บทที่ 301: ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขา
“ อาณาจักรห้าทัศนะ? ฉันจำได้ว่าอาณาจักรนี้ถือเป็นอาณาจักรขนาดกลาง มันมีปราชญ์น้อยกว่าสิบคนอีกนี่”
“ ผู้คนมากมายทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปราชญ์ในเวลาเพียงไม่กี่วันได้ยังไง เป็นไปได้ไหมว่าผู้สร้างจะลงมายังโลกมนุษย์และมอบความรู้แจ้งให้แก่เหล่าเซียนอนันต์ทอง?”
“ เฉินถัง เจ้าดูผิดไปหรือเปล่า? มันเป็นปราชญ์เจ็ดคนจากภายนอกได้เข้าสู่อาณาจักรห้าทัศนะหรือเปล่า?”
ราชาปราชญ์ทั้งสามที่อยู่ข้างๆ เดินเข้ามาทีละคนโดยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เฉินถังพูด
นี่เป็นเพราะมันไร้สาระเกินไป
แม้ว่าโลกจำนวนนับไม่ถ้วนที่นี่จะได้รับการฝึกฝนโดยใช้แก่นแท้เซียน และมันก็ยากน้อยกว่าการฝึกด้วยเคล็ดวิชาการฝึกตนที่ถูกต้อง แต่กระนั้นมันก็ยังไม่ง่ายเลยที่จะกลายเป็นปราชญ์
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงไม่ใช่เรื่องปกติที่จู่ๆ ปราชญ์เจ็ดคนจะมาปรากฏตัวขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วัน
ราชาปราชญ์ทั้งสามเดินไปที่กระจกตาแห่งชะตาดาราและเห็นพื้นที่ของอาณาจักรห้าทัศนะกับจำนวนปราชญ์ที่แสดงอยู่
“ เมื่อปราชญ์ทั้งเจ็ดปรากฏตัวขึ้น จำนวนเซียนอนันต์ทองก็ได้ลดลงไปเจ็ด นี่คือปราชญ์ใหม่ไม่ผิดแน่” เฉินถังจ้องมองที่กระจกและพูดด้วยความมั่นใจ “ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ยังตระหนักได้ว่ามันอาจมีบางอย่างผิดปกติกับหมิงเจิน...”
“ เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนเริ่มประหม่า
หมิงเจินเป็นตัวแทนของอนาคตของศาลาภัยพิบัติชะตาดารา เขาเป็นคนที่มีโอกาสสูงสุดในการเป็นผู้สร้างในหมู่พวกเขา
นอกจากนี้ เขาก็ยังเป็นความหวังเดียวของพวกเขาในการฟื้นฟู ศาลาภัยพิบัติชะตาดารา
ด้วยเหตุนี้เอง หากมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหมิงเจินหรือแม้แต่เขาเสียชีวิตลง ศาลาภัยพิบัติชะตาดาราก็คงจะไม่มีความหวังที่จะลุกขึ้นมาอีกต่อไป
หลังจากที่พวกเขาเหล่าราชาปราชญ์ค่อยๆ ล่วงลับไป ศัตรูกลุ่มอื่นๆ ก็จะต้องจ้องเข้ามาเล่นงานพวกเขาอย่างแน่นอน
“ ข้าสังเกตเห็นว่าข้อมูลบนกระจกไม่ได้รับการเคลื่อนไหวเลยมาเป็นเวลาห้าปีแล้ว”
เฉินถังกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม “ ภายใต้สถานการณ์ปกติ หมิงเจินก็จะแจ้งข้อมูลบนกระจกทุกๆ สามปีเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดบางประการในกฎและหลักการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการเฝ้าระวังมีความแม่นยำอย่างแท้จริง”
“ แต่กระนั้นเมื่อสองปีก่อนเขาก็ไม่ได้แจ้งอะไร ฉันคิดว่าเขาน่าจะยุ่งอยู่กับบางสิ่ง ดังนั้นข้าเลยไม่ได้สนใจ แต่พอมาตอนนี้ ข้าก็คงจะเพิกเฉยต่อมันไม่ได้แล้ว”
“ จากรูปลักษณ์ของมัน มันก็อาจจะมีบางสิ่งที่พิเศษเกิดขึ้นในอาณาจักรห้าทัศนะก็ได้ มันจะต้องมีความลับอันใหญ่หลวงซ่อนอยู่เบื้องหลังการถือกำเนิดใหม่อย่างกะทันหันของปราชญ์ใหม่เจ็ดคนแน่ๆ บางทีการหายตัวไปของหมิงเจินเองก็อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย”
เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็หยุดชั่วครู่และพูดว่า “ ข้าวางแผนที่จะเดินทางไปยังอาณาจักรห้าทัศนะเพื่อค้นหาที่อยู่ของหมิงเจิน ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยเราก็ควรจะได้รู้เอาไว้บ้าง”
“ แต่เราจะไปแบบผลีผลามไม่ได้” หนึ่งในราชาปราชญ์กล่าว “ หมิงเจินอ่อนแอกว่าเจ้าและข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจริงๆ งั้นเราก็คงจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกันแน่”
ราชาปราชญ์ทั้งสี่รวมถึงเฉินถังได้ติดอยู่ที่ขอบเขตที่หกมาเป็นเวลานานแล้ว
“ ข้าจะซ่อนตัวตนของข้าและสืบสาวเรื่องราวอย่างลับๆ เอง” เฉินถังยังคงยืนกรานและพูดอย่างจริงจัง “ เนื่องจากมีปราชญ์จำนวนมากจู่ๆ ก็ปรากฎขึ้นในอาณาจักรห้าทัศนะ นั่นจึงหมายความว่าที่นั่นค่อนข้างปลอดภัย มันไม่น่าจะเป็นปัญหาในการตรวจสอบบางสิ่งอย่างอย่างลับๆ”
“ เราควรนำจานมหาดาราจักรหยานออกมาด้วยไหม?” ราชาปราชญ์อีกคนถาม
นี่คือสมบัติระดับผู้สร้างของศาลาภัยพิบัติชะตาดารา
มันอาจทำให้เฉินถังมีโอกาสหลบหนีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามของผู้สร้าง
ยิ่งขอบเขตสูงเท่าไร ความแตกต่างของพลังระหว่างขอบเขตหลักแต่ละขอบเขตก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น
แม้ว่าเฉินถังจะเป็นราชาปราชญ์แล้วและสั่งสมการฝึกตนมามากกว่า 10,000 ปี แต่กระนั้นการดำรงอยู่เช่นเขาก็ยังแทบจะไม่สามารถหลบหนีจากผู้สร้างได้แม้ว่าเขาจะใช้เครื่องมือขอบเขตผู้สร้าง
เพื่อให้สามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของผู้ฝึกตนที่มีความแตกต่างของขอบเขตได้นั้นก็นับได้ว่าเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมแล้ว
สำหรับการก้าวข้ามขอบเขตเพื่อฆ่าศัตรูที่อยู่เหนือกว่า?
นั่นมันก็เป็นไปไม่ได้
“ ไม่” เฉินถังส่ายหัวปฏิเสธ “ ข้าจะไปสืบ ไม่ใช่ไปต่อสู้ มันไม่จำเป็นต้องนำอาวุธติดไปด้วย พวกเจ้าช่วยข้าดูแลกระจกตาแห่งชะตาดาราก็พอแล้ว”
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินทางออกไป
“ เจ้าจะไปตอนนี้เลยหรอ?” ราชาปราชญ์ถามด้วยความประหลาดใจ
“ เราไม่มีเวลาให้เสียแล้ว” เฉินถังพยักหน้าเล็กน้อยและพูดโดยไม่หันกลับมา “ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของหมิงเจิน มันจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรีบไปตรวจสอบในทันที ข้าไม่สามารถยอมเสียเวลาได้อีกต่อไปแล้ว”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็หายตัวไป
“ เฉินถังยังคงใจร้อนมากจริงๆ” ราชาปราชญ์ส่ายหัวและพูด
“ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อกว่า 200 ปีที่แล้ว เขาพลาดโอกาสที่จะรับสมัครอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้เพราะความลังเลของเขา” ราชาปราชญ์อีกคนกล่าวเสริม “ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็มีความรวดเร็วและเด็ดขาดมากขึ้น”
“ อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้เมื่อกว่า 200 ปีก่อน เจ้ากำลังพูดถึงเซียนกระบี่หญิงจากดาวจุยโชวหรอ? นางจะนับเป็นอัจฉริยะได้อย่างไร? นั่นคือเทพธิดาผู้เป็นที่รักของเต๋าสวรรค์นะ!”
“ แม้ว่านางจะมาจากดาวจุยโชว แต่พรสวรรค์ของนางก็น่ากลัวเกินไป ว่ากันว่าตอนที่นางปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก นางก็มีเพียงการฝึกตนที่คล้ายกับเซียนสวรรค์ แต่นางก็ใช้เวลาเพียงหนึ่งร้อยปีในการกลายเป็นราชาปราชญ์!”
“ มันเป็นการดีที่สุดที่เราจะคิดถึงคนแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักษานางเอาไว้ ว่ากันว่าหลังจากที่นางได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้ที่เหมาะสมแล้ว ความเร็วในการฝึกตนของนางก็รวดเร็วอย่างน่าขัน นางดูเหมือนจะไม่มีคอขวดเลย”
“ นางกลายเป็นราชาสวรรค์ได้ในหนึ่งปี เป็นเทพลึกลับในสามปี ทะลวงสู่ขอบเขตเซียนทองในห้าปี และกลายเป็นเซียนอนันต์ทองในสิบปี ในเวลาไม่ถึง 20 ปี นางก็กลายเป็นปราชญ์ ในเวลาเพียง 50 ปี นางก็กลายเป็นราชาปราชญ์”
“ เวลาก็ผ่านไปกว่าร้อยปีแล้ว ข้าอยากรู้เหลือเกินว่าตอนนี้นางจะกลายเป็นผู้สร้างไปแล้วรึยัง”
“ ข้าไม่รู้ นับตั้งแต่ที่นางไปที่ดาวราชันสุริยัน ข่าวเกี่ยวกับนางก็น้อยลงมาก ข้าได้ยินผ่านหูมาว่านางได้ก่อหายนะครั้งใหญ่ขึ้นบนดาวราชันสุริยันและฆ่าสังหารหมู่กันอย่างสนุกสนาน”
“ ฆ่าสังหารหมู่?! เป็นไปได้ยังไง? ดาวราชันสุริยันมีผู้สร้างมากกว่าหนึ่งคนนะ นางจะไปทำแบบนั้นได้อย่างไร? เซียนกระบี่หญิงคนนั้นกลายเป็นผู้สร้างไปแล้วจริงๆ หรอ?”
“ ใครจะไปรู้? เรายังไม่มีผู้สร้าง และข้อมูลที่เราได้รับมาก็เป็นเพียงข้อมูลมือสองเท่านั้น เราได้แต่หวังว่าหมิงเจินจะกลายเป็นผู้สร้างโดยเร็วที่สุดและฟื้นฟูศาลาภัยพิบัติชะตาดาราของเราให้กลับมาได้”
“ เฮ้อ ข้าก็หวังอย่างนั้น”
….
ในท้ายที่สุด เรื่องของยาปราชญ์ก็มิอาจปิดซ่อนเอาไว้ได้
สำนักหมื่นกระบี่และตระกูลซุนได้รับปราชญ์สองคนมาอย่างกะทันหัน และตำหนักหมื่นนักบุญก็ได้รับปราชญ์โดยตรงมาถึงสามคน แม้แต่คนโง่ก็ยังสามารถบอกได้ว่าสถานการณ์นี้มีปัญหาใหญ่แล้ว
ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ากำแพงที่ทะลุผ่านไม่ได้ในโลกนี้ แล้วนับประสาอะไรกับไป่เฉิงเย่ผู้ทำหน้าที่เป็นนักประชาสัมพันธ์มืออาชีพและทุบกำแพงทุกชั้นลงอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ลมพัดเข้ามา
ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งอาณาจักรห้าทัศนะจึงรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของบาปราชญ์
ยาที่สามารถทำให้เซียนอนันต์ทองกลายเป็นปราชญ์ได้นั้นน่าทึ่งเกินไป ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อทุกคนได้ยินเกี่ยวกับผลกระทบของยาเม็ดนี้เป็นครั้งแรก พวกเขาจึงต้องนึกถึงคำเดียวเป็นอย่างแรก—ตอแหล!
อย่างไรก็ตาม การปรากฎตัวขึ้นของปราชญ์ของสำนักหมื่นกระบี่ ศาลาหมื่นนักบุญและตระกูลซุนก็ไม่สามารถปลอมแปลงได้ พวกเขาทั้งหมดเป็นปราชญ์ที่แท้จริง ในความเป็นจริง ออร่าของปราชญ์เหล่านี้ก็ยังบริสุทธิ์และแข็งแกร่งกว่าปราชญ์โดยทั่วไปด้วยซ้ำ
พวกเขามีพลังมากกว่าปราชญ์ที่ทะลวงผ่านด้วยวิธีปกติ
ด้วยเหตุนี้เอง เรื่องนี้จึงจะไม่จบลงง่ายๆ แน่
หลังจากพบว่ายาปราชญ์ถูกซื้อมาจากสำนักมรณาเก้าสวรรค์บนดาวชงหยาง สำนักทั้งหมดในอาณาจักรห้าทัศนะก็รีบไปที่ดาวชงหยางกันอย่างบ้าคลั่ง
มันไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพื่อซื้อยาปราชญ์และสร้างปราชญ์ให้กับสำนักหรือตระกูลของเขา
ข่าวนี้แพร่กระจายไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนอกอาณาจักรห้าทัศนะและดินแดนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับผู้คนในอาณาจักรห้าทัศนะแล้ว ผู้คนจากอาณาจักรอื่นและโลกต่างๆ นั้นก็ระมัดระวังตัวมากกว่า โดยทั่วไปแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด อย่างมากที่สุด พวกเขาก็วางแผนที่จะรอดูสักระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะลงมือ
เรื่องใหญ่เช่นนี้ย่อมไม่สามารถซ่อนเร้นจากสามกลุ่มที่มีส่วนได้ส่วนเสียหลักได้ สำนักหมื่นกระบี่ ศาลาหมื่นนักบุญและตระกูลซุน
ในตอนแรก พวกเขาก็ยังคงรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ยืมมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อปราชญ์ใหม่เหล่านี้ยืนผงาดอยู่ต่อหน้าพวกเขาและปฏิบัติตามคำสั่งของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ พวกเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าเงินกู้นี้คุ้มค่าสุดๆ!
ด้วยปราชญ์มากมายเช่นนี้ พวกเขาก็จะไม่มีสิ่งใดต้องกลัว!
พวกเขาจะไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเสียสละไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ซื่อเหยาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอเป็นฝ่ายเริ่มที่จะมาที่สำนักหมื่นกระบี่ก่อน
ครั้งนี้เธอไม่ได้แสดงเสน่ห์ใดๆ แม้แต่ชุดของเธอก็ยังงดงามและเรียบร้อย
หลังจากเห็นเซี่ยเทียนซิงแล้ว ซือเหยาก็ตรงเข้าประเด็น “ เจ้าสำนักเซี่ย คนเหล่านี้ไปที่ดาวชงหยางเพื่อขอซื้อยาปราชญ์ สิ่งนี้จะเป็นผลเสียอย่างมากสำหรับเรา
“ เราทุกคนติดหนี้จำนวนมากกับสำนักมรณาเก้าสวรรค์ และความหวังในการชำระหนี้เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับคนเหล่านี้ที่ไม่มีปราชญ์คอยหนุน”
“ แต่กระนั้นตอนนี้พวกเขาทั้งหมดก็ได้นำทรัพย์สินของพวกเขาและรีบมุ่งหน้าไปที่สำนักมรณาเก้าสวรรค์ เมื่อพวกเขาซื้อยาเสร็จ พวกเขาก็จะมีปราชญ์มากมาย”
“ เมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะหาเงินจากที่ไหนมาใช้หนี้ได้? มันเป็นไปได้ใช่ไหมที่เราจะต้องไปนอกโลก?”
เธอยังคงอธิบายอย่างละเอียด เห็นได้ชัดว่ามันมีความสับสนเล็กน้อย เธอกังวลว่าพวกเขาจะไม่สามารถจ่ายคืนในสิ่งที่พวกเขากู้ยืมมาได้
ส่วนการประนอมหนี้นั้นก็ยิ่งแล้วใหญ่
ปราชญ์ที่สามารถทำลายแก่นแท้เซียนได้ด้วยหมัดเดียวนั้นไม่ใช่คนที่ควรจะล้อเล่นด้วย
ไม่มีใครกล้ากลับคำ
“ เจ้าศาลาซื่อ ข้าคิดว่าท่านอาจจะคิดมากไปเอง” เซี่ยเทียนซิงดูสงบและไม่ได้กังวลเลยในขณะที่เขายิ้ม
“ จริงๆ แล้วสถานการณ์ที่ท่านพูดถึงเมื่อกี้นั้นทำให้เราเสียเปรียบอย่างมากจริงๆ แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับจุดเดียว ซึ่งก็คือสำนักมรณาเก้าสวรรค์”
“ ตราบใดที่สำนักมรณาเก้าสวรรค์ไม่มียาใดๆ เหลืออีกต่อไป มันก็จะไม่มีความหมายไม่ว่าจะมีคนไปสักกี่คนก็ตาม”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved