ตอนที่ 212 ประตูแห่งอาณาจักรลับ

"นายท่าน พวกเรานำอาหารเช้ามาให้ขอรับ"

ในขณะนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอกดินแดน

มันเป็นเสียงของซู จ่ง

เมื่อหลิน ยู ส่งความคิดอออกไป เถาวัลย์ของ ชิง ถัง ก็เปิดทางให้พวกเขา

หลังจากนั้นไม่นาน ซู จ่ง ก็ได้นำผู้คนแบกอาหาร 2 3 คนเข้ามาในดินแดน

"เรียนนายท่าน"

"เกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า?"

หลิน ยู ถามพรางเลือนดูช่องแชท

"ตัวข้ามาที่นี้เพื่อรายงานสถานการณ์รอบเมืองหวงซาขอรับ" ซู จ่งตอบกลับด้วยความเคารพ

"ไหนลองว่ามา"

หลิน ยู ได้ปิดหน้าต่างช่องแชทลง

เมื่อเห็นอย่างนั้น ซู จ๋ง ก็รีบพูดทันที "เรียนนานท่าน หลังจากการสืบสวนของพวกเราเมื่อบ่ายวานนี้ ได้พิจารณาแล้วว่าเจ้าเมืองซวนหยาง น่าจะเสียชีวิตที่สนามรบหมื่นโลกแล้ว เจ้าเมืองอีก 2 แห่งก็น่าจะประสบกับความสูญเสียอย่างหนักเช่นกัน"

"เจ้าเมืองซวนหยางต่างแล้วงั้นเหรอ"

หลิน หยุดมองไปที่เขา

"ใช่แล้วขอรับ และไม่เพียงแค่นั้น ตามคำบอกเล่าที่ได้ยินมาจากพ่อค้าเมื่อเช้านี้ ราชันระดับ 7 ของเมืองโบราณก็ดูเหมือนว่าจะเสียชีวิตลงเช่นกัน คิดว่าคงจะเกิดความไม่สงบในไม่ช้า ดังนั้นข้าจึงอยากถามนายท่านว่าควรทำอย่างไรดีขอรับ"

"เจ้าเมืองโบราณก็ตายแล้วเหมือนกัน!?" หลิน ยู ประหลาดใจไม่น้อย

เมืองโบราญ นั้นอยู่ห่างจากเมืองหวงซาออกไปเกือบ 300 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนระดับ 7 ที่อยู่ใกล้กับพวกเขามากที่สุด

เมืองหลินฉวนที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งหลิน ยู นั้นได้ข้อมูลมาจากพ่อค้าที่เคยอยู่ที่นั้นมาก่อน

หลิน ยู ไม่คิดว่าราชันคนนั้นจะมาตายลงในสนามรบหมื่นโลก

เท่าที่เขารู้

เมืองโบราณเป็นเมืองขนาดกลางที่มีประชากรมากกว่าแสนคน

หากว่าสามารถรับชาวเมืองจากที่นั้นมาได้ มันก็เป็นการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองหวงซาอย่างแน่นอน มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเมืองขนาดกลางในทันที

ตอนนี้นั้นเขาได้อัพเกรดดินแดนเป็นระดับ 7 แล้ว

สามารถรองรับผู้คนจำนวนมากขนาดนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาใดๆ

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็บอก "เอาละ หลังจากกลับไปนายไปบอก เซียว ฉางกุ้ย ว่าตราบใดที่มีใครย้ายเข้ามายังเมืองหวงซา ภาษีทั้งหมดในเดือนแรกจะถูกยกเว้น หาคนมาปล่อยข่าวลือนี้ออกไป"

"ขอรับ ข้าน้อยจะจัดการให้เดี๋ยวนี้ขอรับ"

ร่างกายของเขาถึงกับสั่นสะท้าน ความยินดีเอ่อล้นออกมาจนสีหน้าของเขาไม่สามารถปกปิดไว้ได้

เขามาที่นี้เพื่อรอฟังคำสั่งของ หลิน ยู

สุดท้ายแล้ว หากเมืองหวงซาพัฒนาไปเป็นเมืองขนาดกลางที่มีประชากรหลายหมื่นคนหรือหลายแสนคน เมื่อนั้นในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ด้วยสถานะของเขามันก็จะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ ใบหน้าของเขากลายเป็นสดใส

เขาไม่กล้าที่จะเสียเวลาอีกต่อไป หลังจากที่นำอาหารมาให้ หลิน ยู เสร็จเข้าก็รีบออกจากดินแดนไปตรงไปยังเมืองหวงซาทันที

หลังจากนั้นไม่นาน

ข่าวทีว่าเมืองหวงซายกเว้นภาษีให้กับผู้ที่ย้ายมาใหม่เป็นเวลา 1 เดือนก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วทั้งในและนอกเมือง รวมถึงแพร่กระจายไปยังเมืองอื่นๆอย่างรวดเร็ว

"ข่าวนี้จริงใช่ไหม? ผู้ที่ย้ายมาใหมได้รับการยกเว้นภาษี 1 เดือนจริงหรือ?"

"ฟังไม่ผิดหรอก ฉันเพิ่งเห็นกับตาว่าผู้บัญชาการ เซียว ได้นำคนไปประกาศที่จัตุรัสใจกลางเมือง อีกทั้งยังมีการประกาศไปทั่วเมืองอีกด้วย"

"เยี่ยมเลย! ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าจะลงหลักปักฐานที่ไหนดี"

"ฉันก็เหมือนกัน ฉันเพิ่งมาจากเมืองซวนหยาง ทรัพยากรรอบๆเมืองหวงซานี้ดีกว่าเมืองซวนหยางมาก"

"นี้มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน ฉันเพิ่งได้ยินมาว่าท่านเจ้าเมืองเพิ่งเลื่อนขั้นสู่ระดับ 7 เมื่อวาน ราชันระดับ 6 พวกนั้นเทียบเขาได้งั้นเหรอ?"

"หะ! ราชันระดับ 7 ! ถ้าอย่างนั้นฉันต้องมาย้ายมาที่นี้ซะแล้ว"

อย่างที่พวกเขารู้กัน ยิ่งระดับของราชันเจ้าของดินแดนระดับสูงมากเท่าใด ทรัพยากรรอบๆดินแดนก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

ลำพังระดับสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นก็เพียงพอ ราชันระดับ 6 ก็ไม่สามารถเทียบได้แล้ว

อีกทั้งมันยังปลอดภัยอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ หลิน ยู ก้าวสู่ระดับ 7 วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนก็ปลดล๊อกระดับ 2 เพิ่มขึ้นด้วย

[ชื่อวัตถุศักดิ์สิทธิ์ : การเจริญเติบโตอันบ้าคลั่ง (เผ่าพฤกษา)]

[ระดับ 1 : ค่าสถานะทั้งหมด + 8% อัตราฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ +10%]

[ระดับ 2  : ค่าสถานะทั้งหมด + 8% อัตราฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ +10%]

[ระดับ 3 (ปลดล๊อก) : ค่าสถานะทั้งหมด + 8% อัตราฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ +10%]

[ระดับ 4 (ปลดล๊อก) : สกิลดินแดน "ผู้พิทักษ์ผืนป่า"]

[ความสามารถ : ภายในอาณาเขต อัตราการเติบโตของพืชเพิ่มขึ้น 100% เพิ่มค่าสถานะของทหารทั้งหมด 16% ความเร็วในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น 20%]

[หมายเหตุ : อธิฐานต่อวัตถุศักดิ์เพื่อนรับพรแห่งดินแดน มีผลเป็นเวลา 1 วัน]

พรแห่งดินแดนที่ทรงพลังนี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชาวเมืองในดินแดนได้เกือบ 20% ซึ่ง ดินแดนระดับ 6 เทียบไม่ได้แม้แต่น้อย

ด้วยบัพทีได้รับนี้ทำให้พวกเขาออกล่ามอนสเตอร์ได้ง่ายขึ้นมาก

อีกทั้งยังมีเพิ่มความเร็วการฟื้นฟูอีกด้วย

เหล่ามอนสเตอร์ในทะเลทรายโกบีค่อยๆพัฒนาระดับขึ้นไปเหนือระดับ 7 ทำให้ดึงดำเหล่าผู้ฝึกตนระดับ 7 มายังที่นี้มากขึ้นเรื่อยๆ

เมืองหวงซาในตอนนี้กำลังเฟื่องฟูอย่างแท้จริงๆ

ทุกคนสามารถเห็นได้ถีงศักยภาพอันใหญ่ได้ในนั้น

และในตอนนั้นเอง

ภายในดินแดน

หลังจากที่จัดการแผนเพิ่มจำนวนประชากรแล้ว หลิน ยู นั่งลงใบโต๊ะกินข้าวเปิดหน้าต่างจัดการอาณาเขตขึ้นมาขณะกินอาหารเช้า

เมื่อเปิดเข้ามาดูเขาถึงกับตกตะลึง

รายได้ต่อวันของเมืองหวงซาเพิ่มขึ้นจากเดิน 1000 กลายเป็น 10000

มันเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า!

หลังจากหักค่าบำรุงและคนแรง เขายังสามารถทำกำไรได้ประมาณ 5000 ต่อวัน

ก่าวอีกอย่างคืนแม้เขาจะไม่ทันอะไรในตอนนี้ เขาก็ยังสามารถอัญเชิญทหารระดับ 7 2 ตัวเขาทุกวัน

รายได้จำนวนนี้มันค่อยๆเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น

มันเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ

รายได้ของราชันระดับ 7 นั้นสามารถเทียบได้กับการที่เขาออกมาล่าเป็นเวลาหลายวันทีเดียว

ต่อมา

หลิน ยู เปิดดูรายการจัดอันดับ ระดับ 7

เขาพบว่าตัวเองไม่ได้จติดแม้กระทั้ง 10000 อันดับแรก

แม้ว่าเหนือเมืองหวงซาตอนนี้ มงกฏเกียรติยศ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอันดับ 1 ในรายการจัดอันดับจะหายไปเมื่อเขาเลื่อนไปเป็นระดับ 7

แต่เขาไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย

เพราะถึงแม้ว่าไม่มีบัพจากมงกฏเกียรติยศแต่อัตราในการเพิ่มขึ้นของพลังความศรัทธาในปัจจุบันก็เพิ่มให้กับเขาเกือบ 10 แต้ม ต่อวันซึ่งมันเร็วกว่าตอนที่เขามายังที่นี้ครั้งแรกมาก

สำหรับอันดับของเขานั้นไม่ต้องพูดถึง

สุดท้ายแล้ว เขาเพิ่งจะอัพเกรดดินแดนขึ้นมา ทหารระดับ 7 ก็ยังไม่ได้อัญเชิญออกมาอย่างเต็มความจุ มีเพียงกองกำลังระดับ 6 ที่สามารถใช้งานได้ชั่วคราวเท่านั้น

ในตอนนี้เขาสนใจ ในการพัฒนาอาณาเขตของเขามากกว่า

เมื่อคิดดูแล้ว

หลิย ยู ก็เปิดไปที่หน้าต่างบริหารเมืองหวงซา

ทรัพยากรแร่ที่เขามีอยู่ตรงนี้เพียงพอที่จะยกระดับอาคารพื้นฐานทั้งหมดในเมืองให้กลายเป็นระดับ 7

เมื่อพิจารณาว่ารอบหน้าจะมีประชากรย้ายเข้ามาในเมืองมากขึ้น

เขาจึงยกเลิกการอัพเกรดอาคารในดินแดนชั่วคราว และใช้ทรัพยากรทั้งหมดไปกับการอัพเกรดอาคารพื้นฐานทั้งหมดของเมืองหวงซา

ทันใดนั้น

ก็เกิดแสงส่องสว่างอย่างต่อเนื่องไปทั่วทุกมุมของเมืองหวงซา

อาคารพื้นฐานระดับ 6 เหล่านั้นได้รับการอัพเกรดเป็นระดับ 7 มันทำให้ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนโดยรอบทันที

หลังจากที่อัพเกรดสิ่งก่อสร้างหมดแล้ว หลิน ยู ยังมีว่ามีพบว่ามีสิ่งก่อสร้างที่ได้รับมาหลังจากอัพเกรด

เช่น หอคอยเวรยาม หอธนู น้ำพุธรรมชาติ

2 อันแรกนั้นเขาพอจะรู้ว่ามันเป็นอะไรดูจากชื่อของพวกเขา แต่อันสุดท้ายนี้ทำให้หลิน ยู สนใจไม่น้อย

[ชื่ออาคาร : น้ำพุธรรมชาติ]

[ระดับสิ่งก่อสร้าง : ระดับ 1]

[คำแนะนำสิ่งก่อสร้าง : น้ำพุที่เต็มไปด้วยพลังที่สามารถใช้รักษาอาการบาดเจ็บแก่ผู้ที่อาศัยทั้งหมด ยกเว้นอาการบาดเจ็บร้ายแรง การรักษาแต่ละครั้งต้องใช้ พลังเวทย์หรือคริสตัลเวทย์ ใช้ได้เฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยที่ระดับต่ำกว่าอาคารเท่านั้น]

[ค่าใช้จ่ายในการรักษา : ระดับของผู้อาศัย * 2 ]

[การบริโภคต่อวัน : พลังเวทย์ 100 แต้ม]

[วัสดุที่ใช้การอัพเกรด : ไม้ 500 ชิ้น หิน 500 ชิ้น แรกแหล่ก 250 ชิ้น แร่ทองแดง 250 ชิ้น พลังเวทย์ 500 แต้ม]

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอาคารที่ดี

สามารถสร้างมันเพิ่มขึ้นเมื่อมีทรัพยากรเพียงพอในอนาคต

สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยชาวเมืองฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บอย่างรวดเร็วที่พวกเขาได้รับจากการล่า แต่มันยังเป็นแหล่งหารายได้จำนวนมากให้กับเขาอีกด้วย

แต่เขานั้นไม่ได้โลภ

นี้มันเพียงพอที่รักษาชาวเมืองได้ 1800 คนต่อวัน

มันคงไม่มากเกินไปที่จะได้รับพลังเวทย์ 2000-3000 ต่อวัน

การสร้างอาคารดังกล่าวจะทำให้เขาได้รายได้เป็นจำนวนมาก

"เดี๋ยวก่อนนะ เหมือนฉันจะนึกขึ้นมาได้ว่ามีบางอย่างปลดล๊อกตอนที่เขาอัพเกรดขึ้นเป็นระดับ 7?"

ทันใดนั้น หลิน ยู นึกไปถึงการแจ้งเตือนตอนที่เขาอัพเกรดขึ้นเป็นระดับ 7

ดูเหมือนว่านอกจากสิ่งก่อสร้างเหล่านี้แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นปลดล๊อคอีกด้วย

เขาเปิดหน้าต่างดินแดนขึ้นมาและมองไปยังด้านล่างอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าเขาเห็นรายการฟังก์ชั่นที่ยาวเหยียด มีตัวเลือกขึ้นมาใหม่ชื่อว่า [ประตูแห่งอาณาจักรลับ]

เขาเปิดมันอย่างรวดเร็วคำแนะนำก็ปรากฏแก่สายตาเขาอย่างรวดเร็ว

[ประตูแห่งอาณาจักรลับ : ท่านสามารถเปิดประตูแห่งอาณาจักรลับนี้ได้ภายในดินแดนเพื่อมุ่งหน้าไปยุ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรลับได้]

"...."

นี้มันจบแล้วงั้นเหรอ?

ไม่มีคำแนะนำเพิ่มเติมอีก?

หลิน ยู มองดูอย่างตกตะลึง มองไปยังประโยคซ้ายขวาด้านบนไม่เห็นมีประตูบ้าอะไรเลย

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนี้ เข้าไม่กล้าใช้ง่ายฟังก์ชั่นนี้ เพราะกลัวว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

ในกรณีแบบนี้ เขาต้องของความช่วยเหลือไปยังผู้ที่รู้เท่านั้น

หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็เปิดหน้าต่างแชทส่วนตัวทันทีและส่งข้อความหา จี้ หยุดซวง

หากจะมีใครที่รู้ว่ามันคืออะไรนั้น นั้นก็คือองค์หญิงจี้ หยุนซวง คนนี้นี่เอง

เป็นไปตามที่คิดไว้

หลังจากที่ส่งข้อความไปได้ไม่นานเธอก็ตอบกลับมา

"จู่ๆ นายมาถามฉันเกี่ยวกับประตูแห่งอาณาจักรลับแบบนี้ แสดงว่านายอัพเกรดไประดับ 7 แล้วงั้นเหรอ"

ทันทีที่เธอตอบเขา เห็นได้ชัดว่าเธอรู้จักมันเป็นอย่างดี

หลิน ยู ไม่เสียเวลาอีกต่อไป เขาตอบกลับข้อความของเธอทันที "ใช่แล้ว ฉันเพิ่งจะอัพเกรดเมื่อวานนี้เอง ฉันเลยมาถามเธอ เผื่อเธอจะรู้อะไรบ้าง"

"มันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ลูกน้องของพ่อฉันมักจะวิ่งเข้าออกจากประตูของอาณาจักรลับนั้นบ่อยครั้งมันเป็นสถานที่ๆอันตรายมากๆ แต่ฉันได้ยินมาว่าเราสามารถหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพและทรัพยากรอื่นๆได้จากที่นั้น"

"วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ?"

ดวงตาของ หลิน ยู เปล่งประกายออกมา เขาไม่คิดว่าจะได้รู้เกี่ยวกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพในสถานที่แบบนี้

"ใช่ นายน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพใช่ไหม?"

"ใช่ พอจะได้ยินมาบ้าง"

"ฉันนั้นได้ยินมาว่า ประตูนแห่งอาณาจักรลับทำหน้าที่เป็นแท่นเทเลพอร์ตที่ใช้เคลื่อนย้ายไปยังเมืองหลัก แต่สถานที่ๆถูกส่งไปมันเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรลับที่อยู่ใจกลางโลก ซึ่งถูกดูแลโดย 3 จักรวรรดิรวมกัน มันเชื่อมต่อกับศูนย์กลางของเหล่ามอนสเตอร์"

"ศูนย์กลางของเหล่ามอนสเตอร์?"

"ใช่แล้ว มอนสเตอร์ในศูนย์กลางนั้นส่วนใหญ่จะเป็นมอนสเตอร์ระดับ 7 เป็นอย่างน้อย และเนื่องด้วยที่นั้นไม่เสถียรอย่างยิ่ง จึงมักจะมีประตูสู่อาราจักรลับปรากฏขึ้น มอนสเตอร์จำนวนมากโผล่ออกมา มีแม้แต่กระแสสัตว์ร้ายดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มอนสเตอร์ระดับสูงจำนวนมากบุกเข้ามายังแผ่นดินใหญ่ จึงต้องส่งคนไปกวาดล้างมอนสเตอร์ภายในอาณาจักรลับนั้น"

"ออ...."

หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของ จี้ หยุนซวง หลิน ยู ก็ตระหนักได้ทันที

ในขณะเดียวกันก็ตกใจ

มอนสเตอร์ระดับต่ำสุดที่นั้นคือระดับ 7 ทั้งหมด แล้วบอสมอนสเตอร์ของที่นั้นจะน่ากลัวขนาดไหนกัน? เขากลัวว่ามันจะมอนสเตอร์จำนวนมากที่มีระดับ 8 หรือแม้ระดับ 9 และ 10 ออกมา

น่าเสียดายที่ จี้ หยุนซวง ไม่ได้เวลาเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก จี้ หยุนซวงส่งข้อความกลับมาทันที

"อย่างไรก็ตาม ฉันแนะนำว่านายไม่ควรไปยังที่นั้นเร็วนัก มันอันตรายเกินไป"