ตอนที่ 111 - บทที่ 111 แผนการและการซื้อธนู

บทที่ 111 แผนการและการซื้อธนู

หยางมู่ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าน้องชายของเขาจะไม่โกหกเขา แต่เขาก็ยังคงต้องทำให้คนที่มาร่วมงานกับพวกเขามั่นใจในความถูกต้องของข้อมูล

“เสี่ยวฉุนไม่ต้องจริงจังขนาดนั้น มา..มาดื่มไวน์สักแก้วให้ใจเย็นๆลงก่อน”

ชายที่อยู่ข้างๆ เขาเทไวน์ใส่แก้วแล้วยื่นให้ด้วยรอยยิ้ม

หยางเสี่ยวฉุนปาดเหงื่อจากหน้าผาก หยิบแก้วไวน์มาจิบแล้วมองไปที่หยาง มู่ แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า "พี่ชาย เราจะลงมือกันเมื่อไร? บ่ายวันนี้เลยงั้นหรือ?"

หยางมู่พยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า

“ถ้าให้พูดให้ถูกต้องจริงๆคือคืนนี้”

"ใช่แล้วล่ะ"

ลู่หยางเหล่ตาแล้วพูดว่า "เสี่ยวฉุน ผู้ชายคนนั้นก็เห็นเจ้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นหลังจากกลับไปเขาก็ต้องเตรียมพร้อมอย่างมาก ถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไปวัน หากพวกเขาหามือปืนมาและพวกเขาสามารถมองเห็นพวกเราได้อย่างง่ายดายด้วยกล้องส่องทางไกล จากนั้นก็โจมตีพวกเราจากระยะไกลสถานการณ์ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย”

"ใช่"

ชายผู้ที่ยื่นไวน์ให้กับหยางเสี่ยวฉุนขมวดคิ้วและพูดว่า "อีกอย่างการยิงธนูของผู้ชายคนนั้นแม่นยำเกินไป ถ้าเราต่อสู้กันจากระยะไกล เราอาจไม่สามารถทำอะไรเขาได้ มันจะดีกว่ามากถ้าเรามีไรเฟิลซุ่มยิง”

"แต่ปืนไรเฟิลซุ่มยิงมันมีราคาแพงเกินไป"

อีกคนก็พูดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า "ปืนไรเฟิลที่แย่กว่านั้นอย่างน้อยๆก็มีราคาหลายหมื่นหยวน และอันที่ดีกว่านั้นก็มีเป็นแสนหยวน ถ้าเรามีเงินมากมายขนาดนั้นเราคงไม่ต้องไปปล้นจากพวกเขา และคงจะไปล่าสัตว์อสูรระดับกลางดีกว่า"

“นั่นคือเหตุผลที่พวกเราต้องใช้ประโยชน์จากความมืดเพื่อลงมือ”

หยางมู่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "แม้ว่าพวกเขาจะมีแว่นตามองกลางคืน แต่พวกเขาก็มองเห็นได้ชัดเจนที่ขีดจำกัด 200 หรือ 300 เมตรในตอนกลางคืนเท่านั้น แต่เมื่อสถานการณ์รีบเร่งคนๆ นั้นก็จะไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะสามารถแจ้งให้ผู้อื่นทราบ แต่พวกเราก็ได้ปีนข้ามกำแพงเข้าไปแล้ว และหลังจากนั้นก็เป็นการฆ่าที่สนุกสนานมากแล้ว”

"ใช่แล้วล่ะ"

พวกเขาพากันยิ้มออกมาและพยักหน้า โดยมีความโลภในดวงตาของทุกคน

วัวป่ายี่สิบตัว มากกว่าหนึ่งแสนหยวนเชียวนะ

แม้ว่าพี่น้องแซ่หยางจะได้รับมากหน่อย แต่พวกทั้งสี่คนก็สามารถได้รับมากกว่าคนล่ะ 10,000 หยวน

แค่คืนเดียวก็ได้รับ 10,000 หยวน มีทางไหนได้เงินเร็วกว่านี้มั้ย?

แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องทำเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นเมื่อเรื่องแดงออกมาและพวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกต่อไป ไม่ต้องพูดถึงการตักน้ำจากตะกร้าไม้ไผ่ร่วง

ที่ด้านบนสุดของบันได เฉินฟานเหงื่อซึมออกข้างหลังและความเย็นยะเยือกไหลขึ้นจากฝ่าเท้าขึ้นไปศีรษะของเขา

เขาถึงว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเฉยเมยเมื่อเห็นส่องกล้อมเห็นเขาอย่างชัดเจน

เป็นไปได้ไหมว่าในโลกนี้เต็มไปด้วยการวางกลอุบายมากมายจริงๆ?

ปรากฎว่าเขามองโลกในแง่ดีมากเกินไป

ที่อีกฝ่ายไม่ตามไปไม่ใช่เพราะเขามีจิตใจดี แต่เป็นเพราะเขากำลังวางแผนสมรู้ร่วมคิดและรอเวลาในการลงมือกับพวกเขา

ลองจินตนาการดู ถ้าคนเหล่านี้บุกเข้าไปในหมู่บ้านของเขาคืนนี้ จะเกิดผลร้ายแรงอะไรตามมา

แม้ว่าเมื่อมีเขาและจางเหรินอยู่รอบๆ และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะฆ่าพวกนี้จนหมดในตอนสุดท้าย แต่ผู้คนจำนวนมากในหมู่บ้านจะต้องตายอย่างแน่นอน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากไม่มียารักษาโรค หากคนธรรมดาถูกยิงหรือถูกทำร้ายสาหัสแม้ว่าเขาจะไม่ตายในที่เกิดเหตุเขาก็จะอยู่ได้ไม่นาน

ตอนนี้สถานการณ์ของหมู่บ้านกำลังดีขึ้นเล็กน้อย และทุกคนเต็มไปด้วยความหวังสำหรับอนาคต แต่จู่ๆพวกเขาเหล่านี้ก็ปรากฏตัวขึ้นและทำลายทุกอย่าง

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เฉินฟานก็กำหมัดแน่น และหน้าอกของเขาก็ร้อนผ่าวด้วยความโกรธ เขามีความปรารถนาที่จะวิ่งเข้าไปสังหารคนเหล่านี้จนตายเสียเดี๋ยวนี้

แต่การทำเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้

เนื่องจากคนเหล่านี้รู้จุดแข็งของตนเองแล้ว พวกเขาจึงยังกล้าทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองไม่มากก็น้อย

และการป้องกันของขอบเขตการชำระล้างร่างกายขั้นที่ 3 ไม่สามารถมองข้ามได้ ถึงแม้เขาจะอยู่ในขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อก็ตาม

และแม้ว่าเทคนิคการใช้หอกของเขาจะอยู่ในระดับสูง แต่อย่างแรกมีผู้คนมากมายอยู่ข้างบนนี้ และอย่างที่สองภูมิประเทศแคบเกินไป หากมีการต่อสู้เกิดขึ้นจริง จะมีคนกระโดดออกจากประตูหรือหน้าต่างไปแจ้งเจ้าหน้าที่ในป้อมอย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นเขาอาจจะสามารถออกจากอาคารนี้ได้ แต่เกรงว่าจะไม่สามารถออกจากป้อมปราการนี้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการต่อสู้ระยะประชิดแล้ว เขาเก่งธนูมากกว่า

หากมีมากกว่า 20 คนพร้อมปืนไรเฟิลซุ่มยิงและปืนกลหนัก เขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

แต่ถ้าพวกเขามีเพียงไม่กี่คนถึงแม้จะมีปืนไรเฟิล แต่เขาก็มั่นใจโดยการใช้ข้อได้เปรียบจากระยะไกลเพื่อหลีกเลี่ยงกระสุนและการยิงของคู่ต่อสู้

แน่นอนว่าต้องมีเงื่อนไขพื้นฐานสองประการถึงจะทำได้

ประการแรกคือการเปลี่ยนคันธนูที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อพลังโจมตีที่มากขึ้นและระยะที่ไกลขึ้น

ประการที่สองคือการเพิ่มค่าสถานะความคล่องตัว ยิ่งสูงก็ยิ่งดี

จากนั้นบทสนทนาในห้องยังคงดำเนินต่อไป และก็มีเสียงหัวเราะระเบิดออกมาเป็นครั้งคราว

เฉินฟานกลั้นหายใจ แล้วหันหลังเดินเบาๆลงไปชั้นล่าง

มันไม่มีประโยชน์ที่จะฟังมันอีกต่อไป หากมีอะไรผิดพลาดก็ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกค้นพบ ดังนั้นจึงเป็นผลสูญเสียมากกว่าจะได้รับอะไร

เมื่อลงไปชั้นล่างแล้วเดินไปตามตรอก เฉินฟานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เพื่อความสมจริง เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

"วันนี้มาไม่เสียเปล่าจริงๆ"

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

ความกลัวมาจากความไม่รู้ แต่ที่จริงแล้วเมื่อเจ้าเข้าใจรู้จักอันตรายหรือภัยพิบัติจริงๆ เจ้าก็จะไม่กลัวมากนัก

“ไปซื้อธนูก่อน แล้วซื้อข้าวโลหิตเพื่อนำกลับไป ไม้เท้าของลุงจางก็ควรทำเช่นกัน เมื่อเขามีไม้เท้าที่ดีฝีเท้าและความคล่องตัวของเขาก็จะได้รับการปรับปรุงเช่นกัน”

เขาเดินไปที่คลังอาวุธ และมีผู้หญิงแต่งตัวดีเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่คนเมื่อวาน

โชคดีที่มันไม่สำคัญ

เขาพูดในสิ่งที่ต้องการและในทันใดนั้น ดวงตาของหญิงสาวก็เบิกกว้างและร่างกายของเธอก็สั่นสะท้าน

คันธนูที่มีแรงน้าว 500 ปอนด์งั้นเหรอ? นั้นมันราคาสองพันหยวน!

นี่คือลูกค้ารายใหญ่!

เธอรีบพาเฉินฟานเข้าไป และหยิบธนูยาวที่สูงเท่ากับผู้ชายจากผนังลงมา มันยากนิดหน่อย แต่เธอก็สามารถนำมันให้เขาจนได้

เฉินฟานรับมันด้วยมือเดียวแล้วมองไปที่ธนูยาว

ตัวคันธนูมีสีดำราวกับหมึก สลักด้วยลวดลายที่เรียบง่ายแต่สวยงามและมีกลิ่นอายของความลึกลับ สายธนูมีความเหนียวแน่น และมันหนาเกือบสองเท่าของสายธนู 300 ปอดน์ในหมู่บ้านเขา

“นายท่าน ตัวคันธนูนี้ทำจากโลหะผสมซึ่งมีความแข็งแรงอย่างมาก สายธนูทำจากโลหะและวัสดุไฟเบอร์ซึ่งมีความเหนียวมากเช่นกัน หลังจากท่านซื้อไปหากมีปัญหาใด ๆ เราจะรับประกันและมีการชดเชยให้

อย่างไรก็ตามถ้าท่านซื้อตอนนี้ เราจะให้ลูกธนูเพิ่มอีก 10 ลูกแก่ท่าน"

ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม

คันธนู 500 ปอนด์แขวนอยู่ที่นี่มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ช่วงนี้มีคนเข้ามาดูเยอะมาก สุดท้ายก็เป็นเพียงการมองดูเท่านั้น

นักรบในป้อมแห่งนี้ล้วนคุ้นเคยกับการใช้อาวุธปืนและธนู แต่การฝึกฝนธนูให้เชี่ยวชาญนั้นยากและลำบากกว่ามาก

“ลูกธนู 10 ดอก?”

เฉินฟานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

"ใช่ค่ะ…"

ผู้หญิงคนนั้นพูดตะกุกตะกัก "เอ่อ..ถ้าท่านคิดว่ามันไม่เพียงพอ ข้าสามารถให้ท่านเพิ่มอีก 10 ดอก นี่คือสิ่งที่ฉันให้ได้มากที่สุดแล้ว"

เฉินฟานพยักหน้า และถามอย่างรู้เท่าทัน "ธนูคันนี้ราคาเท่าไหร่?"

"2,000 หยวน"

ผู้หญิงคนนั้นกลัวว่าเฉินฟานจะพบว่ามันแพง เธอจึงอธิบายว่า "นายท่าน คันธนูนี้มักจะขายในราคา 2,200, 2300 ท่านมาครั้งนี้อยู่ในช่วงลดราคาพอดี และท่านสามารถซื้อได้ในราคา 2,000 หยวน ถ้าท่านพลาดโอกาสนี้ราคาจะเพิ่มขึ้นในครั้งต่อไปและกลับมาเป็นราคาเดิม"

"อย่างนั้นหรือ?"

เฉินฟานรู้สึกขบขัน

แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดด้วยหน้าตาอย่างใสขนาดไหน เขาก็คงไม่เชื่อสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูดอยู่ดี

คนซื่อสัตย์จะทำธุรกิจได้อย่างไร? พวกคนซื่อสัตย์สามารถทำธุรกิจได้งั้นหรือ ทำไม่ได้หรอก!

“เจ้ามีคันธนูที่มีแรงน้าวมากกว่านี้ในร้านของเจ้าหรือไม่?”

เขาถามอย่างไม่เป็นทางการ

จ้าวต้าจากจ้าวเจียเป่าได้ยินว่าเขาสามารถน้าวธนู 500 ปอนด์ได้ และหลังจากผ่านเวลามานานขนาดนี้ ความแข็งแกร่งของเขาอาจเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ด้วยธนูนี้ เขายังไม่มีความมั่นใจเพียงพอที่จะเอาชนะเขาได้

ผู้หญิงคนนั้นสะดุ้งและมองเฉินฟานอย่างว่างเปล่า ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า "ตอนนี้ไม่มีในร้าน แต่ถ้าท่านยินดีจ่ายเงินมัดจำเพื่อสั่งซื้อ แม้ว่าจะเป็นธนูที่มีแรงน้าว 1,000 ปอนด์เราก็สามารถหามาได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาสักพัก”

"ให้ข้าคิดดูก่อน"

เฉินฟานพยักหน้า

ป้อมซ่งเจียเป่าแห่งนี้มักจะซื้อสินค้าจากเมืองอันชานซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์ แล้วขายให้กับเขาด้วยเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย

ในกรณีนี้เขาอาจจะสามารถไปซื้อมันเองได้เช่นกัน

เพราะอย่างไรก็ตามตอนนี้เขามีสัตว์พาหนะแล้ว เขาสามารถเดินทางไปกลับได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน

"ตกลงท่านจะเอาอันนี้ใช่ไหม?"

ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่ธนูในมือของเฉินฟานแล้วเลียริมฝีปากของเธอ

สำหรับนายท่านที่อยู่ตรงหน้าเธอ ไม่สำคัญว่าเขาจะจ่ายเงินมัดจำเพื่อซื้อธนูที่ทรงพลังกว่านี้หรือไม่ ตราบใดที่เขาซื้อคันธนูที่อยู่ในมือเขาก็เพียงพอแล้ว

“ถ้าข้าซื้อสองคัน เจ้าช่วยแถมลูกธนูเจาะเกราะหนึ่ง..ไม่สิ..สองลูกให้ข้าหน่อยได้ไหม?”

เฉินฟานคิดสักพักแล้วถามขึ้น

ในเมื่อเขามาแล้ว เขาก็จะซื้อไปสองอันเลยก็แล้วกัน

และแม้ว่ามันจะสองคัน แต่มันก็เพียง 4,000 หยวนเท่านั้น และเขามีมากกว่า 10,000 หยวน

สำหรับเหตุผลที่เขาซื้อสองคัน เขายอมคิดจะมอบให้กับจางเหรินเป็นธรรมดา

“ส..สองคันงั้นหรือ?”

ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึง

คนรอบข้างบางคนก็มองด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

บุคคลนี้มีภูมิหลังอย่างไร? เขาเป็นรวยและมีอำนาจงั้นเหรอ?

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของผู้ที่สามารถซื้อคันธนูที่แข็งแกร่ง 500 ปอนด์ได้นั้นไม่สามารถประมาทได้

หลายคนสำลักความคิดที่ไม่ดีออกไปทันทีที่พวกมันเข้ามาในใจ

"อืม สองคัน"

เฉินฟานจ้องมองเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบ