งที่สำคัญคือที่นี้มีมอนสเตอร์ราชันระดับ SSS ที่น่าหวาดกลัวอยู่ข้างๆ เขา หากเขาทำลายคริสตัลผนึกโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาต้องรีบทิ้งหีบสมบัตินี้และรีบหลบหนีไปในทันที
"ถ้าพวกเจ้าต้องการก็เข้ามาเอาด้วยตัวเอง!"
หลิน ยู ก้าวถอยหลังอย่างเงียบๆ ด้วยท่าทางสงบในขณะเดียวกันก็แอบสังเกตประเภททหารที่อยู่รอบๆของคู่ต่อสู้ โดยวางแผนการต่อสู้เผื่อเอาไว้ด้วย
"ไอ้หนูนี้ ฉลาดเลือกดีนิ!"
"เจ้านี้ทิ้งหีบสมบัติไปได้ง่ายๆเลย ระวังลูกเล่นของมันด้วย"
"เขาคนเดียวจะไป ทำอะไรได้"
"ไปเถอะ รีบไปเอากล่องสมบัติมาเร็ว"
พวกเขาพูดขึ้น ราชันเหล่านั้นเดินเข้าภายใต้การนำของราชันระดับแปด เดินตรงไปยังหีบสมบัติด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ
หลิน ยู ถูกเพิกเฉยอย่างสมบูรณ์
เมื่อความสนใจของพวกเขาไปอยู่ที่หีบสมบัติ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลของเด็กสาวตัวน้อยอย่างระเลียด พวกเขาเดินเข้าไปขอบเขตของวงแหวนค่ายกล
"อย่าเข้าไป!"
สีหน้าของ หลิน ยู เปลี่ยนไป จู่ๆ ก็นึกถึงประโยคสุดท้ายของข้อมูลเด็กสาวตัวน้อย และต้องการที่จะหยุดพวกเขา
แต่มันก็สายเกินไปซะแล้ว
หลังจากราชันทั้งสี่ได้เข้าสู่ขอบเขตของวงแหวน ค่ายกลโลหิตที่เงียบสงบก่อนหน้านี้ก็เปล่งแสงสว่างสีโลหิต ปกคลุมพวกเขาและคริสตัลเอาไว้
มันสว่างไสว้ไปทั่งทั้งโบสถ์ใต้ดินทันที
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ วงแหวนนี้ถึงสว่างขึ้นมา"
"ให้ตายเถอะ เจ้าหนูนั้น เจ้ากล้าหลอกพวกเรา!"
"มีบางอย่างผิดปกติ รีบออกไปจากที่นี้เร็วเข้า"
เหล่าราชันอุทานออกมาครั้งแล้วครั้งเหล่า ต้องการที่จะหลบหนีออกไปจากวงแหวนนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บอกพวกเขากลับ ดันกลายเป็นลำแสงสีโลหิตพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ห่อหุ้มทั้งหมดของวงแหวนเอาไว้
ทันใดนั้น เสียงปะทะเสียงครั้งก็ดังขึ้น
ราชันทั้งสี่หัวกระแทกเข้าไปกับกำแพง กระลอยออกไปด้วยแรงระเบิด ล้มลงราวกับของเหลว
"บูม!!"
การระเบิดขึ้น ลำแสงสีแดงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่าสมบูรณ์ ทำให้ทางเดินใต้ดินทั้งหมดถึงกับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ในชั่วพริบตา เดียว พื้นดินแตกออกหินร่วงหล่นลงมา
มันเหมือนกับหายนะกำลังมาเยือน
สิ่งนี้ตามมาคือเสียงกรีดร้องโหยหวนของราชันทั้งสี่ที่ดังก้องอยูู่ในหูของเขา
หลิน ยู มองเข้าไปยังวงแหวนเวทย์ด้วยความสยอง เขาพบว่าราชันทั้งสี่ถูกมัดด้วยลำแสงสีแดงลอยอยู่นอากาศ
ร่างกายของหาลงอย่างบ้าคลั่งด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า กลายเป็นมัมมี่สี่ตัวในชั่วพริบตาเดียว แม้แต่ราชันระดับ 8 ก็ไม่รอด
เลือดที่ไหลออกมากลายเป้นกระแสโลหิตสี่สายไหล่เข้าสู่คริสตัลซึ่งถูกดูดเข้าไปในร่างของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
ดวงที่ปิดสนิทเหล่านั้นค่อยๆเปิดออกในวันนี้ เลือดไหลลิ้นออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หนี!!!
นี้คือความคิดเดียวของ หลิน ยู ในตอนนี้
ก่อนที่เขาจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็รีบออกจากโบสถ์ใต้ดินไปพร้อมกับทหารพืชหนีไปยังทางเดินใต้ดินด้านนอก
เมื่อปราศจากสิ่งกีดขว้างอย่างเหล่ามอนสเตอร์ เขาก็หลบหนีออกมาจากด้านนอกได้
จนกระทั่งเขาออกมาจากโบสถ์ได้ในที่สุด เขาก็มองย้อนกลับไป
อย่างก็ตาม ด้านหลังของเขาในตอนนี้โบสถ์อยู่ที่ไหนกัน
กำแพงที่เน่าเฟะ เช่นเดียวกับประตูและหน้าต่างที่พังทลาย ล้วนกลายเป็นเถ้าถ่านที่ลอยออกไปด้วยการสั่นสะเทือนที่รุนแรง มันกลายเป็นแสงสว่างเรืองรอง
ในเวลาเดียวกันเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในหัวของ หลิน ยู
[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้เปิดใช้งานอาณาจักรลับที่ซ่อนอยู่ได้สำเร็จ : งานฉลองโลหิต]
[อาณาจักรลับแห่งนี้ เป็นพื้นที่อิสระ ท่านสามารถออกไปได้หลังจากสังหารมอนสเตอร์ระดับบอสเท่านั้น]
อั่ก!
หลิน ยู แทบจะกระอักเลือดออกเต็มปาก
ขอแสดงความยินดีด้วยงั้นหรอ
เขาไม่ได้ต้องการแบบนี้ โชคร้ายจริงๆ
เมื่อมองไปยังรอบๆ มันก็เป็นไปตามที่เสียงแจ้งเตือนบอก ลานทั้งหมดของโบสถ์ถูกปกคลุมด้วยม่านแสงสีโลหิต แม้แต่ภูเขาด้านหลังก็หายไป
บ้าจริง มันเป็นกับดับล่อเหยื่อมาสังหารชัดๆ
เป็นไปได้ไหมว่าคนที่สร้างค่ายกลนี้ขึ้นนึกถึงภาพแบบนี้อยู่แล้ว
เขาไม่กล้าที่รีรออีกต่อไป
โชคดีว่าแม้ว่าพื้นที่นี้จะถูกปิดกั้น แต่เขาก็ยังสามารถติดต่อกับดินแดนได้อยู่ เรียกทหารพืชทั้งหมดออกมาในทันที
แต่แล้วในขณะนั้นเอง
ทันใดนั้นก็มีเสียงปังขึ้นที่บริเวณโบสถ์ มันพลังทลายลงทั้งหมด
ร่างกายล้อมรอบด้วยลำแสงสีโลหิตก็ลอยขึ้นอย่างช้าๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
มันคือมอนสเตอร์ระดับราชันที่ถูกผนึกไว้ในค่ายกล
"ตายย ตายยย ตายยย ตายยยย!!!"
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมา แยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชายจากปากของสาวน้อย
ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวราวกับคนบ้า ดวงตาของเธอมองไปยังทิศทางที่ หลิน ยู อยู่ เลือดในร่างกายของเขาก็พลุ่นพร่าน
ทันใดนั้นเอง
นัตย์ตาชั่วร้ายขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ระเบิดลำแสงประหลาดสลัวๆขนาดใหญ่ปกคลุมกองทัพพืชทั้งหมดในทันที
หลิน ยู หน้าซีดด้วยความตกใจ รู้สึกว่าพลังชีวิตของเขากองทัพพืชทั้งหมดกำลังลดลงอย่างรวดเร็จ พวกมันค่อยๆ เฉื่อยชาลง
เนตรแห่งความตาย!
มันใช้สกิลที่สามทันที่มีมันเคลื่อนไหว
โดยไม่ลังเล เหล่าเอลฟ์ผู้ส่งสาสน์ที่อยู่ในกองกำลังยกไม้เท้าขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ระเบิดพลังธรรมชาติออกมารีบฟื้นฟูพลังชีวิต
ในเวลาเดียวกัน วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพก็ทำงาน โล่โปร่งแสงค่อยๆปรากฏขึ้นทหารพืชทั้งหมด มันช่วยลดความเสียหายได้ถึง 30%
แต่ถึงอย่างนั้น ความมีชีวิตชีวาของทหารก็ยังคงหายไป
สกิลของมอนสเตอร์ราชันนั้นน่ากลัวจริงๆ
"เร็วเขา! ขัดจังหวะเอาไว้"
หลิน ยู หันกลับมาและตะโกนไปยังปราชญ์แห่งพงไพร
ในวินาทีต่อมา พลังที่มองไม่เห็นซึ่งจุดศูนย์กลางอยู่ที่พลังปราชญ์แห่งพงไพรกระจายออกไปยังรอบๆ
เมื่อพลังแผ่ออกไปถึงมอนเตอร์ราชันที่อยู่ในอากาศ ทำให้มันถูกห่อหุ้มด้วยพลังนี้ สกิลของมันก็ถูกสลายไปในทันที
เนตรแห่งความตายที่อยู่ในอากาศก็หายไปเช่นกัน
"ไป! สังหาร"
ทันทีที่ผลกระทบของอาณาจักรแห่งสันติถูกยกเลิก หลิน ยู ก็ออกคำสั่งทันที
ชิง ถัง ที่อยู่ในกลุ่มก็คำรามออกมา ออร่าสีแดงประทะออกมาจากทหารพืชทั้งหมดล้อมรอบด้วยมอนสเตอร์ราชัน การโจมตีที่สูงเสียดฟ้าพุ่งไปยังด้านบนท้องฟ้า
ในเวลานี้ หลิน ยู ถูกขังอยู่ในอาณาจักรลับ เขาสามารถออกไปได้ด้วยการสังหารมอนสเตอร์ราชันเพียงเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เพียงต่อสู้
"เป่าปิง"
เมื่อเห็นมอนสเตอร์ราชันยกมือขึ้นอีกครั้ง เขาก็มองไปยังเป๋าปิงที่กำลังรวบรวมเปลวไฟจำนวนมากล้อมรอบตัวเขาทันที
แต่ได้ยินเสียงดังโครมคราม
กระสุนถั่วที่ห้อมล้อมด้วยเปลวเพลิงมังกรทลายล้างกลายเป็นสำแสงพุ่งตรงไปยังมอนสเตอร์บอสที่อยู่ในอากาศ
ภายในบัพจากเสียงคำรามแหงโทสะ พลังของการโจมตีของเป่าปิง สามารถอธิบายได้ว่ามันทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ราวกับว่าพื้นที่อาณาจักรลับทั้งหมดถูกฉีกกระชาก
"ปัง!"
เลือดสาดกระจายไปในละอองไปในอากาศ
ร่างของ หญิงสาวตัวน้อย กระเด็นออกไปโดยตรงจากแรงกระแทกอันทรงพลังนี้ ร่างกายครึ่งหนึ่งของเธอก็ปริวไปในทันที
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ หลิน ยู คิดไม่ถึงก็คือ มันยังไม่มีเสียงแจ้งเตือนการสังหารภายในของพวกเขา
ตรงกันข้ามพลังงานโลหิตที่ไหลอยู่ในโบสถ์ก็ได้กลับมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ร่างเด็กสาวตัวน้อยกลับสู่สภาพเดินในพริบตา
เมื่อเอื้อมมือออกไป ต้นไม้กว่าสิบตัวที่อยู่ข้างหน้าแหลกสลายออกไปทีละตัวกลายเป้นแอ่งน้ำสีเขียว
การโจมตีของทหารพืชชนิดอื่นก็เหมือนกัน พวกมันบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
"นี้ๆ...."
เมื่อมองไปยังเด็กสาวตัวเล็กที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ หลิน ก็เต็มไปด้วยความตกใจ
เขาเคยคิดว่ามอนสเตอร์ราชันตัวนี้จะแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่คิดว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดนี้
นี้คือสิ่งที่ข้อมูลกล่าวนำเอาไว้ ความน่ากลัวของการปลุกสายเลือดบรรพชนผีดูดเลือดที่แท้จริง?
ตราบใดที่ยังมีพลังสายเลือดนี้อยู่ มันก็ไม่มีทางที่จะถูกสังหารลงได้ ราวกับเป็นอมตะ
นี้หน่ะหรอความสามารถของสายเลือดบรรพชนผีดูเลือดที่แท้จริง!?
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved