ตอนที่ 268 การรวมตัวกันของเหล่าราชัน

"นี้มัน...."

หลิน ยู มองไปยังสมบัติที่อยู่ในมืออีกฝ่ายอย่างสงสัย

มันเป็นคัมภีร์หน้าตาแปลกประหลาด

มันไม่มีทั้งอาคมและรอยประทับใดๆ มันเป็นเพียงกระดาษเปล่า

เหมือนกับสินค้าห่วยๆที่หยุดผลิตกลางคัน

อย่างไรก็ตาม หลิน ยู ยังรู้สึกออร่าที่ไม่ธรรมดาที่แผ่ออกมา มันไม่ด้อยไปกว่า คัมภีร์อัพเกรดสกิลดินแดนที่เขาได้รับมาจากในสนามรบหมื่นโลกเลยแม้แต่น้อย

เขาประหลาดใจจนอดที่จะถามออกมาไม่ได้ "ม้วนคัมภีร์นี้มาจากไหน"

"ข้าได้มันมาจากการสังหารมอนเตอร์ที่แปลกประหลาดบนภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์"

"มอนสเตอร์ประหลาด"

"ใช่" ราชันสัตว์ร้ายพูดต่อทันที "มอนสเตอร์นั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่มันเจ้าเล่ห์อย่างมาก ดูเหมือนมันจะพูดภาษาแปลกๆด้วย ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสังหารมัน"

เขาไม่ได้ปิดบังอะไรแม้แต่น้อย

ดูเหมือนเขาจะต้องการโทเค็นทหารและวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนในมือของ หลิน ยู จริงๆ

เมื่อได้ยินแบบนั้น หลิน ยู ก็อดไม่ได้ที่จะตรวจสอบม้วนคัมภีร์

[ม้วนคัมภีร์สกิล : เทเลพอร์ตแบบสู่ม(ดินแดน)]

[ความสามารถ : หลังจากใช้งานแล้ว ท่านจะได้รับสกิล "เทเลพอร์ตแบบสู่ม" ]

[เทเลพอร์ตแบบสู่ม : เปิดใช้งานพลังแห่งกฏ สู่มเทเลพอร์ตไปยังตำแหน่งใดก็ได้ในพื้นที่]

กลายเป็นว่า มันเป็นสกิลดินแดน เทเลพอร์ตแบบสู่ม

หลิน ยู ประหลาดใจไม่น้อย เพราะเขารู้ว่ามาสกิลดินแดนนี้หาได้ยากอย่างมาก

จนถึงตอนนี้ เขามีเพียงแค่ 3 สกิลเท่านั้น คือ การส่งกลับ อาณาจักรพฤกษา และการกลายพันธุ์

แน่นอนว่าตอนนี้เขามีชิ้นส่วนเทวะ ทำให้เขาสามารถใช้สกิลอย่างอื่นนอกจากสกิลดินแดนได้

สกิลพิเศษเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับเขามากนัก

สิ่งที่ทำให้เขาให้ความสำคัญคือผลของสกิลนี้

เทเลพอร์ตแบบสู่มไปยังตำแหน่งใดก็ได้ภายในพื้นที่ทันที

แน่นอนว่ามันเป็นสกิลช่วยชีวิตที่จำเป็นสำหรับสังหารและหลบหนี!

แม้ว่าตำแหน่งที่มันสู่มออกมาจะค่อนข้างน่าหนักใจ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งซึ่งเขาไม่สามารถต่อต้านได้หรือจะเป็นอันตรายจากภัยธรรมชาติ เขาก็ยังสามารถใช้สกิลนี้เพื่อหลบหนีได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับสกิลอาณาจักรแห่งสันติของปราชญ์แห่งพงไพรได้อีกด้วย

เหนือสิ่งอื่นใด ตัวเขาในตอนนี้สามารถใช้งานมันได้!

อีกฝ่ายยินดีที่จะเอาของสิ่งนี้มาแลกเปลี่ยนหลังจากเห็นเงื่อนไขที่ต้องใช้ "พลังแห่งกฏ"

สุดท้ายแล้ว สกิลเทเลพอร์จแบบนี้นั้นค่อนข้างจะไร้ค่าสำหรับราชันที่อยู่เหนือกว่าระดับ 10 อีกทั้งราชันที่ระดับต่ำกว่า 10 ก็ไม่สามารถใช้งานมันได้

มีเพียงตัวเขาที่สามารถใช้พลังแห่งกฏได้ก่อนจะถึงระดับ 10 เท่านั้นที่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้สูงสุด

"เป็นยังไงบ้าง? ถ้าหากสิ่งนี้ยังไม่เพียงพอ ข้าจะสามารถเพิ่มโทเค็นทหารเข้าไปด้วยได้"

เมื่อเขาเห็น หลิน ยู ขมวดคิ้วก้มศรีษะลงพรางครุ่นคิด ราชันสัตว์ร้ายคิดว่าเขานั้นไม่พอใจ จึงหยิบโทเค็นทหารออกมาจากกระเป๋ามิติของเขา

[โทเค็นทหาร : เต่าจักรกล (เผ่าจักรกล)]

[ระดับ : ระดับ 7]

[หมายเหตุ : หลังจากใช้งานแล้ว ท่านจะสามารถปลดล๊อกทหารเผ่าจักรกล เต่าจักรกล ได้]

[ความต้องการ : ดินแดนระดับ 7 , พลังเวทย์ 25000 แต้ม]

"เอาละ ตกลง!"

เดิมที หลิน ยู กำลังคิดว่าจะแลกเปลี่ยนมันอย่างไรดี ด้วยสิ่งนี้ที่ฝ่ายเสนอมา มันเป็นกองกำลังโจมตีไกลที่ทรงพลังของเผ่าจักรกล

โดยไม่ลังเล เขาตกลงแลกเปลี่ยนทันที

เมื่อราชันสัตว์ร้ายได้ยินคำพูดนี้ เขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งแลกเปลี่ยนกับเขาทันที

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็แลกเปลี่ยนสมบัติที่อยู่ในมือสำเร็จ ต่างได้สิ่งที่แต่ละคนต้องการ

"ขอบใจเจ้ามาก!"

ราชันสัตว์ร้านรู้สึกตื่นเต้นไม่หยุดเมื่อเขาก้ได้รับมันมาแล้ว

เขาใช้ม้วนคัมภีร์ที่ไร้ประโยชน์และโทเค็นทหาร 1 อันแลกกับสมบัติที่ทรงพลัง 2 ชิ้น

"ด้วยความยินดี"

หลิน ยู ยิ้มกว้างเก็บทั้ง 2 อย่างกลับไป

หลังจากนั้นเขาก็กลับไปยังดินแดนและใช้คัมภีร์สกิลทันที

[ท่านต้องการใช้สกิล เทเลพอร์ตแบบสู่ม (ดินแดน)?]

"ใช่"

หวืดดด

เกิดเป็นแสงสว่างวาบ

คัมภีร์ที่อยู่ในมือของเขากลายเป็นลำแสงหลอมรวมเจ้ากับต้นไม้โลก เมื่อเขาเป็นหน้าต่างสกิล เขาก็เห็นว่ามีสกิลเทเลพอร์จแบบสู่มปรากฏขึ้นมา

แต่ หลิน ยู ไม่อยากที่จะทดสอบใช้

หากเข้าโชคร้าย เขาอาจจะถูกส่งไปยังอีกฝากของอาณาจักร เขาไม่รู้ว่ามันต้องเวลานานเท่าใดในการเดินทางกลับ เขาอาจจะพบกับอันตรายต่างๆนาๆ

เขาจะใช้ในช่วงเวลาสำคัญที่สุดเท่านั้นเพื่อหวังพึ่งความสามารถสุดวิเศษของสกิลนี้

ไม่คาดคิดว่าเขาจะได้สกิลช่วยชีวิตที่ทรงพลังในการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งเขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

มันช่างบังเอิญมาก เพราะเขาวางแผนที่เดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของพื้นที่ทะเลทรายในวันนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับอันตรายอีกต่อไป

หลังจากที่คิดเรื่องนี้ หลิน ยู เทเลพอร์ตกลับไปยังเกาะลอยฟ้ามุ่งหน้าไปยังทางเข้าภูมิภาคหลักอีกครั้ง

คราวนี้เขาไม่ได้หยุดที่ทางเข้า

ทันทีที่เขาเข้าสู่ภูมิภาคหลัก เขาก็ขี่มังกรราชาปิศาจทันที มุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของภูมิภาคหลัก

ทำเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ เข้าไปยังพื้นที่ทะเลทรายและล่าสังหารมอนสเตอร์ระดับ 8 ต่อไปรวบรวมวัสดุสำหรับอุปกรณ์ และ สะสมพลังงานต้นกำเนิดระหว่างทาง

.....

เพียงชั่วพริบตา

5 วันผ่านไป

ในช่วงเวลานี้ หลิน ยู ใช้เวลาอยู่แค่ 2 ที่

ทุกวัน หากเขาไม่อยู่เมืองหวงซาเพื่อตรวจสอบการรับสมัครผู้ฝึกตน เขาก็ไปยังทะเลทรายภายในภูมิภาคหลักเพื่อสังหารมอนสเตอร์

ไม่มีเห็นเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย เขาไม่เจอแม้แต่มอนสเตอร์ราชัน

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ

ความสงบสุขได้ถูกทำลายลงทันทีเมื่อถึงวันที่ 6 มันเป็นเวลาเที่ยงวัน

[ราชันทุกท่านโปรดทราบอาณาจักรลับขนาดใหญ่ "วิหารทะเลทราย" ได้เปิดออกแล้ว]

[วิหารทะเลทรายจะแบ่งทางเข้าออกมาเป็นหลายช่องทางตากทิศทางของพื้นที่ทะเลทรายนั้นๆ]

[เมื่อผ่านทางเข้า ท่านจะสามารถเข้าสู่วิหาร ภายในนั้นจะมีสมบัติเก็บซ่อน รอให้ท่านไปค้นหามากมาย]

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของเหล่าราชันทุกคนที่อยู่ในภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์

ทันใดนั้นเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น

พื้นที่ทะเลทรายทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พร้อมกับท้องฟ้าคำราม สายลมกรรโชกอย่างรุนแรง

"มันเกิดบ้าอะไรกันขึ้น?"

"ดูเหมือนว่าวิหารทะเลทรายเปิดออกแล้ว!"

"วิหารทะเลทราย? ตำนานที่เล่าขานในกันพื้นที่ทะเลทรายงั้นเหรอ?"

"ข้าจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่มันเปิดนั้นคือตอนไหน"

"ไอ้บ้าคนไหนที่สามารถรวบรวมชิ้นส่วนแผนที่ครบร้อยชิ้นกัน?"

"ไปเร็ว! รีบไปดูกันเถอะ!"

ราชันทุกคนที่กำลังสำรวจภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์ต่างตกตะลึงกับการแจ้งเตือนที่กระทันหันนี้

ตราบใดที่เขาสำรวจไปยังส่วนลึก พวกเขาทุกคนจะรู้ว่ามีตำนานอย่างวิหารทะเลทรายหลับไหลอยู่ภายในพื้นที่ทะเลทราย

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีความอดทนในการรวบรวมชิ้นส่วนแผนที่ได้จนครบ

เมื่อวิหารทะเลทรายเปิดขึ้นอีกครั้ง เหล่าราชันระดับ 7 ก็ติดต่อพวกของเขาเพื่อไปยังทางเข้าที่ใกล้ที่สุด

แม้แต่ราชันระดับ 8 บางคนยังถูกดึงดูดโดยสิ่งนี้เข้าร่วมกลุ่มบนถนนสายหลัก

เวลาผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง

เหล่าราชันต่างโลกนับพันคนได้มารวมตัวกันในพื้นที่ทะเลทราย ทำให้มันแน่นขนัดด้วยไปผู้คน

หลิน ยู เองก็อยู่ในทะเลทราย

ผ่านไปไม่นานเขาก็พบทางเข้าวิหารแห่งหนึ่ง

มีพีระมิดขนาดใหญ่ที่ถูกเฝ้าโดยสฟิงซ์ที่ตัวใหญ่เหมือนผู้เขาตั้งตะหง่านอยู่เหนือทะเลทราย

หลิน ยู จำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่มีพีระมิดอยู่แถวนี้ นี้ยังไม่นับสฟิงซ์ที่อยู่ข้างๆ

มันเพิ่งโผล่ขึ้นมาจากทะเลทรายงั้นเหรอ?

หรือว่าวิหารจะอยู่ใต้ดินฦ

เมื่อเห็นว่าได้มีเหล่าราชันจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มารวมตัวกันจากทุกทิศทาง เขาไม่กล้าที่จะลังเล สั่งให้มังกรราชาปิศาจรีบบินไปยังทางเข้าสีเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่างของพีระมิดทันที

มังกรราชาปิศาจร่อนลงจอดที่ทางเข้า เขาเดินเข้าไปมันเป็นทางเดินกว้างขวางงดงามอย่างมาก

บนผนังหินล้วนทีจิตรกรรมฝาผนังที่แกะสลักเอาไว้ ซึ่งดูตระการตาภายใต้แสงสลัวๆของคบไฟ มันมีความคลายคลึงวัฒนธรรมพีระมิดที่สร้างความประทับใจให้กับเขาในควาททรงจำ

ถ้าหากว่ามีคนบอก หลิน ยู ว่าที่นี้นั้นเคยมีคนอยู่ เขาก็คงเชื่ออย่างสนิทใจ

ภายในภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์ทำไมถึงมีร่องรอยการดำรงอยู่ของมนุษย์โบราณอยู่กัน?

หลิน ยู มึนงง

แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงของราชันคนอื่นๆที่ค่อยๆดังมาจากด้านหลัง เขาก็อดไม่ได้ที่จะละสายตาเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปลึกขึ้น

เขาค่อยตะหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เพราะยิ่งเข้าเดินเข้าไปข้างในมากเท่าไร

เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ๆสังเวียนคล้ายกับโคลอสเซียมกรุงโรมโบราณ

สิ่งก่อสร้างนี้มีขนาดใหญ่จนมองไม่เห็นฝั่งตรงข้ามเลยด้วยซ้ำ มันใหญ่กว่าพีระมิดที่เขาเพิ่งเห็นอย่างมาก

"นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"

หลิน ยู ตกตะลึง

นี้เขาไม่ได้กำลังเข้าไปในพีระมิดหรือลงไปยังใต้ดินงั้นเหรอ?

แล้วเขามาปรากฏตัวที่นี้ได้อย่างไรกัน?

มันมีแม้ท้องฟ้าที่มีดวงอาทิตย์

ดวงอาทิตย์สีทองที่แตกต่างจากภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์!

เพราะเขาจำได้ว่าดวงอาทิตย์ของภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์นั้นเป็นสีแดงอย่างชัดเจน อีกทั้งท้องฟ้าก็ยังไม่ค่อยมีเมฆ มันโปร่งใสซะจนสว่าง

"หือ? ไม่ใช่หลิน ยูงั้นเหรอ? เจ้าก็มาที่นี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?"

เมื่อหลิน ยู ได้ยินเสียงนั้น เขาก็หัวศรีษะไป เห็น หยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน ปรากฏขึ้นทีละคนที่ทางเดิน

ถัดไปจากพวกเขามีราชันระดับ 7 หลายของโลกดึกดำบรรพ์ปรากฏตัวขึ้นทีละคน พวกเขาทั้งหมดต่างสับสน

"ทำไมพวกนายถึงได้มาที่นี้กัน"

หลิน ยู ถามด้วยความประหลาดใจ

"ข้าได้ยินมาว่าได้มีอาณาจักรลับขนาดใหญ่เปิดขึ้น ดังนั้นข้าจึงมาดูซักหน่อย" หยาน ลี่ ยักไหล่และมองไปยังรอบๆ

ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีราชันหลายคนปรากฏตัวรอบๆสังเวียน

พวกเขาจับกลุ่มกันอย่างแน่นขนัดอยู่รอบสังเวียน แต่ละคนถูกล้อมรอบด้วยม่านแสง กลายเป็นเสาแสงขนาดใหญ่

ภายในสังเวียน

บริเวณด้านบนอัฒจันทร์ที่พวกเขาอยู่ ได้มีตัวอักษรขนาดใหญ่ 3 ตัว "โลกดึกดำบรรพ์" กำลังส่องแสงสว่างจ๋าอยู่

"ดูเหมือนว่าหลังจากผ่านทางเข้าๆมาแล้ว ราชันของแต่ละโลกจะถูกส่งไปอยู่รวมกัน"

ดวงตาของ ซือถู เจี้ยน กลายเป็นเคร่งขรึม เขาสังเกตุเห็นสนามต่อสู้ที่อยู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว

"ถูกส่งไปอยู่รวมกันแต่ละโลก?"

เมื่อ หลิน ยู ได้ยินแบบนี้ เขาอดไม่ไดเที่จะมองไปยังอัฒจันทร์อื่นที่ถัดจากเขาไป แน่นว่ามันมีชื่อที่แตกต่างกันแขวนอยู่ด้านบน

โลกหยวนซา , โลกจิตวิญญาณแท้จริง , โลกอู๋ซาง ซึ่งพวกเขารู้จักเป็นอย่างดีอยู่ทางซ้ายแล้วขวา

"หรือว่าโลกต่างๆต้องแข่งขันกันบนแท่นนั้นเพื่อรางวัลงั้นหรือ?"

หลิน ยู พูดออกมาอย่างสงสัย

"แข่งขันงั้นเหรอ? แข่งขันเป็นสิ่งที่ดี แต่ข้ากังวลว่าพวกเราคงไม่มีโอกาศชนะพวกเขาหรอก!"

ดวงตาของหยาน ลี่ เปล่งประกาย เขาดูตื่นเต้น

ในเวลานั้นเอง ก็ได้มีราชันจำนวนมากปรากฏขึ้นบนอัฒจันทร์ ทำให้บริเวณรอบสังเวียนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ด้านข้างเขามีเสียงร้องดังขึ้น

"มันเกิดอะไรขึ้น? ข้าเพิ่งเดินเข้าไปในพีระมิดไม่ใช่หรือ แล้วข้ามาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน"

"บ้าเอ้ย! นั้นแท่นประลอง! พวกเราต้องต่อสู้กันบนนั้นงั้นเหรอ?"

"ผู้คนเยอะนัก! ดูเหมือนว่าราชันทั้งหมดได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี้แล้ว"

"ดูนั้น! พวกเขามาจากโลกนิรันดร์"

"โลกนิรันดร์? โลกอันยิ่งใหญ่ที่สามารถติด 1 ใบ 10 ของโลกทั้งหมด!?"

"ตรงนั้นมีคนมาจากโลกโกลาหลด้วย!!"