ตอนที่ 283 ต้นกำเนิดธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป

วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพชิ้นนี้คล้ายกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ E ที่ หลิน ยู ได้รับมาจาก สนามรบหมื่นโลก ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงของ "หัวใจที่ไม่ยอมแพ้"

ไม่เพียงแค่โอกาสในการใช้งานสกิลจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่ความสามารถของมันก้ยังแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

โดยหลังจากที่มันตายไปแล้ว 5 วินาทีมันสามารถใช้ค่าสถานะร่างกายเพื่อเพิ่มระยะเวลาอีก 5 วินาที

กล่าวก็คือ

ตราบใดที่ใช้ค่าสถานะร่างกายมันก็รักษาสถานะอมตะเอาไว้ได้ 5 วินาที

มันก็จะเทียบเท่ากับการใช้สกิลอมตะอยู่ตลอดเวลา

แต่ปัญหาก็คือตอนนี้คือเขายังไม่มีทหารที่เหมาะสมกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพอันนี้

เกราะป้องกันธรรมชาติของชิง กัง , รวมศูนย์กายาของมอสชีวภาพ , เปลวเพลิงมังกรทำลายของเป่าปิง , ปราการรักษาของ หลิง ซี , การโจมตีครั้งสุดท้ายของดอกไม้แห่งการกลืนกิน

พวกมันล้วนเข้าได้กันอย่างดีกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ

หลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็มอบวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพนี้ให้กับกระบองเพรชยอดนักมวยก่อนชั่วคราวเท่านั้น

สุดท้ายแล้วด้วย ทหารพืชที่มีจำนวนของเขาต่างก็ยังไม่ได้บัพจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ ทำให้มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นมาได้อีกเล็กน้อย

นอกจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพนี้แล้ว หลูเจิ้งซิง ยังมอบผงเวทย์มนต์ให้เขาอีก 100000 กรัม ซึ่งเท่ากับพลังเวทย์ที่เขาเหลืออยู่

เช่นนั้นแล้ว

ตราบเท่าที่เขาซื้อแก่นพลังงานขนาดใหญ่เพิ่มอีก 2 อันจากราชันจักรกลเหล่านั้น เขาก็จะสามารถสร้างเรือเหาะเวทย์มนต์ได้อีก 2 ลำทำให้เปิดเส้นทางได้การค้าได้มากขึ้นไปอีก

"ไปกันเถอะ พวกเรารีบกลับกัน"

หลิน ยู บอกกับมังกรราชาปิศาจที่อยู่ข้างใต้เขา จากนั้นก็บินขึ้นจากพื้นมุ่งหน้าไปยังเกาะลอยฟ้า

โดยที่ไม่ได้สังเกต

ตั้งแต่ที่เข้าเดินทางออกจาก หอการค้าชิงฟางเก่อ ก็ได้มีคนจับตาความเคลื่อนไหวของเขาอยู่

ไม่นานหลังจากที่เขาก็ออกไป ก็ได้มีร่างสองร่างขี่อาวุธวิเศษตามเขามา พวกเขารวดเร็วอย่างมากเพียงพริบตาเดียวก้มาถึงหลิน ยู

"นี้มัน!?"

หลิน ยู ขมวดคิ้ว เขารับรู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ที่ด้านบนท้องฟ้าใจกลางเมืองศักดิ์สิทธิ์ มีทหารบินแล้วอาวุธวิเศษมากมายสังจรไปมา แต่ทั้งสองคนที่ปรากฏตัวอย่างกระทันหันนั้นได้พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างเห็นได้ชัด

ดูจากพลังและความเร็ว พวกเขาต้องเป็นผู้ฝึกตนระดับ 9 เป็นอย่างน้อย

เขากำลังถูกจับตามอง?

หลิน ยู รู้สึกประหลาดใจ

เห็นผู้ฝึกตนในแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จับตามองเขาคงเป็นเขานั้นได้ติดต่อกับหอการค้าชิงฟางเก่อ หรือไม่ก็เกี่ยวกับสมบัติบนตัวของเขา

สุดท้ายแล้ว เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาได้รับการต้อนรับจาก หอการค้าชิงฟางเก่อ โดย หลูเจิ้งซิง ตัวเขาไม่ได้ทำอะไรมากเพื่อปกปิดมัน ฉะนั้นมันจึงง่ายต่อการตรวจสอบ

อยากที่คิดไว้

ทันทีที่เขาคาดเดาถูก ผู้ฝึกตนสองคนนั้นก้บินมาที่ด้านข้างเขาอย่างรวดเร็ว ประกบซ้ายขวา ปิดกั้นเส้นทางของเขาเอาไว้

"มากับเราซะดีๆ มีคนต้องการจะพบเจ้า"

คนที่อยู่ขางขวาก้าวขึ้นไปบนดาบบิน เขาเป็นชายชราที่มีแรงกดดันที่แข็งแกร่งพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา

"พวกเจ้ามาจากกองกำลังไหน" การแสดงออกของ หลิน ยู ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

"เจ้าจะได้รู้เมื่อเจ้ามากับพวกเรา ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้พวกเราลำบากใจ" ชายวัยกลางคนที่อยู่ทางซ้ายตามมาติดๆ เขาพูดด้วยเสียงที่แข็งกร้าว

สุดท้ายแล้วนั้น ทั้งสองเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับ 9 แต่หลิน ยู นั้นเป็นเพียงแค่ราชันระดับ 7 เท่านั้น

"พวกเจ้าชวนคนกันแบบนี้งั้นเหรอ?"

หลิน ยู หัวเราะออกมาในใจ

ในวันนี้ตัวเขานั้นแตกต่างไปจากอดีต เขานั้นสามารถเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนระดับ 9 ได้อย่างสบาย เพราะตัวเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นแล้ว

อีกฝ่ายดูไม่สู้ดีนัก แต่ก็ยังต้องรักษาหน้าเอาไว้

ทันทีที่เขาสั่งการ มังกรราชาปิศาจก็กระพือปีกของมันสะบัด ผู้ฝึกตนทั้งสองคนออกไป จากนั้นก็เปิดใช้งานสกิลเงาเร้นลับเพื่อเร่งความเร็วบินไปยังเกาะลอยฟ้า

ผู้ฝึกตนทั้งสองนั้นเมื่อร่างกายของเขากลับมามั่นคง ใบหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นเคร่งขรึม

"ไล่ตามไป!"

โดยไม่คิดมาก พวกเขาขี่อาวุธวิเศษไล่ตามหลิน ยู ไปในทันที

ฉากการไล่ล่าอันดุเดือดนั้นได้ดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้คนที่อยู่บนท้องถนนให้มองขึ้นไปที่ด้านบน

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีคนกำลังต่อสู้กันอยู่บนท้องฟ้า?"

"ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังถูกตามล่าอยู่นะ"

"ข้าไม่ได้ตาฝาดใช้ไหม ผู้ฝึกตนระดับ 9 คนกำลังไล่ล่าราชันระดับ 7?"

"เขาตกเป็นเป้าหมายของเขาผู้ฝึกตนระดับ 9 ถึงสองคน ดูเหมือนราชันระดับ 7 คนนั้นจะแย่แล้วซิ"

ภายในแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น แม้ว่าจะมีกองกำลังรักษาการณ์ของทั้งสามจักรวรรดิคอยรักษาความสงบอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เข้มงวดมานัก

ตราบใดที่พวกเขาไม่ไปยุ่งกับคนที่ไม่สมควรยุ่งด้วย หรือ ไม่ไปมีปัญหากับตัวตนระดับสูงที่อยู่ใกล้เคียง พวกเขาก็สามารถหลบหนีไปได้อย่างง่ายดายแม้จะสังหารคนบนท้องถนน ก็ตาม

ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห้นการไล่ล่าบนท้องฟ้า ก็ไม่มีใครอยากมีส่วนร่วม เพียงแค่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ

บางคนรู้สึกสงสาร หลิน ยู

เขามีปัญหากับใครไม่มี ดันไปมีปัญหากับผู้ฝึกตนระดับ 9 ถึง 2 คน

"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ เจ้านั่นถึงหันกลับมา"

จู่ๆเสียงร้องของผู้คนก็ดังขึ้น

ทุกคนต่างกำลังชมกระแสดงที่น่าตกตะลึงนี้อยู่ เขาพบว่ามังกรราชาปิศาจที่กำลังหลบหนีอยู่นั้นบินวนกลับมาหาผู้ฝึกตนที่ไล่ล่าพวกเขา

"บ้าไปแล้ว!"

"ราชันระดับ 7 คนนั้นต้องการที่จะต่อสู้กับผู้ฝึกตนระดับ 9 จริงๆ หรือ"

"เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม"

เสียงร้องเริ่มดังขึ้นบนถนน

ทุกคนถูกดึงดูดจากการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างกระทันหัน รู้ว่าหลิน ยู กำลังเข้าไปรับความตายด้วยตัวเอง

แต่ในวินาทีต่อไป

สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องตกตะลึงสุดขีดก็เกิดขึ้น

"บูม!!!"

เสียงระเบิดที่ดังสนั่น ทำให้ท้องฟ้าโดยรอบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

กระสุนถั่วที่เปล่งพลังที่น่าหวาดกลัวออกมา มันถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงมังกรทำลายล้าง พุ่งออกไปบนท้องฟ้าโจมตีไปยังราชันระดับ 9 ทั้ง 2 คน

"อะไรกัน!?"

สีหน้าของผู้ฝึกตนระดับ 9 มั้งสองเปลี่ยนไปในทันที พวกเขาต้องการขี่อาวุธวิเศษเพื่อหลบหนีโดยไม่รู้ตัว

แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน จู่ๆ หลิน ยู หันกลับเพื่อย่นระยะห่างระหว่างพวกเขา จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกัน

"ปัง!"

"อ๊ากกก"

เสียงกรีดร้องโหยหวนพร้อมกับเลือดที่สาดกระจายระเบิดออกไปทั่วท้องฟ้า

ชายวันกลางคนที่ขี่อาวุธวิเศษถูกกระสุนถั่วทะลวงท้องตายลงในทันที

พร้อมกับศพของเขา ที่ตกลงจากท้องฟ้าสู้พื้น

"!!!"

ดวงตาของชายชราหรี่ลงถึงขีดสุด เกิดเป็นพายุโหมกระหน่ำในหัวใจของเขา

ผู้ฝึกตนระดับ 9 ที่แข็งแกร่งถูกสังหารโดยราชันระดับ 7 ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว

ความหวาดกลัวแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาในทันที

เขาไม่กล้าคิดมากอีกต่อไปส่งพลังไปยังอาวุธวิเศษมากขึ้นหันทิศทางไปหยิบอาวุธวิเศษของสหายเขาแล้วหลบหนีไปอีกทาง

ความเร็วของเขาเร็วขึ้นกว่าเดิมอีกถึง 3 ส่วน

โดยไม่คาดคิด ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลังของเขา

"กลับไปบอกเจ้านายของพวกเจ้าด้วยว่า นี้เป็นเพียงแค่บทเรียนเท่านั้น!"

ชายชราถึงกับตัวสั่นสะท้าน ลมหายใจของเขาขาดห้วง เขาแทบจะตกลงมาจากอาวุธวิเศษ

แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรกัน

ว่าการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวของ หลิน ยู ไม่สามารถใช้เป็นครั้งที่สองได้ในเวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้เขาหวาดกลัว

ด้วยความเร็วของ หลิน ยู เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีเขาทัน ถ้าเขาทุ่มออกไปสุดตัว มันก็คงยากที่จะรับมือ

แต่โชคดี

การสังหารด้วยการโจมตีเดียวนั้นมันทรงพลังเกินไป ทำให้เขาชายชราหวาดกลัวจนตัวสั่น ไม่กล้าที่จะไล่ตามเขาอีกต่อไป

เมื่อเขาหนีไกลออกไป หลิน ยู ก็ค่อยขมวดคิ้ว ดวงตาของเขากลายเป็นเคร่งขรึม

การโจมตีเมื่อกี้ เขาเล็งไปที่หน้าอกอย่างชัดเจน แต่คู่ต่อสู้สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย

และเขายังสังเกตเห้นอีกด้วยว่าผู้ฝึกตนระดับสูงโดยทั่วไปจะมีพลังป้องกันร่างกายที่แข็งแกร่งเมื่อการโจมตีของเป่าปิง กระทบที่ตัวเขามันก็หยุดลงชะงักลงครู่หนึ่ง

ถ้าหากเข้าเป็นผู้ฝึกตนระดับต่ำ ตัวเขาคงจะถูกระเบิดออกเป็นเศษนับไม่ถ้วนไปแล้ว

ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถวัดพลังเหล่าผู้ฝึกตนจากค่าสถานะพื้นฐานได้

นอกจากนี้ยังต้องคำนวนถึงบัพต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย

"ไปกันเถอะ"

หลักจากกล่าวกับ มังกรราชาปิศาจที่อยู่ด้านล่างเขาก็หันหลังกลับบินไปยังเกาะลอยฟ้า

ถนนด้านล่างกลายเป็นเงียบสงัด

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นฉากตรงหน้าจ้องมองไปยังทิศทางที่เขาหายตัวไป

"แม่เจ้า..."

ผู้ฝึกตนหลายที่อยู่ในท่าต่อสู้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายดังเฮือก

"ข้า.. นี้ข้าไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม ผู้ฝึกตนระดับ 9 ถูกสังหารอย่างนั้นเหรอ?"

"ชั่งเป็นการโจมตีที่ทรงพลังจริงๆ! ตอนนั้นข้าแทบจะหายใจไม่ออก"

"การโจมตีแบบไหนกัน ถึงได้น่าหวาดกลัวขนาดนั้น!"

"ข้าเห็นเพียงลำแสงสีแดงวาบหนึ่ง จากนั้นชายคนนั้นก็ตายลง"

"สองคนนั้นไปยุ่งกับคนที่ควรยุ่งเข้าแล้ว"

เกิดการโต้เถียงกับบนท้องถนน

ทุกคนตกตะลึงกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันในตอนนั้น

มีผู้คนจำนวนมากมาจากกองกำลังอื่นเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

แต่พวกเขานั้นไม่รู้

ว่าในเวลานี้ ชายชราระดับ 9 ที่หลบหนีได้กลับมายัง หอการค้าว่านเป่าโหลว แล้ว เขาเข้าไปรายงานสถานการณ์

"ขยะ! ข้าให้เจ้าไปเชิญเขามาไม่ใช่ไปล่าสังหารเขา! ดูสิ่งที่พวกเจ้าทำลงไปซิ!!"

ใบหน้าของ จี้ หงฝู ซีดเซียว เขามองไปยังชายชราที่คุกเข่าตรงหน้าเขา คำรามเขาทันทีเสียงของเขาดังก้องไปทั่วห้องโถง

หากเขาไม่ได้ทำงานให้กับ ว่านเป่าโหลวมานานแล้ว เขาจะเก็บเจ้าบอดแบบเช่นนี้ไว้ได้อย่างไรกัน

"คุณชายรองได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย พวกเราไม่รู้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนั้น"

ชายชรากล่าวอย่างเชื่อฟังไม่กล้าที่จะโต้แย้งเขาแม้แต่น้อย

"ไม่รู้งั้นเหรอ เลิกแก้ตัวด้วยคำพูดเดิมๆซักที!" จี้ หงฝู ตบไปที่ๆรองแขน

หัวใจของชายชราดิ่งลง เขาเงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวัง "ถ้าอยากนั้น... พวกเราควรจะทำอย่างไรดีขอรับ"

"จะให้ข้าทำอะไรได้? เจ้าจงไปขอโทษเขาซะ! หากไม่ได้รับการให้อภัยก็อย่าได้กลับมาอีก!"

จี้ หงฝู เต็มไปด้วยความเกียจชังในใจของเขส

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเขาที่จะตรวจสอบตัวตนของ "ผู้สูงศักดิ์" ที่อยู่เบื้องหลังของ หอการค้าชิงฟางเก่อ

คนที่เขาคิดว่าสร้างสัมพันธ์ด้วย แต่ลูกน้องสองคนของเขากับทำให้เรื่องทุกอย่างพังลง

แน่นอนว่าช่วงเวลาของเขาได้หมดลงทันที แม้เขาจะพูดแก้ตัวออกมาแต่เมื่อพูดออกได้เพียงครึ่งคำมันก็ทำให้เขาโกรธอย่างมาก

หากไม่ใช่เพราะเจ้านี้ทำงานกับเขามานาน เขาก็คงสังหารมันไปแล้ว

....

อีกด้านหนึ่ง

หลิน ยู นั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหอการค้าว่านเป่าโหลว

ในเวลานี้ เขาได้กลับยังดินแดนของตัวเองด้วยแท่นเทเลพอร์ตของเกาะลอยฟ้า

การเดินทางในครั้งนี้ได้อะไรกลับมามากเลยทีเดียว

ไม่ต้องพูดปัญหาการโดนสะกดรอย เขานั้นยังได้รับเทวรูปเทวะมาอีกด้วย

นอกจากนี้เขาได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าเอลฟ์พวกเขามอบสินค้าพิเศษของเผ่าเอลฟ์ให้กับเขาตั้งมากมาย

ตอนนี้เขาแค่ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ของฝั่ง มากอร์น นั้นเป้นอย่างไรบ้าง มันจะเป็นไปได้ด้วยดีหรือไม่

เดิมที เขาต้องการไปเยือนอาณาจักรคนแคระด้วยซ้ำ

แต่เมื่อคิดดูแล้วว่าเขานั้นเป็นคนต่างเผ่าพันธ์ มันจึงไม่ง่ายที่จะเข้าแทรกแซงการต่อสู้ภายในของคนอื่น ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกแผนนี้ไปในที่สุด

อีกอย่างหนึ่งคือการหลอมรวมพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มหาปุโลหิตพูดถึง

เขาไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนในร่างกายของเขาเลยในตอนนี้

หรือว่ามันมีบางอย่างผิดพลาด?

เมื่อคิดได้อย่างนั้น เขาก็เริ่มตรวจสอบร่างกายของและสิ่งต่างๆที่อยู่บนร่างกายเขาอย่างจริงๆ เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติไปหรือไม่

"หือ! นี้มันอะไรกัน?"

ทันใดนั้นหลิน ยู ก็ตกตะลึงไปในทันที

เขาค้นพบว่าต้นกำเนิดธรรมชาติที่อยู่กระเป๋ามิติของเขาดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเมื่อก่อน

"ดูเหมือนมันจะใหญ่ขึ้น!?"