บทที่ 257 : อาณาจักรราชันสุริยัน

ย้อนกลับไปหลังจากที่ซุยเฮ็งสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบนดวงจันทร์ เขาก็ได้ค้นพบตำหนักมหาราชันบนนั้น

บนนั้นมีค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ถูกทำลายแล้ว

ค่ายกลเคลื่อนย้ายมีความสามารถในการค้นหาดวงดาว มันเป็นแผนที่ดวงดาวที่เรียบง่ายและเน้นไปที่ตำแหน่งของดาวสามดวง

อย่างไรก็ตาม ซุยเฮ็งก็ไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของจักรวาลนี้ และเขาก็ไม่เคยเห็นแผนที่ดวงดาวที่สมบูรณ์ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุว่าดาวทั้งสามดวงนี้อยู่ที่ไหนด้วยแผนที่ดวงดาวอย่างง่ายบนดวงจันทร์

แต่ตอนนี้ มันก้แตกต่างออกไป

แม้ว่าแผนที่ดวงดาวที่หลี่เฉิงแสดงออกมานั้นอาจจะไม่สมบูรณ์เป็นพิเศษ แต่มันก็ยังกล่าวได้ว่าค่อนข้างกว้างใหญ่

จากเครื่องหมายบนแผนที่ดวงดาว มันก็มีทั้งหมด 13 อาณาจักรและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย มันมีดาวที่มีชีวิตทั้งหมด 27 ดวง ดาวสามดวงที่ถูกทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ดวงดาวยังปรากฏอยู่บนแผนที่ดวงดาวอีกด้วย

มันเป็นของอาณาจักรราชันสุริยันและตั้งอยู่ที่ขอบของแผนที่ดวงดาวนี้

“ หากดาวสามดวงที่มีเครื่องหมายพิเศษนี้เป็นปลายทางของค่ายกลเคลื่อนย้ายจริง งั้นนั่นก็หมายความว่าฉีฉีมีโอกาสที่จะอยู่ที่นั่น”

ซุยเฮ็งคิดกับตัวเอง

จากนั้นเขาก็มองไปที่ตำแหน่งของดาวเต๋าโจวและดาวชงหยาง

เขาเปรียบเทียบระยะห่างระหว่างทั้งสองกับระยะทางจากดาวชงหยางถึงอาณาจักรราชันสุริยัน

เขาตระหนักได้ว่าสิ่งหลังนั้นไกลกว่าสิ่งแรกเกือบร้อยเท่า

มันไกลเกินไป!

ดูเหมือนว่าการไปยังอาณาจักรราชันสุริยันนั้นจะไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับอาณาจักรราชันสุริยัน เขาไม่สามารถไปที่นั่นได้

ต่อไป ซุยเฮ็งเริ่มค้นหาตำแหน่งของดาวไท่หงบนแผนที่ดวงดาว

ตามคำอธิบายในจดหมายของหงฟู่กุ่ย เขาก็น่าจะไปที่ดาวไท่หงกับภรรยาของเขาเพื่อตามหาพ่อของภรรยา

ยิ่งไปกว่านั้น ตามคำอธิบายของยอดนักบุญสวรรค์และบันทึกของสำนักเซียนทั้งเก้าแห่งโลกสูญสวรรค์ ดาวไท่หงก็ไม่น่าจะอยู่ห่างจากดาวเต๋าโจวมากนัก

พูดตามเหตุและผล มันก็น่าจะอยู่บนแผนที่ดวงดาวนี้

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่พบดาวไท่หงเลยแม้ว่าจะดูแผนที่ดวงดาวทั้งหมดสองสามครั้งแล้วก็ตาม

เป็นไปได้ไหมว่าอาณาจักรเมฆาเก้าสวรรค์จะอยู่ไกลออกไปจริงๆ?

สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง ย้อนกลับไปในตอนนั้น เทพเต๋าก็เป็นเพียงเซียนอนันต์ทอง แบบนั้นแล้วเขาจะสามารถบินเข้ามาจากนอกอาณาจักรทั้ง 13 ได้อย่างไร?

การเดินทางที่ยาวนานในระดับจักรวาลนั้นเต็มไปด้วยอันตราย

ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่หลี่เฉิง เขาถามว่า “ อาณาจักรเมฆาเก้าสวรรค์ที่ล่มสลายไปเมื่อ 6,800 ปีก่อนอยู่ที่ไหน?”

“ ที่นี่” หลี่เฉิงชี้ไปที่จุดบนขอบของแผนที่ดวงดาวและกล่าวว่า “ ในตอนนั้น แผนที่ดวงดาวนี้ก็เคยถูกเรียกว่าแผนที่ 14 อาณาจักร แต่ตอนนี้มันก็เหลืออาณาจักรเพียง 13 แห่งเท่านั้นเนื่องจากอาณาจักรเมฆาเก้าสวรรค์ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว”

“ ว่ากันว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนี้ยังคงตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายมาจนถึงทุกวันนี้ มันเต็มไปด้วยความปั่นป่วนเชิงพื้นที่มิติ แม้แต่ปราชญ์ก็ยังพบว่ามันเป็นการยากที่จะเข้าไป แม้แต่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวโดยรอบก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก ดาวเคราะห์หลายดวงที่มีชีวิตได้พังทลายลง”

“ อืม” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและยืนยันตำแหน่งของดาวเต๋าโจว เขาตระหนักได้ว่าสถานที่นี้อยู่ไม่ไกลจากอาณาจักรเมฆาเก้าสวรรค์มากนัก มันห่างกันเพียงประมาณสามเท่าของระยะห่างจากดาวชงหยาง

อย่างไรก็ตาม มันก็มีบางอย่างผิดปกติอย่างชัดเจนในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวระหว่างดาวเต๋าโจวและอาณาจักรเมฆาเก้าสวรรค์

บริเวณนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นดาวเคราะห์หรือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

มันดูธรรมดาและไม่ได้โดดเด่น แต่กระนั้น มันก็มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกให้เรือเหาะต่างๆ พยายามบินอ้อมสถานที่แห่งนี้ให้ได้มากที่สุดเมื่อเดินทางผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนี้ และทางที่ดีที่สุดก็คืออย่าเข้าใกล้บริเวณนี้

ด้วยเหตุนี้เอง ซุยเฮ็งจึงชี้ไปที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนี้และถามว่า “ เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”

“ เรียนท่านประมุขเซียน ที่นี่ครั้งหนึ่งเคยเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวซึ่งเป็นที่ตั้งของดาวไท่หง” หลี่เฉิงตอบต่อว่า “ ในอดีต ดาวไท่หงก็เป็นดาวที่มีชีวิตที่สดใสอย่างหาที่เปรียบมิได้”

“ 2,000 ปีที่แล้ว มีปราชญ์เจ็ดคนบนดาวไท่หง แต่แล้วเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว จู่ๆ ดาวไท่หงก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย”

“ หายไป?!” ซุยเฮ็งแสดงความประหลาดใจออกมาในทันทีและขมวดคิ้ว “ มันแหลกสลาย, ถูกทำลาย, ซ่อนตัวหรือถูกเคลื่อนย้ายออกไป?”

“ ข้ามิทราบ” หลี่เฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ หลังจากพบว่าดาวไท่หงหายไป ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่วนนี้ก็กลายเป็นสถานที่ต้องห้าม ไม่มีใครที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตปราชญ์ที่กล้าจะไปเข้าใกล้”

“ ยิ่งไปกว่านั้น ดาวไท่หงก็ยังเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่เป็นอิสระ มันไม่มีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ มันก็ยังเป็นการยากที่จะระบุสถานการณ์ของดาวไท่หงในปัจจุบัน”

“ เข้าใจได้” ซุยเฮ็งพยักหน้าและตกอยู่ในภวังค์ความคิด

สถานการณ์ของดาวไท่หงนั้นเหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง

ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งได้หายไปอย่างไร้ร่องรอบ!

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้แต่เขาก็ยังคิดได้แค่สี่วิธีเท่านั้น

หนึ่งคือการตั้งค่ายกลอำพรางขนาดใหญ่

วิธีนี้ไม่ต้องการอะไรมาก ตราบใดที่มีคนเต็มใจที่จะใช้เวลาทุ่มเทไปกับมัน แม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตรวมวิญญาณก็ยังสามารถจัดการได้

วิธีที่สองคือการบิดเบือนพื้นที่มิตินอกโลก

ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าจะมีคนมายังตำแหน่งของดาวดวงนี้ แต่พวกเขาก็จะไม่สามารถสัมผัสหรือมองเห็นมันได้ และโดยธรรมชาติแล้ว มันก็เท่ากับการหายตัวไป

วิธีนี้มีความยากสูงกว่า อย่างน้อยที่สุดคนๆ นั้นก็จะต้องไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตรวมวิญญาณขั้นต้นแล้ว และพวกเขาก็จะต้องมีระดับความเชี่ยวชาญด้านพื้นที่มิติโดยเฉพาะ

วิธีที่สามคือการเคลื่อนย้ายโลกทั้งใบออกไป

ตรงตามความหมาย การทำให้ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งหายไปในอากาศได้จำเป็นจะต้องมีผู้ฝึกตนขอบเขตรวมวิญญาณขั้นกลางอย่างน้อยหนึ่งคน