บทที่ 120 : 24 ตระกูล ชั้นเซียน
ตระกูลเป่ยแห่งหลินเจียง?
ซุยเฮ็งตกตะลึง
นี่ไม่ใช่ตระกูลของเป่ยฉิงซูหรอ?
ต้าโจว…คือประเทศที่เขาและหลี่หมิงเฉียงจากมานี่?
นี่หมายความว่ามันจะต้องเป็นพวกเขาแน่ๆ
“ เด็กสองคนนั้นจะกำลังทำอะไรกันอยู่นะ?” ซุยเฮ็งรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ วรยุทธ์ที่ฉันสอนพวกเขาจะไปถึงระดับไหนแล้วนะ?”
เมื่อร้อยห้าสิบปีก่อน
เป่ยฉิงซูและหลี่หมิงเฉียงได้ตกลงมาในพื้นที่มิติสำหรับผู้เริ่มต้นของเขาและได้รับเคล็ดวิชายุทธ์ที่เขาสอน
ในใจของซุยเฮ็ง เขาก็มองว่าเขาได้พบกับสองคนนี้โดย “บังเอิญ” เท่านั้น
พวกเขาไม่ได้สำคัญเท่ากับหงฟู่กุ่ยและเจียงฉีฉี
อย่างไรก็ตาม เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเมื่อจู่ๆ เขาก็ได้ยินข่าวที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับพวกเขาหลังจากผ่านไปนาน
ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ได้ขัดจังหวะการบรรยายของหวังตงหลินและยังคงฟังอย่างเงียบๆ
ตามคำอธิบายของหวังตงหลิน สถานการณ์โดยรวมของโลกสูญสวรรค์ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในใจของเขา
นอกจากนี้ มันก็ยังเป็นโลกที่ถูกควบคุมโดยสำนักและตระกูลขุนนาง
อย่างไรก็ตาม มันก็แตกต่างจากต้าจินในตอนนี้
ประการแรก มันมีสำนักเซียนเก้าแห่งและอารามพุทธสามแห่ง
ด้วยอานุภาพแห่งเทพเซียนและพระโพธิสัตว์ มันย่อมครอบงำเหนือสิ่งทั้งปวง
ถัดมาคือราชวงศ์ต้าโจว ตระกูลเป่ยแห่งหลินเจียงและตำหนักเต๋าอี้ พวกเขาทั้งหมดเป็นขุมกำลังอันดับต้นๆ ที่มีผู้ฝึกตนขอบเขตเทวา
กองกำลังหลักทั้งสามนี้เป็นพันธมิตรซึ่งกันและกันและไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของสำนักใด
ผู้ที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของสำนักเซียนทั้งเก้านั้นคือตระกูลขุนนางอันดับต้นๆ
และมันก็มีตระกูลขุนนางทั้งหมด 24 ตระกูล
มันมี 9 ตระกูลที่โด่งดังและ 24 ตระกูลขุนนาง
มันมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างพวกเขา สิ่งเหล่านี้แสดงถึงสถานะที่แตกต่างกัน สิทธิพิเศษที่แตกต่างกัน และทรัพยากรที่แตกต่างกัน
จุดที่สำคัญที่สุดคือจำนวนที่ติดมาจำนวนเซียนในแต่ละ “ชั้นเซียน”
มันมีการจำกัดจำนวนของ “เซียน” ในแต่ละตระกูลเอาไว้อย่างชัดเจน
9 ตระกูลที่โด่งดังได้รับอนุญาตให้มีเซียนมนุษย์ได้ 18 คนและเซียนปฐพีได้ 5 คน
ในทางกลับกัน ตระกูลขุนนาง 24 ตระกูลก็ได้รับอนุญาตให้เซียนมนุษย์ได้เพียงแค่ 9 คนและเซียนปฐพี 1 คนเท่านั้น
ตระกูลหวังแห่งเจียงตงเป็นหนึ่งใน 9 ตระกูลที่โด่งดัง
และในตอนนี้ พวกเขาก็มีเซียนปฐพี 3 คนและเซียนมนุษย์ 17 คนในตระกูล และเก้าคนในนั้นก็เป็นเพื่อนของหวังตงหลิน
“ แล้วพวกเจ้าควบคุมปริมาณกันได้ยังไง?” ซุยเฮ็งอดไม่ได้ที่จะถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ในเวลาเดียวกัน เขาก็นึกถึงสิ่งที่หลี่หมิงเฉียงพูดถึงเมื่อตอนนั้น เคล็ดวิชาเซียนนั้นถูกควบคุมโดยสำนักเซียน เห็นได้ชัดว่ามันมีเส้นทางสู่การเป็นเซียนรออยู่ข้างหน้านั่น แต่คนธรรมดาก็ไม่สามารถเข้าถึงมันได้
สิ่งที่หวังตงหลินกล่าวนั้นสอดคล้องกับสิ่งนี้
แต่พวกเขาจะจำกัดข้อจำกัดนี้ได้อย่างไร?
แม้ว่าสำนักเซียนจะห้ามตระกูลขุนนางจากการแบ่งปันเคล็ดวิชาเซียน แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก
เมื่อเวลาผ่านไปนาน มันก็จะเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เคล็ดวิชาถูกเผยแพร่ออกไป
และเมื่อเคล็ดวิชาเซียนถูกเผยแพร่ออกไป เส้นทางสู่เซียนสวรรค์ก็จะเปิดขึ้น และขีดจำกัดที่เข้มงวดเช่นนี้ก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป
“ พวกเขาทำได้ด้วยยาเซียนบรรพกาล โดยการบริโภคยาเหล่านี้เท่านั้น เราถึงจะสามารถทะลวงไปในแต่ละขอบเขตได้” หวังตงหลินอธิบายต่อ “ และมันก็มีเฉพาะสำนักเซียนเท่านั้นที่มียาเซียนเหล่านี้”
“ ข้าได้ยินมาจากผู้อาวุโสในตระกูลของข้าว่าผลของยาเซียนนั้นแปลกมาก ตราบใดที่ท่านกลืนมันเข้าไป ท่านก็จะสามารถกลายเป็นเซียนได้ในทันทีหรือไม่ก็ทะลวงผ่านจากขอบเขตเซียนมนุษย์ไปสู่ขอบเขตเซียนปฐพีได้เลย”
“ กินยาเซียนเพื่อกลายเป็นเซียน?” ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ พวกเขารู้หรือไม่ว่าพวกเขาบุกทะลวงได้ยังไง?”
“ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะรู้” หวังตงหลินส่ายหัว “ หลังจากกลืนยาเซียนเข้าไปแล้ว คนๆ หนึ่งก็จะกลายเป็นเซียนได้ในทันที มันจะไม่มีกระบวนการทะลวงใดเกิดขึ้น”
“ …อืม” ซุยเฮ็งตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเขาก็พยักหน้าเบาๆ “ ว่าต่อซิ”
“ เข้าใจแล้วๆ!” หวังตงหลินรีบพยักหน้า “ ในทุกๆ 10 ปี ตระกูลขุนนางจะเลือกผู้สมัครที่มีพัฒนาการที่เหมาะสม จากนั้นพวกเขาก็จะนำผลึกน้ำค้างสวรรค์ออกมาและเสนอให้กับสำนักเซียนที่ปกครองพวกเขา”
“ สำนักเซียนจะเลือกผู้ที่ตรงตามความต้องการและมอบยาเซียนให้กับพวกเขา หากพวกเขามีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่ขอบเขตเซียนมนุษย์ พวกเขาก็จะมอบยาฐานเซียนมนุษย์ให้กับพวกเขา หากพวกเขามีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่ขอบเขตเซียนปฐพี พวกเขาก็จะมอบยาฐานเซียนปฐพีให้กับพวกเขา”
ซุยเฮ็งจมอยู่ในภวังค์ความคิด
ตามคำอธิบายของหวังตงหลิน 24 ตระกูลขุนนางนี้ก็ดูจะไม่รู้วิธีการทะลวงระดับเลย
ชีวิตของพวกเขาจมอยู่ในเงื้อมมือของสำนักเซียน และมันก็ไม่มีที่ว่างให้สำหรับการต่อต้านเลย
ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียงการกินยาเซียนเท่านั้นถึงจะทำให้พวกเขาสามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตถัดไปได้ มันไม่ใช่วิธีการฝึกตนแบบธรรมดาอย่างแน่นอน!
นี่น่าจะเป็นเคล็ดวิชาพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นโดยเก้าสำนักเซียนเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมตระกูลขุนนาง
“ แล้วคนของเก้าสำนักเซียนจำเป็นต้องกินยาเซียนเพื่อทะลวงขอบเขตไหม?” ซุยเฮ็งหัวเราะเบาๆ
“ ข้าไม่รู้ แต่ข้าได้ยินมาว่า… มันไม่จำเป็น” หวังตงหลินเข้าใจได้ทันทีว่าซุยเฮ็งหมายถึงอะไร
นี่เป็นสถานการณ์ที่น่าสลดใจมาก แต่นี่ก็คือความจริงที่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญ
“ ข้าเข้าใจแล้ว” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อย สิ่งนี้เป็นการยืนยันการคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขา จากนั้นเขาก็ถามว่า “ ราชวงศ์ต้าโจว ตระกูลหลินแห่งเจียงเป่ย และตำหนักเต๋าอี้ใช้ยาเซียนเหล่านี้ด้วยหรือไม่?”
หากหลี่หมิงเฉียงและเป่ยฉิงซูได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาที่เขาสอนให้กับผู้คนในตระกูลและในราชวงศ์ พวกเขาก็จะสามารถฝึกตนได้โดยไม่ต้องพึ่งพายาพวกนั้นแน่นอน
และโดยพื้นฐานแล้ว ตำหนักเต๋าอี้ก็เป็นคนนอกของโลกสูญสวรรค์ พวกเขาไม่ได้ยืนหยัดร่วมกับสำนักเซียนทั้งเก้า และไม่ได้อยู่ภายใต้เขตอำนาจของอีกฝ่าย ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเซียน
“ ราชวงศ์ต้าโจวและตระกูลหลินแห่งเจียงเป่ยนั้นต่างก็มีเคล็ดวิชาเซียนเป็นของตนเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการยาเซียน” หวังตงหลินพูดต่อด้วยความอิจฉาว่า “ สำหรับตำหนักเต๋าอี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถทะลวงผ่านโดยไม่ใช้ยาเซียนได้เท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถสร้างยาของพวกเขาเองขึ้นมาได้อีกด้วย”
เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็หยุดชั่วครู่และพูดต่อ “ เป็นเพราะสำนักเซียนทั้งเก้าต้องการที่จะทำลายตำหนักเต๋าอี้มาโดยตลอด ดังนั้นในครั้งนี้ ตระกูลหวังของเราจึงได้รับคำสั่งจากสำนักเซียนให้มาทำลายตำหนักเต๋าอี้ในโลกเบื้องล่าง”
“ โลกเบื้องบนเองก็น่าจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน ว่ากันว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งร้อยปี สำนักเซียนและอารามพุทธก็ได้ฟื้นตัวจากผลกระทบของหายนะครั้งใหญ่เมื่อร้อยปีก่อนแล้ว พวกเขาวางแผนที่จะยึดตำหยักเต๋าอี้, ราชวงศ์ต้าโจวและตระกูลเป่ยแห่งหลินเจียงในคราวเดียว”
“ หายนะครั้งใหญ่เมื่อร้อยปีก่อน?” ซุยเฮ็งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและถามต่อ “ เจ้าหมายถึงการปิดล้อมสำนักเซียนอรุณใช่ไหม?”
“ ใช่แล้ว!” หวังตงหลินรู้ว่าเขากำลังโดนเหน็บ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
“ ทำไมพวกเจ้าถึงโจมตีสำนักเซียนอรุณ?” ซุยเฮ็งถาม
นี่เป็นสิ่งที่เขาสงสัยมาโดยตลอด มันเป็นเพราะวิธีการฝึกตนของพวกเขาแตกต่างกันจริงๆ หรือเปล่า พวกเขาถึงต้องต่อสู้กันจนตัวตาย?
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่หวังตงหลินเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ เขาก็ได้เดาเอาไว้คร่าวๆ ในใจแล้ว
“ มันเป็นเพราะ…” จิตใจของหวังตงหลินปั่นป่วน และเขาก็เรียบเรียงคำพูดของเขาอย่างรวดเร็ว “ ร้อยปีที่แล้ว ต้าโจวยังไม่ได้ถูกปกครองโดยจักรพรรดินี และตระกูลหลินแห่งเจียงเป่ยก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเก้าตระกูลที่โด่งดัง”
“ ในช่วงเวลานั้น นอกเหนือจากสำนักเซียนและอารามพุทธแล้ว มันก็มีสถานที่เพียงแห่งเดียวในโลกที่สามารถทะลวงขอบเขตได้โดยปราศจากการพึ่งพายาเซียน และนั่นก็คือตำหนักเต๋าอี้ และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตำหนักเต๋าอี้จึงตกเป็นเป้าหมายอยู่เสมอ”
“ อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลา 100 ปีนั้น พระอรหันต์จากโถงพุทธมามกะเป่าหลินก็ได้ค้นพบว่าในโลกเบื้องล่าง สำนักเซียนอรุณเองก็ไม่ต้องการยาเซียนใดๆ เพื่อบรรลุการเป็นเซียน นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังมีแม้กระทั่งเซียนมนุษย์และเซียนปฐพีอีกหลายคน”
“ สิ่งนี้แข็งแกร่งกว่าตำหนักเต๋าอี้ในโลกมนุษย์มาก ดังนั้นโถงพุทธมามกะจึงผนึกเข้าร่วมกองกำลังกับสำนักเซียนอีกสองแห่งในทันทีและนำสามตระกูลที่โด่งดังและสิบสองตระกูลขุนนางเพื่อไปปิดล้อมและทำลายล้างสำนักเซียนอรุณ”
“ ข้าว่าแล้ว!” ใบหน้าของซุยเฮ็งดูเย็นชา
เขาเดาเหตุผลนี้ได้ตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกโกรธหลังจากได้ยินคำตอบ
นี่เป็นหายนะที่คาดไม่ถึง!
เพื่อปกป้องอำนาจของพวกเขา สำนักเซียนและอารามพุทธเหล่านั้นจึงต้องการจะทำลายสำนักเซียนอรุณและสังหารเจียงฉีฉี
น่าเกลียดมาก!
นี่เป็นวิธีการที่สกปรกมาก!
ในขณะนี้ ความว่างเปล่าโดยรอบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไป
ลูกบอลแสงที่ดูมีสีสันนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้น และในชั่วพริบตา สถานที่นี้ก็กลายเป็นสิ่งที่ดูน่าแปลกประหลาด
นี่เป็นเพราะความโกรธของซุยเฮ็งได้ส่งผลกระทบต่ออักขระเต๋าโดยรอบ และมันก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในบรรยากาศ
และในขณะเดียวกัน ท้องฟ้าเหนือมณฑลหลางหยาก็เต็มไปด้วยสายฟ้าและเสียงฟ้าร้องคำราม เมฆหนาทึบปรากฎขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน พายุทอร์นาโดและฝนที่ตกกระหน่ำได้สร้างความหายนะ
ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของสภาพอากาศก็ยังคงดำเนินต่อไป ราวกับว่ามันจะแพร่กระจายไปยังมณฑลอื่นๆ ด้วย!
ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนคุกเข่าลงกับพื้นและกราบไหว้สวรรค์
ฉากนี้ไม่ต่างอะไรไปจากวันสิ้นโลก
มันน่ากลัวเกินไป!
แม้ว่าหวังตงหลินจะมองไม่เห็นปรากฏการณ์ด้านล่าง แต่เขาก็ยังคุกเข่าลงต่อหน้าซุยเฮ็ง
ใครจะจินตนาการได้ว่ามันน่าสะพรึงกลัวเพียงใด?
เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งทื่อไปหมดและเลือดของเขาก็กำลังจะหยุดไหล เขากำลังจะเป็นลม
อย่างไรก็ตาม ไม่นาน หวังตงหลินก็รู้สึกได้ว่าแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้หายไปอย่างรวดเร็ว
“ ว่าต่อได้” เสียงที่ไม่แยแสและสงบนิ่งของซุยเฮ็งดังขึ้นอีกครั้ง “ จักรพรรดินีแห่งต้าโจวและตระกูลเป่ยแห่งหลินเจียงเป็นยังไงบ้าง?”
“ ใช่ ใช่…” ในที่สุดหวังตงหลินก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากสงบลงแล้วเล็กน้อย เขาก็กล่าวว่า “ จักรพรรดินีแห่งต้าโจวคือจักรพรรดินีผู้ปกครองต้าโจวอยู่ในตอนนี้ นอกจากนี้ นางก็ยังเป็นผู้ก่อตั้งโลกในปัจจุบันอีกด้วย”
“ ย้อนไปเมื่อ 70 ปีที่แล้ว เทวาได้ปรากฏตัวขึ้นในตระกูลเป่ยแห่งหลินเจียง เขาประกาศตนว่าพวกเขาจะออกจากตำแหน่งของเก้าตระกูลและตั้งพันธมิตรกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวและตำหนักเต๋าอี้ พวกเขาจะรวมพลังกันและก้าวไปด้วยกันเพื่อต่อต้านอำนาจเผด็จการของสำนักเซียนและอารามพุทธ”
“ แม้ว่าจักรพรรดินีและตระกูลเป่ยแห่งหลินเจียงจะเข้าใจวิธีการที่จะทะลวงโดยไม่ใช้ยา แต่สำนักเซียนกับอารามพุทธในตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเลย และในการต่อสู้ระดับมหาภัยพิบัติครั้งที่สองกับสำนักเซียนอรุณ พระมหาโพธิสัตว์ 1 องค์ พระโพธิสัตว์ 3 องค์ เซียนปฐพี 2 คนและพระอรหันต์กับเซียนมนุษย์ 30 คนก็ได้ถูกทำลายลง”
“ โถงพุทธมามกะเป่าหลินและสำนักเซียนทั้งสองได้รับบาดเจ็บอย่างมาก และตระกูลที่โด่งดังทั้งสามและตระกูลขุนนางอีกสิบสองตระกูลก็เกือบจะถูกทำลายล้าง… ในเวลานั้น จำนวนเซียนสำหรับแต่ละชั้นก็มีเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เป็นอยู่ในตอนนี้”
“ จำนวนเซียนสำหรับแต่ละชั้นเมื่อร้อยปีก่อนนั้นมีน้อยมาก ตระกูลที่โด่งดังสามารถมีเซียนมนุษย์ได้ 9 คนและเซียนปฐพีได้ 3 คน ส่วนตระกูลขุนนางนั้นสามารถมีเซียนมนุษย์ได้เพียง 3 คนเท่านั้น และไม่มีเซียนปฐพีแม้แต่คนเดียว”
“ เพื่อจัดการกับอิทธิพลของตำหนักเต๋าอี้, ราชวงศ์ต้าโจวและตระกูลเป่ยแห่งหลินเจียงเมื่อ 60 ปีก่อน ในที่สุดสำนักเซียนจึงเพิ่มจำนวนชั้นเซียนที่อนุญาตสำหรับแต่ละตระกูล”
“ อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาต้องการจะได้รับยาเซียนเพิ่ม พวกเขาก็จำเป็นจะต้องเสนอผลึกน้ำค้างสวรรค์เป็นจำนวนสองเท่าจากเดิม ซึ่งนี่ก็สมบัติที่สามารถรับได้เพียงครั้งเดียวจากทุกๆ 100 ปีเท่านั้น แบบนั้นแล้วมันจะไปมีมากมายขนาดนั้นได้ยังไง…”
ขณะที่เขาพูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่น เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ไม่พอใจกับสำนักเซียน
“ ผลึกน้ำค้างสวรรค์คืออะไร?” ซุยเฮ็งถามด้วยความสงสัย เขาสังเกตเห็นคำนี้ตั้งแต่ตอนที่หวังตงหลินยังพูดถึงเรื่องยาเซียน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved