ตอนที่ 598 : พฤกษามารดาเอลฟ์และดาราแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

เมืองเสียงกระซิบ จักรวรรดิเอลฟ์ ณ ค่ายกลข้ามมิติประจำฝ่าย

เมื่อโจวโจวและคนอื่นๆ ปรากฏตัวขึ้นที่ค่ายกลข้ามมิติ เอลฟ์กลุ่มหนึ่งที่สวมชุดเกราะเบาอันงดงาม มีมงกุฎดอกไม้อยู่บนหัว และมีดาบกับธนูสะพายอยู่ที่ด้านหลังก็มาล้อมพวกเขาไว้ทันทีก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนอง

พวกเธอต่างก็เป็นเอลฟ์สาววัยเยาว์ พวกเธอมีรูปร่างผอมเพรียว ใบหน้าอันงดงาม ดวงตาสีเขียวอ่อน และหูเรียวตรง พวกเธอดูราวกับเป็นสาวงามหนึ่งในล้านเลยถ้าเทียบกับคนธรรมดา

ลอร์ดที่โจวโจวพามาด้วยต่างก็อึ้งไปเมื่อพวกเขาเห็นเอลฟ์จำนวนมากมายขนาดนี้ ลอร์ดบางคนถึงกับอึ้งไปกับความสวยของพวกเธอเลย

มันต้องรู้ว่าพวกเขาได้รับเอฟเฟกต์จากพรสวรรค์แห่งลอร์ดรูปงามไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น พวกเขาส่วนใหญ่ยังไม่ได้ดูดีเท่ากับเอลฟ์พวกนี้เลย มันจะเห็นได้ว่ารูปลักษณ์และรูปร่างของพวกเธอนั้นเกินจริงแค่ไหน

มีแค่โจวโจวเท่านั้นที่สามารถบดขยี้รูปลักษณ์ของเอลฟ์พวกนี้ได้ด้วยลักษณ์สวรรค์สรรค์สร้างของเขา

เอลฟ์บางคนกระทั่งมองโจวโจวด้วยดวงตาสีเขียวอ่อนอันงดงามที่เปล่งประกายขึ้นมา

เอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่รักในความงดงาม

เอลฟ์หลายคนกระทั่งใช้รูปร่างหน้าตาเป็นเกณฑ์ในการเลือกคู่ครองด้วยซ้ำ

ดังนั้นใบหน้าอันน่าตื่นตะลึงของโจวโจวจึงสามารถกุมหัวใจของเอลฟ์เป็นจำนวนมากได้ในทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเธอ

แม้แต่หัวหน้าองครักษ์เอลฟ์ก็ยังมองดูรูปลักษณ์ของโจวโจวและอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะได้สติกลับมา

“ท่านคงเป็นราชาตะวันสาดแสงสินะ โปรดตามข้ามาด้วย พวกเราจำเป็นต้องใช้ค่ายกลข้ามมิติอีกอันเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงเอลฟ์ก่อน องค์จักรพรรดินีกำลังรอท่านอยู่”

หัวหน้าองครักษ์กล่าวด้วยความสุภาพ

“ได้สิ” โจวโจวพยักหน้า

จากนั้นเขาก็เรียกให้ทุกคนออกมาจากค่ายกลข้ามมิติ

พลังมิติหนาปะทุออกมา ก่อตัวขึ้นเป็นประตูมิติที่มีแรงดูดอันมหาศาล

หัวหน้าองครักษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่พูดอะไรออกมา และนำทุกคนไปยังค่ายกลข้ามมิติอีกอัน

ระหว่างทาง โจวโจวก็เหลือบมองไปยังกำแพงเมืองที่อยู่ไกลออกไป

เมืองเสียงกระซิบนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าอาณาจักรตะวันสาดแสงเลย

แต่ถึงกระนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนและเสียงต่อสู้ดังมาจากระยะไกล เขาได้ยินเสียงคำรามของมอนสเตอร์สีชาดได้อย่างชัดเจน

หัวใจของโจวโจวเต้นระรัวขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อโจวโจวและคนอื่นๆ มาถึง พวกเขาก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้าในทันที

มันมีทิวทัศน์ธรรมชาติทุกประเภทผสมผสานกับอาคารต่างๆ ในสไตล์เอลฟ์ได้อย่างลงตัว

ต้นไม้และสิ่งปลูกสร้างโบราณที่สูงมากกว่า 10,000 เมตรมองเห็นได้เต็มไปหมด

สิ่งมหัศจรรย์ทางอารยธรรมและสิ่งปลูกสร้างพิเศษทุกประเภทต่างก็น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรากฐานอันน่าสะพรึงกลัวของจักรวรรดินี้ที่พัฒนามาหลายหมื่นปีแล้ว

มันมีกระทั่งดอกไม้แปลกๆ พืชพรรณประหลาดๆ ผู้คนจากต่างเผ่าพันธุ์ และหลายๆ สิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าตกใจที่สุด

มันมีสองสิ่งที่ทำให้เขาตกใจได้มากที่สุด

สิ่งแรกก็คือต้นไม้บรรพกาลสีทองที่สูงหลายหมื่นเมตร มันสูงเสียดฟ้าและปกคลุมผืนนภาเอาไว้

สิ่งที่สองก็คือมงกุฎสีทองที่ปกคลุมเมืองหลวงเอลฟ์ทั้งหมดเอาไว้ซึ่งเป็นเหมือนหลังคาสวรรค์ที่จิตวิญญาณเทพเจ้าประทานให้เพื่อคอยปกป้องเมืองหลวงเอลฟ์และชาวเอลฟ์จำนวนนับไม่ถ้วนเอาไว้ทั้งหมด

สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือพวกเขาเห็นดาวดวงหนึ่งอยู่ด้วย!

ดวงดาวที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้

ดวงดาวที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

มันตั้งตระหง่านอยู่บนท้องฟ้าและเปล่งรัศมีแห่งชีวิตที่น่าเกรงขาม หากตั้งใจฟังให้ดี พวกเขาก็จะได้ยินแม้กระทั่งเพลงศักดิ์สิทธิ์ของจิตวิญญาณเทพเจ้าที่กำลังเอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆ

ทุกคนตกใจมากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา

แม้แต่โจวโจวก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะ

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง มรดกสายเลือดจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในจิตใจของเขาก็ค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว และพวกมันก็บอกเขาเกี่ยวกับต้นกำเนิดของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้และดวงดาวนั้นในทันที

“พฤกษามารดาเอลฟ์—อบิเกล”

“ดาราแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ระดับเทพแท้จริง—อ็อกเทเวล”

โจวโจวพึมพำอยู่ภายในใจ

เขาตกใจ

การได้เห็นมันในมรดกที่ถูกทิ้งไว้ในสายเลือด กับการได้เห็นด้วยตาของตัวเองนั้นต่างกันจริงๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการดำรงอยู่ระดับเทพแท้จริง!

ถ้าตัวตนระดับเทพอาวุโสยังไม่ปรากฏตัว ตัวตนระดับเทพแท้จริงก็คงจะถือว่าเป็นผู้ปกครองโลก

เขาไม่คิดเลยว่าจักรวรรดิเอลฟ์จะถูกปกป้องเอาไว้ด้วยตัวตนในระดับนี้

ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นความจริงที่ว่าจักรพรรดินีเอลฟ์รุ่นนี้มีความหวังที่จะนำจักรวรรดิเอลฟ์ให้กลายเป็นอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เอลฟ์

นี่เป็นเพราะสิ่งที่ยากและสำคัญที่สุดในการสร้างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ก็คือการมีตัวตนระดับเทพแท้จริง 3 คนคอยปกป้องอาณาจักร

ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องยากมากๆ นับประสาอะไรกับตั้งสามคน เพราะแค่คนเดียวมันก็ยากมากแล้ว

ในเวลานั้นเอง หัวหน้าองครักษ์ที่พาพวกเขามาที่นี่ก็อยากจะแนะนำเมืองหลวงเอลฟ์ของพวกเธอให้โจวโจวและคนอื่นๆ ได้รู้จัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤกษามารดาเอลฟ์และดาราแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้ยินเสียงกระซิบของโจวโจว เธอก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย

ลอร์ดมนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินไร้ชื่อผู้นี้กลับรู้จักสิ่งเหล่านี้ด้วย

มันต้องทราบว่าแม้แต่อาณาจักรดั้งเดิมจำนวนมากมายก็อาจจะไม่รู้จักพฤกษามารดาเอลฟ์และดาราแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ

แต่ลอร์ดมนุษย์ผู้นี้กลับสามารถบอกรายละเอียดได้ในทันทีและกระทั่งรู้ด้วยว่าดาราแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มาจากไหน ซึ่งแม้แต่สายเลือดระดับสูงทั่วไปก็อาจจะไม่รู้เรื่องพวกนี้

เดิมทีเธอเคยดูแคลน ‘ขุนนางบ้านนอก’ เหล่านี้ที่มาจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน และเธอก็แค่แสร้งทำเป็นสุภาพออกมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้คิดที่จะดูถูกพวกเขาอีกแล้วในตอนนี้

ดูเหมือนว่าเหตุผลที่ทำให้ลอร์ดมนุษย์ผู้นี้ได้รับตำแหน่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาจะไม่ใช่เพราะโชคช่วยจริงๆ

ทุกคนเดินต่อไปยังวังหลวง

“ข้าควรเรียกท่านว่ายังไงดี?”

โจวโจวถามหัวหน้าองครักษ์หลังจากได้สติกลับมา

“ชื่อของข้าคืออัลลี หัวหน้าองครักษ์หน่วยที่สามแห่งวังหลวง” อัลลีตอบกลับมา

“ส่วนข้าชื่อโจวโจวนะ” โจวโจวยิ้มและพูดออกมา

หลังจากนั้นทุกคนก็ตรงไปยังวังหลวงและพบกับจักรพรรดินีเอลฟ์ต้นกำเนิด เอลิซาเรียลที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนบัลลังก์ในไม่ช้า

ถึงกระนั้นก็มีเพียงโจวโจวเท่านั้นที่ได้พบกับจักรพรรดินี สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาต้องรออยู่ที่ทางเข้า

“ฝ่าบาท ราชาตะวันสาดแสงมาถึงแล้วเจ้าค่ะ” อัลลีกล่าวออกมาด้วยความเคารพ

“ทำได้ดีมาก เจ้าออกไปก่อนเถอะ” จักรพรรดินีเอลฟ์ที่สวมชุดอาภรณ์ที่วิจิตรงดงามและมีใบหน้างดงามเป็นอย่างยิ่งพูดออกมาอย่างใจเย็น

“เจ้าค่ะฝ่าบาท” อัลลีกล่าวด้วยความเคารพและจากไปอย่างเงียบๆ

“คาราวะฝ่าบาท” โจวโจวกล่าวแสดงความเคารพ

นี่คือจักรพรรดินีที่ปกครองเอลฟ์ทั้งมวล มันไม่ใช่เรื่องอับอายเลยที่จะสุภาพกับเธอ

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ เนื่องจากเจ้าเข้าร่วมในฝ่ายจักรวรรดิเอลฟ์ของข้าแล้ว พวกเราก็ถือว่าเป็นสหายกันแล้ว”

“เจ้าน่าจะต้องการคะแนนประจำฝ่ายใช่ไหม? ข้ามีภารกิจที่เจ้าน่าจะสนใจ มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามั่นใจพอที่จะรับภารกิจนั้นไหมก็เท่านั้นเอง” เอลิซาเรียลตรงเข้าประเด็น

“ภารกิจอะไรขอรับ?” โจวโจวถามด้วยความสงสัย