เช้าวันต่อมา
หลิน ยู ได้ออกจากดินแดนไปยังเผ่าคนแคระ
ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ มันต้องเวลา 5 วันในการสร้างอุปกรณ์ระดับ 10 ขึ้นมา
ตอนนี้เป็นเช้าวันที่ 6 แล้วเขาคิดว่ามันน่าจะสร้างเสร็จแล้ว
เมื่อหลิน ยู มาถึงเตาหลอมที่อยู่ส่วนลึกภายในถ้ำคนแคระด้วยความคาดหวัง
เขาพบกับมากอร์นที่นั่งอยู่ข้างทั่งตีเหล็ก กำลังเช็ดค้อนเทพสงครามในมือ
ด้านข้างมีกระจกโค้งทรงกลมอยู่
"เจ้ามาแล้วงั้นเหรอ?"
มากอร์น เงยหน้าขึ้นมองหลิน ยู
"มันอยู่ตรงนั้น ลองตรวจสอบดูก่อน หากเจ้าไม่พอใจ เจ้าสามารถให้ข้าแก้ไขให้ได้"
ยังจะแก้ไขได้อีกงั้นเหรอ
หลิน ยู ก้าวออกไปหยิบ ชุดเกราะที่อยู่ตรงหน้า
มันค่อนข้างหลักทีเดียว
อาจเป็นเพราะสร้างจากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์ประเภทหิน มันจึงดูหนากว่าเกราะทั่วไป
นอกจากนี้ตัวเกราะยังมีประกายทองแดงแผ่ออกมารอบๆ
หลิน ยู แอบจะรอไม่ไหวที่จะตรวจสอบข้อมูลของมัน
[อุปกรณ์ : เกราะหัวใจกระทิงลึกลับ]
[ระดับอุปกรณ์ : ระดับ 10]
[คุณสมบัติที่ 1 : เปิดการใช้เกราะป้องกัน สามารถสร้างที่ควบแน่นขึ้นมาด้วยพลังแห่งกฏรอบตัว ลดความเสียหายที่ได้รับ 25%]
[คุณสมบัติที่ 2 : ลดความเสียหายลง 10% อัตโนมัติ เมื่อมีการโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิต เกราะหัวใจกระทิงลึกลับจะแตกออก รับความเสียหายแทนการโจมตีนั้น มันจะไม่ถูกทำลายหากผู้ส่วมใส่มีระดับสูงกว่าระดับ 10]
[คุณสมบัติต้นกำเนิด : สำหรับผู้ที่มีชิ้นส่วนเทวะ ผลลัพธ์ของอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้นอีก 10%]
[พิเศษ : ไม่สามารถเสริมพลังได้]
[หมายเหตุ : มันทำมาจากกระดูกหัวใจที่แข็งแกร่งที่สุดของ กระทิงหินยักษ์ ได้รับพรแห่งกฏ จึงทำให้พลังป้องกันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ]
นี้มัน?
สามารถใช้ชิ้นส่วนเทวะเพื่อเพิ่มพลังได้งั้นเหรอ?
หลิน ยู ตกตะลึงในทันที
อุปกรณ์ระดับ 10 นี้จะได้รับผลจากชิ้นส่วนเทวะเพิ่มขึ้นด้วย
หากเขามีชิ้นเทวะ 1 ชิ้น ความแข็งแกร่งของอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้นอีก 10%
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอุปกรณ์ระดับ 10 ถึงได้ขาดตลาด
เพราะด้วยคุณสมบัติเหล่านี้นี่เอง
ด้วยคุณสมบัติต้นกำเนิด ของอุปกรณ์ระดับ 10 เพียงอย่างเดียวมันก็ทรงพลังมากเพียงพอแล้ว และด้วยชิ้นส่วนเทวะจะทำให้มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอัก
ตัวอย่างเช่นถ้าเขามีชิ้นส่วนเทวะอยู่ 10 ชิ้น
คุณสมบัติลดความเสียหายของอุปกรณ์ชิ้นนี้จะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 50% ลดลงเกือบครึ่งเลยทีเดียว
นี้มันเหมือนกับที่ผู้ฝึกตนที่ใช้พลังจิตวิญญาณของพวกเขาเพื่อกระตุ้นอาวุธวิเศษ ยิ่งอัดพลังเข้าในอาวุธมากเท่าไร มันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น
เพียงแต่ว่าพวกมันจะถูกแทนที่ด้วยพลังแห่งกฏ
ยิ่งมีชิ้นส่วนเทวะมากเท่าไร พลังแห่งกฏก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
นี้เป็นเหตุผลที่อุปกรณ์ชิ้นนี้ยอดเยี่ยม
"เป็นไงบ้าง? เจ้าพอใจกับอุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่"
ในตอนนั้นเอง เสียงมากอร์นก็ดังขึ้น
"พอใจน่ะต้องพอใจแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ที่ฉันให้นายสร้างเกราะให้ ทำไมนายไม่ทำให้คุณสมบัติมันยอดเยี่ยมแบบนี้ละ"
หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
ถอนหายใจออกมาอย่างแรง
นี้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ป้องกันทั้งหมด เขากลัวว่าจะถูกไล่ตามโดยผู้คนนับไม่ถ้วน
"ก็เจ้าเป็นคนบอกให้ข้าสร้างมันขึ้นมาแบบนั้นเอง ดังนั้นข้าจึงไม่ได้เพิ่มสิ่งใดลงไป" มากอร์นยักไหล่ "แล้วอีกอย่างอุปกรณ์ของเจ้านั้นเป็นระดับ 8 จะเอาไปเทียบกับระดับ 10 ได้อย่างไรนี้เป็นสิ่งที่ข้าใช้ความพยายามอย่างมาก เจ้าต้องมอบอาหารให้ข้าอีก 10000 กิโล"
"เอาละ เอาละ 10000 ก็ 10000 เดี๋ยวจะนำมันไปส่งให้เมื่อพืชชุดต่อไปออกผล"
ครั้งนี้ หลิน ยู ไม่ได้โต้เถียงกับ มากอร์นอีก
เพราะเขามีความชัดเจนมาก การสร้างอุปกรณ์ระดับ 10 นั้นมันไม่ใช้เรื่องง่าย
ด้วยการที่มันเป็นอุปกรณ์ที่คุณสมบัติที่แข็งแกร่งพิเศษ
ทำไมถึงจะเอาไปขายแลกกับอาหารไม่ได้
เขาจึงไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป หลังจากที่คุยกับมากอร์นอีกไม่กี่คำ เขาก็รีบออกมาจากถ้ำคนแคระขึ้นขี่มังกรราชาปิศาจกลับไปยังดินแดน
เขาเตรียมใจไว้แล้ว เดินผ่านประตูมิติแห่งอาณาจักรลับทันที เข้าไปสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรลับทันที
หวืดด!
แสงสว่างวาบขึ้น
หลิน ยู ได้ปรากฏตัวขึ้นบนลาน
ทันทีที่ตัวเขาหยุดนิ่ง เขาก็รู้สึกหวาดกลัวต่อภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
เมื่อมองไปยังรอบๆ ก็ปรากฏเกาะลอยฟ้าที่พังทลาย เศษชิ้นส่วนขนาดใหญ่ลอยอยู่ในอากาศ
แม้แต่ใจกลางเมืองด้านล่างก็ถูกทำลายไปด้วย พื้นที่บางส่วนถูกเผาจนลาบเป็นหน้ากอง ร้านค้าจำนวนมากได้รับความเสียหาย
การจราจลของมอนสเตอร์ในครั้งนี้ชั่งน่ากลัวจริงๆ
โชคดีที่ หอการค้าชิงฟางเก่อ นั้นไม่เป้นอะไร
หลังจากตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบแล้ว หลิน ยู ก็ขี่มังกรราชาปิศาจ บินออกไปจากลาน มุ่งหน้าไปยัง หอการค้าชิงฟางเก่อ
และในตอนนั้น
ภายใน หอการค้าชิงฟางเก่อ
หลูเจิ้งซิง ที่ยืนอยู่ต่อหน้าญาติผู้น้องทั้งสองคนที่เพิ่งถูกส่งมาโดยตระกูลก็สัมผัสได้ถึงความเครียดที่เกิดขึ้น
"ข้าจะพาใครซักคนออกไปเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าดูแลร้านให้ดีๆ ละ อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นนะเข้าใจหรือไม่?"
"ขอรับคุณชายสาม"
"ทราบแล้วขอรับ"
ชายหนุ่มทั้งหมดสองตอบสนองอย่างรวดเร็วดวงตาของเขาปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัว
"เข้าใจแล้วก็ดี งั้นข้าไปก่อนละ"
หลูเจิ้งซิง ไม่พูดอะไรต่อ รีบหันหลังจากไปทันที มุ่งหน้าไปยังเกาะลอยฟ้า ราวกับเขามีบางอย่างต้องรีบไปทำ
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ
ทันทีที่เขาก้าวเท้าออกไป หลิน ยู ก็ได้มาถึง
ด้วยสายลมที่พัดผ่าน หลิน ยู กระโดดลงมายังพื้นที่โล่งด้านหน้า หอการค้าชิงฟางเก่อ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในร้าน
"พี่หลู ฉันมาแล้ว"
เขาตะโกนเข้าไปในห้องโถงที่อยู่ด้านใน แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ
ไม่นานก็มีเด็กหนุ่มสองคนเดินออกมา
"ท่านมาหาเจ้าของร้านงั้นเหรอ เขาเพิ่งออกไปได้ซักพักนี้เอง"
"พวกนายคือ?"
หลิน ยู มองคนตรงหน้าอย่างสงสัย
"พวกเรามีหน้าที่ดูแลร้านในตอนนี้ ท่านสามารถบอกทุกอย่างกับพวกเราได้"
ทั้งสองยังไม่ลืมคำพูดของ หลูเจิ้งซิง ดังนั้นพวกเขาจึงสุภาพกับ หลิน ยู อย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่จริงจังมากนัก
ตัวเขาจะมาเทียบกับบุตรคนที่สามแห่งตระกูลหลูได้อย่างไร
ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร หลิน ยู ก็เป็นแค่แขกสามัญธรรมดาเท่านั้น
โชคไม่ดีที่ตอนที่ หลูเจิ้งซิง ออกไปนั้น เขาได้นำคนที่รู้จัก หลิน ยู ให้ออกไปด้วย
หลิน ยู มองไปยังรอบๆร้าน ดูเหมือนว่า หลูเจิ้งซิง จะไม่อยู่จริงๆ
เขาถามกลับไปว่า "แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่"
"น่าจะอีกซักประมาณครึ่งชั่วโมง"
"ได้ งั้นฉันจะรอเข้าอยู่ที่นี้ก็แล้วกัน"
หลิน ยู ไม่ได้พูดอะไรกับทั้งสองคนมากนักเขาเดินเข้าไปในร้านเพื่อนดูสินค้าต่างๆ
เขาเดินเล่นไปทั่วราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ภายในบ้านของตัวเอง ทำให้คนทั้งสองสงสัยทันที
"นี้เขารู้จักคุณชายสามจริงๆ งั้นเหรอ" ชายหนุ่มที่แต่งตัวเรียบๆกล่าวด้วยน้ำเสียงสงสัย
"ไม่น่าจะใช่?"
"ยังไงก็ตาม พวกเราสุภาพกับเขาไว้ก่อนดีกว่า ท่านพ่อบอกให้เราระมัดระวังเมื่อมาอยู่กับคุณชายสาม ถ้าหากเขารู้จักคุณชายสามจริงๆละ"
"นั้นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง"
ทั้งสองเป็นเพียงคนจากตระกูลสายรองของตระกูลหลู
แม้ว่าพวกเขาจะหยิ่งยโสในตอนแรก แต่เพราะพวกเขาไม่ได้สืบทอดสายเลือดตระกูลหลักมา ทำให้เขาไม่สามารถเชิดหน้ามองฟ้าได้อย่างภาคภูมิ
สุดท้ายแล้ว หากพวกเขาต้องการก้าวนำคนในตระกูลด้วยการไต่เต้าไปยังจุดสูงสุด พวกเขาต้องคว้าทุกโอกาสไว้ให้ได้
แม้มันจะเลือนลางแค่นั้นก็อย่าปล่อยมันไปเด็ดขาด
หลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ทั้งสองก็มองหน้ากัน นำเก้าอี้และชาเข้ามาหาหลิน ยู อีกครั้ง
"ท่านยืนรอนานแล้วอาจจะเมื่อย พวกข้านำเก้าอี้และชามาให้ เจ้าของร้านของพวกเราน่าจะกลับมาเร็วๆนี้"
"โอ้ ขอบใจมาก"
หลิน ยู มองไปที่พวกเขาด้วยความประหลาดใจ
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของพวกเขา เขาก็อดที่จะถามไม่ได้ "พวกเจ้ามาจากตระกูลเดียวกันกับท่านหลู งั้นเหรอ"
"ขอรับ พวกเราเพิ่งมาจากตระกูลเมื่อวันนี้เอง" ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าหน่อยพยักหน้าและพูดว่า "ข้าไม่รู้ว่าท่านมีแผนจะหารือเรื่องอะไรกับคุณชายหลูงั้นหรือขอรับ"
"ไม่มีอะไรมากนัก มันเป็นเรื่องของความร่วมมือน่ะ ว่าแต่ก่อนหน้านี้พวกเจ้าทำอะไรมาบ้างตอนอยู่ภายในตระกูล"
อย่างไรก็ตาม มันยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อย ดังนั้น หลิน ยู จึงได้พูดคุยกับเขาทั้งสองคนภายในร้าน และได้ทราบสถารการณ์ของตระกูลหลู
ชายทั้งสองปรับตัวได้ในที่สุด ไม่ได้กระวนกระวายอีกต่อไป บอกบางอย่างที่ไม่สำคัญให้กับเขา
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที
ในที่สุดก็มีเสียงฝีเท้าดังออกมาจากด้านนอก
หลูเจิ้งซิง เดินเข้ามาจากด้านนอกพร้อมกับ ชายหนุ่ม 2 3 คนพวกเขาถือเขี้ยวขนาดใหญ่
"นายน้อยสามกลับมาแล้วหรือขอรับ!"
ญาติผู้น้องทั้งสองรู้สึกกดดันเล็กน้อยทักทายเขาทันที
"โอ้ พวกเจ้ามาได้ทันเวลาพอดี มาช่วยย้ายของเร็วเข้า คราวนี้ข้าได้ของดีมาเลยละ"
หลูเจิ้งซิง เรียกพวกเขาทั้งสอง เดินเข้าไปในร้านอย่างตื่นเต้น เขาก็ได้เห็น หลิน ยู ที่นั่งอยู่ภายในร้านอย่างรวดเร็ว ฝีเท้าของเขาก็ได้หยุดลง
"นายน้อยหลิน? ท่านมาถึงที่นี้ตั้งแต่ตอนไหนหกัน"
เสียงของเขาไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด มันได้ลอยไปเข้าหูของญาติผู้น้องทั้งสองทันที ทำให้พวกเขาตกตะลึงจนหน้าเปลี่ยนสี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่พวกเขาคุณชายของพวกเขา เรียก หลิน ยู มันทำให้เขาหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีก
"ข้าต้องขอโทดด้วยจริงๆ ข้าเพิ่งออกไปเอาวัตถุดิบมา นายน้อยหลิน รอนานหรือไม่" หลูเจิ้งซิง กล่าวขอโทษออกมา
"ไม่เป็นไร ฉันเพิ่งมาถึงได้แค่แปปเดียว" หลิน ยู ลุกจากที่นั่ง
"ดีจริงๆ เมื่อกี้ที่ข้าออกไปเลยลืมบอกคนที่อยู่ดูแลเอาไว้ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรหยาบคายต่อเจ้าใช่หรือไม่"
"นายหมายถึงสองคนนี้งั้นเหรอ" หลิน ยู เหลือบไปมองญาติผู้น้องทั้งสองของตระกูลหลู ที่เพิ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก แล้วยิ้มออกมา "โชคดีจริงๆ พวกเขาดูแลข้าค่อนข้างดีเลย พวกเขากลัวว่าฉันจะเหนื่อยด้วยซ้ำ จึงได้นำเก้าอี้กับชามาให้"
"โอ้?"
หลูเจิ้งซิง มองไปยังญาติผู้น้องทั้งสองด้วยความชื่นชมท่ามกลางสายตาของผู้คน
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ซักพักหนึ่ง เขาพูดกับทั้งสองว่า "งั้นพวกเราไปยังห้องโถงก่อน เพื่อพูดคุยธุรกิจกันเถอะ"
"งั้น! พวกเราไปกัน"
ญาติผู้น้องในตระกูลของเขาที่กำลังดีใจต่างตอบสนองอย่างรวดเร็ว
การทำรายรับรายจ่ายของหอการค้าให้เป็นหลักแหล่ง โดยทั่วไปแล้วจะมีเพียงผู้สืบทอดสายตรงจากตระกูล ผู้ผลงานอันโดดเด่นเท่านั้นที่มีโอกาส
แต่ไม่คาดคิดว่าเพียงเพราะคำชมจากอีกฝ่าย จะทำให้พวกเขาได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่เช่นนี้
นี้มันทำให้พวกเขาทั้งตื่นเต้นและมีความสุขในเวลาเดียวกัน
โชคดีที่ตอนนั้นพวกเขาไหวตัวทัน ไม่ได้ทำให้หลิน ยู รู้สึกแย่
เขาไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี้นานหนัก หลังจำรูปลักษณ์ของ หลิน ยู อย่างเงียบๆ เขารีบออกจากหลังร้านไปยังเคาเตอร์เพื่อศึกษางาน
จนกระทั่งพวกเขาเดินจากไป หลิน ยู ก็คงถามต่อไปว่า "พี่หลูเพิ่งออกมาไปซื้อวัตถุใช่หรือไม่"
"ใช่แล้ว ตอนนี้น้องหลิน น่าจะเห็นเขี้ยวชิ้นแล้ว เพราะนี้เป็นงาของช้างที่น่าสะพรึงกลัวระดับ 10 ที่ถูกสังหารไปเมื่อวานนี้ เพราะมันใหญ่เกินไป ฉันทำได้แค่พาคนไปค้นมันออกมา"
"วัตถุดิบระดับ 10?"
หลิน ยู ตกตะลึงทันที
"อะไรกัน น้อง หลิน ยู สนใจงั้นเหรอ"
เมื่อเห็นแสงที่เปล่งประกายออกมาจากดวงตาของ หลิน ยู หลูเจิ้งซิง ก็ถามขึ้นมา
"ฉันสนใจจริงๆนั้นแหละ แต่ฉันยังไม่สามารถจ่ายได้"
"น้องหลิน ไม่จำเป็นต้องซื้อมันเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่น้องหลิน สามารถช่วยเวลาสร้างอุปกรณ์ระดับ 10 ได้สำเร็จ ฉันจะนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาประเคนให้เอง"
"นี้พี่หลูจริงจังใช่ไหม?" หลิน ยู จับจ้องไปที่เขา
"แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระดับ 10 แล้วแค่วัตถุดิบชิ้นหนึ่งนั้นไม่นับว่าเป็นอะไร? อย่างไรก็ตาม น้องหลิน มาทำอะไรที่นี้งั้นเหรอ"
***สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 246
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved