บทที่ 26 ท่าไท่จี้
เกือบหนึ่งหรือสองชั่วโมงผ่านไป และเฉินฟานก็มองไปที่แถบทักษะอย่างพึงพอใจ
【ท่ายืนเสา: ระดับ 2 (0%) คุณสมบัติเฉพาะ: ระดับความแข็งแกร่งทางกายภาพ 2 】
【ท่าร่างพื้นฐาน: ระดับ 1 (0%)】
【ท่าเตะพื้นฐาน: ระดับ 1 (0%) คุณสมบัติเฉพาะ: ระดับที่แข็งแกร่ง 1 】
【ท่าย่างก้าวพื้นฐาน: ระดับ 1 (0%) คุณสมบัติเฉพาะ: ระดับความรวดเร็ว 1 】
คุณสมบัติเฉพาะ: ระดับที่แข็งแกร่งจะเหมือนกับความแข็งแกร่งของแขน ทุกครั้งที่เพิ่มระดับ มันจะเพิ่มคุณสมบัติความแข็งแรงเล็กน้อย และคุณสมบัติเฉพาะ: ระดับความรวดเร็วจะเพิ่มคุณสมบัติความคล่องตัวของเขาในทุกระดับที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ระดับท่าร่างพื้นฐานเพิ่มขึ้นแต่ไม่มีคุณสมบัติเฉพาะ มีแต่ความทรงจำที่เด่นชัดของท่าร่างในใจ แน่นอนว่าแต้มค่าประสบการณ์ที่จำเป็นในการเพิ่มระดับก็น้อยลงเหมาะสมกัน 1 แต้มมันจะเพิ่มขึ้น 1 ระดับ
[ท่าเตะพื้นฐาน] [ท่าย่าวก้าวพื้นฐาน] ก็เหมือนกับ [ท่ายืนเสา] ตั้งแต่ระดับ 0 ถึงระดับ 1 เขาต้องใช้ 2 แต้มค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มระดับ
ด้วยวิธีนี้เขาใช้แต้มค่าประสบการณ์ 10 แต้มไม่เพียงแต่ได้รับความทรงจำและความเข้าในท่าร่างพื้นฐานต่างๆ แต่ยังได้รับความแข็งแกร่งทางร่างกาย 2 แต้ม ความแข็งแรง 1 แต้ม และความคล่องตัว 1 แต้ม เขาถือว่าได้รับประโยชน์มากมายในครั้งนี้
อันที่จริง เฉินฟานยังคงมีบางอย่างที่ต้องคาดเดาอยู่ในใจ
เขารู้สึกว่าอาจไม่มีขีดจำกัดสูงสุดสำหรับพื้นฐานเหล่านี้ และตราบใดที่เขามีแต้มค่าประสบการณ์เพียงพอ มันก็สามารถเพิ่มระดับได้เสมอ
ในทำนองเดียวกันการเพิ่มขึ้นของค่าคุณสมบัติก็อาจจะไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดว่าการพัฒนาที่เกิดจากการเพิ่มระดับทักษะพื้นฐานค่อนข้างได้ค่าสถานะน้อยไปหน่อย
แต่มันก็ถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผล เพราะทักษะพื้นฐานต่างๆน่าจะมีมากมายอย่างยิ่ง
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเลื่อนระดับพวกมันไปแค่ระดับ 1 เท่านั้น โดยเหลือค่าประสบการณ์ไว้อีก 7 แต้มเพื่อดูผลที่ตามมา
"เอาล่ะ"
ขณะนั้นเองเสียงของชายพิการก็ดังขึ้น และเขาก็กวาดไปทั่วฝูงชนด้วยใบหน้าจริงจัง “ข้าอยากให้พวกเจ้าทุกคนจำบทเรียนวันนี้ให้ดี ข้าจะสาธิตวันละครั้ง และพวกเจ้าก็ฝึกตามไปด้วย ดังนั้นพวกเจ้าต้องจดจำมันไว้ให้ดี..”
“ใช่ นอกจากนี้ สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานของพื้นฐานการต่อสู้ทุกอย่าง ถ้าเจ้าไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ดี เช่นนั้นเจ้าควรล้มเลิกความคิดในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โดยเร็วที่สุด”
แน่นอนว่าเมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกไป หลายคนก็เริ่มตื่นเต้น
“ลุงจาง เราจะจดจำมันไว้ให้ดีอย่างแน่นอน”
“ถูกต้อง มันเป็นเพียงไม่กี่อย่าง ไม่มีอะไรยากหรอก?”
"มันน่าสนใจมากกว่าการอ่านหนังสืออย่างมาก"
เฉินฟานกลอกตา คิดว่าปกติลุงจางมักจะชอบใช้วิธีการที่ก้าวร้าว…
แต่หวังปิงและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะชอบวิธีการนี้
แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะต้องคนก็ต้องการความแข็งแกร่งและคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น
“เอาล่ะ นั่นคือทั้งหมดสำหรับวันนี้ พวกเจ้าก็ไปยิงแทงหอกและยิงหน้าไม้กันต่อเถอะ เฉินฟานอยู่ที่นี่ก่อน”
หลังจากคำพูดของเขาจบลง หลายคนก็จากไปด้วยสีหน้าอิจฉา
เฉินฟานยิ้มอย่างเขินอายและพูดว่า "ลุงจาง ท่านจะสอนท่าไท่จี้ให้ข้าจริงๆใช่ไหม?"
เมื่อเห็นสิ่งนี้จางเหรินมักจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูถูกเขา และเขาก็อารมณ์เสียอย่างอธิบายไม่ถูก เขาแค้นเสียงอย่างเย็นชาและพูดว่า "เอาล่ะ เจ้าสามารถบรรลุหวู่จี้ในระดับแรกในครั้งเดียวได้อย่างไร?"
"อ่อ..?"
เฉินฟานเกาหัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นเพียงความรู้สึกว่าการยืนแบบนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากนัก และมันยังสามารถทำให้จิตใจของข้าว่างเปล่าได้ เช่นเดียวกับความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนตอนที่กำลังสูบบุหรี่”
"เหมือนตอนที่กำลังสูบบุหรี่?..."
จางเหรินเลียริมฝีปากของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“อะแฮ่ม เรื่องนี้จะไปเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ได้อย่างไร ถ้าเปรียบเทียบไม่เป็นเจ้าก็อย่าเปรียบเทียบมั่ว แต่โดยสรุปคือพรสวรรค์ในการฝึกศิลปะการต่อสู้ของเจ้าก็ไม่ได้แย่ ถ้าเจ้าเรียนไท่จี้ด้วยความอดทนและขยันหมั่นเพียร เจ้าจะสามารถบรรลุระดับแรกภายในหนึ่งสัปดาห์”
"รับทราบครับ"
เฉินฟานพยักหน้าซ้ำๆ ราวกับจะพูดว่า รออะไรอีก..มาเริ่มกันเลย
"ฟังนะ"
ใบหน้าของจางเหรินกลับคืนสู่สภาพเดิม "ไท่จี้สืบเนื่องมาจากหวู่จี้ ที่เปรียบเสมือนมารดาผู้ให้กำเนิดของหยินและหยาง ซึ่งหมายความว่าไท่จี้เกิดมาจากหวู่จี้ ทำให้ไท่จี้เป็นธรรมชาติของหยินและหยาง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมีสองด้านเสมอเหมือนหยินและหยาง
เมื่อพูดถึงศิลปะการต่อสู้ ก็ต้องพูดถึงไท่จี้ ไท่จี้นั้นแบ่งออกเป็นไท่จี้แบบมั่นคงและไท่จี้แบบพริ้วไหว หลังจากฝึกไท่จี้แบบมั่นคงแล้ว ก็สามารถเริ่มฝึกไท่จี้แบบพริ้วไหวได้ ข้อกำหนดพื้นฐานของการฝึกไท่จี้คือหวู่จี้(ท่ายืนเสา)ในระดับสองขึ้นไป"
ในไม่ช้าเฉินฟานก็เข้าใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
【ท่าไท่จี้พื้นฐาน: ระดับ 0 (0%)】
ข้อกำหนดการปลดล็อค: [ท่าหวู่จี้ ระดับ 2 สำเร็จ]
สิ่งนี้ทำให้เขาคาดเดาได้อย่างคลุมเครือ เป็นไปได้ไหมว่าท่าร่างสามท่ารวมถึงไท่จี้ มีข้อกำหนดเบื้องต้นที่สอดคล้องกัน
บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องจริง
ขั้นตอนต่อไปคือการเริ่มฝึกซ้อม ท่าแรกจะคล้ายกับท่ายืนเสา ต่างกันตรงที่เขาต้องงอเข่าเล็กน้อย และยกแขนขึ้นช้าๆ ให้เป็นวงกลมที่ด้านหน้าหน้าอก มันเรียกว่าท่านั่งม้าของไท่จี้
หลังจากนั้นก็ค้างไว้ในลักษณะนี้ให้ได้นานที่สุด เฉินฟานก็รู้สึกว่าเขาของเขาเจ็บปวดราวกับไฟไหม้ และเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“จำได้ไหมว่าข้าสอนวิธีฝึกมันยังไง ทุกๆ ห้านาทีเจ้าต้องพักหนึ่งนาทีและยืนให้ได้หนึ่งชั่วโมง” จางเหรินเหลือบมองเขาแล้วพูดออกมาอย่างใจเย็น
เฉินฟานถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหลังจากยืนขึ้นแล้วเขาก็ยืดเส้นยืดสายเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ต้องบอกว่าท่าไท่จี้นี้เหนื่อยกว่าท่าหวู่จี้อย่างมาก ท่าต่อไปจะไม่เหนื่อยไปกว่านี้อีกเหรอ?
และเขาใช้โอกาสพักนี้ เขาเหลือบมองที่แถบทักษะ และเห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ปรากฏขึ้นจริงๆ
【ท่าไท่จี้พื้นฐาน: lv0 (0.05%)】
"..."
เขาตะลึงเล็กน้อย
ให้ตายเถอะ มันเพิ่มขึ้นแค่ 0.05 ใน 5 นาทีงั้นเหรอ? หมายถึงมันเพิ่มความเชี่ยงชาญขึ้น 0.01 ใน 1 นาทีไม่ใช่เหรอ? อยากเพิ่มระดับของมันเขาต้องยืน 10,000 นาทีใช่ไหม?
นั่นเท่ากับ 166 ชั่วโมง หรือถ้าไม่หลับไม่นอนก็หนึ่งสัปดาห์พอดี…
เขาเหลือบมองจางเหริน และคิดว่าลุงจางเป็นคนโหดเหี้ยมจริงๆ นี้เขาไม่ต้องการให้เขากินอาหาร นอนหลับ หรือเข้าห้องน้ำหน่อยหรือ?
"ไม่ต้องรีบค่อยๆฝึกไปก่อน ท่าไท่จี้นี้เป็นเพียงท่าเริ่มต้นของไท่จี้ฉวนทั้งหมด หากเจ้าฝึกฝนให้ดี เจ้าก็จะได้ผลสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว อย่าขี้เกียจๆ"
หลังจากที่จางเหรินพูดจบ เขาก็เดินไปหาหวังปิงและคนอื่นๆ
เฉินฟานกัดฟันและมองที่หลังของเขา ตอนนี้เขาล้มเลิกแผนการใช้แต้มค่าประสบการณ์ชั่วคราว
เพราะท้ายที่สุดแล้ว แค่เริ่มต้นก็ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าที่จะเพิ่มระดับได้ เขาค่อยเพิ่มหลังจากใช้ความไปสักหน่อยก็ไม่เสียหาย โชคดีที่คุณสมบัติทางกายภาพในปัจจุบันของเขาแซงหน้าคนทั่วไปไปแล้วอย่างมาก และเขาสามารถฟื้นตัวได้มากหลังจากพักผ่อนเพียงแค่นาทีเดียว
หนึ่งชั่วโมงกำลังจะผ่านไป
จางเหรินเข้ามาและเห็นท่าทางของเฉินฟาน ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดเกินไป พยักหน้าและพูดว่า "เอาล่ะ การฝึกฝนท่าไท่จี้พื้นฐานพอแค่นี้แหล่ะ และเราจะฝึกต่อไปในวันพรุ่งนี้"
“ครับ ลุงจาง”
เฉินฟานถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เขาก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าอย่างมากเช่นกัน
“พักก่อน แล้วเราจะฝึกยิงธนูให้เจ้าในภายหลัง เทคนิคการยิงธนูนั้นพิเศษนิดหน่อย หากไม่ฝึกสักวันหนึ่งเจ้าก็จะกลายเป็นไม่คุ้นเคยกับมัน”
"ได้ครับ"
เฉินฟานพยักหน้า
ตอนนี้ความชำนาญของทักษะ [การยิงธนูขั้นพื้นฐาน] ใกล้ถึง 60% แล้ว ในช่วงบ่ายและเย็นเขาน่าจะสามารถเพิ่มมันถึงระดับ 5 ได้ ในขณะนั้นคุณสมบัติการยิงเป้าเคลื่อนที่ระดับ 3 สามารถให้อัตราการโจมตีโดนเป้า 90%
หากเขาพบกับวัวป่าอีกครั้ง มันจะไม่สามารถหลบลูกธนูดอกแรกของเขาได้ง่ายดายแล้ว
ส่วนการฝึกท่าไท่จี้และท่าอื่นๆนั้น มันทำให้เขาสามารถน้าวธนูที่มีแรงดึงได้มากขึ้น
ในเวลานี้ เขามองไปที่ร่างหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล และถามออกไปด้วยความแปลกใจว่า "ลุงจาง จ่าวเฟิง เขาวางแผนจะฝึกยิงธนูด้วยงั้นหรือ?"
“บางทีเขาอาจจะถูกกระตุ้นโดยเจ้า”
จางเหรินมองดูแล้วพูดเสริมว่า "แต่ถ้าเขาสามารถฝึกฝนได้จริงๆ มันจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหมู่บ้านของเรา"
เฉินฟานเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ยิ่งคนอื่นๆ ในหมู่บ้านแข็งแกร่งเท่าไร ความกดดันบนไหล่ของเขาก็จะน้อยลงเท่านั้น
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
“ถ้าพรุ่งนี้เช้าจะไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ข้าก็จะออกไปล่าสัตว์อีก” เฉินฟานหรี่ตาลงเล็กน้อย เพราะเขาต้องการที่จะดำเนินการไปทีละขั้นตอนและเก็บงำความแข็งแกร่งไว้บ้าง เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจมากเกินไป
แต่ทุกครั้งที่เขาออกไป เขาต้องดิ้นรนระหว่างชีวิตและความตาย และหากเขาไม่ระวังเขาอาจจะเสียชีวิตได้ ในเวลานั้นมันดูโอ้อวดเกินไปหน่อยที่ยังจะต้องมากังวลว่าจะเปิดเผยความแข็งแกร่งของตัวเองหรือไม่
ดังนั้นเขาต้องใช้แต้มค่าประสบการณ์เพิ่มระดับ [ท่าไท่จี้] ก่อน!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved