ตอนที่ 309 : รางวัลของเทพเจ้าแห่งความตาย

วิหารยังคงเงียบอยู่นาน

สีหน้าของโจวโจวไม่ได้เปลี่ยนไปในขณะที่เขารอต่อไปอย่างเงียบๆ

ในเวลานั้นเอง เสียงทุ้มลึกที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในใจของโจวโจว

“ไม่เลวเลย คริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์อันที่สอง และโชคชะตาที่อยู่ภายในนั้นก็บริสุทธิ์มากจริงๆ มันนานมากแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์คุณภาพดีขนาดนี้”

เทพแห่งความตายทานาทอสถอนหายใจออกมา

“ด้วยความยินดีขอรับท่านเทพแห่งความตาย ข้าดีใจมากที่ท่านพึงพอใจกับคริสตัลเทวะศรัทธาของข้า”

โจวโจวกล่าวด้วยความเคารพ

“ดีมาก เจ้าอยากจะได้รางวัลอะไร?”

ทานาทอสกล่าว

สีหน้าของโจวโจวไม่ได้เปลี่ยนแปลง

เขาประหลาดใจเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้เมื่อเขามอบคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์ให้กับอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็ไม่ได้สื่อสารกับเขาแบบนี้เลย อีกฝ่ายแค่โยนคัมภีร์ต้านมรณะมาให้กับเขาและจากไป

เขาไม่คิดเลยว่าคราวนี้อีกฝ่ายจะยอมคุยกับเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจได้จริงๆ ที่มอบคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์ให้กับอีกฝ่ายไปถึงสองอัน

“ข้าอยากได้คัมภีร์ต้านมรณะอีกอันขอรับ”

เขาหยุดคิดและพูดในสิ่งที่เขาต้องการ

“ง่ายมาก”

เทพแห่งความตายทานาทอสพูดเบาๆ

จากนั้นคัมภีร์สีดำที่มีร่างของทานาทอสสลักเอาไว้ก็ปรากฏขึ้นบนแท่นบูชา

มันคือคัมภีร์ต้านมรณะ!

“ข้าจะมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเจ้าอีกอันละกัน”

หลังจากเทพแห่งความตายทานาทอสพูดจบ แสงสีดำสองจุดก็สว่างวาบขึ้นในดวงตาของรูปปั้นเทพแห่งความตาย

จากนั้นพวกมันก็กลายเป็นลำแสงสีดำสองสายและพุ่งออกไป โดยพุ่งตรงไปยังดวงวิญญาณของยมทูตมาริสที่อยู่นอกวิหาร

มาริสตัวแข็งทื่อ

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

เมื่อเวลาผ่านไป ออร่าบนร่างกายของมันก็ยิ่งทวีความเร้นลับและสง่างามมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เคียวยมทูตในมือของมันยังเปล่งแสงสีดำสนิทออกมาด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน ออร่าของมาริสก็ค่อยๆ หายไป และลำแสงจากเคียวยมทูตของมันก็ถูกดึงกลับมาด้วย

“ขอบคุณสำหรับของขวัญขอรับฝ่าบาท”

มันคุกเข่าให้กับเทพแห่งความตายทานาทอสทันที

“ไปขอบคุณลอร์ดของเจ้าเถอะ”

ทานาทอสพูดอย่างใจเย็น

จากนั้นเขาก็พูดกับโจวโจว

“ลอร์ดตัวน้อยภายใต้เจตจำนงสูงสุด ความจริงที่ว่าเจ้ามีสมาชิกกองทัพยมทูตของข้าอยู่ภายใต้เจ้านั้นก็หมายความว่ามันยังมีโชคชะตาระหว่างเราอยู่บ้าง เจ้ายินดีที่จะศรัทธาในตัวข้าและกลายเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์เทพแห่งความตายของข้าหรือไม่?”

“ตราบใดที่เจ้ายอมเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์เทพแห่งความตาย เจ้าก็จะสามารถระดมทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วนจากโบสถ์เทพแห่งความตายทั้งหลายบนทวีปจื้อเกาและกระทั่งในโลกสรรพเผ่าพันธุ์ได้”

“เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าก็จะมีโอกาสจริงๆ ที่จะประชันกับลอร์ดชั้นสูงของเผ่าพันธุ์อื่นๆ ได้ เจ้าอาจจะสามารถต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งเจ้าแห่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์มาเลยก็ได้ เพราะยังไงเจ้าก็เป็นแค่มนุษย์ รากฐานของอารยธรรมเผ่าพันธุ์ยังตื้นเขินเกินไปเมื่อเทียบกับลอร์ดชั้นยอดจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ”

“ข้ามั่นใจว่าเจ้ารู้สึกได้ในความแตกต่างในช่วงเวลานี้ ถ้าเจ้ายินดีที่จะศรัทธาในตัวข้าและกลายเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของข้า เจ้าก็จะไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องรากฐานอีก”

เทพแห่งความตายทานาทอสกล่าว

โจวโจวอดเงียบไปไม่ได้

เขาไม่คิดเลยว่าเทพแห่งความตายจะยื่นเงื่อนไขเช่นนี้ออกมา

เขาแค่อยากมาแลกคัมภีร์ต้านมรณะ โอเคไหม?

อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องบอกว่าเงื่อนไขที่ตัวตนระดับเทพอาวุโสผู้นี้เสนอมานั้นก็ทำให้เขารู้สึกสนใจมาก

ในแง่ของรากฐานของอารยธรรมเผ่าพันธุ์ เขาด้อยกว่าเผ่าพันธุ์เหล่านั้นที่พัฒนามานับหมื่นปี นับแสนปี นับล้านปี หรือนานกว่านั้น

เผ่าพันธุ์ชั้นยอดเหล่านั้นสามารถทำสงครามระหว่างดวงดาวอยู่บนท้องฟ้าได้แล้ว

ก่อนที่เขาจะมายังทวีปจื้อเกา ดาวเคราะห์สีน้ำเงินก็ไม่แม้แต่จะสามารถอพยพไปยังดาวเคราะห์นอกโลกเพื่ออยู่อาศัยได้ด้วยซ้ำ

ความแตกต่างเป็นเรื่องธรรมดา

เขาเงียบอยู่นานก่อนที่จะพูดออกมาในที่สุด

“ความศรัทธาไม่อาจเปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืน มิฉะนั้นมันก็คงจะเป็นศรัทธาที่หลอกลวง นั่นจะเป็นการดูหมิ่นท่านได้ ท่านเทพขอให้ข้าได้พิจารณามันอย่างจริงจังด้วยเถอะ”

โจวโจวกล่าว

ของทุกชิ้นย่อมมีราคา เขาไม่เชื่อว่าของดีๆ เช่นนั้นจะได้มาเปล่าๆ

นอกจากนี้โจวโจวยังไม่อยากเป็นผู้ศรัทธาในจิตวิญญาณเทพเจ้าตนไหนในเวลานี้

เพราะเขายังอยากที่จะเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าเอง

ดังนั้นมันคงจะดีกว่าที่จะไม่กลายเป็นผู้ศรัทธาในเทพแห่งความตายผู้นี้

“ก็ได้ งั้นก็อย่าเพิ่งคุยกันเรื่องศรัทธาในตอนนี้เลย แต่จงจำไว้ว่าถ้ามีคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตศรัทธาหรือระดับจิตบริสุทธิ์อีกก็ให้นำมาให้ข้า”

เทพแห่งความตายทานาทอสกล่าว

“ขอรับ!”

โจวโจวพยักหน้าอย่างจริงจัง

เขาอาจจะไม่มีคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์อีก แต่เขาก็ยังมีคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตศรัทธาอยู่เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เขาก็เพิ่งมอบคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์ให้กับอีกฝ่าย ถ้าเขาหันกลับไปและบอกว่าเขายังมีคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตศรัทธาอีก มันก็คงจะดูเหมือนว่าเขาปกปิดมันเอาไว้

เขาจะมอบมันให้กับอีกฝ่ายในครั้งต่อไปถ้าเขาต้องการ

เทพแห่งความตายทานาทอสพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก

ครู่ต่อมา หลังจากยืนยันแล้วว่าเจตจำนงของทานาทอสได้จากไปแล้ว โจวโจวก็เดินไปข้างหน้าและเก็บคัมภีร์ต้านมรณะบนแท่นบูชามา

จากนั้นเขาก็ก้มหัวให้กับเทพแห่งความตายและเดินออกมาจากวิหารมาหามาริส

“คาราวะท่านลอร์ด”

มาริสกล่าวด้วยความเคารพ

“เจ้ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”

โจวโจวถาม

“ฝ่าบาทเทพแห่งความตายได้อัพเกรดศักยภาพของข้าจากระดับทองคำเหลืองขั้นสูงให้เป็นระดับเพชรขั้นสูง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรขอรับ”

มาริสกล่าว

ดวงตาของโจวโจวเปล่งประกายขึ้นมา

การอัพเกรดขึ้นมาเป็นระดับเพชรขั้นสูงนั้นดูเหมือนจะไม่มาก เนื่องจากยอดฝีมือหลายคนที่เขามีก็ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพระดับเหนือสามัญ ระดับมหากาพย์ และกระทั่งระดับตำนาน และระดับเทวะกันแล้ว

อย่างไรก็ตาม มาริสก็เป็นทหารระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์!

ตราบใดที่มันแข็งแกร่งขึ้น มันก็จะสามารถสังหารยอดฝีมือในระดับเดียวกันได้ในทันที!

นี่เป็นเพราะมาริสมีวิธีการสังหารวิญญาณ ดังนั้นประสิทธิภาพในการสังหารศัตรูบนสมรภูมิของมันจึงสูงมาก!

โจวโจวได้รับยายกระดับศักยภาพระดับเหนือสามัญมานานแล้ว และอยากจะเลื่อนระดับศักยภาพของอีกฝ่ายมานานแล้วด้วย

แต่สุดท้ายมันก็แจ้งเตือนเขาว่าวิญญาณของมาริสและประเภทของทหารของมาริสนั้นพิเศษ ดังนั้นยายกระดับศักยภาพจึงไม่สามารถเพิ่มระดับศักยภาพของเขาได้เลย

ด้วยเหตุผลข้อนี้ โจวโจวจึงได้ถามเจตจำนงสูงสุดว่าต้องทำยังไง แต่เจตจำนงสูงสุดก็ไม่ได้บอกใบ้ใดๆ แก่เขา

เขาไม่คาดคิดเลยว่าการนำคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์มามอบให้กับเทพแห่งความตายจะทำให้เขาประหลาดใจได้เช่นนี้

โจวโจวพยักหน้ารับ

เขาพึงพอใจมากกับผลกำไรของเขาในครั้งนี้

เขาไม่ได้รั้งอยู่ต่ออีก เขาขึ้นไปบนภูติทมิฬพร้อมกับกองทัพทั้งสองของเขาและจากไป

หลังจากพวกเขาจากไป

ณ วิหารของเทพแห่งความตาย

คริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์ที่โจวโจวเพิ่งมอบให้นั้นได้ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าตรงหน้าของรูปปั้นเทพแห่งความตาย

“ออร่าของทริสเต้… ข้าคิดถึงมันจริงๆ”

เทพแห่งความตายทานาทอสถอนหายใจออกมา จากนั้นวิหารก็เงียบลงอีกครั้ง

หลังจากโจวโจวนำกองทัพทั้งสองของเขาขึ้นมาบนภูติทมิฬ เขาก็ไม่ได้ออกเดินทางไปยังเมืองรัตติกาลทมิฬทันที แต่เขาได้เริ่มพิชิตภูมิภาคที่ไม่ใช่ของอาณาจักรรอบๆ ทะเลทรายตะวันสาดแสงก่อน

ดินแดนภูมิภาคที่ไม่ใช่ของอาณาจักรพวกนี้ต่างก็ถูกควบคุมโดยลอร์ดสีชาด ในจำนวนนี้มีภูมิภาคระดับเหล็กดำ 7 แห่ง ระดับบรอนซ์เขียว 5 แห่ง และระดับเงินขาว 2 แห่ง!

มันไม่มีสักภูมิภาคเลยที่มีระดับสูงกว่าระดับทองคำเหลือง

ด้วยความช่วยเหลือของภูติทมิฬ โจวโจวและคนอื่นๆ ก็ได้เดินทัพผ่านภูมิภาคต่างๆ ไปอย่างรวดเร็ว

สุดท้ายพวกเขาก็ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงเท่านั้นในการพิชิตและยึดครองภูมิภาคทั้ง 14 แห่งนี้

ณ ตอนนี้ มันไม่มีภูมิภาคไร้เจ้าของอื่นอยู่รอบๆ ดินแดนของโจวโจวแล้วนอกจากภูมิภาคที่ถูกควบคุมโดยอาณาจักรอื่นๆ

หลังจากนั้น เขาก็ไม่รั้งอยู่ต่ออีกและมุ่งหน้าไปยังเมืองรัตติกาลทมิฬ