ตอนที่ 140 : เกษตรกร! ฝีมือของยมทูต!

เช้าวันต่อมา ในห้องนอน

โจวโจวตื่นขึ้นมาและเปิดดูกระดานสนทนาตามความเคยชิน

เขาเห็นลอร์ดจำนวนมากกำลังพูดคุยกันถึงสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์ในวันพรุ่งนี้

“กิจกรรมจะเริ่มในวันพรุ่งนี้แล้ว แต่ฉันยังรู้สึกว่ากองทัพของฉันยังแข็งแกร่งไม่พอเลย ฉันควรทำยังไงดี?”

“ปัญหาคลาสสิค”

“อันที่จริงนายจะลองเจรจากับฝ่ายท้องถิ่นดูเผื่อว่าพวกเขาจะช่วยได้”

“ฉันมันคนจน ฉันจะไปมีเงินทุนไปเจรจากับฝ่ายใหญ่ๆ พวกนั้นได้ยังไง? ฮือ…”

“นายโง่รึเปล่า? นายลืมตลาดซื้อขายไปแล้วเหรอ? ตลาดซื้อขายเป็นแหล่งทรัพยากรที่ลอร์ดทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดพรสวรรค์ มันง่ายมากที่จะใช้มันและเจรจากับกองกำลังท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ”

“อันที่จริงในความเห็นของฉันนะ ถ้าตลาดซื้อขายคือพรสวรรค์แห่งลอร์ด อย่างต่ำมันก็คงจะเป็นพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับมหากาพย์แน่ๆ”

“เหมือนกัน”

“พวกเราสามารถซื้อไอเท็มพิเศษจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินและขายพวกมันให้กับฝ่ายท้องถิ่นได้ การสะสมเงินก้อนนั้นง่ายมากแต่เราต้องเลือกไอเท็มให้ดี ฝ่ายท้องถิ่นไม่ได้โง่ที่จะซื้อของที่พวกเขาสามารถหามาทดแทนได้”

“ฉันรู้วิธีน่า แต่การปฏิบัติจริงมันก็อีกเรื่อง”

“ฉันได้รับเงินทุนตั้งต้นจากการขายต่อในตลาดซื้อขาย ฉันมีทั้งแกนหมอกและทาสแล้ว”

“ฉันล่ะอิจฉาทุกคนที่สามารถทำการค้าได้จริงๆ ฉันยังไม่เจอกองกำลังท้องถิ่นเลย”

“เป็นอีกวันที่ฉันคิดถึงพี่ตะวันสาดแสง”

“คอมเมนต์ก่อน นายคิดถึงพี่ตะวันสาดแสงอย่างงั้นเหรอ? นายแค่อยากได้ใบเปลี่ยนอาชีพจากเขาก็เท่านั้นแหละ ฉันรู้หรอกนะ!”

โจวโจวมองดูความเห็นของลอร์ดพวกนี้และครุ่นคิด

“ลอร์ดพวกนี้พูดถูก”

ตลาดซื้อขายสามารถเข้าถึงได้จากลอร์ดทุกคน ถ้าเขาใช้มันให้ดี มันอาจจะไม่ด้อยไปกว่าลอร์ดที่มีพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหนือสามัญหรือระดับมหากาพย์เลย

อย่างไรก็ตาม การจะใช้มันได้ในระดับไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัว

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงลอร์ดในเนินทรายขวากหนามขึ้นมา

หรือว่าเหตุผลที่อีกฝ่ายมีกองกำลังทหารกว่า 200 คนในตอนนี้จะเป็นเพราะอีกฝ่ายใช้ประโยชน์จากตลาดซื้อขายได้และนำผลกำไรไปซื้อทาสมาเป็นจำนวนมาก

เขาคิดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะหยุดคิดเพราะมันไม่มีเงื่อนงำอะไร

หลังจากนั้นโจวโจวก็ไปอาบน้ำและเดินออกมาจากที่พำนักของลอร์ดเพื่อไปยังประตูอัญเชิญ

[ท่านต้องการอัญเชิญหรือไม่?]

“ต้องการ!” โจวโจวกล่าว

อึดใจต่อมา ประตูอัญเชิญก็เปล่งแสงสีขาวเจิดจ้า จากนั้นก็มีลูกน้องใหม่เดินออกมา

หลังจากผ่านไป 3-4 นาที ลูกน้องใหม่ทุกคนก็เดินออกมาจนหมด

“คาราวะท่านลอร์ด!” x189

ทั้ง 189 คนแสดงความเคารพ

“ยินดีต้อนรับทุกคน จากวันนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าคือคนของเมืองตะวันสาดแสงแล้ว!”

โจวโจวกล่าว

เมื่อทั้ง 189 คนได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายขึ้นมา

ด้วยผลของพรสวรรค์แห่งลอร์ดสุขสงบ แม้ว่าพวกเขาจะไม่แสดงออกมาทางสีหน้า แต่พวกเขาต่างก็ตั้งตารอที่จะได้เป็นคนของที่นี่แล้ว

“เหล่าผู้เชี่ยวชาญลุกขึ้นมา”

โจวโจวมองไปยังทุกคน

อึดใจต่อมาก็มีลูกน้อง 16 คนยืนขึ้น

โจวโจวมองไปยัง 16 คนนี้ มันมีผู้ชาย 10 คน และผู้หญิง 6 คน

ในจำนวนนี้ประกอบไปด้วยพ่อครัวระดับเงินขาวขั้นต้น 1 คน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเงินขาวขั้นต้น 1 คน และช่างไม้ระดับเงินขาวขั้นต้น 1 คน!

นอกจากนี้ยังมีช่างตีเหล็กระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง 5 คน หมอระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง 3 คน ช่างตัดเสื้อระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น 1 คน พ่อค้าระดับเหล็กดำขั้นสูง 1 คน เกษตรกรระดับเหล็กดำขั้นกลาง 2 คน และช่างตีเหล็กระดับเหล็กดำขั้นต้น 1 คน!

โจวโจวมองไปยังเกษตรกรทั้งสองคนและอดถอนหายใจออกมาไม่ได้

ในที่สุดก็มีเกษตรกรสักที

อันที่จริงเมื่อตอนที่เขามาถึงทวีปจื้อเกาเป็นครั้งแรก ลอร์ดหลายๆ คนก็อัญเชิญเกษตรกรออกมาได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว

แต่เขากลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะกว่าที่เขาจะอัญเชิญเกษตรกรออกมาได้ก็ล่วงเลยเข้าวันที่ 10 แล้ว

“น่าเสียดายที่ดินแดนของฉันไม่เหมาะกับการปลูกพื้นต่างถิ่น ไม่อย่างนั้นถ้าดินแดนของฉันเป็นดินแดนที่มีดินอุดมสมบูรณ์แต่ฉันไม่สามารถอัญเชิญชาวนาออกมาได้ มันจะไม่น่าเศร้ากว่าเหรอ?”

โจวโจวอดคิดออกมาไม่ได้

จากนั้นเขาก็มองไปยังข้อมูลของเกษตรกร

[ลูกน้อง: เว่ยต้าหยวน]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: เกษตรกร]

[ระดับอาชีพ: ระดับเหล็กดำขั้นกลาง]

[ความสามารถโดยรวม: เกษตรกรจากที่ราบแสงอารักษ์แห่งอาณาจักรออโรร่า เขามีบุคลิกขี้อายและเก็บตัว ความฝันของเขาคือการเติมเต็มความปรารถนาที่จะซื้อบ้าน แต่งงานกับภรรยา และได้รับการยกเว้นจากการเป็นทหารด้วยการทำฟาร์ม และสุดท้ายเขาจะกลายเป็นชาวนาที่ร่ำรวยที่คนในหมู่บ้านพากันอิจฉา]

[ทักษะ: การปลูกข้าวระดับเหล็กดำขั้นกลาง, การอนุรักษ์พื้นที่การเกษตรระดับเหล็กดำขั้นกลาง]

[ความภักดี: 77]

[ศักยภาพ: ระดับเงินขาวขั้นสูง]

เกษตรกรอีกคนก็มีทักษะเหมือนกันกับเขา แต่ศักยภาพของเขาคือระดับเงินขาวขั้นต้น

จากนั้นโจวโจวก็มอบหมายให้เจิ้งหยวนฉีจัดการเรื่องคนพวกนี้ และเขาก็พาทหารกว่า 3,000 คน ยมทูต 1 ตัว และเนซาริโอ้ไปยังฟาร์มมอนสเตอร์

“คาราวะท่านลอร์ด!”

มู่กู่และจ้าวฉางโจวที่กำลังรออยู่ที่ทางเข้าแสดงความเคารพออกมาทันทีเมื่อพวกเขาเห็นโจวโจวพาคนเข้ามา

โจวโจวพยักหน้ารับ

จากนั้นเขาก็มองไปยังจ้าวฉางโจวที่กำลังยิ้มอยู่และรู้สึกว่ารอยยิ้มของอีกฝ่ายต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

“อะไรทำให้ท่านมีความสุขขนาดนั้นกันผู้อาวุโสจ้าว?”

โจวโจวถามด้วยความสงสัย

“ข้ามีเรื่องมารายงานท่านลอร์ด เมื่อคืนข้าได้ยินมาว่ามู่กู่กำลังจะสร้างฟาร์มมอนสเตอร์ระดับเงินขาวขั้นต้นขึ้น ดังนั้นข้าจึงมาช่วยเขาทันที ฟาร์มมอนสเตอร์ระดับเงินขาวขั้นต้นทั้งเจ็ดแห่งได้ถูกสร้างขึ้นแล้วเมื่อคืน นอกจากนี้ข้ายังได้ทะลวงขีดจำกัดและก้าวขึ้นมาเป็นสถาปนิกในระดับใหม่แล้ว ตอนนี้ข้าเป็นสถาปนิกระดับเพชรขั้นต้นแล้ว”

เมื่อจ้าวฉางโจวพูดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ลึกขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในที่สุดเขาก็ทะลวงขึ้นสู่เขตแดนที่เขาเฝ้าฝันมาโดยตลอด

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะลอร์ดของเขา

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งต่อโจวโจวมากยิ่งขึ้นไปอีก

โจวโจวเองก็ประหลาดใจมาก

เขาเปิดหน้าต่างข้อมูลของอีกฝ่ายขึ้นมา และเขาก็ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายได้กลายเป็นสถาปนิกระดับเพชรขั้นต้นแล้วจริงๆ

“ผู้อาวุโสจ้าว ด้วยระดับของท่านในตอนนี้ ท่านอยู่ในระดับไหนในอาณาจักรออโรร่า?”

โจวโจวถาม

“มันมีสถาปนิกระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงแค่ 2 คนในอาณาจักรออโรร่าก่อนที่ข้าจะออกจากอาณาจักรมาเข้าร่วมกับท่าน นอกจากนี้ทั้งสองคนนั้นยังมาถึงขีดจำกัดศักยภาพของตัวเองแล้วด้วย ดังนั้นตราบใดที่ไม่มีสถาปนิกคนไหนสามารถทะลวงระดับขึ้นเป็นระดับเพชรได้ใน 10 วันที่ผ่านมา ข้าก็น่าจะเป็นสถาปนิกอันดับหนึ่งของอาณาจักรออโรร่าแล้ว!”

จ้าวฉางโจวยิ้มออกมา

โจวโจวเองก็ยิ้มออกมาด้วยและพยักหน้า

จากนั้นเขาก็มองไปยังฟาร์มมอนสเตอร์ตรงหน้า

ฟาร์มมอนสเตอร์ 7 แห่งที่อยู่ตรงหน้าของเขามีขนาดใหญ่กว่าฟาร์มมอนสเตอร์ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูงถึงหนึ่งในสามส่วน

นอกจากนั้น ลวดลายของสัตว์ประหลาดบนรั้วของพวกมันก็ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม เขาก็มองไม่ออกว่ามันคือมอนสเตอร์อะไร

ฟาร์มมอนสเตอร์ 3 แห่งจาก 7 แห่งยังไม่ถูกใช้งาน

ส่วนฟาร์มมอนสเตอร์อีก 4 แห่งที่เหลือก็มีมอนสเตอร์อยู่ในนั้นฟาร์มละ 1,500 ตัว!

มันมีตั้งแต่ระดับเหล็กดำขั้นต้นไปจนถึงระดับเงินขาวขั้นต้น!

โจวโจวไม่คาดคิดเลย

เขาสั่งให้เนซาริโอ้ใช้พลังแห่งมังกรเพื่อควบคุมมอนสเตอร์ในฟาร์มทั้งสามแห่งและให้ทหารไปจัดการกับพวกมันทีละตัว

จากนั้นเขาก็พายมทูตไปยังฟาร์มมอนสเตอร์ที่มีสาวกทรายคลั่งอยู่

“จัดการพวกมัน ให้ข้าได้ดูความสามารถของเจ้าหน่อย”

โจวโจวมองไปยังมาริสและพูดออกมา

เขาสงสัยมากๆ เกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงของทหารระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

“ขอรับท่านลอร์ด!”

มาริสกล่าวด้วยความเคารพ

จากนั้นมันก็นั่งขัดสมาธิบนพื้นและวางเคียวสีดำขนาดใหญ่ในมือไว้บนเข่า มันหลับตาลง

ไม่กี่อึดใจต่อมา ดวงวิญญาณของมาริสที่ถูกล้อมรอบด้วยออร่าแห่งความตายสีดำและสวมเสื้อคลุมสีดำ ถือเคียวสีดำขนาดใหญ่ในมือทั้งสองข้างก็ลอยออกมาจากร่างของมันและลอยขึ้นไปในอากาศ

พลังที่มองไม่เห็นแผ่ออกมาจากร่างของมัน

ม่านตาของโจวโจวหดตัวเล็กน้อยเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังนี้

พลังนี่…

เขารู้สึกจริงๆ ว่ามันไม่ได้ด้อยไปกว่าแรงกดดันผู้กล้าของไป่อี้และอู๋ซินเท่าไรเลย

อย่างไรก็ตาม มันก็มาจากยมทูตระดับเหล็กดำขั้นต้นเท่านั้น ไม่ใช่จากผู้กล้า!

โจวโจวรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก

ในเวลานั้นเอง มาริสก็ก้มหัวแสดงความเคารพต่อโจวโจวก่อนที่จะมองไปยังสาวกทรายคลั่ง 1,500 ตัว

หลังจากกวาดสายตามองแล้ว มันก็ลอยออกไปพร้อมกับเคียวสีดำในมือ

ในเวลานี้ สาวกทรายคลั่ง 1,500 ตัวในฟาร์มมอนสเตอร์ก็มองไม่เห็นมาริสในสถานะวิญญาณเลย นับประสาอะไรกับการสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาพวกมัน

ในไม่ช้ามาริสก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าของสาวกทรายคลั่งระดับเหล็กดำขั้นต้นตัวหนึ่ง

มันเพียงแค่โบกเคียวสีดำขนาดใหญ่ในมือเล็กน้อยและวิญญาณของสาวกทรายคลั่งที่ไม่ได้สติก็ถูกดึงออกมาโดยเคียวและผสานเข้ากับมัน

เคียวสีดำขนาดใหญ่สว่างขึ้นด้วยแสงสีแดงจางๆ

สาวกทรายคลั่งล้มลงกับพื้นและหยุดหายใจ

กระบวนการฆ่าทั้งหมดใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที

จากนั้นมาริสก็ลอยไปหาสาวกทรายคลั่งระดับเหล็กดำขั้นต้นตัวที่สองและทำแบบเดิมเพื่อสังหารมัน

มาริสทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ และสาวกทรายคลั่งก็ถูกสังหารอย่างง่ายดายไปทีละตัวๆ

การเคลื่อนไหวของมันผ่อนคลายมาก มันดูราวกับว่ามันไม่ได้กำลังเก็บเกี่ยวชีวิต แต่เป็นการตัดหญ้าด้วยเคียวของมันแทน

ในไม่ช้าสาวกทรายคลั่งตัวอื่นๆ ก็สังเกตเห็นปรากฏการณ์นี้ในฟาร์มมอนสเตอร์

พวกมันมองดูสหายของพวกมันตายลงต่อหน้าต่อตาโดยไม่มีเหตุผล มันไม่มีแม้แต่บาดแผลบนร่างกายของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

ไม่ว่าพวกมันจะมีสติปัญญาต่ำต้อยแค่ไหน พวกมันก็ยังตื่นตระหนกอยู่ดี

แต่นี่ก็ไร้ประโยชน์

ความตายอันเงียบงันดำเนินต่อไป

ไม่ถึง 1 นาทีให้หลัง มาริสซึ่งฆ่าสาวกทรายคลั่งไปกว่า 300 ตัวก็หยุดมือลงในทันใด จากนั้นพลังที่รุนแรงยิ่งขึ้นก็แผ่ออกมาจากดวงวิญญาณของมัน

มันทะลวงระดับแล้ว!

มันกลายเป็นยมทูตระดับเหล็กดำขั้นกลางแล้ว!

นอกจากนี้ยังหมายความว่ามันสามารถเพิ่มสาวกทรายคลั่งระดับเหล็กดำขั้นกลางเข้ามาเป็นเป้าหมายในการสังหารได้แล้ว

6 นาทีต่อมา มาริสก็เลื่อนระดับขึ้นเป็นยมทูตระดับเหล็กดำขั้นสูง จากนั้นมันก็กลับเข้าร่าง

“ท่านลอร์ด ดวงวิญญาณในเคียวเทพแห่งความตายของข้าเต็มแล้ว ดวงวิญญาณเหล่านี้จำเป็นต้องให้ข้าส่งไปยังปรโลกทีละตัวก่อนที่ข้าจะสามารถเก็บเกี่ยวดวงวิญญาณของศัตรูต่อได้ ดังนั้นข้าจึงต้องขอพักสักครู่”

มาริสกล่าวด้วยความเคารพ

“ได้ เจ้าพักก่อนเถอะ ส่วนที่เหลือก็ให้คนอื่นจัดการ เก็บแรงของเจ้าไว้จัดการกับศัตรูในภายหลังละกัน”

โจวโจวข่มความตกใจของเขาไว้ในใจและพยักหน้า

“ขอรับท่านลอร์ด”

มาริสกล่าวด้วยความเคารพ

จากนั้นมันก็หลับตาลงและวางมือลงบนเคียวเทพแห่งความตายเพื่อสวดภาวนา

ในระหว่างกระบวนการนี้ แสงของเคียวเทพแห่งความตายสีแดงแวววาวก็ค่อยๆ มีแสงสว่างจางลงไปเรื่อยๆ

โจวโจวถอนสายตากลับมาและมองไปยังฟาร์มมอนสเตอร์

สาวกทรายคลั่งที่แต่เดิมมีจำนวน 1,500 ตัว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 400 กว่าตัวเท่านั้น ซึ่งพวกมันต่างก็อยู่ในระดับบรอนซ์เขียวและระดับเงินขาว

สาวกทรายคลั่งระดับเหล็กดำกว่า 1,000 ตัวได้ถูกให้เปลี่ยนให้เป็นศพไร้วิญญาณที่ไร้บาดแผลไปแล้วโดยมาริส

“ฆ่าสาวกทรายคลั่งกว่า 1,000 ตัวในแปดนาที! นี่คือทหารระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ?”

โจวโจวอดเดาะลิ้นไม่ได้