ตอนที่ 285 : สร้างทักษะ! ปราณกระบี่โกลาหล!

โจวโจวเรียนรู้มันทันที

อึดใจต่อมา หนังสือทักษะในมือของเขาก็สลายกลายเป็นจุดแสงจำนวนนับไม่ถ้วนทันทีและหลอมรวมเข้ากับกลางกระหม่อมของเขา

โจวโจวรู้สึกได้ถึงเคล็ดวิชากระบี่และประสบการณ์จำนวนมาก รวมทั้งแนวคิดกระบี่ลึกลับบางอย่างที่เอ่อล้นอยู่ในใจของเขา

ไม่รู้ว่าทำไม เขาดูเหมือนจะได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตของราชากระดูกทมิฬที่มีชื่อว่าหูไห่

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ชีวิตที่สมบูรณ์ แต่เป็นส่วนประสบการณ์ชีวิตเมื่อเขาใช้กระบี่

หลังจากนั้นสักพัก โจวโจวก็ลืมตาขึ้น

สายตาของเขาค่อยๆ เฉียบคมขึ้น และร่างทั้งร่างของเขาก็แผ่ออร่าอันเฉียบคมออกมา

หลังจากเงียบไปสักพัก โจวโจวก็พลิกมือขวา และกระบี่ราชากระดูกทมิฬก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา

เขาลูบกระบี่เบาๆ

สายตาของเขาซับซ้อนและประหลาดใจเล็กน้อย

นี่เป็นเพราะมันเห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งได้รับกระบี่เล่มนี้มาเมื่อครู่ แต่ในตอนนี้ เขากลับรู้สึกว่ามันอยู่ร่วมกันกับเขามานับร้อยนับพันปีแล้ว

ในเวลาเดียวกัน กระบี่ก็สั่นไหวเล็กน้อย ราวกับว่ามันกำลังตอบสนองต่อโจวโจว

เขาคิดถึงมรดกที่เขาเพิ่งได้รับและรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“แม้ว่ามันจะได้รับผลจากการสืบทอดเพียงเล็กน้อย แต่ก็โชคดีที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อฉัน และมันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความคิดของฉันไปด้วย”

โจวโจวเหวี่ยงกระบี่ของเขาอยู่กับที่สองสามครั้ง เขาดูเหมือนมีความเชี่ยวชาญอยู่นิดหน่อยและดูไม่เหมือนกับมือใหม่ที่เพิ่งเคยจับกระบี่เลย

จากนั้นสายตาของเขาก็โฟกัสและเขาก็เหวี่ยงกระบี่ไปในระยะไกล

ปราณกระบี่อันโกลาหลพุ่งออกมาและตัดตรงเอวของปีศาจหมอกหัวเขียวระดับทองคำเหลืองขั้นกลางที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตรทันที

เขาไม่สามารถใช้กระบี่ระดับเพชรขั้นสูงที่อยู่เหนือกว่าระดับของเขาได้ แต่เขาก็ฝืนใช้กระบี่เล่มนี้และใช้พลังงานแห่งความโกลาหลที่อยู่ในร่างกายของเขาเพื่อปลดปล่อยพลังงานกระบี่

ระดับของกระบี่ราชากระดูกทมิฬนี้ยังสูงเกินไป

ด้วยพลังงานระดับเงินขาวขั้นสูงของเขา เขาจึงไม่สามารถเปิดใช้งานมันได้เลย

“ฉันจะเรียกมันว่าปราณกระบี่โกลาหลละกัน”

โจวโจวพึมพำกับตัวเอง

จากนั้นเขาก็มองดูรายชื่อทักษะของเขาและเห็นชื่อปราณกระบี่โกลาหลอยู่

[ชื่อทักษะ: ปราณกระบี่โกลาหล]

[ระดับทักษะ: ระดับเงินขาวขั้นสูง – พัฒนาได้]

[รายละเอียดทักษะ: วรยุทธ์ประเภทปราณกระบี่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าตะวันสาดแสงโดยใช้พลังงานแห่งความโกลาหลในร่างกายของเขาและความเข้าใจในเคล็ดวิชากระบี่ของเขา มันเป็นความสามารถในการโจมตีอันทรงพลังที่เกี่ยวข้องกันการตัดและย่อยสลาย มันยังทำให้เกิดผลการป้องกันที่อ่อนแอลงสำหรับทักษะประเภทการป้องกันพลังงานใดๆ ผลของการอ่อนกำลังขึ้นอยู่กับความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างผู้ใช้และศัตรู]

โจวโจวไม่ประหลาดใจเลยเมื่อเขาเห็นคำว่า ‘พัฒนาได้’

ในฐานะผู้สร้างทักษะนี้ เขาย่อมรู้ว่ามันสามารถพัฒนาได้

นอกจากนี้ ขีดจำกัดของมันยังไม่ได้ต่ำด้วย

นี่เป็นทักษะที่สร้างขึ้นจากพลังงานแห่งความโกลาหลซึ่งใช้เป็นรากฐานพลัง ขีดจำกัดล่างมันสูงเกินไป และขีดจำกัดบนก็ไม่สามารถต่ำกว่านี้ไปได้

สิ่งที่จำกัดคือความแข็งแกร่งของเขาเองเท่านั้น

เขามองไปยังสมรภูมิ

นี่เป็นเพราะปีศาจหมอกหัวเขียวระดับสูงส่วนใหญ่ของเมืองรัตติกาลทมิฬได้ถูกจัดการโดยเนซาริโอ้ ออกุสต์ ไป่อี้ อู๋ซิน เฟิงลั่ว และยอดฝีมือคนอื่นๆ ไปแล้ว

สำหรับปีศาจหมอกหัวเขียวที่เหลือ พวกมันก็ไม่อาจขัดขืนต่อกองทัพตะวันสาดแสงและกองทัพมอนสเตอร์ได้เลย

สิ่งนี้ทำให้ปีศาจหมอกหัวเขียวจำนวนมากถูกกำจัดตลอดเวลา

ในกองทัพของเขา วิญญาณวายุคลั่งใหม่ 14,000 คนนั้นถือว่าแสดงฝีมือได้สูงที่สุด!

แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งเข้าสู่สมรภูมิ และความแข็งแกร่งของแต่ละคนก็อยู่ในระดับเหล็กดำขั้นต้นเท่านั้น แต่พวกเขาก็ล้วนแล้วแต่เป็นทหารระดับอาณาจักรทั้งหมด!

ภายใต้อิทธิพลของพรสวรรค์ในการต่อสู้ระดับอาณาจักรอย่างร่างพลังธาตุ และความจริงที่ว่าพวกเขาต่างก็กำลังร่ายเวทมนตร์อยู่ภายใต้การปกป้องของทหารดาบโล่ มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ปีศาจหมอกหัวเขียวจะเข้ามาใกล้และทำร้ายพวกเขาได้

วิญญาณวายุคลั่งทั้งหมดต่างก็กำลังร่ายเวทมนตร์อยู่ภายในใจ

พายุคลั่งสีฟ้าขาวที่สูง 3-4 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 เมตรได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากมือของพวกเขา จากนั้นก็พุ่งเข้าไปจัดการกับปีศาจหมอกหัวเขียวที่อยู่ตรงหน้า

สำหรับปีศาจหมอกหัวเขียวที่ถูกสังหารไปทีละตัว ภายใต้อิทธิพลของพรแห่งเทพสงคราม พลังงานเสริมแกร่งจำนวนมากจึงถูกดูดซับโดยพวกเขา และความแข็งแกร่งของวิญญาณวายุคลั่งทุกคนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

นี่ช่วยเพิ่มพลังของเวทมนตร์ของพวกเขาขึ้นไปอีก

โจวโจวแอบประหลาดใจ เขาเพิ่งได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง

วิญญาณวายุคลั่งระดับเหล็กดำขั้นกลางจะใช้วายุคลั่งมรณะเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นเพื่อสังหารปีศาจหมอกหัวเขียวระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้นหนึ่งตัว

สำหรับวิญญาณวายุคลั่งระดับเหล็กดำขั้นสูงคนอื่นๆ มันจะใช้พายุแห่งความตายเพียงหนึ่งครั้งเพื่อจัดการกับปีศาจหมอกหัวเขียว 20-30 ตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นพวกมันก็จะถูกสายลมและสายฟ้าในพายุคลั่งจัดการสังหารต่อ

ผลงานของพวกเขาช่างน่าทึ่งจริงๆ โจวโจวเดาะลิ้น

ทหารระดับอาณาจักรช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก

โจวโจวอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเขาคิดว่าเขาใช้คริสตัลเทวะศรัทธาเพียงไม่กี่อันเท่านั้นเพื่อแลกเปลี่ยนกับทหารที่ทรงพลังเช่นนี้มา

เขามองดูปีศาจหมอกหัวเขียวจำนวนมากล้มตายลงภายใต้การโจมตีของวิญญาณวายุคลั่ง

ชัยชนะบนสมรภูมิเริ่มเอนเอียงมาทางโจวโจวด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ชัยชนะมันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

สองชั่วโมงต่อมา สมรภูมิก็เงียบลง

นอกเหนือจากปีศาจหมอกหัวเขียวที่ถูกทำให้แปรพักตร์โดยยุยงแปรพักตร์ ปีศาจหมอกหัวเขียวที่เหลือก็ถูกสังหารโดยกองทัพตะวันสาดแสงไปแล้ว

ในเวลานั้นเอง ปีศาจหมอกหัวเขียวหลายพันตัวก็เดินเข้ามา ซึ่งผู้นำของพวกมันก็คือโรจิที่เพิ่งต่อสู้กับเจ้าปีศาจหมอกหัวเขียวมา

“คาราวะท่านลอร์ด!”

ปีศาจหมอกหัวเขียวทุกตัวคุกเข่าลงกับพื้นและพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียง

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าคือลูกน้องของข้าแล้ว จงกลับไปที่ดินแดนพร้อมกับพวกเราในภายหลัง สำหรับพวกเจ้า คนที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ให้เข้าร่วมกับกองทัพมอนสเตอร์ สำหรับคนที่เชี่ยวชาญในสายอาชีพก็ให้ทำอาชีพตามเดิม”

“กฎของกองทัพมอนสเตอร์ก็เรียบง่ายมาก คนที่แข็งแกร่งที่สุดจะมีสถานะสูงที่สุด! ถ้าใครมีความมั่นใจว่าไร้เทียมทานในกองทัพมอนสเตอร์ ตราบใดที่เจ้าสามารถโน้มน้าวคนอื่นได้ เจ้าก็สามารถขึ้นเป็นผู้บัญชาการกองทัพมอนสเตอร์ได้ในทันที! แล้วก็ค่อยแจ้งให้ข้าทราบในภายหลัง”

โจวโจวตะโกนออกมา

โจวโจวรู้ว่ากองทัพมอนสเตอร์ส่วนใหญ่นั้นมีนิสัยก้าวร้าว เพราะนี่ย่อมเป็นธรรมชาติของพวกมัน ดังนั้นโจวโจวจึงไม่คิดจะแก้ไขมัน เนื่องจากเขารู้สึกว่านิสัยเช่นนี้ก็ไม่เลวเลยในยามสงคราม

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตั้งกฎเช่นนี้ขึ้นมา

ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันทำให้ปีศาจหมอกหัวเขียวทุกตัวและมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ในกองทัพมอนสเตอร์คำรามออกมาด้วยความตื่นเต้นหลังจากพวกมันได้ยินคำพูดของโจวโจว ดวงตาของพวกมันฉายแววของความทะเยอทะยานขึ้นมาทันที

เห็นได้ชัดว่ากฎที่โจวโจวตั้งขึ้นนั้นเหมาะสมกับนิสัยของพวกมันมาก

เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวอย่างจริงจังว่า

“พวกเจ้าสามารถท้าประลองกันเพื่อตัดสินว่าใครแข็งแกร่งกว่ากันได้ แต่พวกเจ้าไม่อาจสังหารสหายได้ในระหว่างการประลอง นี่คือกฎที่สำคัญที่สุดของข้า! ใครที่ละเมิดกฎกองทัพจะต้องถูกลงโทษ!”

“ขอรับ!!!”

“เชื่อฟังท่านลอร์ด!”

“พวกเราจะไม่ทำแบบนั้นแน่ๆ ขอรับ!”

มอนสเตอร์ทุกตัวตอบสนองอย่างวุ่นวายไปหมด

โจวโจวพยักหน้าเล็กน้อย

เขาเหลือบไปมองปีศาจหมอกหัวเขียวที่เหลือรอดอยู่

เขาตระหนักได้ว่าพวกมันยังเหลือจำนวนมากกว่า 4,500 ตัว ส่วนตัวอื่นๆ ก็ตายไประหว่างการต่อสู้แล้ว

โชคดีที่ปีศาจหมอกหัวเขียวที่ตายไปส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับเหล็กดำและระดับบรอนซ์เขียว

ปีศาจหมอกหัวเขียวส่วนใหญ่ที่อยู่เหนือกว่าระดับเงินขาวต่างก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่พวกมันก็ได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง ซึ่งหลังจากถูกรักษาโดยสาวกจากที่พักพิงแล้ว พวกมันก็คงจะกลับมาเป็นปกติได้

ยุยงแปรพักตร์ช่างเป็นพรสวรรค์ที่ดีจริงๆ

โจวโจวถอนหายใจเป็นครั้งที่สามเมื่อเขาเห็นปีศาจหมอกหัวเขียวจำนวนมากเช่นนี้