หลินอี้ก็สามารถมองเห็นอนาคตได้เช่นกัน และยังเป็นอนาคตอีก 10 วินาทีข้างหน้า

หลินอวิ๋นได้ยินคำสั่งของหลินอี้

และรีบใช้ทักษะ [จารึกหลุมศพ] ออกมาอย่างรวดเร็ว

การคาดการณ์อนาคตของทั้งสองคนมีความแตกต่างกัน 7 วินาที

ความแตกต่าง 7 วินาทีนี้

จะกลายเป็นกำแพงแห่งการรับรู้ที่สุวะไม่อาจข้ามผ่านได้

ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นผู้สังเกตการณ์กาลเวลา

การสามารถคาดการณ์อนาคตอีก 3 วินาทีข้างหน้าได้ หมายความว่าก่อนหน้านี้สุวะสามารถจับตาดูความเคลื่อนไหวทั้งหมดของหลินอี้ได้อย่างสมบูรณ์

และเตรียมพร้อมล่วงหน้า 3 วินาที

แต่ตอนนี้หลินอี้สามารถมองเห็นอนาคตที่ไกลกว่าได้แล้ว

ความสามารถนี้ของสุวะก็ถูกทำให้ไร้ประสิทธิภาพไปโดยธรรมชาติ

แต่ตอนนี้สุวะยังไม่ตระหนักถึงจุดนี้

ในอนาคตที่เขามองเห็น

ภาพลวงตาหักเหแสงของหลินอี้หายไป จากนั้นตำแหน่งที่แท้จริงก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์

สุวะที่รู้ตำแหน่งที่แท้จริงล่วงหน้า 3 วินาที

ไม่ลังเลเลย เคลื่อนที่ไปยังจุดนั้นในทันที

แขนพระกาฬทั้งแปด โจมตีถล่มพื้นที่นั้นอย่างไม่เลือกหน้า

ผู้บรรยายและผู้ชมงงไปหมดแล้ว

นี่กำลังทำอะไรกัน? ทำไมสุวะถึงเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ไม่มีเหตุผลและโจมตี

แล้วหลินอี้อยู่ที่ไหนกันแน่? ทำไมเขาไม่เลือกที่จะโจมตีสุวะ?

ทุกคนรู้สึกเพียงว่าการต่อสู้ของทั้งสองคนมีการเล่นเกมกันนับครั้งไม่ถ้วนในเวลาอันสั้น

พวกเขาเห็นแค่ผิวเผิน

แต่มองไม่เห็นชั้นลึก

ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย

แม้แต่คนส่วนใหญ่บนที่นั่งคณะกรรมการก็งงงวยไปหมด

มีเพียงรอยยิ้มบนใบหน้าของเฉิงเสี่ยวที่ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ

"น่าสนใจ การแข่งขันครั้งนี้น่าสนใจมาก"

"นี่ดูดีกว่าการแข่งขันแบบวินาทีต่อวินาทีก่อนหน้านี้เยอะเลย"

เสียงของเฉิงเสี่ยวเพิ่งจะจบลง

ก็เห็นสุวะในสนามครางออกมา

พ่นเลือดออกมาจากปากมากมาย!

ในเวลาเดียวกัน ครึ่งขวาของร่างกายเขา รวมถึงแขนพระกาฬสามข้าง

ระเบิดออกในชั่วพริบตา

ชัดเจนว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส

บนหน้าจอใหญ่ แถบเลือดที่แสดงค่าพลังชีวิตของสุวะ ลดลงอย่างรวดเร็วเกือบหมด

เหลือเพียงประมาณหนึ่งในสาม

ร่างของหลินอี้ปรากฏขึ้นจากด้านหลังของสุวะ

"ยังหลบหลีกจุดสำคัญได้อยู่นะ"

"ลางสังหรณ์ที่น่ากลัวมาก"

หลินอี้อดชื่นชมไม่ได้

อนาคตที่สุวะมองเห็น หลังจากถูกอนาคตที่หลินอี้มองเห็นครอบคลุมไปแล้ว

สิ่งที่เขามองเห็นก็เป็นอนาคตที่เป็นเท็จทั้งหมด

หลินอี้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้นนานแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น หลินอี้ยังสามารถใช้ข้อมูลนี้ใช้การดีดนิ้วกับพื้นที่นั้นล่วงหน้าได้อีกด้วย

เขาจับจังหวะได้พอดี พอดีกับเวลาที่สุวะเคลื่อนที่มาในฉากที่เขามองเห็นอนาคต

แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น

หลังจากสุวะลงพื้น

เขาก็ยังขยับไปอีกก้าวหนึ่ง

ก้าวเดียวนี้เอง

ทำให้เขารับความเสียหายจากการดีดนิ้วไปครึ่งหนึ่ง ไม่ได้รับเต็มๆ

ต้องรู้ว่า ในอนาคตที่หลินอี้มองเห็น

สุวะโดนการดีดนิ้วเต็มๆ แถบเลือดหมดและแพ้ทันที

ไม่คิดว่า เขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้

ดูเหมือนว่าสิ่งที่เรียกว่าอนาคต ก็ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ตายตัว

ฉึก! สุวะที่บาดเจ็บสาหัส แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่ยังคงน่ากลัว

เขาหายไปจากสายตาของหลินอี้ในทันที ถอยหลังไปเป็นระยะทางไกล

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอนาคตที่ตัวเองเห็นถึงผิดพลาด

และก็ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่หลินอี้จะดีดนิ้วทำร้ายเขาสาหัสด้วย

เขาทำได้แค่ถอยกลับชั่วคราว

นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้น

ที่สุวะซึ่งเลือกโจมตีอย่างดุเดือดมาโดยตลอด

เลือกที่จะถอยหลังป้องกันตัว

สถานการณ์รุกรับพลิกกลับอย่างเงียบๆ

แม้ว่าหลินอี้จะชื่นชมคู่ต่อสู้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้จริงอย่างมากคนนี้

แต่การแข่งขันก็คือการแข่งขัน

เขาจะไม่ปรานีแม้แต่น้อย

ปั๊บ! อีกครั้งที่การดีดนิ้วถูกใช้ออกมา

เขาคาดการณ์จุดที่สุวะจะถอยกลับมาได้อย่างแม่นยำ

การดีดนิ้วครั้งนี้ เข้าเป้าอีกครั้ง!

พรวด! เลือดพุ่งออกมาจากอกของสุวะเป็นกลุ่มหมอก

ในวินาถัดมา ช่องอกทั้งหมดของเขาถูกเจาะเป็นรูใหญ่

โดนจุดสำคัญเข้าพอดี!

แถบเลือดของสุวะลดลงเป็นศูนย์ในทันที! แต่หลินอี้กลับพบว่า สุวะยังไม่ตาย

ค่าพลังชีวิตค้างอยู่ที่ 1 ไม่ลดลงไปอีก

ทุกคนมีทักษะล็อคเลือดกันหรือไง?

หลินอี้ไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนัก

เขายังมีทักษะล็อคเลือดเลย

คนอื่นมีทักษะป้องกันตัวสองสามอย่าง จะเป็นไรไป

ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ไม่เพียงแต่ต้องมีการโจมตีที่น่ากลัวที่สุด

แต่ยังต้องมีความสามารถในการต้านทานความเสี่ยงในระดับหนึ่งด้วย

สุวะที่ใกล้ตายร้องเบาๆ

ในวินาทีถัดมา รูใหญ่ที่อก รวมถึงครึ่งขวาของร่างกายและแขนสามข้าง

งอกออกมาใหม่ในทันที

ในเวลาเดียวกัน ผิวสีดำของเขา ก็เคลือบด้วยสีทองอร่าม

[กายทองพระอรหันต์]

[ทักษะแบบพาสซีฟ]

[ผล: เมื่อคุณได้รับการโจมตีที่ทำให้คุณตายได้ หลีกเลี่ยงความตายครั้งนี้ และฟื้นฟูพลังชีวิตทั้งหมดในเวลาอันสั้น]

[ในช่วง 1 นาทีถัดไป คุณจะมีภูมิคุ้มกันต่อผลควบคุมทั้งหมดที่ต่ำกว่าขั้น 9 และมีภูมิคุ้มกันต่อความเสียหายทั้งหมดยกเว้นความเสียหายต้นกำเนิด]

[ผลนี้มีเวลาคูลดาวน์ 30 วัน]

ดวงตาแห่งปัญญาส่งข้อมูลเกี่ยวกับทักษะป้องกันตัวแบบติดตัวของสุวะกลับมา

ป้องกันการควบคุม ไม่มีใครทำร้ายได้

ผลของทักษะนี้ชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่าการล็อคเลือดของซิงห์มาก

และยังเหมาะกับอาชีพแบบชกเดียวล้มของสุวะมากกว่าด้วย

สุวะทั้งร่างแผ่รัศมีทองของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ เขายังใช้อีกทักษะหนึ่งออกมา

เขาขัดสมาธิ ร่างลอยอยู่กลางอากาศ

รัศมีทองของพระพุทธเจ้าด้านหลังเขาสว่างจ้ามากขึ้น เงาของแขนพระกาฬที่ประกอบขึ้นจากรัศมีทองบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นทีละอัน

เงาของแขนเหล่านี้ก็ใหญ่โตและแข็งแรงเช่นกัน

เมื่อเงาแขนพระกาฬสีทองจำนวนมากรวมตัวกัน

ร่างกายที่แข็งแรงของสุวะที่ลอยอยู่กลางอากาศ ก็เริ่มค่อยๆ เหี่ยวแห้งลง

[108 หมัดปราบมาร]

[ผล: เข้าสู่รูปแบบสุดท้ายของพระกาฬปราบมาร รวบรวมแขนพระกาฬเสมือน 108 แขนเพื่อต่อสู้แทนคุณ ทุกท่าทางและวิธีการโจมตีของคุณสามารถทำได้ผ่านแขนพระกาฬเสมือน]

[แขนพระกาฬเสมือนเมื่อโจมตี จะได้รับผลความเสียหายเพิ่มเติมถาวรจากคุณสมบัติพิเศษของอาชีพพระกาฬปราบมาร]

[เมื่อเปิดใช้งาน ต้องอยู่ในสภาวะกายทองพระอรหันต์]

[เมื่อเปิดใช้งาน จะค่อยๆ ใช้พลังงานชีวิตต้นกำเนิดของคุณ]

"แขนพระกาฬเสมือนเหล่านี้สามารถโจมตีได้โดยไม่คำนึงถึงระยะทาง และมีพลังมหาศาลเช่นกัน”

“ระวังหน่อยนะ"

สุวะที่ลอยอยู่กลางอากาศเตือน

แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าหลินอี้สามารถมองทะลุทักษะของเขาได้

คำพูดเหล่านี้เป็นเพียงความไม่อยากให้หลินอี้แพ้การต่อสู้ครั้งนี้เพราะความประมาท

เขาชนะ ก็ต้องชนะอย่างยุติธรรมและเต็มภาคภูมิ

“เอี๊ยก——!"

หลังจากเสียงประหลาดคล้ายเสียงร้องของนกอินทรีดังขึ้น

จะงอยปากนกยื่นออกมาจากกลางหน้าผากของสุวะ

จากนั้นสุวะใช้มือทั้งสองข้างดึงรอยแยกที่หน้าผากที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉีกออก! สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่มีเกล็ดสีเขียวทั่วร่าง มีปีกงอกออกมาจากด้านหลัง ใบหน้าดุร้ายน่ากลัว บินออกมาจากหน้าผากของเขา

สัตว์ประหลาดนี้มีตาเพียงข้างเดียว

ในดวงตาเดี่ยวนั้น มีรูม่านตาสามอันรูปนาฬิกาทราย

[เทพตาสวรรค์ยักษ์]

[ระดับ: สูงสุดของขั้นจักรพรรดิ]

ข้อมูลของสัตว์ประหลาดนี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินอี้

ในตอนนี้ เขาถึงได้รู้ว่าทำไมสุวะที่ตาบอดทั้งสองข้างถึงสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในสนามได้อย่างชัดเจน

และยังสามารถทำนายอนาคตอีก 3 วินาทีข้างหน้าได้

เป็นเพราะสัตว์เลี้ยงสู้รบตัวนี้นี่เอง

ตอนนี้ หลินอี้ก็สามารถทำนายอนาคตได้

ดังนั้นสุวะจึงไม่จำเป็นต้องเก็บสัตว์เลี้ยงสู้รบตัวนี้ไว้ในร่างและใช้การมองเห็นของมันอีกต่อไป

ยังไม่ดีเท่าปล่อยออกมา ให้มันโจมตีหลินอี้ เพิ่มกำลังรบอีกส่วนหนึ่ง เพิ่มโอกาสในการชนะอีกนิดหน่อย

แขนพระกาฬเสมือนหนึ่งร้อยแปดแขน โจมตีพร้อมกัน! จากนั้น ทั้งเวที ก็ถูกถล่มราบเป็นหน้ากลองในพริบตา! ในรูปแบบสุดท้าย สุวะมีความสามารถในการโจมตีระยะไกล และหากพูดถึงจำนวนครั้งในการโจมตีต่อวินาที ก็เกินพันครั้ง

ไม่มีศัตรูคนไหนจะรอดชีวิตจากการโจมตีแบบไม่เลือกหน้าในระดับนี้ได้

แม้ว่าหลินอี้จะมีความสามารถในการมองทะลุอนาคต ก็ไม่มีที่ให้หลบ ไม่มีที่ให้ซ่อน

อย่างไรก็ตาม ไม่นานสุวะก็หยุดการโจมตี

เพราะจากความรู้สึกที่ส่งกลับมาจากแขนพระกาฬทั้ง 108 แขน เขาไม่ได้โจมตีโดนหลินอี้

แต่กลับโจมตีโดนสิ่งที่มีเนื้อแข็งมากๆ

เทพตาสวรรค์ยักษ์ที่บินอยู่บนท้องฟ้า คอยช่วยโจมตีด้วยเวทมนตร์ ส่งข้อมูลกลับมาให้สุวะ

นั่นคือก้อนน้ำแข็ง