แม้ว่าตัวจริงของหลินอี้เพิ่งจะมาถึง แต่เขาได้ใช้ [ดวงตาแห่งปัญญา] เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้ว รวมถึงได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนเกือบทั้งหมด

อืม เป็นไปตามจินตนาการของเขาเกี่ยวกับสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นเดียวกันของต้าเซี่ย ทั้งคู่ล้วนเป็นราชาแห่งความเท่จริงๆ

เมื่อเห็นหลินอี้มาถึง หลูอวี้ดูเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อย

"นายเป็นคนที่สังหารสัตว์ร้ายในเขตภูเขาหิมะและเนินเขาทั้งหมดใช่ไหม?"

"ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ตอนนี้ฉันคงมีเพื่อนมากกว่านี้นะ"

หลินอี้กวาดตามองสัตว์ร้ายและสัตว์ประหลาดมากมายที่อยู่รอบๆ หลูอวี้ แล้วจ้องมองหลูอวี้อีกครั้ง

ทันใดนั้นเขาก็เลิกคิ้วขึ้น

หัวใจแห่งสรรพสัตว์?

น่าแปลกใจที่พญาอินทรีย์ใหญ่สองตัวของเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง เพราะก่อนที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ สัตว์ร้ายทั้งสองตัวนี้ถือเป็นสัตว์ปีกเช่นกัน

หากพูดถึงสิทธิ์ในการควบคุม ด้วยการเสริมพลังจาก "โมดูลหลักของเตาปฏิกรณ์" หลูอวี้จึงมีสิทธิ์ในการควบคุมที่สูงกว่า

อืม ดูเหมือนว่าแผนการใช้กองทัพภัยพิบัติบดขยี้สองคนที่เหลือจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เขาอาจต้องใช้ไพ่ตายบางอย่างแล้ว

"ฉันรีบ" หลินอี้พูด "ยังไงพวกนายก็ต้องแพ้ สู้พร้อมกันเลยดีกว่า"

เซี่ยอวี่เอียนแทบไม่สนใจมองหลินอี้ หรือพูดอีกอย่างคือ ตอนนี้คนอื่นที่อยู่ในสถานที่นี้ไม่อาจเทียบกับเธอได้

ภายในอาณาเขตของเธอ เธอไม่มีคู่ต่อสู้

เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เกิด

เธอเพียงแค่ต้องเลเวลอัพตามลำดับ และทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพให้สำเร็จ ภายในสิบปี เธอจะต้องได้เป็นหนึ่งในหมู่เทพสงครามแห่งต้าเซี่ย

เซี่ยอวี่เอียนมีความหยิ่งทะนง แต่ความหยิ่งทะนงของเธอมาจากสถิติการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่เคยพ่ายแพ้มาจนถึงตอนนี้

ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับคนระดับเดียวกันหรือข้ามระดับ เธอก็สามารถเอาชนะได้อย่างราบคาบ แม้แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสบางคนที่เปลี่ยนอาชีพขั้นสูง เธอก็ยังมีพลังต่อสู้ได้

คนที่แข็งแกร่งและไร้พ่ายที่สุดในหมู่คนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ย โดยไม่ต้องพูดออกมา ผู้อื่นก็จะให้คำประเมินเช่นนี้

"พี่อวี่เอี้ยน เธอขโมยบทพูดของฉันอีกแล้ว!" หลูอวี้ร้องอย่างไม่พอใจ "ที่จริงควรเป็นพวกเธอสองคนที่ต้องสู้พร้อมกันสิ!"

บนท้องฟ้า หลินอี้หัวเราะเบาๆ "ฉันไม่รบกวน พวกเธอสู้กันต่อเถอะ"

สำหรับหลินอี้ ผลแพ้ชนะของการต่อสู้ครั้งนี้ เขารู้ล่วงหน้าแล้ว

แต่เขาก็ยังเพลิดเพลินกับกระบวนการนี้

แน่นอน หากทั้งสองคนข้างล่างเลือกที่จะจัดการเขาซึ่งเป็นบุคคลที่สามก่อน หลินอี้ก็ไม่รังเกียจที่จะลงไปมีส่วนร่วมในการต่อสู้ด้วยตัวเอง

"เฮ้อ พี่อวี่เหยียน แม้ว่าครั้งนี้ฉันจะชนะเธอด้วยไอเทมพิเศษของดันเจี้ยน มันอาจดูไม่ค่อยน่าภูมิใจ" หลูอวี้พูด "แต่ก็ยังดีกว่าไม่เคยชนะเลยสักครั้ง"

หลูอวี้และเซี่ยอวี่เอียนดูเหมือนจะมีความเข้าใจร่วมกันโดยไม่ต้องพูด พวกเขาไม่สนใจหลินอี้ที่อยู่บนท้องฟ้า ราวกับว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลินอี้ซึ่งเป็นคนแปลกหน้า

ผู้ชนะจะปรากฏขึ้นระหว่างพวกเขาเท่านั้น เมื่อฝ่ายหนึ่งชนะ การบดขยี้หลินอี้ก็เป็นเรื่องแน่นอน

นอกจากนี้ ทั้งสองคนดูเหมือนจะรู้จักกันมาก่อน และในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เด็กหนุ่มผมสีเงินหลูอวี้ ดูเหมือนจะไม่เคยชนะเซี่ยอวี่เอียนเลยสักครั้ง ดังนั้นในใจเขาจึงต้องมีความแค้นอย่างแน่นอน

ไม่รู้ว่าหลูอวี้สั่งการฝูงสัตว์อย่างไร ในช่วงเวลาต่อมา สัตว์ร้ายนับหมื่นตัวมีดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำดั่งเลือดในพริบตา! ขนาดร่างกายของพวกมันใหญ่ขึ้นกว่าหนึ่งในสามด้วย!

หลินอี้จ้องมองอย่างสนใจ เขาสังเกตเห็นว่าในชั่วพริบตาเดียว เด็กหนุ่มคนนี้ได้เพิ่มสถานะเสริมพลังสามถึงสี่อย่างให้กับสัตว์ร้ายนับหมื่นตัว! และแต่ละอย่างก็แข็งแกร่งมาก! ถึงขนาดทำให้ตำแหน่งของสัตว์ร้ายเหล่านี้เพิ่มขึ้นครึ่งขั้นในทันที!

ตึกตัก! ตึกตัก!

หลินอี้ได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังราวกับกลองศึกดังก้องในหู! เป็นเสียงหัวใจเต้นพร้อมกันของสัตว์ประร้ายนับหมื่นตัวในเวลาเดียวกัน!

ตอนนี้ หัวใจของสรรพสัตว์เป็นหนึ่งเดียวกัน!

"คลั่ง!"

"กระหายเลือด!"

"เพิ่มพลัง!"

ในห้องประชุม เซียวเสวี่ยนอี้มองดูหลูอวี้ที่ในที่สุดก็เปิดเผยไพ่ตายทั้งหมดของเขา จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่อทักษะที่เขารู้จัก

"เจ้าหนูนั่นอัพเกรดสกิลทั้งหมดถึงขั้น 5 แล้วเหรอเนี่ย!"

"ด้วยการเสริมพลังของโมดูลหลัก สกิลขั้น 5 ทั้งสี่อย่างนี้ให้การเพิ่มพลังที่น่ากลัวมาก!"

"สถานะสุดท้ายนี้... คือพันธสัญญาเลือดแห่งสรรพสัตว์!"

"นี่เป็นสกิลขั้น 6 เขาทุ่มสุดตัวจริงๆ!"

เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายนับหมื่นตัวที่ได้รับการเสริมพลัง การตอบโต้ของเซี่ยอวี่เอียนยังคงสงบนิ่ง

อื้อ——

วงแสงสีฟ้าอ่อนของอาณาเขตหนึ่ง แผ่ขยายออกจากจุดศูนย์กลางที่เท้าของเซี่ยอวี่เอียนอย่างรวดเร็ว จนครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยเมตร

สัตว์ร้ายทั้งหมดที่เข้ามาในขอบเขตอาณาเขตของเซี่ยอวี่เอียน

ในช่วงเวลาต่อมาจะถูกตัดแขน ขา หรือแม้แต่ถูกผ่าครึ่งด้วยการโจมตีที่มองไม่เห็น!

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ สัตว์ร้ายเหล่านี้กลับฟื้นคืนสภาพเดิมในวินาทีถัดมา! รวมถึงสัตว์ร้ายที่ถูกผ่าครึ่งและตัดหัวด้วย! ดูเหมือนพวกมันจะได้รับร่างอมตะ!

"ฮ่าๆๆ เพื่อนๆ ของฉันไม่มีวันตายแล้ว" หลูอวี้พูดด้วยสีหน้าบิดเบือน การเปิดใช้สถานะนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวเช่นกัน มันสูบพลังงานของเขาอย่างมาก แต่ทั้งหมดนี้ก็คุ้มค่า

นอกจากเสี่ยวเสวียนอี้และท่านเมิ่งที่มองออกถึงความผิดปกติแล้ว ไม่มีใครสามารถมองออกว่าหลูอวี้ทำได้อย่างไร ยกเว้นหลินอี้

[พันธสัญญาเลือดแห่งสรรพสัตว์: ในช่วงเวลาที่มีผล ทำให้สัตว์เรียกทั้งหมดของคุณแบ่งปันพลังชีวิตร่วมกัน สัตว์เรียกทั้งหมดจะไม่ตายจนกว่าพลังชีวิตรวมจะถูกทำลายหมด]

ต้องบอกว่าบัฟนี้ในกรณีที่มีสัตว์เรียกไม่มากพอ ก็ยังพอรับมือได้

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่หลูอวี้ควบคุมสัตว์ร้ายนับหมื่นตัวด้วยการเสริมพลังจากโมดูลหลัก

มันก็เกือบจะไร้พ่ายแล้ว

ยอดรวมพลังชีวิตของสัตว์ร้ายนับหมื่นตัวจะเป็นตัวเลขที่น่าสะพรึงกลัวมาก!

ในดวงตาเย็นชาของเซี่ยอวี่เอียน ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

ดูเหมือนว่าการทุ่มสุดตัวของหลูอวี้จะไม่มีภัยคุกคามใดๆ ต่อเธอเลย

"เธอทำให้ฉันผิดหวัง" เธอพูด

"แม้จะได้รับการเสริมพลังมากมายขนาดนี้ ก็ยังแค่นี้"

"อาณาเขต: เงียบงัน...!"

ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อของหลูอวี้

เซี่ยอวี่เอียนเปลี่ยนสถานะของอาณาเขต!

จากอาณาเขต: ตัดวิญญาณ เปลี่ยนเป็นอาณาเขต: เงียบงัน!

และขอบเขตของอาณาเขตนี้ก็กว้างกว่าตัดวิถีเวหาถึงเจ็ดถึงแปดเท่า!

อาณาเขตสีเทาเข้มแห่งความเงียบงันครอบคลุมหลูอวี้และสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนไว้ทั้งหมด!

ไม่นานนัก ผลพิเศษของอาณาเขตนี้ก็แสดงออกมา!

สัตว์ร้ายที่ได้รับผลจากสถานะคลั่ง กระหายเลือด และพันธสัญญาเลือดแห่งสรรพสัตว์จากหลูอวี้ สูญเสียการเสริมพลังทั้งหมดในทันที!

พวกมันกลับสู่สภาพปกติเหมือนก่อนหน้านี้!

หลินอี้ที่ถูกอาณาเขตนี้ครอบคลุมด้วยเช่นกันก็พบว่า

ทักษะทั้งหมดของเขาที่ต่ำกว่าขั้น 6 ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป!

"ถึงเวลาจบเกมแล้ว" เซี่ยอวี่เอียนพูด

"อาณาเขตซ้อน: เปลวเพลิงร้อนแรง!"

แสงไฟสว่างจ้า อุณหภูมิสูงน่าสะพรึงกลัว อาณาเขตสีแดงเพลิงของเปลวเพลิงร้อนแรงซ้อนทับลงบนอาณาเขตสีเทาแห่งความเงียบงัน!

ในชั่วพริบตา สัตว์ร้ายนับหมื่นตัวในที่นั้น

กลายเป็นเถ้าถ่านลอยไปกับสายลม!!!

ภาพนี้มีพลังกระแทกอย่างมาก

แม้แต่หลินอี้ที่รู้ผลลัพธ์นี้ล่วงหน้าแล้วก็ยังต้องชื่นชมว่ายอดเยี่ยม

เด็กหนุ่มผมสีเงินหลูอวี้ไม่ยิ้มอีกต่อไป

ในฐานะหัวใจแห่งสรรพสัตว์ ในช่วงเวลาที่สัตว์เรียกทั้งหมดของเขาถูกทำลาย ระฆังแห่งความพ่ายแพ้ก็ดังขึ้นแล้ว

"อึก อึก อึก! พี่รังแกชั้น! คอยดูนะ! ชั้นจะฟ้องคุณปู่!"

ในช่วงเวลาต่อมา หลูอวี้เลือกที่จะกดปุ่มสีแดงออกจากดันเจี้ยนด้วยตัวเอง

โมดูลหลักของเตาปฏิกรณ์ที่เขาถืออยู่ในมือก่อนหน้านี้

ก็ถูกเซี่ยอวี่เอียนเก็บขึ้นมา

เธอเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า มองไปที่หลินอี้ซึ่งขี่มังกรอยู่บนนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน

"ถึงตานายแล้ว"

ศึกครั้งสุดท้าย มาถึงแล้ว!