ตอนที่ 208 ต้นไม้โลก

"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"

ภายในเมืองหวงซา ดวงตาตาของทุกคนเบิกกว้าง เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนอกเมือง

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วินาที

พื้นที่โดยรอบของเมืองหวงซายังถูกปกคลุมด้วยผืนทรายสีเหลืองอยู่เลย มีพืชเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่เติมโต

แต่ในวินาทีถัดมา

พื้นที่ทั้งหมดได้กลายเป็นป่า ? ?

นี้ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาคงคิดว่ายังไม่ตื่นจากฝันด้วยซ้ำ

เมื่อมองไปยังรอบๆเมืองหวงซา ที่ถูกล้อมรอบด้วยป่าซึ่งเปลี่ยน เมืองหวงซาที่แห้งแล้ง ให้กลายเป็น เมืองหวงซาแห่งป่ามรกต ทันที

มันมีต้นไม้ใหญ่ที่สูงหลายสิบเมตรอยู่ไปทั่ว

โดยมีต้นไม้แห่งชีวิตเป็นศูนย์กลางแผ่ขยายออกไปหลายกิโลเมตร

ข้างๆ ยังมีต้นเถาวัลย์ขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อกับต้นไม้แห่งชีวิตซึ่งดูเขียวชอุ่มมันแผ่กลิ่นหอมที่ดึงดูดเหล่านกและแมลงเข้ามา

แม้แต่ในพื้นที่โล่งของถนน ยังมีต้นไม้จำนวนมากเติบโตขึ้น ก่อตัวเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามให้กับเมืองหวงซา

ไม่ต้องพูดถึงผู้คนที่กำลังตกใจ

แม้แต่หลิน ยู เองก็ยังตกใจ

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหลังจากที่ดินแดนถูกยกระดับขึ้นเป็นระดับ 7 จะทำให้เกิดผลกระทบที่ใหญ่หลวงแบบนี้

ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อพืชที่อาณาเขตเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบไปยังด้านนอกด้วย

หรือว่าจะเป็นเพราะชิ้นส่วนเทวะ?

หรือเป็นเพราะเขาอัพเกรดสู่ระดับ 7

หลิน ยู นั้นเต็มไปด้วยความสงสัย

แต่ในวินาทีต่อมา ความสงสัยของเขาก็ถูกทำให้กระจ่างในทันที

[ขอแสดงความยินดีด้วย ดินแดนได้รับการอัพเกรดเรียบร้อย ระดับปัจจุบัน : ระดับ 7]

[ขีดจำกัดสูงสุดของระดับอาคารได้รับการปลดล๊อก ประตูแห่งอาณาจักรลับได้เปิดออก]

[ปลดล๊อกสกิลดินแดน : ดินแดนแห่งพงไพร]

[ดินแดนแห่งพงไพร (ติดตัว) : ออร่าแห่งชีวิตที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากแก่นกลางของดินแดนจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างรุนแรงทำให้พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นป่า ค่าสถานะร่างกายของกองทัพพืชทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5%]

หลังจากที่ดินแดนได้รับการอัพเกรดเป็นระดับ 7 ฟังก์ชั่นต่างๆก็ถูกปลดล๊อก สกิลๆใหม่ก็ได้รับการเรียนรู้เช่นกัน

ดินแดนแห่งพงไพร

นี้มันหมายความว่า ไม่ว่าเขาจะย้ายดินแดนไปที่ไหนในอนาคตที่แห่งนั้นก็จะกลายเป็นป่า!?

นี้เป็นสกิลที่ดีมาก อย่างนั้เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจำกัดโดยสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย

อีกทั้งการต่อสู้ในป่านั้น ทำให้ความแข็งแกร่งของกองทัพพืชของเขานั้นเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน นี้ทำให้ต้นวิลโลว์ได้รับสกิลเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่ง

แม้แต่จะสร้างอาณาจักรที่เต็มไปด้วยป่าก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้แล้ว

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิน ยู จึงใช้ประโยชน์จากเวลานี้ เปิดหน้าต่างดินแดนที่ได้รับการอัพเกรดเพื่อตรวจสอบ

[ชื่อดินแดน : ต้นไม้โลก]

[ระดับดินแดน : ระดับ 7 (67/5000)]

[ความทนทานของดินแดน : 5000/5000 (+2000)]

[ประเภททหาร : เผ่าพฤกษา]

[จำนวนทหาร : 104/250 (+25)]

[คำแนะนำดินแดน : การอยู่รอดของราชันเป็นพื้นฐานผู้มีหน้าที่หลากหลาย]

[ข้อกำหนดในการอัพเกรด : พลังเวทย์ (6.32 ล้าน/100000) แก้นแท้ดินแดนระดับ 7 (0/20) , ต้นกำเนิดธรรมชาติ(0/1)]

[หมายเหตุ : ตัวอ่อนของต้นไม้โลกต้องการพลังความศรัทธาในการเพื่อระดับ เมื่อไปถึงระดับหนึ่ง มันจะพัฒนากลายเป็นโลกแยกตัวออกไป]

? ? ?

ต้นไม้โลก?

หลิน ยู ตกตะลึงทันที

จ้องไปไปยังชื่อของแก่นกลางดินแดนที่เปลี่ยนไปบนหน้าต่างอย่างว่างเปล่า

หลังจากที่ผ่านระดับ 6 ไป ต้นไม้แห่งชีวิตก็ได้กลายเป็นต้นไม้โลก

แม้ว่าจะเป๊นเพียงแค่ต้นอ่อนเท่านั้น แต่นี้ก็ทำให้เขาประหลาดใจมาก

เป็นไปได้ไหมว่า หากเขาอัพเกรดจนถึงระดับสูงสุดแกนกลางของดินเข้าจะกลายเป็นโลกอีกใบที่แยกตัวออกไป

มันเป็นไปได้จริงๆงั้นเหรอ?

สุดท้ายแล้ว ราชันระดับ 11 ยังน่ากลัวขนาดนั้น แล้วระดับ 12 ก็คงไม่ต้องพูดถึงเขาขนาดสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาได้!?

แน่นอนว่า

ความคิดนี้จะได้รับการยืนยันก็ต่อเมื่อเขาสามารถขึ้นไปถึงระดับนั้นได้...

เมื่อนึกถึงความยากลำบากในการเลื่อนระดับไปยังระดับ 12 ไฟที่เพิ่งจุดติดในใจของ หลิน ยู ก็ดับลงทันที

ในตอนนี้เขาอยู่เพียงระดับ 7 เท่านั้น ยังห่างจากระดับ 12 อีก 5 ระดับ

ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งระดับสูงเท่าไร การอัพเกรดก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น

ต้องการที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดเขาโลกพูดง่ายกว่าทำเสมอ?

มันคงจะดีกว่าหากเขาสะสมทรัพยากรเพื่อพัฒนาดินแดนต่อไป

หลิน ยู หัวเราะเยาะตัวเอง ละทิ้งความคิดลมๆแล้งๆนั้น มองไปยังวัสดุที่ใ้ในการอัพเกรดดินแดนระดับ 8

โชคดีจริงๆ

แก่นแท้ดินแดนที่จำเป็นสำหรับการอัพเกรดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เท่านั้นเองเพียงแค่เก็บมันให้ครบ 20 อันก็เพียงพอ

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ การอัพเกรดดินแดนหลังจากระดับ 7 ไม่จำเป็นต้องใช่วัสดุอย่างไม้และแร่อีกต่อไป แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาก็คือ "ต้นกำเนิดธรรมาชาติ"

มันเป็นเช่นเดียวกับตอนที่อัพเกรดจากระดับ 3 ขึ้นไปยังระดับ 4 ตอนนั้นก็มีแก่นแท้ดินแดนเพิ่มขึ้นมา

มองเผินๆ ก็บอกได้เลยว่านี้เป็นสิ่งที่ได้มาไม่ง่าย

แต่สิ่งที่ทำร้าย หลิน ยู มากที่สุดคือพลังความศรัทธา

มันต้องใช้ถึง 5000 แต้ม

ต่อให้เข้าจะใช้เหล่าลูกแก้วแห่งความศรัทธา มันก็เพียงแค่ 1 ใน 5 ของมันเท่านั้น

หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล

อย่างไรก็ตามหลิน ยู นั้นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

สุดท้ายแล้ว ด้วยการเดินทางไปยังสนามรบหมื่นโลกในครั้งนี้ เขานั้นได้รับพลังเวทย์มากว่า 6 ล้านซึ่งมันเพียงพอให้เขาขยายอาณาเขตของเขาออกไปได้อีกหลายครั้ง

อีกทั้งเขายังมีโทเค็นทหารอีก 2 อันในกระเป๋ามิติ ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมากเมื่อขายไป

"ชั่งมันก่อนก็แล้วกัน เรามาสร้างฐานทัพกันก่อนดีกว่า"

หลิน ยู ไม่ลืมว่ามีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่เขายังไม่ได้ทำ

หลังจากเปิดหน้าต่างดินแดน เขาก็หยิบพิมพ์เขียวฐานทัพออกมาจากกระเป๋ามิติเดินมาทางยังพื้นที่โล่งที่เพิ่งขยายดินแดนเมื่อกี้

[วัสดุในการก่อสร้างตรงตามข้อกำหนด ท่านต้องการสร้างหรือไม่?]

"ใช่"

เมื่อเสียงของเขาเงียบลง พิมพ์เขียวในมือของ หลิน ยู ก็กลายเป็นลำแสงขนาดใหญ๋ปกคลุม พื้นที่โล่งตรงหน้าเขา

ชั่วขณะหนึ่ง เศษทรายปลิวว่อน อาคารที่คล้ายแท่นบูชาก็ปรากฏตรงหน้า

จากนั้น แท่นหินที่สลักรูปทหารต่างๆก็ลอยขึ้น ก่อตัวเป็นวงกลมบนแท่นบูชาด้วยแรงสั่นสะเทือนกึกก้อง

หลิน ยู สังเกตดูนี้คือประเภททหารทั้งหมดที่เขามีอยู่

กล่าวก็คือทุกครั้งที่มีประเภททหารเพิ่มขึ้น แท่นหินก็จะกำเนิดเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นมาเพื่อใช้วางวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ

เมื่อแท่นหินถูกว่างด้วยวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ กองกำลังที่เกี่ยวข้องก็จะได้รับบัพจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์ด้วย

[ชื่ออาคาร : ฐานทัพ]

[ระดับสิ่งก่อสร้าง : ระดับ 2 (67/5000)]

[คำแนะนำสิ่งก่อสร้าง : ทหารแต่ละประเภทจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งได้ด้วยบัพที่แตกต่างกันไปตามวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่วางไว้บนแท่นของทหารประเภทนั้น]

[จำนวนวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ : (0/40)]

เช่นเดียวกับวิหารอวยพร ระดับของฐานทัพเพิ่มขึ้นตามระดับพลังความศรัทธาเช่นกัน

ตอนนี้พลังความศรัทธาของหลิน ยู่ นั้นได้อัพเกรดเป็นขั้นที่ 2

หากมีในอนาคตเขามีโอกาศที่จะได้รับ วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพอีก เขาก็สามารถปลดล๊อกคุณสมบัติที่ 2 ได้ทันที

ในตอนนี้เขาสามารถใช้วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ E ที่เขาเพิ่งได้รับมาเท่านั้น

[วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ : หัวใจที่ไม่ยอมแพ้]

[ประเภทสมบัติ : พิเศษ]

[ระดับสมบัติ : ระดับ E]

[ความสามารถ : หลังจากที่ทหารได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต มีโอกาศ 5% ที่จะไม่ตายในทันทีและสามารถต้านทานความเสียหายทั้งหมดเป็นเวลา 5 วินาที]

[หมายเหตุ : วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการเพิ่มความแข็งให้กับทหาร สามารถใช้กับฐานทัพให้การเพิ่มความแข็งแกร่ง]

หลิน ยู นำหัวใจคริสตัลออกมาจากกระเป๋ามิติของเขาเดินเข้ายังแท่นบูชาอย่างช้าๆ

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เดินตรงไปยังแท่นหินที่เป็นตัวแทนของภูติไม้สงครามโบราณและวางมันไว้บนแท่นนั้น

สุดท้ายแล้ว บัพอย่าง ลูกผู้ชาย 5 วินี้เหมาะกับทหารที่ต่อสู้ระยะประชิดในแนวหน้า

แม้ว่าจริงๆแล้วเขาต้องการมอบมันให้กับดอกไม้มรณะไม่มีพวกมันอยู่ในแท่นหิน จึงไม่สามารถทำให้พวกมันได้

วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพนี้จะใช้ได้กับเฉพาะกองกำลังที่ถูกอัญเชิญออกมาเท่านั้น

[ท่านต้องการใส่วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพบนแท่นของ ภูติไม้สงครามโบราณ หรือไม่?]

[เมื่อใส่แล้วกองกำลังที่เกี่ยวข้องจะได้บัพ อีกทั้งยังสามารถสลับกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพอันอื่นได้ โดยการใช้พลังเวทย์]

"ใช่!"

ด้วยการตอบสนองของหลิน ยู วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพที่อยู่ในมือของเขาก็กลายเป็นลำแสงค่อยๆลอยไปยังแท่นหิน "ภูติไม้สงครามโบราณ"

หลังจากนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนว่าสำเร็จก็ดังขึ้น

หลิน ยู รีบก้าวลงมาจากแท่งบูชาเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของ ชิง ถัง และภูติไม้สงครามโบราณอื่นๆ

แน่นอนว่าพวกมันได้รับอีกหนึ่งสกิลเพิ่มขึ้นมา

[หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ : หลังจากที่ทหารได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต มีโอกาศ 5% ที่จะไม่ตายในทันทีและสามารถต้านทานความเสียหายทั้งหมดเป็นเวลา 5 วินาที]

ไม่เลว

สกิลนี้อาจดูไม่มีประโยชน์ในสายตาคนอื่น

แต่มันเป้นสิ่งที่มีดีอย่างมากสำหรับเขา เพราะจำนวนกองกำลังของเขานั้นมีมากกว่าราชันในระดับเดียวกันมาก

อีกทั้งหลังจากที่รับบัพจาก ชิ้นส่วนเทวะ พวกเขายังเพิ่มขีดจำกัดของกองกำลังไปอีก 25 ตัว

แถมจำนวนนี้ยังเพิ่มขึ้นตามระดับที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย แผนการสร้างกองทัพพืชนับฝันก็ไม่ใช่ฝันอีกต่อไป

ด้วยเป้าหมายอันสูงส่งที่อยู่ในหัวใจนี้

หลิน ยู เปิดช่องแชทขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เรื่องจากการกลับของเหล่าราชัน ช่องที่เดิมเคยเงียบสงบ ก็ค่อยๆมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

"ฮ่าฮ่า ฉันกลับมาแล้ว ในที่สุดฉันก็รอดกลับมาได้"

"พี่น้องทั้งหลาย การต่อสู้ครั้งนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง"

"ฉันสังหารไปถึง 20 คน มากกว่าครั้งที่แล้วถึง 10 คน"

"ฉันเองก็เหมือน ครั้งนี้ได้ถูกส่งยังไปสนามที่มีแต่พวกราชันหน้าใหม่ เลยได้สังหารไปเกือบ 40 คน แถมยังโชคดีได้สมบัติสนามรบมาอีกด้วย"

"ฮ่าฮ่า ดูเหมือนพวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าโชคชะตาของทวีปดึกดำบรรพ์ของเราจะขาดอีกต่อไปแล้ว"

"มันก็พูดยาก มันขึ้นอยู๋กับสถานการณ์ของสนามรบระดับระดับสูง"

"ไม่เป็นไรในครั้งหน้าฉันจะสังหารพวกมันให้เยอะกว่าเดิม!!"

ราชันหลายคนต่างพูดคุยกัน ทุกคนระบายความตื่นเต้นออกมาหลังจากที่กลับมาอย่างปลอดภัย

หลิน ยู ตรวจสอบพบว่าจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ตายจากการถูกรุมสังหาร

ดูเหมือนว่าผลการต่อสู้ในครั้งนี้จะดีกว่าครั้งที่แล้วมาก

หลิน ยู ยิ้มออกมาเล็กน้อยพรางอ่านข้อความของราชันคนอื่น ในขณะนั้นเองก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาในหัวของทุกคน

[ขอแสดงความยินดีกับราชันทุกท่านด้วย เนื่องจากผลงานที่ดีเยี่ยมของทวีปดึกดำบรรพ์ ภายในสนามรบหมื่นโลกครั้งนี้ โชคชะตาจึงได้กลับมาหลอมรวมอีกครั้ง]

หวืดดด

มีเสียงดังขึ้นบนท้องฟ้า

รอยแตกร้าวที่อยู่เหนือทวีปดึกดำบรรพ์ค่อยๆ ผสานกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง

ทันใดนั้น ช่องแชทก็เหมือนถูกระเบิดลง

"เยี่ยม! สำเร็จแล้ว"

"โชคชะตาที่ถูกพรากไปของพวกเรากลับคืนมาแล้ว"

"ฮ่าฮ่า ทำได้ดีมากพี่น้องทั้งหลาย"

"ไม่เลวเลย คุ้มแล้วกับที่ฉันทุ่มเทอย่างหนัก"

"หึ ฉันไม่กังวลว่าโลกของพวกเราจะถูกทำลายแม้แต่น้อย"

"ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในสนามรบระดับสูงก็ไปได้สวยเหมือนกัน"

สามารถพูดได้ว่า

การปรากฏตัวของการแจ้งเตือนนี้พร้อมกับการหายไปของรอยแยกทำให้ราชันของทวีพดึกดำบรรพ์หายใจด้วยความโล่งอก

ในที่สุดมีดที่คอยจ่อคอหอยเขาอยู่ก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ ทำให้บรรยากาศในช่องแชทเต็มไปด้วยความรื่นเริง

ในทางตรงกันเถา

โลกหยวนซานั้นไม่ได้โชคดีนัก

เพราะในเวลาเดียวกันกับที่ทวีปดึกดำบรรพ์ได้รับข่าวดีนั้น

[ราชันทุกท่าน โปรดทราบเนื่องผลงานที่ย่ำแย่ของโลกหยวนซา ใน สงครามหมื่นโลกครั้งนี้ โชคชะตาพวกเขาท่านจึงถูกพรากไป]

.....

"เป็นไปได้ยังไงกัน! ทำไมโชคชะตาของพวกเราหยวนซาถึกถูกพรากไป"

"เป็นไปได้ไหมว่าเกิดบางอย่างขึ้นในสนามรบระดับสูง"

"ดูท้องฟ้านั้น มันทำไมแตกออกแล้ว"

"ว่าไงนะ!!"

ในขณะนั้น โลกหยวนซาทั้งหมดก็สั่นสะท้าน

ทุกคนเงยหน้าขึ้นไปมองยังรอยแยกขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

มันดูเหมือนกับเป็นปากที่กำลังอ้าเพื่อที่จะกลืนกินโลกของพวกเขา!