บทที่ 411 : พวกสุนัขโรคจิต

“ ใช่แล้ว” เยว่ชางไห่พยักหน้าและพูดว่า “ แม้ว่าเราจะด้อยกว่ามดเมื่อเทียบกับจ้าวสวรรค์ขอบเขตที่แปดและภายใต้สถานการณ์ปกติ มันก็จะไม่มีความเป็นไปได้ที่เราจะสามารถสู้เขาได้ แต่มันก็ต่างออกไปเมื่อมีตำหนักเทวะนภาหลวง”

“ ตราบใดที่เราเปิดใช้งานพลังของตำหนักเทวะนภาหลวง เราก็จะสามารถปลดปล่อยพลังที่เหนือกว่าขอบเขตเซียนโลกออกมาได้ ไม่ต้องพูดถึงจ้าวสวรรค์เลย แม้แต่การดำรงอยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตที่เก้าก็ยังจะถูกทำลายทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ!”

“ ดีมาก เจ้าพูดถูกแล้ว” พระซานตงพนมฝ่ามือเข้าหากันแล้วยิ้ม “ ข้าส่งข้อความนี้เพื่อบอกให้ทุกคนมาที่นี่เพื่อที่เราจะสามารถรวมพลังกันเพื่อเปิดใช้งานตำหนักเทวะนภาหลวงเพื่อจัดการกับจ้าวสวรรค์ได้”

“ ด้วยความแข็งแกร่งของเราคนใดคนหนึ่ง เราก็จะไม่สามารถเปิดใช้งานตำหนักเทวะนภาหลวงได้ มันจำเป็นต้องมีพิธีบวงสรวงอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นพวกเราทุกคนจึงต้องร่วมมือกัน”

“ มีสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในดินแดนภายใต้การปกครองของพวกเจ้า หากเราสังเวยพวกเขาทั้งหมด เราก็น่าจะสามารถทำให้ตำหนักเทวะนภาหลวงปลดปล่อยพลังออกมาได้”

บนดาวไท่หง ไม่ว่าจะเป็นตำหนักลึกลับ, อารามพุทธหรือสำนักเซียน พวกเขาต่างก็ปกครองพื้นที่จำนวนมาก และผู้คนมากมายก็อาศัยอยู่ในดินแดนเหล่านี้

เนื่องจากตำหนักลึกลับ, อารามพุทธและสำนักเซียนเหล่านี้จำเป็นต้องรับสมัครศิษย์มาจากคนธรรมดาเพื่อเติมเต็มจำนวนของพวกเขา ชีวิตประจำวันของสามัญชนเหล่านี้จึงไม่ได้เลวร้ายนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อมันเป็นเรื่องของความเป็นและความตาย สามัญชนเหล่านี้ก็จะถูกปฏิบัติราวกับเป็นปศุสัตว์ เครื่องบูชายัญและเครื่องสังเวยโดยไม่ลังเล

แม้แต่การสังเวยผู้คนหลายร้อยล้านหรือหลายพันล้านคนในคราวเดียวก็ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับราชาปราชญ์และผู้สร้างที่สูงส่งและทรงพลังเหล่านี้

พวกเขาอาจคิดไปเองด้วยซ้ำว่ามันเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้วสำหรับสามัญชนเหล่านี้ที่จะได้แลกชีวิตของพวกเขาเพื่อโอกาสในการปลดปล่อยพลังของตำหนักเทวะนภาหลวง

ท้ายที่สุดแล้ว นั่นก็คือสมบัติล้ำค่าที่เหนือกว่าขอบเขตที่เก้าของโลกเซียน

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากที่พระซานตงแนะนำให้ใช้การสังเวยเพื่อเปิดใช้งานตำหนักเทวะนภาหลวงแล้ว มันจึงไม่มีใครคัดค้านทั้งสิ้น พวกเขาทั้งหมดตอบตกลงอย่างง่ายดายโดยไม่มีแรงกดดันทางจิตใจใดๆ

พระซานตงมองไปรอบๆ และพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก เขาพนมฝ่ามือเข้าหากันและยิ้มอย่างสดใส “ อมิตาพุทธ เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะเดินทางไปยังตำหนักสวรรค์ลับแล”

“ ในเวลานั้น เมื่อพลังของตำหนักเทวะนภาหลวงจุติลงมา นอกจากเราแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในตำหนักสวรรค์ลับแลก็จะถูกทำลายลงทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ หลังจากนั้น เราก็จะสามารถต้อนรับการมาถึงของท่านประมุขเซียนแห่งโลกภายนอกได้”

“ ข้าเกรงว่าจ้าวเทียนอี้และจ้าวสวรรค์คนนั้นคงจะไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการกระทำของพวกเขาจะช่วยเรากำจัดกองกำลังทั้งหมดบนดาวไท่หงลงได้อย่างง่ายดาย”

“ อมิตาพุทธ! จ้าวเทียนอี้และจ้าวสวรรค์นั้นมีบุญมากจริงๆ! ฮ่าๆๆ”

….

ขณะที่พระซานตงและคนอื่นๆ กำลังวางแผนอันชั่วร้าย ซุยเฮ็งก็กำลังมองดูการถ่ายทอดสดในลานบ้านของเขา

เขานอนสบายๆ อยู่บนเก้าอี้โยกและภาพจำลองก็กำลังลอยอยู่ตรงหน้าเขา

ม่านแสงนี้แสดงฉากในตำหนักเทวะนภาหลวง

การกระทำของพระซานตง, เย่โจว, เยว่ชางไห่และคนอื่นๆ ถูกแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

ซุยเฮ็งมองไปที่ม่านแสงและหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ พวกสุนัขโรคจิตจากนอกโลกแล้วก็เทพศักดิ์สิทธิ์หยูเทียน”