ตอนที่ 281 : ปีศาจหมอกหัวเขียว! ปืนทุกกระบอก ยิง!

10,000 เมตรเหนือพื้นดิน ยานบินสีดำลำหนึ่งลอยเงียบๆ อยู่กับที่

มันคือภูติทมิฬ!

ในเวลาเดียวกัน โจวโจว ไป่อี้ อู๋ซิน และคนอื่นๆ ก็กำลังมองไปยังหน้าจอตรงหน้าของพวกเขา

บนหน้าจอเสมือนจริง เมืองสีดำที่ครอบคลุมพื้นที่ 250,000 ตารางกิโลเมตรตั้งอยู่ตรงนั้น

กลุ่มทหารสีชาดที่มีใบหน้าสีเทาอมเขียวและเขี้ยวสีแดงโลหิตสองอันขดอยู่ที่มุมปากของพวกมันอย่างน่ากลัวกำลังตรวจตรากำแพงเมืองอย่างเป็นระเบียบ พวกมันดูไม่เหมือนมอนสเตอร์แห่งหมอกทั่วไปที่โจวโจวเคยเห็นเลย

สีหน้าของโจวโจวจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย

ขนาดของเมืองนี้เพียงอย่างเดียวก็ใหญ่กว่าเมืองของเขาถึง 20 เท่าแล้ว!

เมืองรัตติกาลทมิฬน่าจะเป็นดินแดนระดับทองคำเหลืองขั้นต้นไม่ก็ระดับทองคำเหลืองขั้นสูง! ซึ่งโจวโจวก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นสูงซะมากกว่า

นอกจากนี้เขายังเคยเห็นรายละเอียดของอีกฝ่ายบนแผนที่ที่ได้มาแล้ว แต่ข้อมูลบนกระดาษก็ต่างแตกจากสิ่งที่เขาได้เห็นด้วยตาของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

การได้เห็นฉากตรงหน้าทำให้เขาสัมผัสถึงความแตกต่างระหว่างมอนสเตอร์แห่งหมอกที่มีอาณาจักรจริงๆ!

เมื่อเทียบกันแล้ว ลอร์ดสีชาดที่โจวโจวเคยจัดการมานั้นก็เหมือนกับพวกเร่ร่อนที่ไม่มีระเบียบวินัยเอาซะเลย!

เขาหรี่ตามองมอนสเตอร์พวกนี้ จากนั้นข้อมูลของมันก็ปรากฏขึ้นมา

[ชื่อมอนสเตอร์: ปีศาจหมอกหัวเขียว]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง]

[รายละเอียดมอนสเตอร์: หนึ่งในสามกองทัพใหญ่แห่งอาณาจักรทาฮัน – เมืองรัตติกาลทมิฬ – ทหารลาดตระเวนดาบเขียวของกองทัพหัวเขียว พวกมันมีร่างกายที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการต่อสู้ระดับประชิดที่เก่งกาจ นอกจากนี้พวกมันยังมีความสามารถในการข่มขู่ศัตรูด้วยการโจมตีทางจิตใจด้วย]

[ไอเท็มดรอป: แกนหมอกระดับบรอนซ์เขียว 8 ชิ้น (อัตราการดรอป: 100%), เซ็ตทหารหัวเขียวดาบเขียว 1 ชุด (อัตราการดรอป: 5%), หนังสือทักษะระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง-เสียงคำรามแห่งความหวาดกลัว (อัตราการดรอป: 3%), คริสตัลเทวะศรัทธาระดับศรัทธาแท้จริง (อัตราการดรอป: 1%)]

หลังจากโจวโจวอ่านไปจนจบ เขาก็สังเกตต่อไปอีกสักพัก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเมืองรัตติกาลทมิฬระดับทองคำเหลืองนี้ก็มีสิ่งที่คล้ายกับบาเรียสูงสุดอยู่ด้วย

โจวโจวถามเจตจำนงสูงสุด

เขาไม่ได้คิดว่าเจตจำนงสูงสุดจะตอบกลับมาจริงๆ

มันบอกโจวโจวว่านี่คือบาเรียสีชาด

มันคล้ายกับบาเรียสูงสุดของเขา แต่มันจะมีอยู่แค่ในดินแดนของลอร์ดสีชาดที่มีระดับทองคำเหลืองขึ้นไปเท่านั้นและมีความสามารถในการป้องกันการโจมตีจากภายนอก

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีความสามารถในการต้านทานการรุกรานของหมอกสีชาด แต่จะช่วยควบแน่นหมอกสีชาดที่อยู่รอบๆ

โจวโจวเฝ้าสังเกตอยู่สักพักและครุ่นคิด

“ตามแผนที่ของอู๋ตู่ มันมีมอนสเตอร์แห่งหมอกประมาณ 90,000 ตัวในเมืองรัตติกาลทมิฬ มันมีลอร์ดสีชาดระดับแพลตตินั่มขาวอยู่ในนั้นด้วย นอกจากนี้ นอกเหนือไปจากลอร์ดสีชาดนั้นแล้ว มันยังมีมอนสเตอร์แห่งหมอกระดับแพลตตินั่มขาวอยู่อีกหลายตัว”

“ส่วนที่เหลือก็อยู่ในระดับทองคำเหลือง ระดับเงินขาว ระดับบรอนซ์เขียว และระดับเหล็กดำ ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในระดับเหล็กดำ ซึ่งมอนสเตอร์แห่งหมอกระดับเหล็กดำนั้นไม่ใช่มอนสเตอร์สายต่อสู้ แต่เป็นชาวเมืองมอนสเตอร์แห่งหมอกและมอนสเตอร์แห่งหมอกในสายอาชีพ”

โจวโจวหรี่ตาลงเล็กน้อย

นี่เป็นอีกข้อแตกต่างของมอนสเตอร์แห่งหมอกที่มีอาณาจักร

พวกมันเริ่มแยกหน้าที่กันแล้ว ไม่เพียงแต่จะมีมอนสเตอร์แห่งหมอกที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ที่คอยปกป้องดินแดนสีชาด แต่ยังมีมอนสเตอร์แห่งหมอกที่รับหน้าที่สนับสนุนด้วย!

นี่เป็นการพัฒนาในระดับเดียวกับลอร์ดทั่วไปแล้ว

นี่ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันที่เป็นมอนสเตอร์แห่งหมอกถึงสามารถต่อสู้กับลอร์ดในทวีปจื้อเกามาได้นับหมื่นๆ ปี

ถ้ามอนสเตอร์แห่งหมอกทั้งหมดมีแต่ความป่าเถื่อน พวกมันก็คงจะถูกลอร์ดแห่งทวีปจื้อเกาพิชิตไปนานแล้ว พวกมันจะมีโอกาสได้ปรากฏตัวในศึกชิงเจ้าแห่งลอร์ดได้ยังไง?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ โจวโจวก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ในเวลานี้ ในขณะที่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายยากที่จะรับมืออยู่เล็กน้อย เขาก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้

เขาเริ่มเบื่อที่จะต่อสู้กับมอนสเตอร์แห่งหมอกโง่ๆ ที่รู้วิธีต่อสู้และฆ่าเท่านั้นมาสักพักแล้ว

มอนสเตอร์แห่งหมอกพวกนี้คือคู่ต่อสู้ที่แท้จริงที่ควรค่าแก่การเอาชัย!

“เหวินหยา ลงจอด”

“ไป่อี้ ผู้อาวุโสอู๋ เตรียมรับศึก วันนี้พวกเราจะพิชิตเมืองรัตติกาลทมิฬให้ได้!”

โจวโจวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

เหวินหยา ไป่อี้ และอู๋ซินรับคำสั่ง “รับทราบ!”

เหวินหยาควบคุมภูติทมิฬให้ลงจอดห่างจากเมืองรัตติกาลทมิฬไป 10 กิโลเมตร

แม้ว่า 10 กิโลเมตรจะเป็นระยะที่ค่อนข้างไกลแล้ว แต่มอนสเตอร์แห่งหมอกในเมืองรัตติกาลทมิฬก็ยังสังเกตเห็นมันเพราะขนาดอันใหญ่โตของภูติทมิฬ

ด้วยสายตาอันทรงประสิทธิภาพของเขา โจวโจวสามารถมองเห็นทหารของเมืองรัตติกาลทมิฬที่อยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรได้อย่างชัดเจน พวกมันเริ่มวิ่งขึ้นและลงและเตรียมพร้อมรับศึก

“ระมัดระวังขนาดนั้นเลยเหรอ?”

โจวโจวเลิกคิ้วขึ้น

ในไม่ช้า หลังจากที่ลูกน้องทุกคนของเขาเดินออกมาจากภูติทมิฬจนหมดแล้ว ไป่อี้ก็นำทุกคนบุกเข้าหาเมืองรัตติกาลทมิฬ

หลังจากปีศาจหมอกหัวเขียวแห่งเมืองรัตติกาลทมิฬเตรียมต่อสู้ พวกมันก็ไม่เลือกออกมาจากเมือง และเฝ้าอยู่บนกำแพงเมืองเพื่อรอพวกเขาบุกเข้าไปแทน

เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายยากที่จะเอาชนะขึ้นไปอีก

ถ้ามันเป็นมอนสเตอร์แห่งหมอกที่เขาเคยพบมาในอดีต พวกมันก็น่าจะพุ่งออกมาต่อสู้กับพวกเขาทันที

เขาไม่รู้เลยว่าพวกมันจะรู้จักการใช้ประโยชน์จากกำแพงเมืองเพื่อต่อสู้เช่นนี้ได้ด้วย

ไป่อี้และคนอื่นๆ ไม่ได้ตื่นตระหนกเมื่อพวกเขาเห็นเช่นนี้ กลับกัน พวกเขากลับนำกองทัพบุกเข้าไปอย่างใจเย็น

เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากเมืองรัตติกาลทมิฬไป 4,900 เมตร ไป่อี้ก็สั่งการให้กองทัพหยุดลงในทันใด

“เอาปืนใหญ่พลังงานหมอกออกมา!”

ไป่อี้สั่ง

“ขอรับ!”

ทหารของกองพลทหารปืนใหญ่ (ทหาร 1,000 คน) ตอบสนองต่อคำสั่งของไป่อี้ทันที

ในไม่ช้า ปืนใหญ่พลังงานหมอกระดับทองคำเหลืองขั้นสูง 100 กระบอกก็ถูกนำออกมา

นี่คือผลลัพธ์จากการที่จางเค่อซวนเรียกนักเล่นแร่แปรธาตุทั้งหมดในโรงแปรธาตุโนมไปทำงานทั้งวันทั้งคืน!

เมื่อมอนสเตอร์แห่งหมอกที่อยู่บนกำแพงเมืองรัตติกาลทมิฬเห็นเช่นนี้ พวกมันก็ประหลาดใจเล็กน้อย

อีกด้านหนึ่ง

“เล็งไปที่ประตูเมือง! เตรียมยิง!”

ไป่อี้สั่ง

“เล็งไปที่ประตูเมือง! ยิง!”

พลปืนทุกคนรับคำสั่ง

อึดใจต่อมา

ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม…

ปืนใหญ่พลังงานหมอก 100 กระบอกยิงออกไปโดยพร้อมเพรียงกันในพริบตา

พวกมันทิ้งเส้นแสงสีเทาไว้ในอากาศ 100 สาย จากนั้นก็กระแทกเข้ากับบาเรียสีชาดพร้อมกับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ลูกกระสุนปืนใหญ่พลังงานหมอกก็พุ่งผ่านบาเรียสีชาดและปะทะเข้ากับประตูเมืองของเมืองรัตติกาลทมิฬ

ครืน…

กำแพงเมืองยาว 100 เมตรถูกทำลายโดยตรงจากลูกปืนใหญ่พลังงานหมอก และกลายเป็นเศษซากจำนวนมากพร้อมกับทำให้ปีศาจหมอกหัวเขียวหลายร้อยตัวตกลงมาที่พื้น

ปีศาจหมอกหัวเขียวที่สูง 40-50 เมตรบางตัวก็ตกลงมาตาย ในขณะที่ตัวอื่นๆ ถูกเศษหินที่ตกลงมากระแทกจนตายหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในเวลาอันสั้น มันก็ไม่เหลือปีศาจหมอกหัวเขียวสักตัวที่รอดชีวิต

ไม่ใช่แค่นั้น กระสุนปืนใหญ่พลังงานหมอก 100 นัดนี้ยังได้ทำลายประตูเมืองหนึ่งในสามของเมืองรัตติกาลทมิฬไปด้วย

ฝ่ายปีศาจหมอกหัวเขียวตกอยู่ในความโกลาหลทันทีเมื่อเห็นเช่นนี้

หัวหน้าปีศาจหมอกหัวเขียวที่อยู่ในระดับทองคำเหลืองขั้นสูงบอกให้นักธนูหัวเขียวยิงตอบโต้ทันที

อย่างไรก็ตาม ระยะห่าง 4,900 เมตรก็ไม่อยู่ในระยะโจมตีของนักธนูหัวเขียวระดับเหล็กดำพวกนี้เลย

มีแค่นักธนูหัวเขียวระดับเงินขาวไม่กี่สิบตัวเท่านั้นที่สามารถยิงข้ามผ่านระยะห่างมาได้ แต่พวกมันก็ถูกป้องกันได้อย่างง่ายดายโดยทหารของโจวโจว

เมื่อโจวโจวเห็นประสิทธิภาพอันน่าตกตะลึงของปืนใหญ่พลังงานหมอก 100 กระบอก ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมา

แข็งแกร่งมาก!

ยิ่งมีปืนใหญ่พลังงานหมอกมากเท่าไร ประสิทธิภาพของมันก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น!

จากนั้นหัวใจของเขาก็เจ็บแปลบ

พลังของปืนใหญ่พลังงานหมอกพวกนี้สุดยอดก็จริง แต่การบริโภคแกนหมอกของพวกมันก็สูงไปหน่อย!

แกนหมอกระดับทองคำเหลือง 1 ชิ้นเพียงพอจะใช้ยิงกระสุนออกไปได้แค่ 10 นัดเท่านั้น

กระสุนปืนใหญ่พลังงานหมอก 100 นัดเมื่อครู่เทียบได้กับแกนหมอกระดับทองคำเหลือง 10 ชิ้นเลย

สงครามมีค่าใช้จ่ายสูงจริงๆ!

โจวโจวเดาะลิ้น

เขาสั่งให้ไป่อี้โจมตีต่ออย่างกล้าหาญในขณะที่หัวใจของเขาเจ็บปวด!

ฉันไม่ได้ขาดแคลนเงิน!

ฉันหาแกนหมอกมาได้ตั้งมากมายก็เพื่อใช้พวกมันไม่ใช่เหรอ?!

ตราบใดที่มันสร้างผลลัพธ์ได้ เขาก็ยินดีที่จะจ่ายออกไปจนกว่าเขาจะล้มละลาย!