ฮารอสไม่เสียเวลาอีก เขาพลิกมือขวาและเอาหนังสือสัญญา 16 อันออกมา จากนั้นก็แลกเปลี่ยนกับโจวโจว ทำให้เขาได้รับลูกแก้วเทวะระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้นไปอีก 16 อัน

หลังจากนั้นโจวโจวก็เริ่มอ่านรายละเอียดของสัญญาในมืออย่างระมัดระวัง

ด้วยมรดกโบราณต่างๆ ในใจของเขา เขาจึงสามารถเข้าใจสัญญาได้โดยธรรมชาติ

เขาพยักหน้าเล็กน้อยหลังจากอ่านมันจบ

บทลงโทษสำหรับการละเมิดสัญญาคือขอบเขตการฝึกฝนของผู้ทำผิดสัญญาจะลดลงหนึ่งระดับใหญ่

สำหรับจิตวิญญาณเทพเจ้าอย่างฮารอส การถูกลดระดับเช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้เลย

อย่างไรก็ตาม สำหรับโจวโจวที่มีพรแห่งเทพสงคราม เขาจึงไม่ได้ขาดแคลนพลังงานเสริมแกร่งเลย

แม้ว่าเขาจะทำผิดสัญญาด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างในอนาคต นี่ก็คงจะไม่ใช่การลงโทษที่รุนแรงสำหรับเขาเลย

นอกจากนี้เขายังไม่ได้คิดที่จะผิดสัญญาด้วย

เขาอ่านมันอีกครั้งและลงนามด้วยพลังงานโกลาหลต้นกำเนิดหลังจากยืนยันแล้วว่ามันไม่มีปัญหาอะไร

ในขณะที่เขาลงนามเสร็จ หนังสือสัญญาก็เปล่งสีทองบางๆ ออกมา

จากนั้นมันก็กลายเป็นลำแสงสามสายและพุ่งเข้าใส่ฝ่ามือโจวโจว ฮารอส และเสออู๋ กลายเป็นลวดลายเกล็ดสีทองขนาดเท่าลูกแก้วเล็กๆ จากนั้นมันก็ค่อยๆ หายไป

นี่หมายความว่าสัญญานี้ได้ถูกสร้างพันธะแล้ว

ในทันทีที่พันธะสัญญาถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ท่าทีระหว่างพวกเขาทั้งสามก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวโจวก็ได้คืนไอเท็มเทวะทั้งหมดกลับไปให้จิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งสองตน

ฮารอสและเสออู๋รับพวกมันไปอย่างระมัดระวังและเก็บพวกมันเข้าไปในแหวนมิติของตน

หลังจากเก็บพวกมันทั้งหมดไปแล้ว จิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งสองก็มองหน้ากันและเห็นความตื่นเต้นในแววตาของอีกฝ่าย

พวกมันคือไอเท็มเทวะทั้งหมด 6 อันเชียวนะ!

เขากลับได้พวกมันมาจริงๆ!

การได้ยืมพวกมัน 100 ปีช่างเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นจริงๆ

พวกเขาไม่คิดเลยว่าราชาตะวันสาดแสงจะปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดีเช่นนี้

ราคาที่พวกเขาต้องจ่ายก็คือเวลาแค่ 100 ปีเท่านั้น

ในฐานะจิตวิญญาณเทพเจ้าที่มีอายุขัยยืนยาว เวลาแค่ 100 ปีก็ไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับพวกมันเลย

[ถ้ามันมีโอกาสอีกในอนาคต ข้าจะทำผลงานให้ดีต่อหน้าราชาตะวันสาดแสงผู้นี้แน่ๆ]

[ด้วยวิธีนี้ ข้าอาจจะสามารถยืมไอเท็มเทวะเพิ่มได้อีกในอนาคต]

จิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งสองคิดแทบจะพร้อมกัน

สายตาของพวกเขาดูร้ายกาจมาก

มันเห็นได้ชัดว่าราชาตะวันสาดแสงจะต้องมีไอเท็มเทวะที่แข็งแกร่งกว่านี้และมีจำนวนมากกว่านี้แน่

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้โลภ และไม่กล้าคิดด้วย

ในตอนนี้มันเป็นกิจกรรมราชันหมื่นราชา ในฐานะจิตวิญญาณเทพเจ้าแห่งจักรวรรดิเอลฟ์ พวกเขาจึงไม่สามารถโจมตีลอร์ดอย่างโจวโจวได้เว้นเสียแต่ว่าอีกฝ่ายจะเริ่มโจมตีพวกเขาก่อน

ในทางกลับกัน จิตวิญญาณเทพเจ้าในอาณาจักรอสูรเหมันต์นั้นสามารถโจมตีโจวโจวได้เพราะพวกมันมีความขัดแย้งโดยตรงกับเขาอยู่แล้ว พวกมันจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกลงโทษจากข้อตกลงสูงสุด

“พวกท่านสองคนทำความคุ้นเคยกับไอเท็มเทวะไปก่อนเถอะ ข้าไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”

โจวโจวกล่าว

จากนั้นเขาก็เดินไปยังที่นั่งของเขา และหยิบเอาแผนที่ออกมาดู

เมื่อเห็นเช่นนี้ เสออู๋และฮารอสก็เริ่มทำความคุ้นเคยกับไอเท็มเทวะทั้งหกอันของตัวเอง

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับไอเท็มเทวะทั้งหกอันนี้มาแบบกะทันหัน พวกเขาจึงไม่มีเวลามาศึกษาความสามารถโดยละเอียดของพวกมันก่อนที่จะใช้งาน

แต่ในตอนนี้ พวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อศึกษาพวกมันได้แล้ว

หลังจากเชี่ยวชาญความสามารถของกฎเกณฑ์จากไอเท็มเทวะทั้งหกอันนี้แล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็คงจะเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น!

ในเวลานั้นเอง…

เสออู๋ก็เห็นเกาเฉียวและซื่อซวนเถียนที่อยู่ไม่ไกลนัก

เขามองไปที่สองคนนี้และคิดถึงกำลังรบอันน่าสะพรึงกลัวของพวกเขาเมื่อครู่ จากนั้นเขาก็อดเดาะลิ้นออกมาไม่ได้

สองคนนี้ คนหนึ่งคือเซียนกระบี่จากโลกเซียนที่สามารถสังหารจิตวิญญาณเทพเจ้าระดับเทพชั้นต่ำได้ด้วยค่ายกลหมื่นเซียนกระบี่

ส่วนมนุษย์อีกคนที่มีชื่อว่าเกาเฉียว เขาก็ดูแปลกอยู่หน่อยๆ

อีกฝ่ายสามารถทำให้ความแข็งแกร่งของตัวเองเพิ่มขึ้นจากระดับมหากาพย์ขั้นสูงไปเป็นระดับเทพชั้นต่ำขั้นสูงได้แบบชั่วคราวด้วยวิธีที่เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน!

นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังดูอยู่ในสภาพดีมากด้วย

วิธีการพิเศษนี้ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ชั่วคราวทำให้เขานึกถึงตำนานโบราณบางอันขึ้นมา

เสออู๋คิดอยู่ชั่วขณะและเดินไปข้างๆ เกาเฉียว

“เจ้าใช้เคล็ดวิชาพิเศษบางอย่างเมื่อครู่เพื่อเลื่อนระดับเป็นระดับเทพชั้นต่ำขั้นสูงชั่วคราวใช่ไหม? เคล็ดวิชาลับของเจ้าน่าจะมีระดับสูงมากใช่ไหม? ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ได้รับผลสะท้อนกลับอะไรเลยหนิ?”

เสออู๋ถามอย่างสบายๆ

“นี่เป็นเคล็ดวิชาที่ฝ่าบาทมอบให้กับข้า แต่มันก็ใช้ได้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ดังนั้นผลสะท้อนกลับจึงไม่ได้ร้ายแรงอะไร สำหรับรายละเอียดอื่นๆ มันคงไม่สะดวกนักที่จะพูดออกไป”

เกาเฉียวอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะพูดออกมา

เสออู๋พยักหน้า

ความคาดเดาในใจของเขาหายไป

ด้วยความสามารถของราชาตะวันสาดแสง มันจึงยอมรับได้ที่เขาจะมีวิธีการอะไรบางอย่างที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของลูกน้องได้ในระยะเวลาสั้นๆ

เขาส่ายหัว

เขาน่าจะคิดมากเกินไป

มันจะเป็นผู้พิฆาตมังกรในตำนานได้ยังไง?

ไม่ใช่ว่าคนพวกนั้นได้ถูกเผ่าพันธุ์สายเลือดระดับสูงร่วมมือกันล้างเผ่าพันธุ์ไปนานแล้วเหรอ?

เสออู๋หยุดคิดและเริ่มทำความคุ้นเคยกับไอเท็มเทวะทั้งหกอัน

เมื่อเกาเฉียวเห็นเช่นนี้ แม้ภายนอกเขาจะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา แต่ภายในเขาก็กำลังครุ่นคิดอยู่

ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณเทพเจ้าผู้นี้จะค้นพบบางสิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับเขา

อย่างไรก็ตาม เขาก็ย่อมไม่บอกความลับว่าเขาคือผู้พิฆาตมังกร

มิฉะนั้นเผ่าพันธุ์สายเลือดระดับสูงจำนวนมากก็จะมุ่งหน้ามาทำร้ายฝ่าบาทเป็นแน่

สิ่งที่ฝ่าบาทต้องการในเวลานี้ก็คือเวลาในการพัฒนาตัวเอง

ถ้าอีกฝ่ายได้เข้าร่วมกับอาณาจักรตะวันสาดแสงแล้วและกลายเป็นชาวอาณาจักรตะวันสาดแสง เขาก็คงจะบอกความลับให้อีกฝ่ายฟังไปแล้ว เพราะอีกฝ่ายก็คงจะกลายเป็นผู้พิฆาตมังกรไปด้วยเหมือนกัน

…

ราตรีประดับดาวมาถึงเมืองหลวงของอาณาจักรอสูรเหมันต์ในไม่ช้า

หลังจากที่พวกมันปรากฏตัวออกมา เมืองหลวงอันเก่าแก่แห่งนี้ที่อยู่มานานนับพันปีก็เงียบลงในทันที

ชาวอสูรเหมันต์เกือบสิบล้านตัวมองมาที่ยานบินบนท้องฟ้าด้วยความตื่นตะลึง

ในเวลานั้นเอง…

“ราชาของอาณาจักรอสูรเหมันต์และจิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งหมดถูกสังหารไปแล้วโดยอาณาจักรตะวันสาดแสงของข้า! นับจากนี้เป็นต้นไป อาณาจักรอสูรเหมันต์ทั้งหมดจะต้องตกเป็นของอาณาจักรตะวันสาดแสง”

เสียงของโจวโจวฟังดูสง่างามในหูของอสูรเหมันต์ทุกตัว

จากนั้นโจวโจวก็ไม่รอให้พวกมันมีปฏิกิริยา เขาโยนหัวของคิโระและคีแรนลงไป และพวกมันก็ตกลงบนพื้นถนนของเมือง

ชาวเมืองทั้งหมดในเมืองหลวงที่เห็นภาพฉากนี้เงียบไปในทันที

จากนั้นพวกมันก็พากันตื่นตระหนก

…

บนท้องฟ้า

“ฝ่าบาท อสูรเหมันต์บางส่วนดูเหมือนจะไม่เชื่อพวกเรา”

อู๋ซินมองไปยังเหล่าชาวอสูรเหมันต์ที่กำลังบินอยู่ด้านล่าง และอดหัวเราะออกมาไม่ได้

พวกมันแข็งแกร่งกันมาก

อู๋ซินกระทั่งเห็นอสูรเหมันต์ระดับตำนาน 2 ตัวเลย

แต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

ความแตกต่างระหว่างพวกเขามีมากเกินไป ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำยังไง มันก็เป็นแค่การดิ้นรนก่อนตายเท่านั้น

“จัดการพวกมันซะ”

โจวโจวพูดอย่างใจเย็น

“ขอรับฝ่าบาท”

อู๋ซินรับคำสั่งและจากไป

…

หลังจากผ่านไปสักพัก อสูรเหมันต์ทุกตัวที่กล้าขัดขืนก็ถูกจัดการไปจนหมด

เมื่อส่วนที่เหลือเห็นเช่นนี้ พวกมันก็เลิกคิดที่จะขัดขืนและเข้าร่วมกับอาณาจักรตะวันสาดแสงทันที

หลังจากโจวโจวส่งคนไปตามหาคนรับใช้ที่คุ้นเคยกับวังหลวงแล้ว เขาก็ถามตำแหน่งของแผ่นทองอาณาจักรทันที

หลังจากได้รับทราบตำแหน่งแล้ว โจวโจวก็นำคนของเขาไปยังโถงชีวิตและพบกับแผ่นทองอาณาจักร

เขาใช้ทักษะแห่งกฎเกณฑ์และทำลายมันทันที จากนั้นเขาก็ได้รับตราดินแดน ตราภูมิภาค และตราอาณาจักรที่อยู่ภายในมา