บทที่ 249 : แน่จริงก็พูดอีกครั้ง!
หลี่เฉิงและหลี่เว่ยไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แต่ในที่พัก นอกจากการออกจากเมืองแล้ว พวกเขาก็สามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระ พวกเขายังสามารถสอบถามข้อมูลจากคนในท้องถิ่นและรวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับซุยเฮ็งได้
ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ซุยเฮ็งเป็นผู้ว่าการรัฐของที่นี่ เขาก็ได้ใช้คำสั่งของรัฐทำอะไรบ้าง สิ่งสำคัญที่เขาทำ และแม้แต่บุคลิกและความชอบของเขา
เมืองฉางเฟิงเคยเป็นสถานที่ซึ่งซุยเฮ็งเคยปกครอง มันได้ทิ้งตำนานไว้มากมายในหมู่ผู้คนและสร้างนิทานพื้นบ้านขึ้นมา มันมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการปราบปีศาจและการลงโทษความชั่วร้าย
ในระหว่างกระบวนการรวบรวมข้อมูล หลี่เฉิงและหลี่เว่ยก็ค่อยๆ ตระหนักได้ว่าซุยเฮ็งนั้นเป็นคนแบบไหน
“ ฐานรากของพระราชกฤษฎีกาใหม่นั้นคือการคำนึงถึงเหล่าประชาชน เขากล้าแม้แต่จะเป็นฝ่ายเริ่มรุกรานตระกูลขุนนางเหล่านั้น มันมีผู้ปกครองเช่นนี้จริงๆ หรอเนี่ย” หลี่เฉิงพลิกดูข้อมูลต่างๆ ที่เขาได้รับมา
“ ไม่เพียงแค่นั้น ซุยเฮ็งคนนี้ยังดูเหมือนจะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลขุนนางทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของเหล่าประชาชน สิ่งนี้ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันบ่อยครั้ง” หลี่เว่ยพยักหน้าและพูดว่า “ มันแทบจะไม่มีผู้ปกครองเช่นนี้ในโลกของเราเลย”
“ ตัดคำว่า 'แทบจะ' ออกไปได้เลย” หลี่เฉิงหัวเราะเบาๆ “ มันไม่มีอะไรแบบนี้บนโลกของเราอย่างแน่นอน!”
แม้ว่าดาวชงหยางจะเป็นดาวเคราะห์ที่แข็งแกร่งและมีหลายสำนักและหลายตระกูลขุนนาง แต่พวกเขาก็ยังมีคนธรรมดาอีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
คนธรรมดาเหล่านี้คือผู้ที่สร้างโลกมนุษย์ขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อจำกัดของเหล่าสำนักและตระกูลขุนนาง มันจึงไม่มีรัฐใดจะเทียบได้กับประเทศในชงหยาง
โดยปกติแล้ว สำนักและตระกูลขุนนางก็จะเป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่ที่อยู่รอบๆ พวกเขา
ผู้ปกครองของสถานที่ต่างๆ ล้วนมาจากสำนักและตระกูลขุนนาง
สำนักและตระกูลขุนนางนั้นสูงส่งและมีอำนาจมาก และพวกเขาก็มีสิทธิพิเศษมากมาย
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีผู้ปกครองที่สามารถยืนอยู่ข้างคนธรรมดาและต่อต้านเหล่าสำนักและตระกูลขุนนางได้
นอกเหนือจากผู้โชคดีเพียงไม่กี่คนในหมู่คนธรรมดาแล้ว มันก็ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของพวกเขาเอง
ถึงกระนั้น ผู้ปกครองเช่นซุยเฮ็งก็กลับใช้คำสั่งของรัฐโดยคำนึงถึงคนธรรมดา นี่เป็นเรื่องที่แปลกใหม่มากสำหรับหลี่เฉิงและหลี่เว่ย พวกเขาไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
“ เมื่อร้อยปีก่อน เพื่อดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกา ซุยเฮ็งถึงกับยอมผลักตัวเองเข้าสู่ฐานะศัตรูของโลกทั้งใบ” หลี่เฉิงกล่าวอย่างครุ่นคิด “ ถ้าไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของเขา ข้าก็เกรงว่าเขาคงจะตายไปนานแล้ว”
“ ซุยเฮ็งคนนี้ฉลาดและมีเมตตาจริงๆ” ดวงตาของหลี่เว่ยเป็นประกาย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเคารพในขณะที่เธอยิ้มออกมากว้าง “ บุคคลเช่นนี้จะต้องมีนิสัยอ่อนโยนและมีจิตใจดีต่อผู้อื่นอย่างแน่นอน ข้าอยากจะเจอเขาเร็วๆ แล้ว!”
“…” เมื่อหลี่เฉิงเห็นสีหน้าของน้องสาว เขาก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวและพูดว่า “ มันอาจไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ มันใช่ว่าจะไม่มีคนโหดเหี้ยมบนโลกใบนี้”
“ เอ่อ? ถ้างั้นแล้วเราจะไม่ตกอยู่ในอันตรายหรอ?” ใบหน้าของหลี่เว่ยซีดลงด้วยความกลัว
“ นั่นไม่จำเป็น อย่ากลัวไปก่อน” หลี่เฉิงรีบโบกมือและพูดว่า “ จากข้อมูลที่เรารวบรวมมาได้ในตอนนี้ ซุยเฮ็งคนนี้ก็อาจจะไม่ได้ชอบฆ่าคนไปเรื่อย”
“ นอกจากนี้ เขาก็ยังดูเหมือนจะชอบสะสมของโบราณ เรามีสมบัติโบราณมากมายที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอยู่ในมือ เราสามารถมอบมันเป็นของขวัญอวยพรให้กับเขาได้ ตราบใดที่เรายังสร้างความประทับใจที่ดีให้กับเขาได้ เราก็จะสามารถซื้อใจเขาได”"
“ มันง่ายแบบนั้นเลยหรอ?” หลี่เว่ยเอียงศีรษะเล็กน้อยและยิ้ม “ พี่ชายข้าได้ยินมาว่าท่านซุยนั้นมีรูปร่างหน้าตาดีมาก ตำนานเล่าว่าเขามีรูปลักษณ์ของเซียน มันเป็นรูปลักษณ์ที่สง่างาม แบบนี้แล้วท่านอยากให้ข้าลองใช้ร่างกายของข้าไปสืบดูไหมล่ะ?”
หลี่เฉิงตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็ตอบโต้และเย้ยหยันว่า “ เหอะๆ! ด้วยใบหน้าที่กำยำของเจ้า มีหรอที่เขาจะหันมาหลงชอบเจ้า?”
“ บังอาจ! ท่านพูดอะไรออกมาน่ะ?!” ดวงตาของหลี่เว่ยเบิกกว้างในขณะที่เธอมองไปที่หลี่เฉิงด้วยความเหลือเชื่อ เธอชี้ไปที่รูปร่างและใบหน้าที่สวยงามของเธอ เธอกัดฟันและพูดว่า “ แน่จริงก็ลองพูดอีกครั้งสิ!”
ชีวิตประจำวันระหว่างพี่น้องนั้นช่างน่าเบื่อ
ขณะที่ทั้งสองกำลังโต้เถียงกัน มันก็เกิดความวุ่นวายขึ้นนอกที่พัก ดูเหมือนว่ามันจะมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่ถนนด้านนอก
“ ไปดูกันเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่น” หลี่เฉิงฉวยโอกาสถอยห่างจากน้องสาวของเขา
“ ฮึ่ม!” หลี่เว่ยกอดอกของเธอและพยุงยอดเขาสูงตระหง่านของเธอ เธอเม้มริมฝีปากและพูดว่า “ ก็ได้!”
สองพี่น้องเดินออกมาจากที่พักและเห็นว่ามีทหารรักษาการณ์ยืนเฝ้าอยู่สองข้างทาง สามัญชนจำนวนนับไม่ถ้วนได้มารวมตัวกันที่สองข้างถนนและมองไปรอบๆ พวกเขาต่างรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นทั้งสามคนเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ทั้งสามคนนี้เป็นชายวัยกลางคนในวัยห้าสิบถึงหกสิบปี เสื้อผ้าของพวกเขาเองก็ดูธรรมดามากเช่นกัน แต่กระนั้น ออร่าของพวกเขาก็กลับให้ความรู้สึกที่ยากจะหยั่งถึง
โดยเฉพาะคนที่อยู่ตรงกลาง เขาดูสูงส่งเป็นพิเศษ
“ เป็นท่านหลิวและท่านเฉินนี่เอง นี่ช่างเป็นการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้” หลี่เฉิงจำหลิวหลี่เต๋าและเฉินตงในสามคนนี้ได้ แต่กระนั้น คนที่อยู่ตรงกลางก็หน้าไม่คุ้นเลย
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาในเมืองฉางเฟิง เขาก็ได้เรียนรู้มาแล้วว่าสถานะของหลิวหลี่เต๋าและเฉินตงนั้นสูงมาก และแม้ว่าจักรพรรดิองค์ปัจจุบันจะเสด็จมา แต่เขาก็ยังอาจจะไม่ได้รับการต้อนรับอย่างโอ่อ่าเช่นนี้
แบบนี้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน?
ในขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่ จู่ๆ หลี่เฉิงก็ได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากพิธีต้อนรับจบลง เขาก็ได้รับคำเชิญจากหลิวหลี่เต๋าที่ได้เชิญเขาและหลี่เว่ยให้ไปร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved