ตอนที่ 454 : ประสาทสัมผัสจากหัวใจที่สามารถแยกแยะความดีความชั่ว! วิญญาณผู้กล้าลืมตา!

ในไม่ช้า พวกเขาทั้งห้าคนก็มาถึงโถงวิญญาณผู้กล้า

มนุษย์สูงสามเมตรนัยน์ตาสีม่วงกำลังนั่งสบายๆ อยู่ที่ทางเข้าโถง

มันคือผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับที่โจวโจวไม่ได้เจอมานานแล้ว

ด้านหลังของเขาคือกลุ่มอัศวินผู้พิทักษ์สองทีมที่สวมชุดเกราะสีทองงดงามพร้อมสีหน้าจริงจัง

“เจ้าวิหาร!”

เมื่อผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับเห็นไป่เหอ มันก็ยืนขึ้นทันทีและกล่าวออกมาด้วยความเคารพ

จากนั้นเขาก็เห็นโจวโจวและคนอื่นๆ ตามหลังไป่เหอมา

“เจ้าตัดสินใจรับมรดกผู้กล้าที่เหลือแล้วงั้นเหรอ?”

ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับยิ้มให้กับโจวโจว

โจวโจวไม่ได้อธิบายอะไร เขาเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้าออกมา

“ลอร์ดผู้นี้ช่างทะเยอทะยานซะจริง สิ่งที่เขาต้องการในคราวนี้ไม่ใช่มรดกผู้กล้าระดับเหนือสามัญ แต่เป็นมรดกผู้กล้าระดับเทพ”

ไป่เหอยิ้มและพูดออกมา

ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ จากนั้นสายตาของเขาก็มองไปยังซวีอันที่อยู่ด้านหลังของเขา

เขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดด้วยความประหลาดใจ

“เด็กคนนี้… ศักยภาพไม่เลวเลย”

“เปิดประตู”

ไป่เหอพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก

“ขอรับ!”

ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับพยักหน้า จากนั้นเขาก็โบกมือขวา และอัศวินที่อยู่ด้านหลังของเขาก็เปิดประตูโถงวิญญาณผู้กล้า

“เจ้าตะวันสาดแสง ซวีอัน ตามข้ามา ส่วนฉ่ายเอ๋อร์และร็อบ พวกเจ้ารออยู่ที่ประตูละกัน”

ไป่เหอกล่าว

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในโถงวิญญาณผู้กล้า

โจวโจวและซวีอันเดินตามเขาเข้าไป

“ทำไมให้แค่พวกเขาเข้าไปด้วย? ข้าก็อยากจะเข้าไปดูด้วยเหมือนกันนะ”

ลู่ฉ่ายเอ๋อร์พึมพำเบาๆ ด้วยสีหน้าฮึดฮัด

เธออยากจะรู้จริงๆ ว่ามีวิญญาณผู้กล้ากี่ตนที่ลืมตาขึ้นมาและมองมายังมนุษย์ที่เจ้าตะวันสาดแสงพามา

“ไม่เอาน่า โถงวิญญาณผู้กล้าไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้าออกได้ง่ายๆ”

ร็อบเหงื่อแตกพลั่กเมื่อปลอบสาวน้อยผู้นี้

“เข้าใจแล้ว”

ลู่ฉ่ายเอ๋อร์หน้ามุ่ยและไม่พูดอะไรอีก

ในเวลานั้นเอง ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับก็มองไปที่ประตูห้องโถงที่ค่อยๆ ปิดลงและตอบสนอง

เจ้าวิหารไป่จะมอบโอกาสในการสืบทอดมรดกผู้กล้าระดับเทพให้กับอีกฝ่ายงั้นเหรอ?!

อืม…

ศักยภาพของคนผู้นั้นก็ไม่เลวเลย

อาจกล่าวได้ว่าเขาคือชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิตเลย

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ควรถึงขนาดที่จะมอบมรดกผู้กล้าระดับเทพให้กับอีกฝ่ายเพียงเพราะเขามีศักยภาพสูงใช่ไหม?

ดังนั้นเจ้าตะวันสาดแสงผู้นี้ได้มอบผลประโยชน์ให้กับเจ้าวิหารเท่าไรถึงทำให้เจ้าวิหารไป่มอบมรดกผู้กล้าระดับเทพให้กับอีกฝ่ายกัน?

ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับรู้สึกประหลาดใจ

ในโถงวิญญาณผู้กล้า

เมื่อโจวโจวและคนอื่นๆ เข้ามา พวกเขาก็รู้สึกได้ทันทีถึงแรงกดดันมหาศาลจากวิญญาณผู้กล้ากว่า 300 ตน

อย่างไรก็ตาม ซวีอันก็มีเจตจำนงผู้พิฆาตมังกร และโจวโจวก็มีเจตจำนงราชาผู้พิฆาตมังกร และก็คงไม่ต้องพูดถึงไป่เหอ ดังนั้นทั้งสามคนจึงไม่ได้รับผลอะไรเลย

“ยืนอยู่ตรงนี้และอย่าเพิ่งขยับ ทำใจให้สบายและยอมรับการทดสอบจากวิญญาณผู้กล้า ถ้าเจ้ามีความรู้สึกผิดหรือรู้สึกว่านิสัยใจคอของเจ้าไม่ได้มาตรฐาน ข้าก็ขอแนะนำให้เจ้าออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด”

ไป่เหอพูดอย่างใจเย็น

ซวีอันเม้มปาก เขาเห็นท่านลอร์ดมองมาที่เขาอย่างให้กำลังใจในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา

ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ ซวีอันก็รู้สึกมั่นใจอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อเขาเห็นการจ้องมองของโจวโจว

เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา และพยักหน้าออกมาเท่านั้น

ไป่เหอไม่ได้พูดอะไรอีก โถงวิญญาณผู้กล้าทั้งหมดเงียบลงในทันใด

โจวโจวและไป่เหอมองไปยังชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมพร้อมกับดาบเงาโลหิตด้านหลังของเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโจวโจว

เขามองไปยังซวีอันด้วยความคาดหวังและความมั่นใจ

โจวโจวย่อมไม่ติดขัดอะไรเลยกับภูมิหลังของซวีอันเพราะเขาคือผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียงของเขา

สำหรับนิสัยของเขา โจวโจวก็มั่นใจมาก

สาเหตุของความมั่นใจนั้นมาจากสัมผัสที่หกของเขา

ในฐานะเจ้าของสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหล สัมผัสที่หกของโจวโจวก็จะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่สายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลของเขาก้าวหน้าขึ้น

ในตอนแรก ประสิทธิภาพของสัมผัสที่หกของเขานั้นก็แค่ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น เขาสามารถมองเห็นได้ไกลขึ้นและชัดเจนขึ้น เขาสามารถได้ยินได้ไกลขึ้นและชัดเจนยิ่งขึ้น เขาสามารถดมกลิ่นได้ไกลขึ้นและชัดเจนขึ้น และประสาทรับกลิ่นของเขาก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของเขาชัดเจนและเฉียบคมยิ่งขึ้น สำหรับสัมผัสที่หกอันสุดท้ายซึ่งเป็นประสาทสัมผัสจากหัวใจ มันก็เป็นประสาทสัมผัสที่ชัดเจนที่ทำให้เขารู้สึกถึงสิ่งต่างๆ ได้

มันคล้ายกับพรสวรรค์สัมผัสมรณะ แต่ประสิทธิภาพของมันก็อาจจะด้อยกว่าสัมผัสมรณะอยู่ นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่มันจะสัมผัสถึงอันตรายได้ล่วงหน้าเท่านั้น มันยังสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ดีต่อมันและสิ่งอื่นๆ อย่างคลุมเครือ

มันก็เหมือนกับการทำนายโชคชะตาและโชคร้าย

เพียงแค่ว่าการคาดการณ์นี้ไม่ได้ชัดเจนมากนัก อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้สึกได้ว่าประสาทสัมผัสที่หกของเขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลังจากที่เขาใช้สายเลือดจำนวนมากเพื่ออัพเกรดสายเลือดมนุษย์แห่งความโกลาหลเป็นระดับเพชร!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสาทสัมผัสจากหัวใจซึ่งได้ปลุกความสามารถใหม่ขึ้นมา

การแยกแยะความดีและความชั่วร้าย!

เขาสามารถแยกแยะคนดีและคนชั่วได้โดยตรงผ่านสัญชาตญาณของเขา!

แม้แต่คนอย่างซวีอันที่สูญเสียความทรงจำในอดีตเกือบทั้งหมดไป เขาก็สามารถแยกแยะได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนดีหรือคนชั่ว ซึ่งมันก็ชัดเจนว่าซวีอันไม่ใช่คนไม่ดี

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโจวโจวถึงไว้ใจอีกฝ่ายมากขนาดนี้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเพิ่งเข้าร่วมกับดินแดนของเขา แต่เขาก็ได้เตรียมมรดกผู้กล้าให้กับอีกฝ่ายทันทีหลังจากที่อีกฝ่ายลอบสังหารลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ไปมากมาย

ถ้าซวีอันเป็นคนไม่ดี โจวโจวก็คงจะไม่มอบผลประโยชน์ให้กับเขามากขนาดนี้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน

ในเวลานั้นเอง ในที่สุดวิญญาณผู้กล้าหลายตนในโถงวิญญาณผู้กล้าก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

รูปปั้นของชายหนุ่มที่แต่งตัวเป็นนักดาบพร้อมดาบยาวได้ลืมตาของมันขึ้นและมองมายังซวีอัน

หลังจากนั้นก็เป็นนักฆ่าในชุดสีดำที่ถือมีดสั้นไว้สองเล่ม

เขาลืมตาขึ้นและมองมายังซวีอัน

จากนั้นรูปปั้นอันเก่าแก่ที่มีอาวุธซ่อนอยู่มากมายบนร่างกายก็ลืมตาขึ้นและมองมายังซวีอัน

เหล่าวิญญาณผู้กล้าลืมตาขึ้นทีละตนและมองมายังซวีอัน

ในตอนแรก สีหน้าของไป่เหอก็ยังใจเย็นอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อจำนวนของวิญญาณผู้กล้าลืมตาขึ้นถึง 10 ตน แววตาของเขาก็ปรากฏระลอกคลื่นขึ้นมา

วิญญาณผู้กล้าจำนวนมากมายยอมรับเด็กผู้นี้ ดูเหมือนว่านิสัยของเด็กคนนี้จะไม่เลวเลย

หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อจำนวนวิญญาณผู้กล้าที่ลืมตาขึ้นมามีถึง 20 ตน เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

มันต้องรู้ว่าแม้แต่ลูกศิษย์ของเขาอย่างร็อบได้มาที่นี่ เขาก็ทำให้วิญญาณผู้กล้าลืมตาขึ้นมาได้แค่ 16 ตนเท่านั้น

เขาไม่คาดคิดเลยว่าหนุ่มน้อยผู้นี้จะแซงหน้าลูกศิษย์ของเขาไปได้แล้ว

อนาคตของเด็กคนนี้ไร้ขีดจำกัดจริงๆ

ไป่เหอถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์อันหลากหลาย

ในเวลาเดียวกัน เหล่าวิญญาณผู้กล้าก็ยังลืมตาขึ้นมาเรื่อยๆ

ในไม่ช้า มันก็มีวิญญาณผู้กล้า 30 ตนได้ลืมตาขึ้นมาแล้ว

สีหน้าของไป่เหอเปลี่ยนเป็นจริงจัง

วิญญาณผู้กล้า 30 ตน!

นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะติดอันดับ 1 ใน 10 ในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์

อันดับที่หนึ่งย่อมต้องเป็นของโจวโจว

เผ่าพันธุ์มนุษย์ระดับสูงหลายคนเห็นพ้องต้องกันแล้ว

เหตุผลที่โจวโจวทำให้วิญญาณผู้กล้า 312 ตนลืมตาขึ้นมาได้ในครั้งนั้นไม่ใช่เพราะเขาทำให้วิญญาณผู้กล้าเหล่านี้พึงพอใจได้ทั้งหมด แต่มันเป็นเพราะมันมีวิญญาณผู้กล้าอยู่ในโถงแค่ 312 ตนเท่านั้น!

หลังจากผ่านไปสักพัก มันก็ไม่มีวิญญาณผู้กล้าตนไหนลืมตาขึ้นมามองซวีอันอีก

ไป่เหอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

โจวโจวยิ้มออกมา

มันมีวิญญาณผู้กล้า 46 ตนที่ลืมตาขึ้น!

ซวีอันไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ!