บทที่ 215 ลอบโจมตี!
เฉินฟานสวมหน้ากากอีกครั้ง สะพายธนูแล้วพูดว่า "ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ลุงจาง ในเมื่อข้าตัดสินใจทำสิ่งนี้แล้วนั่นคือข้ามั่นใจอย่างยิ่ง ท่านกลับไปรอข่าวดีจากข้าก่อน และสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่นี่ ขอให้ท่านเก็บเป็นความลับไม่ให้พ่อข้ารู้”
หลังจากพูด ร่างของเขาก็หายไปทันที
“เสี่ยวฟาน ระวังตัวด้วย”
ดวงตาของจางเหรินชื้นขึ้น เขามองไปยังทิศทางที่เฉินฟานกำลังจะจากไป และพูดอย่างไม่เต็มใจ
ผู้อเวคระดับ C นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในเมืองอันชาน แต่ละคนนั้นรับมือยากอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกวนเต๋อซี เขาสามารถควบคุมนักรบเหมือนกับการเล่นเกม
ดังนั้นนอกจากเขาแล้ว ยังมีกลุ่มนักรบที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งอีกกลุ่มหนึ่งที่อุทิศตนเพื่อเขาด้วย
เฉินฟานคนเดียว เขาเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาจริงๆหรือ?
เขากำหมัดแน่นลังเลอยู่ว่าควรติดตามไปหรือไม่ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็คลายมือออก ตอนนี้การติดตามเขาไปก็จะไม่มีผลอะไรนอกจากไปถ่วงแข่งถ่วงขาของเขาเท่านั้น
เขาทำได้เพียงแค่อธิษฐานในใจเท่านั้น
ในเฉินเจียเป่า
บนหอสังเกตการณ์ มีร่างสองหรือสามร่างมองเข้าไปในระยะไกลผ่านกล้องส่องทางไกลโดยไม่กระพริบตา
น่าเสียดายที่ขอบเขตของกล้องส่องทางไกลนั้นมีจำกัด และพวกเขาไม่เห็นอะไรนอกจากความว่างเปล่าไม่มีที่สิ้นสุด
“จางเหรินออกไปนานแล้ว และเขายังไม่กลับมา..คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาใช่ไหม?” มีคนพูดอย่างกังวลหลังประตู
“ไม่ต้องกังวล ตาเฒ่าจางมีพลังมากที่สุดในหมู่พวกเรา และเขาระมัดระวังมาก ดังนั้นจะเกิดอะไรขึ้นได้ยังไง?”
“ใช่ รออยู่ที่นี่สักพัก แล้วเขาจะกลับมาแน่นอน”
หลายๆคนก็ปลอบใจกัน
“ใช่แล้ว! เขากลับมาแล้ว!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงประหลาดใจจากหอสังเกตการณ์
“จางเหรินสบายดีหรือเปล่า? เขาได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?” เฉินกัวตงถามอย่างเร่งรีบ
“ไม่ เขายังคงเหมือนเดิม เขาเข้าใกล้มาแล้วเราจะไปที่ประตูกัน”
สิ้นเสียงก็มีร่างๆหนึ่งปรากฏขึ้นที่ประตู
เมื่อเห็นว่าจางเหรินกลับมาอย่างปลอดภัย เฉินกัวตงและกู่เจียงไห่ซึ่งรวมตัวกันอยู่ที่ประตู ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และคนที่อยู่ล้อมรอบพวกเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาทีละคน
“ตาเฒ่าจาง เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อมองดูความกังวลในสายตาของทุกคน จางเหรินก็นึกถึงสิ่งที่เฉินฟานพูดก่อนจะจากไป และส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม "ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินผิด จริงๆ แล้วสถานที่ที่ยิงปืนใหญ่อยู่ในซ่งเจียเป่า เจ้าหน้าที่ของพวกเขากำลังซ้อมยิงเป้าที่เป้าหมายอยู่เยื้องมาทางเฉินเจียไจ้ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงดูเหมือนจะใกล้เราอย่างมาก”
"อย่างนั้นหรือ"
“เยี่ยมมาก ข้ากลับคิดว่ามีคนโจมตีเฉินเจียไจ้ของเราด้วยปืนใหญ่เสียอีก”
“ก็ใช่แล้ว จะมีใครโกรธแค้นเราถึงขนาดต้องโจมตีเราด้วยปืนใหญ่ด้วยล่ะ? เมื่อกี้เรายังคุยกันอยู่เลย ถ้าเราไม่ย้ายมาที่นี่ สถานะการณ์อาจจะเลวร้ายจนไม่อยากจินตนาการ”
"ฮ่าฮ่าๆๆ เช่นนั้นพวกเราก็คาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ผิดพลาดไป ข้าจะกลับล่ะ พวกท่านทุกคนก็แยกย้ายกันได้แล้ว" เว่ยเทียนหยวนพูดออกมาอย่างอดไม่ได้
"ใช่ แยกย้ายกันเถอะ" เว่ยเทียนกงยิ้ม
"อืม"
จางเหรินพยักหน้าและถอนหายใจภายใน
จริงๆแล้วผลลัพธ์ก็เหมือนกันไม่ว่าพวกเขาจะรู้หรือออกไปสู้ช่วยหรือไม่ก็ตาม
หากเฉินฟานสามารถชนะได้ แน่นอนว่าทุกคนจะต้องมีความสุข หากเฉินฟานแพ้ผู้อเวคคนนั้น ผู้อเวคคนนั้นก็จะตามหาพวกเขา และมันก็ไร้ประโยชน์ที่จะให้พวกเขาไปซ่อนตัว
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องบอกคนในหมู่บ้านเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ มันไม่มีความหมายนอกจากจะทำให้พวกเขากลัว
“ตาเฒ่าจาง เขามีบางอย่างซ่อนไว้จากเรา” ระหว่างทางกลับจู่ๆเว่ยเทียนกงก็พูดอะไรบางอย่าง
เฉินกัวตงและคนอื่นๆ ต่างตกใจ
“พี่ชาย ท่านรู้ได้อย่างไร” เว่ยเทียนหยวนถามอย่างสับสน
“เจ้าไม่เห็นเหรอว่าเบ้าตาของเขาแดงนิดหน่อย”
เว่ยเทียนกงหันกลับมาถาม
“ใช่ ดูเหมือนจะแดงเล็กน้อยจริงๆ เหรอ?” กู่เจียงไห่ขมวดคิ้ว
“เป็นไปได้ไหมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อย่างที่เขาพูด?”
“เกิดอะไรขึ้นหรือป่าว?ทำไมเขาถึงเก็บเรื่องนี้ไว้จากเรา?เราทุกคนต่างก็รู้จักกันดี ดังนั้นเขาน่าจะสามารถบอกเราได้ว่าเกิดอะไรขึ้น” พวกเขาหลายคนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“ข้าไม่รู้ บางทีเขาอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้”
เว่ยเทียนกงยิ้มอย่างเบี้ยว "แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ทำร้ายเราอย่างแน่นอน ดังนั้นก็แค่ทำตามที่เขาพูดก็พอ"
"..."
หลายคนชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ในที่สุดก็พยักหน้า
…..
"แคร้ก!"
ในห้องอันเงียบสงบ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ชายหน้าเหลี่ยมบีบโทรศัพท์ในมือจนแตกหัก ความโกรธในดวงตาของเขาก็พุ่งออกมา
ซ่งไห่หลงคนนี้ช่างกล้าจริงๆ คิดว่าพูดดีกับเขาแล้วจะทำให้ความโกรธของเขาบรรเทาลงได้ และหลังจากที่เขาไปถึงซ่งเจียเป่า เขาก็ปล่อยให้เขามีชีวิตงั้นหรือ?
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
หากน้องชายของเขาตายจริงๆ ชาวซ่งเจียเป่าทั้งหมดก็จะถูกฝังไปพร้อมกับเขา!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนออกไปข้างนอก
"ใครอยู่ข้างนอก?!"
ทันทีที่คำพูดดังกล่าวดังขึ้น เสียงแสดงความเคารพก็ดังขึ้นนอกประตู
“นายท่านเกิดอะไรขึ้น?”
“เรียกทุกคนพร้อมอาวุธครบมือให้มารวมตัวกันที่สนาม”
"รับทราบ"
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ชายหกคนก็ยืนอยู่ที่ลานบ้านและฉินเย่อซึ่งเคยพบกับเฉินฟานครั้งหนึ่งก็อยู่ในหมู่พวกเขาด้วย
ทั้งหกมองไปข้างหน้าด้วยความคาดหวังและงุนงงเล็กน้อย
ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าและกวนเต๋อฮวาก็เดินออกมา
“นายท่าน ทุกคนมาถึงแล้ว ท่านมีอะไรให้พวกเรารับใช้” ชายผู้นำกลุ่มพูดขึ้นด้วยแววตาเป็นประกาย
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอีกทั้งห้าคนด้วย เช่นเดียวกับแฟนคลับที่คลั่งไคล้การพบปะกับไอดอลของพวกเขา
กวนเต๋อฮวาเหลือบมองคนทั้งหกที่อยู่ที่นี่และพยักหน้าเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อเวค แต่ให้พูดตามจริงคือเขาไม่ใช่ประเภทการต่อสู้ และโชคดีที่เมื่อเปรียบเทียบกับผู้อเวคที่ไม่ใช่สายการต่อสู้คนอื่นๆ ความสามารถของเขาคือการควบคุมจิตใจ
ทั้งหกคนนี้คือนักรบที่เขาฝึกฝนอย่างระมัดระวัง แต่ละคนเป็นนักรบในขอบเขตการกลั่นชีพจร และมีบางคนที่ยังอยู่ในระยะกลางของขอบเขตการกลั่นชีพจรด้วยซ้ำ พวกเขาทั้งหมดมีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธเย็นและมีพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างมาก
แม้แต่สำหรับผู้อเวคระดับ C คนอื่น ๆ ในเมืองอันชาน หากหนึ่งในคนเหล่านี้เข้าใกล้ พวกเขาก็ยังมีความเสี่ยงสูงที่จะพ่ายแพ้
แต่คนเหล่านี้ภักดีต่อเขา แม้ว่าเขาจะบอกให้คนเหล่านี้ตายในเวลานี้ คนเหล่านี้จะไม่ลังเลเลย แต่จะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่มีเกียรติอย่างยิ่งด้วยซ้ำ
"ดี"
เขาพ่นคำพูดออกมา จากนั้นเขาก็มองไปที่บ้านพักที่อยู่ไม่ไกลที่เป็นบ้านของน้องชายของเขา และรูม่านตาของเขาก็หดตัวลง
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าน้องชายของเขาต้องตายแบบนั้น แต่แม้ว่าซ่งไห่หลงมีความกล้ามากกว่านี้สิบเท่า เขาก็ไม่กล้าโกหกตัวเองเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงต้องออกไปจัดการด้วยตัวเองทันที ยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น หากเขาพบว่าเต๋อซีตายจริงๆ หลังจากไปถึงซงเจียเป่า เขาจะต้องฆ่าซ่งไห่หลงและคนของเขาทั้งหมด จากนั้นกลับมาถามเหมิงซิวถึงตัวตนของฆาตกร
ในเวลานั้น คนที่กล้าฆ่าน้องชายของเขา แม้ว่าเขาจะหนีไปสุดขอบโลกก็ตาม จะต้องตามหามันให้พบและทำให้มันอยู่ก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้!
"ไปที่ซ่งเจียเป่ากันเถอะ"
"รับทราบครับ!"
ทั้งหกพูดออกมาพร้อมกัน
ไม่มีใครถามว่าต้องทำอะไร เพราะพวกเขารู้ว่าต้องเชื่อฟังคำสั่งของผู้ยิ่งใหญ่โดยไม่มีเงื่อนไขอะไร
ร่างหกร่างล้อมรอบกวนเต๋อฮวาตรงกลางและพุ่งไปตามถนนบนภูเขา
และบนยอดเขาในบ้านพักที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาซึ่งแม้แต่สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ก็ปิดกั้นด้วยซ้ำ
บนชั้นสองนั้นมีหญิงชราผมขาวที่กำลังมองดูฉากนี้ผ่านหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสบานใหญ่พร้อมกับยิ้งเยาะเย้ยที่มุมปากของเธอ
คนเหล่านี้ไม่รู้ว่ากำลังวิ่งไปสู้อเวจี
ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็แสดงความคาดหวัง บางทีอาจใช้เวลาไม่นานก่อนที่เธอจะได้อิสรภาพกลับคืนมา
ร่างของกวนเต๋อฮวาและคนอื่นๆ รวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ พวกเขารีบออกจากประตูเมืองในพริบตาและพุ่งตัวออกไปในระยะไกล
ฉินเย่อที่อยู่ด้านหลังทีมไม่ลืมที่จะมองด้านหลังก่อนที่จะละสายตาไป
ช่างมันเถอะ ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นอยู่ต่อไปอีกสักหน่อย เพราะยังไงก็ตาม..เขาจะกลับมาเร็วๆ นี้
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที พวกเขาทั้งหมดก็เดินไปเกือบครึ่งหนึ่งของระยะทางแล้ว
เมื่อเห็นว่าอีกไม่นานก่อนที่เขาจะไปถึงซ่งเจียเป่า อารมณ์ของกวนเต๋อฮวาก็เริ่มกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาคิดเข้าข้างตัวเองว่า บางทีซ่งไห่หลงกำลังโกหกตัวเองอยู่หรือป่าว? แม้ว่าสิ่งนี้จะดูเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะ?
ในกรณีที่…
ในขณะนั้นเองขนทั่วร่างกายของเขาก็ลุกชูชันขึ้น และความรู้สึกที่อันตรายอย่างยิ่งก็เข้ามาในใจของเขา
"ฟิ้ว!"
มีการเคลื่อนไหวผ่านอากาศมาทางด้านซ้าย
ลูกศรยาวเกือบสองเมตรที่มีความหนาอย่างมากจนราวกับอสรพิษตัวเขื่องสีดำได้มาถึงหน้าเขาในพริบตา มันพุ่งมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงอย่างมาก
"แคร้ง!"
มีเสียงที่คมชัดดังขั้น
ทันใดนั้น โล่ป้องกันหนาก็ปรากฏขึ้นบนด้านหน้าระหว่างลูกธนูกับตัวของกวนเต๋อฮวา เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกธนูเคลื่อนไหวมาข้างหน้าได้
"นั่นคืออะไร..?"
ในระยะไกลนั้น เฉินฟานมองดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ
เขาเดาได้อย่างคลุมเครือว่าบุคคลที่ปกป้องโดยฉินเย่ และคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงกลางคือกวนเต๋อฮวา ดังนั้นเขาจึงเล็งไปที่เขาก่อน
ผลก็คือลูกธนูที่ราวกับไม่เคยพลาดเป้าของเขานั้น จู่ๆก็ถูกปิดกั้นด้วยโล่ป้องกันบางอย่างที่คล้ายฝาครอบพลังงานใช่ไหม?
"มีการลอบโจมตี!"
“ปกป้องท่านกวน!”
หลายคนรอบๆ ก็สังเกตเห็นฉากนี้ด้วยสีหน้าตกใจและตื่นตระหนก
พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าลูกธนูถูกยิงมาที่ไหนและเมื่อไหร่ พวกเขาสังเกตเห็นเฉพาะเมื่อตอนที่มันเข้ามาใกล้แล้วเท่านั้น
“ไปฆ่านักธนูคนนั้นซะ!”
กวนเต๋อฮวากัดฟัน และในขณะที่เขาพูด เขาก็คว้าลูกธนูที่เสียบอยู่ในโล่ออกอย่างรวดเร็ว คำรามออกมาแล้วโยนลูกธนูไปด้านข้าง
"ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าจะมีไพ่ตายกี่อย่าง"
เฉินฟานแสดงการเยาะเย้ยที่มุมปากของเขา จากนั้นก็ดึงลูกธนูสามดอกออกมาและเล็งไปที่กวนเต๋อฮวาอีกครั้ง
เขาต้องการดูว่าคู่ต่อสู้สามารถบล็อกลูกธนูของเขาได้หรือไม่
พร้อมกับเสียงตัดผ่านอากาศอย่างรุนแรง ระยะทางหนึ่งกิโลเมตรก็ถูกลูกธนูย่นในทันที
"ปกป้องนายท่าน!"
คนสองคนที่อยู่ข้างหน้าเห็นการเคลื่อนไหวของเฉินฟาน และก่อนที่พวกเขาจะพูดจบประโยค ลูกธนูก็มาอยู่ข้างหน้าพวกเขา
"อะไร!"
เปลือกตาของกวนเต๋อฮวากระตุกอย่างรุนแรง และความรู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงอย่างยิ่งก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา
จากนั้นเขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป และพูดสองคำในใจอย่างเงียบ ๆ ชั่วครู่ต่อมา เขาก็หายตัวไปจากที่ที่ยืนอยู่
มี "ซวบ"
ลูกธนูพุ่งต่อไปอย่างไร้เป้าหมาย
"เขาหายตัวไปงั้นหรือ?"
เฉินฟานขมวดคิ้ว
เขาจำได้ว่าลุงจางบอกว่าผู้อเวคมักจะมีสิ่งของที่คล้ายวาร์ปหรือการเคลื่อนย้ายมิติที่สามารถใช้หลบหนีได้ หรือว่ากวนเต๋อฮวาจะใช้สิ่งนี้?…
……………..
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved