ตอนที่ 250 ยอดหอคอยกับปืนใหญ่ศตวรรษ

บนเกาะลอยฟ้า

ราชันทั้งหมดต่างหยุดลงและมองไปที่คนสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยความตกตะลึง

แม้ว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองจะเป็นเพียงแค่ระดับ 7 เท่านั้น

แต่ราชันทั้งหมดรวมถึงราชันระดับ 8 ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกรงกลัว

เนื่องจากความแข็งแกร่งของสองคนนี้ แม้แต่ในหมู่ราชันระดับ 7 ของทวีปดึกดำบรรพ์ทั้งหมด

พวกเขาเป็นถึงสิบอันดับแรก!

แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับราชันระดับ 8 ทั่วไป พวกเขาก็ยังมีพลังที่สามารถต่อกรได้

"ทำไมพวกเขาสองคนถึงได้มาอยู่ที่นี้พร้อมกัน"

"หรือว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น"

"ข้าได้ยินมาว่า ซือถู เจี้ยน นั้นเป็นลูกคนเพียงคนเดียวของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งต้าหยาน มันเป็นเหตุผลที่เขาไม่ควรขาดแคลนทรัพยากร"

"ส่วน หยาน ลี่ก็เช่นกัน ครั้งสุดท้าย เขาถึงกับสังหารราชันระดับ 7 ของสนามรบหมื่นโลกทั้งหมดและคว้าสมบัติมาได้มากมาย"

"บ้าเอ้ย! เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ? นั้นมันสนามรบระดับ 7 เลยนะ"

เหล่าราชันที่กำลังพูดคุยเป็นการตัวอยู่นั้น ก้ร้องออกมา

แต่เขาไม่รู้

หลังจากที่ ซือถู เจี้ยน ได้ยินคำพูดของพวกเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเย็นชาในทันที ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบให้คนอื่นเรียกเขาว่าลูกจักรพรรดิ

ด้วยเสียงที่เย็นชา ทำให้มีเงาดำหลายร่างพุ่งออกมากับล้อมรอบโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง

ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น ราชันเหล่านั้นไม่มีโอกาศแม้แต่จะตอบโต้ พวกเขารู้สึก จู่ๆ คอของพวกเขาก็รู้สึกเจ็บราวกับมันถูกผ่าออก

ราชันเหล่านั้นหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว รีบยื่นมือไปปิดที่คอของพวกเขา พบว่ามันเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆ ไม่ถึงแก่ชีวิต

หลังจากที่โจมตีออกไป เงาเหล่านั้นก็เผยให้เห็นรูปร่างของพวกมัน

มันคือตั๊กแตนมายาระดับ 8

ขนาดของมันเท่าฝ่ามือเท่านั้น

คราวนี้ ราชันเหล่านั้นไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาปิดปากสนิท ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ถ้าซือถู เจี้ยน ต้องการจะสังหารพวกเขา คอของพวกเขาคงจะหลุดออกจากบ่าไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่านี้คือคำเตือนจาก ซือถู เจี้ยน ถึงพวกเขา

แต่สำหรับ

คำเตือนดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์สำหรับราชันที่แข็งแกร่ง

เมื่อเห็น ซือถู เจี้ยน เรียกตั๊กแตนมายาออก หยาน ลี่ ก็อดหัวเราออกมาไม่ได้ "ซือถู เจี้ยน เจ้ายังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิมเลยนะ แต่ระวังตัวให้ดีละ"

"อะไร? แกอยากโดนด้วยอีกคนงั้นเหรอ" ซือถู เจี้ยน พูดออกมาอย่างเย็นชา

"ว้า ว้า ข้ากลัวเจ้าจะแย่อยู่แล้วเนี้ย"

หยาน ลี่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ดูเสียเปรียบ เขายื่นมือออกมาเรียกออร์คป่าระดับ 8 2-3 ตัวออกมา

ออร์คป่าเหล่านี้แตกต่างจะออร์คชนิดอื่นมาก

มันไม่ใช่เพียงแค่ตัวสูงเท่านั้นแถมยังมีอุปกรณ์ครบชุด ตั้งแต่หัวจรดเท้าแผ่กลิ่นอายฆ่าฟันออกมา

บนไหล่ของมันยังมีขวานสองคมประดับอยู่ สัมผัสได้ถึงออร่าความบ้าคลั่งออกมาจากระยะไกล

ร่องรอยความเคร่งขรึมปรากฏในดวงตาของ ซือถู เจี้ยน

หลังจากมอง หยาน ลี่ อย่าลึกซึ้งเขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชา

"ข้ามาที่นี้เพื่อเคลียร์อาณาจักรลับที่ยากที่สุด ไม่ได้ว่าเพื่อสู้กับเจ้า"

หลังจากพูดจบ เขาก็พากองทัพแมลงเข้าไปในประตูมิติแห่งอาณาจักรลับ

เมื่อเห็นแบบนี้ หยาน ลี่ ก็ยิ้มออกมาทันที "เจ้าคนขี้ขลาด ก็เหมือนกันกับเจ้าข้ามาเพื่อเคลียร์อาณาจักรลับระดับยากสุดเหมือนกัน เจ้าฝันไปเถอะ รางวัลนั้นมันจะเป็นของข้า หยาน ลี่คนนี้"

หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในประตูมิติแห่งอาณาจักรลับและหายไปตัวไป

เหลือเพียงแค่เหล่าราชันทั่วไปที่อยู่ด้านนอก

.....

อีกด้านหนึ่ง

ชั้น 3 ของหอคอยแห่งบาป

ภายในเหมืองนั้นเต็มไปด้วยก้อนกรวด

"ตูมมม"

เสียงโหยหวนดังไปทั่วทั้งหอคอย

ดวงตาของหลิน ยู กลายเป็นเคร่งเครียด มองไปยังมอนสเตอร์หินตัวสุดท้ายที่ล้มลง เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

อย่างที่เขาคิด

สภาพแวดล้อมบนชั้นสามของหอคอยแห่งบาปนี้แตกต่างจากสองชั้นแรกอย่างมาก มันเหมือนกับเหมืองที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้

มอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวก็แตกต่างกันออกไปด้วย พวกมันเป็นมอนสเตอร์หินจากเผ่าธาตุที่มีสกิลป้องกันที่สูงจนน่าหวาดกลัว

หากไม่ใช่เพราะว่าเป่าปิงของเรานั้นโจมตีเจาะเกาะ และให้กองทัพพืชรุมสังหารพวกมันทีละตัว เขาเกรงว่ามันคงรับมือได้ยากจริงๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เคลียร์ชั้นที่สามมันก็ได้ยืนยันการคาดเดาในใจของเขา

นั้นคือ

แต่ละชั้นของหอคอยแห่งบาป จะแยกมอนสเตอร์เป็นเผ่าต่างๆ

สามชั้นแรกนั้นที่พวกเขาพบก็คือ อันเดด อมุนษย์ และธาตุ

กล่าวอีกอย่างคือยังเหลือมอนสเตอร์อีก 7 ประเภท ได้แก่ เทวดา ปิศาจ มนุษย์ สัตว์ร้าย แมลง พฤกษา และจักรกล นี้คือพวกที่เราต้องสู้ด้วย

สิบประเภท!

บ้าเกินไปแล้ว

หากไม่ใช่เพราะความสามารถในการเอาตัวรอดที่น่าทึ่งของเผ่าพฤกษา ฉันคิดว่าเขาจะต้องสูญเสียเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน เมื่อต้องเผชิญกองทัพมอนสเตอร์ในแต่ละชั้น

ไม่ต้องพูดถึงราชันระดับ 7 คนอื่นๆ เพียงแค่สองชั้นแรกพวกเขาก็น่าจะลากเลือดกันแล้ว

ระยะห่างเพียงแค่ 1 คะแนนทำไมความยากมันถึงได้มากขนาดนี้

หลิน ยู ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

แต่เขารู้สึกได้ว่าเบื้องหลังอาณาจักรลับที่ยากลำบากเช่นนี้ จะต้องมีรางวัลที่ยิ่งใหญ่รออยู่แน่นอน

หรือมีโอกาศสูงที่จะมีสมบัติปรากฏขึ้นมา

แม้ว่าจะไม่เป็นแบบนั้น แต่เมื่อผ่านไปแต่ละชั้นเขาก็ยังได้รับพลังเวทย์ประมาณ 500000 แต้ม แถมยังสามารถเพิ่มค่าประสบการเป่าปิง เขามีแต่ได้กับได้

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ดวงตาของ หลิน ยู ก็ร้อนพร่าว

หลังจากพักอยู่ครู่หนึ่งในพื้นที่ชั้น 3 เหล่ากองทัพพืชฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว เขาก็ก้าวเข้าไปในประตูมิติมุ่งหน้าไปยังชั้นสี่

แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด

ที่ด้านบนชั้น 4 นั้นเป็นทะเลทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุด

มอนสเตอร์ที่อยู่ภายในนั้นเป็นสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในทรายมันจะแอบเข้าไปในทรายเพื่อโจมตี

โชคดีที่เถาวัลย์ของชิง ถัง ได้แทรกลงไปในทราบเพื่อบังคับให้มันออกมา มันไม่สามารถสร้างความเสียหายให้เข้าได้มากนัก หลังจากที่สู้รบกันอย่างดุเดือด ในที่สุดมันก็ผ่านไปโดยไม่ได้รับการสูญเสียใดๆ

ชั้นห้าและชั้นหก

ที่นั้นคือนรกหลอมเหลวของเผ่าปิศาจกับรังมดยักษ์ของเผ่าแมลง

เนื่องจากการค่าสถานะที่แข็งแกร่งและบัพหมู่จำนวนมาก ในที่สุดกองทัพพืชของเขาหลิน ยู ก็เริ่มตายลง เขาสูญเสียทหารพืชขยายพันธุ์ไปสามตัวรวมถึงมอสชีวภาพที่สิงมันอยู่

ต่อจากนั้น หลิน ยู ก็ขึ้นไปที่ชั้นที่ 7 และ ชั้นที่ 8

ดินแดนมหาอุกกาบาตของเผ่าจักรกล และสรวงสวรรค์ร่วงหล่นของเผ่านางฟ้า

โดยทั่วไปแล้ว ทุกครั้งที่เขาผ่านด่าน เขาจะสูญเสียทหารพืชเพียง 1-2

แต่เมื่อเทียบชั้นที่ 8 เลย นี้ยังถือว่าขาดทุนอีกไม่น้อย

เพราะสิ่งที่พวกเขาพบที่ชั้น 9 นั้นคือมอนสเตอร์เผ่าพฤกษา ซึ่งมันเป็นมอนสเตอร์พืชที่มีขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่ง

ไม่เพียงแต่มันจะมีการโจมตีที่หลากหลายเท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการรักษาที่แข็งแกร่ง

สิ่งสำคัญคือมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่มีเลือด

เขาจึงสั่งให้ ชิง ถัง ลงมือเต็มที่

ด้วยสิ่งนี้ ตัวเขาและกองทัพพืชของเขานั้นต่างเข้าปะทะกันบริเวณพื้นที่ในหอคอย การต่อสู้ดำเนินไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ในที่สุดพวกมันก็ถูกสังหารด้วยบัพจากเสียงคำรามแห่งโทสะของ ชิง กัง

ในตอนนี้ หลิน ยู สูญเสียทหารพืชขยายพันธุ์ไปอีกถึง 5 ตัว มันถูกทำลายไป นี้ยังไม่รวมมอสชีวภาพที่อาศัยอยุ่บนร่างกายของพวกมัน

มันทำให้เขารู้สึกแย่อยู่พักหนึ่ง

แต่ข่าวดีก็คือ

หลังจากที่เคลียร์ชั้นที่ 9 ไปแล้ว เสียงที่รอคอยมานานก็ดันขึ้นในหัวของเขา

[ขอแสดงความยินดีด้วย เป่าปิงตรงตามข้อกำหนดในการอัพเกรดเป็นระดับ 8 การอัพเกรดจำเป็นต้องใช้แก่นแท้ดินแดนระดับ 7 10 อัน ท่านต้องการอัพเกรดหรือไม่]

"มันเต็มแล้วว"

เมื่อได้ยินการแจ้งเตือนนี้ หลิน ยู ถอนหายใจออกมาทันที

ระหว่างทาง เขารู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของหอคอยแห่งบาป

ด้วยความสามารถที่อัพเกรดเป่า ปิง เป็นระดับ 8 ก่อนที่จะถึงชั้นสุดท้าย ตัวมันนับเป็นกำลังสำคัญในการเคลียร์อาณาจักรลับแห่งนี้

เขาตอบโดยไม่ลังเล

"อัพเกรด!!"

ในวินาทีต่อมา

ร่างกายของ เป่าปิง ก็ได้ปกคุ้มด้วยแสงห่อหุ้มทุกอย่างบนร่างกายเอาไว้

[ชื่อ : ปืนใหญ่ศตวรรษ - เป่าปิง (ราชวงศ์)]

[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา(ขุนพล)]

[ระดับ : ระดับ 8(0/5000)]

[ความแข็งแกร่ง : 2400 (+900)]

[ร่างกาย : 1810 (+1000)]

[ความว่องไว : 1510 (+780)]

[วิญญาณ : 2500 (+900)]

[สกิล : ร่างเพลิงจุติ , ระเบิดถั่ว (จำนวนถั่วที่ยิงออกไปเพิ่มขึ้น) , ร้อยกระบวนฝังกระดูก , สั่งตาย ]

[โจมตีจุดอ่อน : กำหนดเป้าหมายที่อยู่ในระยะโจมตีไปยังจุดอ่อนอย่างแม่นยำ]

[หมายเหตุ : ถั่วกลายพันธุ์ที่มีความสามารถในการโจมตีระยะไกลที่ยอดเยี่ยม มันสามารถยิงเข้าหัวศัตรูอย่างแม่นยำแม้อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์]

ส่วนใหญ่แล้วกองกำลังต่างๆจะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อผ่านไปทุก 3 ระดับ

หลิน ยู ได้ค้นพบกฏการอัพเกรดทหารไปก่อนหน้านี้แล้ว

แต่ถึงอย่างนั้น

หลังจากที่อัพเกรดทหารเป็นระดับ 8 ค่าสถานะของเป่าปิงก็ยังเพิ่มขึ้นจำนวนมากอยู่ดี

ด้วยค่าสถานะความแข็งแกร่งที่มากถึง 3300 ทำให้การโจมตีปกติของมันรุนแรงมาก ซึ่งมากกว่ากระสุนถั่วทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

ค่าสถานะพลังวิญญาณที่มากถึง 3400 แต้มเหมือนกัน มันส่งผลให้สกิลรุนแรงขึ้นมากโข

เมื่อรวมกับบัพต่างๆ สกิลการสั่งตายอาจสามารถโจมตีได้ด้วยพลังที่มากกว่า 10000 แต้มภายใต้การแรงระเบิดที่ทรงพลัง

เรียกได้ว่า น่าหวาดกลัวถึงขีดสุด

และแน่นอน

มันไม่ได้หมายความว่าทหารตัวไหนหรือมอนสเตอร์ที่มีค่าสถานะร่างกาย 10000 แต้มจะถูกสังหารได้ในเวลาไม่กี่วิ

เนื่องจากค่าสถานะร่างกายที่สูง ทำให้สามารถลดทอนความเสียหายลงไปได้มาก จึงบอกได้ว่ามันสามารถป้องกันการโจมตีที่ต่ำกว่า 10000 ได้อย่างแน่นอน

หากต้องสังหาร มันจำเป็นต้องทะลวงการป้องกันในขณะเดียวกันต้องเล็งโจมตีไปที่จุดอ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะสังหารให้ได้ในการโจมตีครั้งเดียว

เช่นเดียวกับราชันแห่งโลกจิตวิญญาณแท้จริงก่อนหน้านี้ เขาสามารถหลบได้ด้วยการตอบสนองที่ไม่ธรรมดารวมถึงมีสมบัติช่วงชีวิตคอยสกัดพลังของเขาชั่วขณะหนึ่ง

รวมถึงสกิลป้องกันที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถหลบสกิลสั่งตายของเป่าปิงได้

เมื่อพวกเขาป้องกันสิ่งนี้ได้

สกิลสั่งตายของเป่าปิงนั้นต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูประมาณครึ่งนาที

เวลาเพียงครึ่งนาทีนี้มากพอที่จะเกิดอะไรได้หลายอย่าง

"ดูเหมือนยังมีชั้นสุดท้ายอยู่ มันควรจะเป็นบอสมอนสเตอร์ใช่ไหม?"

หลิน ยู พูด ออกมามองไปที่ประตูมิติที่อยู่ไกลๆ

มันดูแตกต่างจากประตูมิติจากชั้นก่อนหน้านี้ ประตูมิตินี้เป็นสีทองหรูหรา

หลังจากที่เขาผ่านหอคอยแห่งบาปทั้ง 9 ชั้นมาได้แล้ว ในตอนนี้เขาไม่เห็นเผ่ามนุษย์เพียงเผ่าเดียวเท่านั้น

กลางอีกนัยหนึ่ง บอสของชั้นสุดท้ายนี้น่าจะเป็นเผ่ามนุษย์

เมื่อคิดถึงมันแล้ว หลิน ยู ก็หายใจเข้าลึก

เมื่อเห็นเหล่ากองทัพพืชได้ฟื้นตัวขึ้นมาเต็มที่แล้ว เขาก็ยกเท้าขึ้น ก้าวเดินไปอย่างช้าๆ เข้าไปในประตูมิติและหายไป

ในเวลาเดียวกันนั้น

ภายในอาณาจักรลับอีก 2 แห่ง

หยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน ก็เพิ่งเคลียร์ชั้นที่ 9 ได้ในเวลานั้น ก็ได้มาถึงประตูมิติที่นำไปชั้นสุดท้าย

มันแตกต่างจาก หลิน ยู

เพราะเผ่าที่พวกเขาต้องเผชิญนั้นคือเผ่าเทวดาและอีกอันคือเผ่าธาตุ

ดูเหมือนลำดับของมอนสเตอร์ที่ทุกคนต้องพบเจอเมื่อเข้าหอคอยแห่งบาป และเผชิญหน้ากับบอสมอนสเตอร์ตัวสุดท้ายจะแตกต่างกัน

.....

หวืดดด

เกิดแสงสว่างวาบ

หลิน ยู กับมาหยุดนิ่งอีกครั้ง ได้ปรากฏตัวขึ้นบนแท่นที่กว้างใหญ่

แท่นนี้ดูสง่างามและแผ่แรงกดดันออกมา มีเสามังกรแดง 4 ต้นตั้งตะหง่านอยู่บนขอบ ค้ำหอคอยเอาไว้ ราวกับเป็นเวทีต่อสู้

พื้นที่ในชั้นนี้ทำให้ หลิน ยู ตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

ยอดหอคอยนี้เล็กกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก ถึงแม้ว่ามันจะดูยิ่งใหญ่ แต่มันก้ยังห่างไกลกับสิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้ ด้วยการตกแต่งที่แปลกประหลาดนี้

แต่เขาไม่ได้สนใจมันมากนัก

เพราะในตอนนั้นเอง เขาก็พบว่ามีคนนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นหินอ่อนด้านหน้า

เขาเป็นชายที่สวมเกราะสีทองเข็มถือหอกอยู่ตรงนั้น!

.

ราชันกลายพันธุ์จะกลับมาลงอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 3 นะครับ

ตอนนี้ราชันกลายพันธุ์ VIP 5 (251-300) เปิดให้เข้าแล้วนะ

ติดตามได้ผ่านทาง Facebook : ราชันกลายพันธุ์ - นิยายแปลไทย

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 254