ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรส่วนลึกของภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์

เหล่าราชันยังคงล่ามอนสเตอร์หรือไม่ก็ต่อสู้กันเอง

ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์และโลกนับพันเต็มไปด้วยความสงบสุข

.....

.....

ในชั่วพริบตาเดียว

ก็ผ่านไปกว่าครึ่งเดือน

หลังจากใช้เวลากว่า 20 วันด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดหยั่งในการสะสมพลังเวทย์ ในที่สุดหลิน ยู รวบรวมพลังเวทย์ได้ทั้งหมด 78 ล้านแต้มแถมยังได้รับการแจ้งเตือน

[ร่างขั้นสูงของหญ้าเกล็ดเงินได้รับวิจัยเรียบร้อยแล้ว โปรดตรวจด้วยตัวท่านเอง]

เสียงแจ้งเตือนนี้ฟังดูเหมือนเสียงธรรมดาสำหรับหลิน ยู

หลังจากสังหารมอนสเตอร์โครงกระดูกที่อยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็เรียกกองกำลังของเขากลับไปและขึ้นขี่มังกรจักรพรรดิปิศาจกลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์

เพื่อที่สะสมพลังเวทย์ในช่วง 20 วันที่ผ่าน เขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ขนาดใหญ่ใดๆ แต่ออกล่าสังหารมอนสเตอร์ภายในดินแดนแห่งความตายอย่างบ้าคลั่ง

ในช่วงเวลานั้น เขายังประสบความสำเร็วในการสังหารมอนสเตอร์ราชันระดับ 8 ความยากระดับ SS และ ระดับ A และได้รับสมบัติมามากมาย

น่าเสียงดายที่คุณสมบัติเหล่านั้นไม่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงได้ขายมันแลกเปลี่ยนกับพลังเวทย์

นอกจากนี้ เขายังได้นำอุปกรณ์ระดับ 9 ไปขายให้กับหอการค้าชิงฟางเก่อด้วยในช่วงนี้

นี้เป็นวิธีที่เขาได้รับพลังเวทย์มากกว่า 70 ล้านแต้ม

อย่างไรก้ตามช่างน่าเสียดาย

นี้มันก็ผ่านมานานแล้ว แต่เขาไม่เคยได้พบกับเนโครแมนเซอร์ที่มีสกิล อาณาจักรแห่งความตายเลย

ทงเทียน ต้องคัดลอกสกิลโจมตีหมู่ที่เหมาะสมไปก่อนและใช้มันชั่วคราว

ตอนนี้ จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนความสำเร็จในการวิจัยทหาร เขาก็หยุดที่จะล่ามอนสเตอร์ต่อทันที รีบกลับไปยังมังกรจักรพรรดิปิศาจ

ความเร็วของมังกรจักรพรรดิปิศาจระดับ 8 นั้นเร็วเป็นสองเท่าของระดับ 7

โดยเฉพาะเมื่อเปิดใช้งานสกิลเงาเร้นลับ ทำให้มันกลายเป็นภาพติดตามพุ่งแหวกไปในอากาศ ทำให้ราชันคนอื่นๆที่ผ่านมาต้องเงยหน้ามองด้วยความตกใจ

"เร็วอะไรอย่างนี้!"

"ข้าคิดว่าความเร็วนั้นน่าจะพอๆกับระดับ 9 เลยนะ"

"หรือว่าเขาจะเป็นราชันระดับ 9 ที่ผ่านทางมา"

"ออร่าของเขามันน่าสะพรึงกลัวกว่าราชันระดับ 9 ทั่วไปนัก"

"โชคดีที่เขาไม่พบพวกเรา..."

โดยทั่วไปแล้วเหล่าราชันระดับ 9 นั้นเข้าไปสำรวจยังส่วนลึกของภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์ แทบจะไม่เข้ามายุ่งกับการต่อสู้ของราชันระดับต่ำอย่างพวกเขาเลย

แต่มันก็ทำให้พวกเขาอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ ราวกับฝูงหนูที่เห็นแมว พวกเขารีบซ่อนตัวและเรียกทหารกลับทันที เพราะกลัวว่าจะถูกพบเข้า

หลิน ยู ที่อยู่บนที่สูง เป็นธรรมดาที่เขาจะมองเห็นราชันเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรของราชันระดับ 7 เหล่านั้นเขาไม่ได้สนใจมันมากนัก

เขาสิ่งที่สำคัญกว่าต้องไปทำ ไม่มีเวลามาให้เสียที่นี่

เหลือเวลาอีก 2 วัน สงครามหมื่นโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้น

นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมสงครามหมื่นโลกระดับ 8 เขาไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าหากเตรียมตัวให้พร้อมโดยเร็วที่สุด

หวืดด!!

เสียงพุ่งผ่านอากาศอันรุนแรงข้ามผ่านท้องฟ้า

ภาพติดตาที่เกิดจากมังกรจักรพรรดิปิศาจได้กวาดไปทั่วพื้นที่ทะเลทรายอย่างรวดเร็วราวกับมันเป็นสัตว์ประหลาดโบราณ

เมื่อเห็นทางเข้าของภูมิภาค ปรากฏขึ้น หลิน ยู ก็หน้าต่างมิติต้นกำเนิดขึ้นมา

[ชื่อ: ต้นไม้แห่งโลก (มิติต้นกำเนิด)]

[เผ่าพันธุ์: พฤกษา]

[ระดับ: ระดับ 8 (150/200)]

[ระยะ: 150 เมตร ]

[ผลของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดน : 30%/15% (+12.5%)]

[ เอฟเฟกต์พรสวรรค์เผ่าพันธุ์ : 4% (+25%)]

[ความสามารถ: สนามวิญญาณ, พรสวรรค์เผ่าพันธุ์ , พื้นที่อัญเชิญ]

[หมายเหตุ : มิติต้นกำเนิดที่จะเพิ่งความสามารถของแต่ละเผ่าพันธุ์]

ในช่วง 20 วันที่ผ่าน มันได้เพิ่มขึ้นเพียง 150 เมตรเท่านั้น

ความเร็วเรียกได้ว่าช้าสุดๆ

สุดท้ายแล้ว เมื่อรวมกับมอนสเตอร์ในอาณาจักรลับ เขาสังหารมอนสเตอร์ราชันระดับ 8 ไปทั้งหมด 9 ตัว รวมถึงจำนวนมอนสเตอร์ที่เขาล่าในช่วงเวลานี้ก็นับได้ว่ามากโขเลยทีเดียว

แต่กับได้พลังต้นกำเนิดเพียงแค่นิดเดียว ไม่ง่ายที่จะทำให้มันเต็ม

ขณะที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน

มังกรจักรพรรดิปิศาจก็บินกลับไปที่ทางเข้าภูมิภาคและร่อนลงตรงแท่นเทเลพอร์ตต้นไม้ยักษ์

ผ่านไปไม่นาน

เขาก็เดินผ่านประตูมิติเพื่อกลับไปยังดินแดน

ทันทีที่เขามาถึง เขาก็เปิดหน้าต่างอัญเชิญทหารอย่างรวดเร็ว เลือกที่จะอัญเชิญทหารที่เพิ่งจะวิจัยเสร็จทันที

มันร่างขั้นสูงของหญ้าเกล็ดเงินที่เขาวิจัยก่อนหน้านี้

[ชื่อ : หญ้าดาบโลหิต]

[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา]

[ระดับ : ระดับ 8 ]

[ความแข็งแกร่ง : 1000]

[ร่างกาย : 1000]

[ความว่องไว : 1000]

[วิญญาณ : 1000]

[สกิล : ชุบแข็ง  , การขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด , ระบำหญ้าดาบ (การโจมตีจะติดผลเลือดออก ลดผลการรักษาของศัตรู) ]

[หมายเหตุ : หากป่าไม้มอดไหม้ สายลมฤดูใบไม้ผลีพัดมา หญ้าดาบโลหิต มีความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง เมื่อร่างหลักแยกร่างออกไปก็ยังสามารถใช้พลังธรรมชาติต่อไปได้]

ทหารหญ้าขยายพันธุ์นี้ยังคงเหมือนเดิม ค่าสถานะของพวกมันยังต่ำมาก มันไม่ถึงขั้นต่ำของระดับ 8 ด้วยซ้ำ

แต่หลิน ยู นั้น ต้องการเพียงสกิลของมันเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

เขาตรวจสอบสั้นๆ

ยกเว้นมอสชีวภาพ 2 ตัวที่เขาสูญเสียไปในอาณาจักรลับเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้เขามีมอสชีวภาพทั้งหมด 286 ตัว

ตามแผนเขาต้องกลายพันธุ์มันอีก 14 ตัวให้ครบ 300

โชคดีที่เขากลายพันธุ์ มอสชีวภาพมาก่อนหน้านี้

ไม่อย่างนั้นด้วยจำนวนพลังเวทย์ที่มากถึง 25000 แต้มต่อการกลายพันธุ์หนึ่งครั้ง เขาไม่อาจหาทรัพยากรจำนวนมากขนาดนี้ได้

หากมากกว่า 1 โหลก็ยังแถบจะไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้

เมื่อคิดดูแล้ว

หลิน ยู ได้อัญเชิญวิลโลว์ลวงตาออกมาทันที 14 ตัวและเริ่มกลายพันธุ์

จนกระทั่งเขาใช้พลังเวทย์ไปถึง 52 ล้าน ในที่สุดเขาก็กลายพันธุ์มอสชีวภาพได้ครบ เขาเหลือพลังเวทย์อยู่ในตัวเพียงแค่ 26 ล้าน

คำนวนแล้วตกตัวละ 4 ล้าน

ถือว่าไม่เลวละนะ

จากนั้นก็มาถึงกองกำลังหลัก เขาส่งทหารกลายพันธุ์ระดับ 8 ทั่วไปทั้งหมดกลับดินแดนก่อน

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ทำการอัญเชิญหญ้าดาบโลหิตและกลายพันธุ์พวกมันทีตัว

เป้าหมายหลักของการกลายพันธุ์ทหารประเภทเดียวกับทหารราชวงศ์ทั้ง 6 ตัว

หรือทหารบางตัวอย่าง ดอกแดนดิไลอัส ถั่วมือปืน ลี่หยางขุ่ย และหญ้าโคมไฟ ซึ่งมีโอกาศน้อยที่จะปรากฏตัวออกมา แต่ความสามารถของมันค่อนข้างเสริมการต่อสู้ได้ดีทีเดียว

[การกลายพันธุ์ทหารระดับ 8 ต้องใช้พลังเวทย์ 25000 แต้ม ท่านต้องการกลายพันธุ์หรือไม่?]

"ใช่"

[โปรดเลือกสกิลและค่าสถานะที่ต้องการเก็บไว้]

"เอาสกิลการขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและค่าสถานะแบบสู่ม"

เมื่อเสียงแจ้งเตือนดังขั้น ก็เกิดลำแสงที่สั่นไหวขึ้น ส่องสว่างไปทั่วดินแดน

[การกลายพันธุ์สำเร็จ สกิล "การขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด" ได้กลายพันธุ์เป็น "เครือข่ายชีวิต"]

ทันใดนั้นก็ เสียงแจ้งเตือนอีกอันก็ดังขึ้นขัดจะหวะหลิน ยู

เมื่อเขากลายพันธุ์ไปได้กว่า 50 ครั้ง เขาโชคดีที่สามารถทำให้สกิลกลายพันธุ์ได้

หลิน ยู ประหลาดใจมาก เขารีบเปิดหน้าตาข้อมูลเพื่อตรวจสอบ

[เครือข่ายชีวิต : สร้างร่างแยกที่มีค่าสถานะเหมือนกับตัวเองทุกอย่าง ซึ่งสามารถใช้พลังธรรมชาติให้การฟื้นฟูบาดแผลได้ ได้รับสกิล เชื่อมชีวิต ผลของสกิลจะถูกยกเลิกอัติโนมัติเมื่อพลังชีวิตลดลงต่ำกว่า 20%]

"เชื่อมชีวิต?"

หลิน ยู เคยเห็นสกิลแบบนี้มาก่อนมันคล้ายกับสกิลของมอนสเตอร์บอสสองตัวที่โบสถ์นั้น

เขายังจำมันได้อย่างชัดเจน

เขาไม่ได้คิดว่าสกิลการขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดจะกลายพันธุ์เป็นสกิลเช่นนี้ นี้ไม่มันไม่ทำให้กองกำลังของเขากลายเป็นอมตะเลยอย่างงั้นเหรอ?

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพลังชีวิตของร่างหลักลงลดเหลือ 20% ผลของสกิลจะถูกยกเลิกอัติโนมัติ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าร่างหลักจะได้รับความเสียหายจนตายไป

มันเป็นสกิลช่วยชีวิตที่ยอดเยี่ยมมาก

มันมีค่าเท่ากับ 4 ชีวิต

ตราบใดที่เขาไม่เจอกับมอนสเตอร์ระดับสูงกว่าเขาจนมากเกินไป มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะถูกสั่งหารในเวลาไม่กี่วินาที

และที่สำคัญกว่านั้นคือทหารผู้ที่ได้รับสกิลนี้บังเอิญเป็นภูติไม้สงครามโบราณที่มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด

มันคุ้มค่าอย่างมาก

สกิลที่ได้รับการกลายพันธุ์นี้ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

จากนั้นเขาก็ยังคงกลายพันธุ์หญ้าดาบโลหิตที่เหลืออยู่

ตราบใดที่ได้ทหารที่เขาต้องการ เขาก็จะหยุดลง

ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถกลายพันธุ์ได้สำเร็จในทุกๆ สามครั้ง

อย่างไรก็ตามชั่งน่าเสียดาย

จนกระทั้งเขากลายพันธุ์หญ้าดาบโลหิตจนหมดแล้ว สกิลกลายพันธุ์ก็ไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลย ดูเหมือนดวงโชคของเขาจะถูกใช้ไปจนหมดแล้ว

หลังจากกลายพันธุ์เสร็จ เขานับจำนวนกองกำลังอีกครั้ง

ภูติไม้โบราณ : ภูติไม้สงครามโบราณ 35 ตัว , ภูติไม้ธรรมชาติโบราณ 35 ตัว

จิตวิญญาณดอกไม้ : เทพธิดาปราชญ์ธรรมชาติ 24 ตัว , เอลฟ์ผู้ส่งสาสน์ธรรมชาติ 25 ตัว

เห็ดระเบิด : เห็ดพิษพันปี 24 ตัว , เห็ดพิษภัยพิบัต 22 ตัว

แบนชี : แบนชีที่เหี่ยวเฉา 18 ตัว , แบนชีแห่งเสน่หา 17 ตัว , แบนชีแห่งความบ้าคลั่ง 17 ตัว

จอมเขมือบ : ดอกไม้แห่งการกลืนกิน 17 ตัว

ถั่วมือปืน : มือปืนเพลิงโลกันต์ 12 ตัว , มือธนูเยือกแข็ง 10 ตัว

กระบองเพรช : กระบองเพรชยอดนักมวย 10 ตัว

ดอกแดนดิไรอัล : ดอกแดนดิไรอัลโลหิต 3 ตัว

อื่น : ลี่หยางขุ่ย 3 ตัว หญ้าโคมไฟ 3 ตัว

.....

นอกเหนือจากนั้นยังมีดอกไม้แห่งการกลืนกิน 2 ตัว และ ดอกแดนดิไรอัลโลหิตอีก 1 ตัวที่เหลืออยู่ก่อนหน้านี้ และยังมีทหารขยายพันธุ์ที่เพิ่งกลายพันธุ์ออกมาอีก 270 ตัว

ยกเว้นถั่วมือปืนและหญ้าโคมไฟที่สามารถแยกออกมาได้ 8 ร่าง ส่วนที่เหลือทั้งหมดแยกร่างได้ 4 ร่างนั้นคือจำนวนของพวกมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่านั้น

ด้วยวิธีนี้ ทำให้เขาเทียบเท่ากับมีกองกำลังระดับ 8 มากกว่า 1000 ตัว

อีกทั้งทหารพืช 270 ตัวหลักยังมีมอสชีวภาพเกาะรวมอยุ่ด้วย ทำให้ค่าสถานะของพวกมันเกือบจะถึงระดับ 9

เท่าที่เขารู้

แม้แต่ราชันระดับ 8 ที่แข็งแกร่งเหล่านั้นยังมีทหารระดับ 9 ไม่เกิน 10 ตัว

เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขาน่าหวาดกลัวขนาดไหน

ถือได้ว่าเขาแข็งแกร่งอย่างก้าวกระโดเลย

นอกจากนี้ยังนับว่าเป็นครั้งที่ความแข็งแกร่งของหลิน ยู เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ หลิน ยู มาเยือนโลกนี้

ใครจะจิตนาการได้ว่าเขาตื่นเต้นขนาดไหนกัน

เว้นแต่ว่าเขาจะได้พบกับราชันผู้เป็นดาวเด่นของโลกต่างๆ แทบจะกล่าวได้ว่าเขาสามารถเดินเล่นได้อย่างสบายในสนามรบหมื่นโลก

แน่นอน

เขาเองก็ยังไม่ได้นิ่งนอนใจ

ไม่ประมาทราชันจากโลกอื่นๆ

เนื่องจากด้วยการที่เขาสามารถแข็งแกร่งได้ถึงระดับนี้ได้ จึงเป็นธรรมดาที่ราชันคนอื่นๆก็จะแข็งแกร่งได้ถึงระดับเขา

ยกตัวอย่างเช่น บุตรแห่งโชคชะตาของโลก หรือ บุตรของจักรพรรดิที่ได้รับการโปรดปราณ ด้วยทรัพยากรอันมหาศาลที่พวกเขาได้รับจึงเป้นธรรมดาที่พวกเขาจะแข็งแกร่ง

ในอดีต ตอนระดับ 6 และระดับ 7 ด้วยความที่เป็นมือใหม่ทำให้พวกเขาถูกสังหารอย่างง่ายดาย

แต่ในระดับ 8 นั้นมันแตกต่างออกไป

ผู้ที่สามารถก้าวขึ้นสู่ระดับนี้ได้ล้วนแต่เป็นคนที่แข็งแกร่งและมีไหวพริบ พวกเขาทั้งหมดมีวิธีของตัวเอง ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นมาถึงระดับนี้

ดังนั้นเขายังคงเก็บงำฝีมือเอาไว้ไม่แสดงความแข็งแกร่งออกมาต่อหน้าผู้คน

การสังหารโดยที่คาดไม่ถึงนี้เป็นวิถีของราชา

"ยังมีทหารอีกหลายตัวที่ยังขาดอยู่ ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง"

หลิน ยู มองไปยังหน้าต่างทรัพยากร เขาเหลือพลังเวทย์เพียงแค่ 700000 แต้มซึ่งมันเกือบจะไม่เพียงพอ

ด้วยตำแหน่งที่เหลือ 30 ที่ 11 ที่สำหรับทหารพืชราชวงศ์ มังกรพืช 2 ตัว วิลโลลวงตา และต้นไม้แห่งปัญญา

หลังจากที่คิดอยู่พักหนึ่ง เขาเปิดหน้าต่างอัญเชิญขึ้นอย่างอัญเชิญพืชเพาะปลูกออกมา 16 ตัว

พืชเพาะปลูกเหล่านี้ได้รับการวิจัยถึงระดับ 6 แล้วโดยหอคอยทหารที่เขาใช้ก่อนหน้านี้

ในตอนนี้ด้วยความที่เมืองหวงซาพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการเมล็ดพันธุ์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นพืชเหล่านี้จึงยังขาดไม่ได้

สำหรับเหล่ามอสชีวภาพที่เหลืออยู่ ก็ให้พวกมันเกาะอยู่บนพืชเพาะปลูกไปก่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

หากในอนาคตพวกมันเกิดตายขึ้นมา ก็สามารถนำเอาที่เหลือเข้าไปแทนที่ได้เลยไม่ต้องเสียเวลา

ยังเหลืออีก 3 ตำแหน่งที่สำรองไว้ในขณะนี้

เขาสามารถอัญเชิญทหารตัวอื่นออกมาได้ในภายหลัง