ตอนที่ 452 : แม่ทัพเทพภูตผีลั่วเซิง!

[ลูกน้อง: ลั่วเซิง (ผู้กล้า)]

[สมญานามผู้กล้า: แม่ทัพเทพภูตผี]

[ระดับโชคชะตา: โชคชะตาผู้กล้าระดับมหากาพย์]

[ดินแดน: ดินแดนตะวันสาดแสง]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเหนือสามัญขั้นต้น]

[ความสามารถโดยรวม: ลั่วเซิงถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัวกองทัพ เขามุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่ยังเด็กและได้แสดงศักยภาพและความสามารถทางทหารที่โดดเด่นตั้งแต่ยังเล็ก ลั่วเซิงผ่านการทดสอบของครอบครัวเมื่ออายุ 14 ปี และได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมกองทัพหลังจากเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ลั่วเซิงก็รู้สึกผิดหวังมากกับลอร์ดที่เขารับใช้ เขาได้สังหารลอร์ดผู้นั้นและปลดปล่อยลูกน้องคนอื่นๆ และออกเดินทางอีกครั้งเพื่อตามหาผู้กล้าที่เขาเฝ้าปรารถนา ในตอนนี้ ลั่วเซิงได้รับใช้เจ้าตะวันสาดแสงอยู่ ในสายตาของเขา เจ้าตะวันสาดแสงดูเหมือนจะเป็นผู้กล้าอันแสนไร้เทียมทานที่เขาเฝ้าปรารถนาซึ่งสามารถนำพาโลกไปสู่จุดที่ดีขึ้นได้ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะมอบความภักดีทั้งหมดให้กับลอร์ดผู้นี้ไปแล้ว!]

[สายเลือด: สายเลือดมนุษย์ (ระดับตำนานขั้นต้น) (100%)]

[ทักษะ: พรสวรรค์–แม่ทัพสมรภูมิ, ทักษะผู้กล้า–เทพภูตผีบัญชาทัพ, ทักษะผู้กล้า–เทพภูตผีไร้เทียมทาน, เคล็ดวิชาง้าวเทพภูตผีสังหารอสูรประเภทเติบโตระดับมหากาพย์ขั้นกลาง, พายุคลั่งเทพภูตผีประเภทเติบโตระดับมหากาพย์ขั้นกลาง, เคล็ดวิชาง้าวสยบอสูรประเภทเติบโตระดับมหากาพย์ขั้นกลาง, เคล็ดวิชาประสานดาบโล่ระดับเหนือสามัญขั้นต้น, การยิงธนูระดับเหนือสามัญขั้นต้น, การรบบนสมรภูมิระดับเหนือสามัญขั้นต้น, การใช้หอกระดับเหนือสามัญขั้นต้น, ทฤษฎีและการใช้งานค่ายกลทัพระดับเพชรขั้นสูง, ค่ายกลทะลวงระดับเพชรขั้นต้น…]

[ความภักดี: 100 (ภักดีจนตาย)]

[ศักยภาพ: ระดับเทพชั้นสูงขั้นต้น]

[ประวัติผู้กล้า: 1. พรสวรรค์ในสนามรบของเขาเริ่มปรากฏขึ้นก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้กล้า เขาไปที่สนามรบและทิ้งตำนานไว้ในสนามรบเมื่อเขายังเด็ก คะแนนชื่อเสียงประจำตัว +1 คะแนนชื่อเสียงประจำเผ่าพันธุ์มนุษย์ +50! 2. ภายใต้ความเมตตาของเจ้าตะวันสาดแสง เขาได้รับมรดกผู้กล้าของแม่ทัพเทพภูตผีและกลายเป็นแม่ทัพเทพภูตผีรุ่นที่สอง! คะแนนชื่อเสียงประจำตัว +1 คะแนนชื่อเสียงประจำเผ่าพันธุ์มนุษย์ +10,000 คะแนนชื่อเสียงประจำทวีปจื้อเกา +5!]

หลังจากอ่านข้อมูลของพวกเขาแล้ว โจวโจวก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

กำลังรบระดับผู้กล้าอีก 2 คนปรากฏขึ้นในดินแดนของเขาแล้ว!

นอกจากนี้ ลั่วเซิงยังทำให้เขาประหลาดใจมากด้วย

เดิมที ศักยภาพของเด็กคนนี้ก็อยู่ที่ระดับตำนานขั้นต้นแล้วก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้กล้า

ในตอนนี้เขาได้เลื่อนระดับไปสามก้าวใหญ่ติดๆ และกลายเป็นคนที่มีศักยภาพระดับเทพชั้นสูงขั้นต้นทันที!

โดยปกติแล้ว ศักยภาพของผู้กล้าจะไม่เพิ่มขึ้นมากนักแม้ว่าจะมีโชคชะตาของผู้กล้าเข้ามาเสริม แต่เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นกับลั่วเซิง

โจวโจวนึกขึ้นมาได้ในทันใดว่าอีกฝ่ายเคยบอกเขาว่าอีกฝ่ายเคยสังหารศัตรูระดับบรอนซ์เขียวหลายคนบนสนามรบในขณะที่เขายังเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีอาชีพเลยด้วยซ้ำ

ดูเหมือนว่าลั่วเซิงจะเหมาะสมกับมรดกผู้กล้านี้มากจริงๆ

มีแค่ตอนที่ผู้กล้าและมรดกผู้กล้าเข้ากันได้เป็นอย่างมากเท่านั้นที่จะทำให้ศักยภาพของคนผู้นั้นเพิ่มขึ้นได้มากขนาดนี้

“เตรียมตัว ไปรายงานตัวกับไป่อี้และบอกให้เธอจัดตำแหน่งรองแม่ทัพให้กับเจ้า จากนั้นพวกเราก็จะออกไปสู้ต่อ”

โจวโจวกล่าว

“ขอรับท่านลอร์ด!”

ทั้งสองคนกล่าวออกมาด้วยความเคารพ

โจวโจวพยักหน้าและโยนบางสิ่งให้กับลั่วเซิง

ลั่วเซิงรับมันมาในทันทีและตระหนักได้ว่ามันคือรูปแกะสลักหมาป่าโลหิต

“ข้าเห็นว่าเจ้ามีพื้นฐานเรื่องค่ายกลทัพอยู่ นี่คือไอเท็มค่ายกลทัพระดับเหนือสามัญ มันบันทึกค่ายกลทัพที่มีชื่อว่าค่ายกลหมาป่าละโมบเห่าหอนจันทราเอาไว้ ศึกษาและทำความเข้าใจกับค่ายกลทัพนี้ให้เร็วที่สุดซะ”

“ถ้าเจ้าอยากเร่งความเร็วในการศึกษา เจ้าก็สามารถไปที่วังของลอร์ดของข้าได้ มันมีห้องซ้อมที่ช่วยให้เจ้าศึกษาค่ายกลทัพนี้ได้เร็วขึ้นอยู่”

โจวโจวกล่าว

“ข้าจะเชี่ยวชาญค่ายกลหมาป่าละโมบเห่าหอนจันทราให้เร็วที่สุดเองขอรับ!”

ลั่วเซิงอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้าอย่างจริงจัง

โจวโจวพยักหน้ารับ

จากนั้นเขาก็มองไปยังอู๋ตู่ที่ทำสายตาอิจฉาๆ อยู่

“อู๋ตู่ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ดินแดนของพวกเราจะเริ่มผลิตราตรีประดับดาวและภูติทมิฬออกมาอย่างต่อเนื่อง ราตรีประดับดาวและภูติทมิฬลำแรกน่าจะสร้างเสร็จแล้ว ไปรับมันมาจากเหวินหยาซะ นับจากนี้เป็นต้นไป ยานบินสองลำนี้จะถูกมอบหมายให้กองทัพวาดสวรรค์ดูแล”

โจวโจวกล่าว

“ขอบคุณขอรับท่านลอร์ด!”

อู๋ตู่อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น

ในฐานะคนที่เคยขึ้นไปบนราตรีประดับดาวและภูติทมิฬ เขาย่อมรู้ดีว่ายานบินทั้งสองลำนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับกองทัพวาดสวรรค์ได้แค่ไหน!

มันไม่เกินจริงไปเลยที่จะบอกว่ามันเป็นราวกับเสือติดปีกเลย!

ก่อนหน้านี้เขาอิจฉาลั่วเซิงที่เพิ่งเข้าร่วมดินแดนตะวันสาดแสงอยู่เล็กน้อย เพราะเขาได้รับตำแหน่งสำคัญจากท่านลอร์ดอย่างรวดเร็ว

แต่ตอนนี้เขาไม่อิจฉาแล้ว

เขามียานบินถึงสองลำแล้ว

จะมีใครบ้างในดินแดนตะวันสาดแสงที่ได้รับเกียรติเช่นนี้?

เขาเป็นคนเดียวเท่านั้น!

โจวโจวอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเขาเห็นปฏิกิริยาของคนทั้งคู่

หลังจากที่ทั้งสามคุยกันต่อสักพักแล้ว อู๋ตู่และลั่วเซิงก็ขอตัวกลับไปที่ค่ายทหาร

ในขณะเดียวกัน โจวโจวก็พาลู่ฉ่ายเอ๋อร์ไปยังวิหารอัศวิน

ระหว่างทาง เขาก็ให้ทหารไปเรียกซวีอันเข้ามาด้วย

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะที่เจ้าได้รับกำลังรบระดับผู้กล้ามาอีกสองคน”

ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ยังไม่รู้ว่าทำไมโจวโจวถึงเรียกซวีอันมา แต่เธอก็ไม่ได้ถาม

เธอพูดกับโจวโจวด้วยน้ำเสียงที่ซับซ้อนในขณะที่เธอเดิน

แม้แต่คนที่มีความรู้กว้างขวางเหมือนกับเธอก็ยังต้องอึ้งกับโชคของโจวโจว

กำลังรบระดับผู้กล้าเจ็ดคน!

เมื่อรวมกับวิธีการที่ใช้ในการชุบชีวิตเธอและวิธีการที่ไม่น่าเชื่ออื่นๆ ใครจะคิดว่านี่คือรากฐานของลอร์ดที่เพิ่งมาถึงทวีปจื้อเกาได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน?

แม้แต่ราชาแห่งอาณาจักรอันเก่าแก่ก็ยังต้องอึ้งไปและสงสัยในชีวิตของตัวเองถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้!

โจวโจวยิ้มและไม่ได้พูดอะไร

...

ในไม่ช้า ซวีอันก็เดินเข้ามา

“คาราวะท่านลอร์ด!”

ซวีอันสะพายดาบเงาโลหิตไว้บนหลังและโค้งคำนับด้วยความสับสน

เขาไม่รู้ว่าท่านลอร์ดเรียกเขาเข้ามาทำไม

พวกเขากำลังจะไปที่สมรภูมิงั้นเหรอ?

“มากับข้า”

โจวโจวไม่ได้พูดอะไรมาก เขาพาซวีอันที่กำลังสับสนและลู่ฉ่ายเอ๋อร์ไปยังวิหารอัศวิน

“ข้าขอเข้าพบเจ้าวิหารไป่เหอหน่อย”

โจวโจวพูดกับอัศวินเฝ้าประตู

“เจ้าวิหารยุ่งอยู่ทุกวัน เจ้าจะขอเข้าพบเขาเพียงเพราะเจ้าต้องการได้ยังไง”

อัศวินเฝ้าประตูขมวดคิ้ว

“มันเกี่ยวกับเรื่องการชุบชีวิตผู้กล้า”

โจวโจวพูดอย่างช้าๆ

อัศวินเฝ้าประตูสองคนอึ้งไปและไม่รู้จะพูดอะไรออกมา

วิหารอัศวินและแม้แต่ระดับเบื้องบนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างก็รู้แล้วว่าโจวโจวสามารถชุบชีวิตผู้กล้าได้

ลู่ฉ่ายเอ๋อร์คือตัวอย่างที่มีชีวิตของเรื่องนี้

หรือว่าเขาจะชุบชีวิตผู้กล้าของเผ่าพันธุ์มนุษย์อีก?

อัศวินเฝ้าประตูสองคนมองมาที่โจวโจวด้วยความเคารพและบูชา

“ข้าจะไปรายงานเดี๋ยวนี้เลยขอรับ!”

น้ำเสียงของอัศวินเฝ้าประตูเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก หลังจากพูดออกมาด้วยความสุภาพแล้ว เขาก็วิ่งเข้าไปในโถงทันที

“พวกเจ้าสามคนรออยู่ที่นี่ก่อนละกัน”

อัศวินอีกคนกล่าว

โจวโจวพยักหน้าและเดินเข้าไปในวิหารอัศวิน