ตอนที่ 440 : ไอเท็มดรอปและลั่วเซิง!

ณ เมืองตะวันสาดแสง โจวโจวกลับมายังวังของลอร์ดของเขาทันทีเมื่อเขากลับมา

ไป่อี้เดินเข้ามาหาเขาและยื่นรายการไอเท็มดรอปในวันนี้ให้กับเขา

โจวโจวมองไปยังรายการไอเท็มดรอป

วันนี้พวกเขาได้จัดการกับคนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ไปถึง 5.25 ล้านคน!

ด้วยอิทธิพลของราชาแห่งการดรอปและสมญานามลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุด เขาจึงได้รับไอเท็มดังต่อไปนี้

ตราดินแดนระดับบรอนซ์เขียว 56 อัน ระดับเงินขาว 21 อัน และระดับทองคำเหลือง 5 อัน!

แกนหมอกระดับแพลตตินั่มขาว 1,207,530 ชิ้น ระดับทองคำเหลือง 6,547,950 ชิ้น ระดับเงินขาว 15,109,600 ชิ้น และระดับบรอนซ์เขียว 21,261,250 ชิ้น!

หนังสือทักษะ 15,409,650 เล่ม และอุปกรณ์สวมใส่ 26,009,655 อัน!

วัสดุพื้นฐาน 5.15 พันล้านหน่วย!

ชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียว 4,160 อัน และระดับเหนือสามัญ 6 อัน!

ลูกแก้วพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหนือสามัญ 1 อัน และลูกแก้วพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียว 1 อัน!

นอกเหนือจากไอเท็มดรอปแล้ว การเดินทางครั้งนี้ยังทำให้ทหาร 611,280 คนเลื่อนระดับ!

หลังจากนั้นเขาก็เดินผ่านประตูชัยอีกครั้ง และจำนวนคนที่เลื่อนระดับก็เพิ่มขึ้นเป็น 701,001 คนทันที!

มันเหลืออีกแค่ 60,000 กว่าคนเท่านั้นที่ยังไม่ได้เลื่อนระดับ!

ส่วนคน 701,001 คนที่เลื่อนระดับนั้น มันมี 51,255 คนที่เลื่อนระดับเป็นระดับเหล็กดำขั้นกลางและขั้นสูง!

96,435 คนเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับบรอนซ์เขียว!

233,493 คนเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับเงินขาว!

161,024 คนเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับทองคำเหลือง!

116,502 คนเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับแพลตตินั่มขาว!

23,660 คนเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับเพชร!

1 คนเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับเหนือสามัญ!

ส่วนมาริสก็เลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง และออกุสต์ก็เลื่อนระดับเป็นระดับแพลตตินั่มขาวขั้นกลาง

ในบรรดาทหารของเขา มันมีทหารระดับเหล็กดำ 51,255 คน ระดับบรอนซ์เขียว 158,904 คน ระดับเงินขาว 223,760 คน ระดับทองคำเหลือง 183,943 คน ระดับแพลตตินั่มขาว 154,522 คน ระดับเพชร 24,549 คน และระดับเหนือสามัญ 16 คน!

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

เขามียอดฝีมือระดับเพชรกว่า 24,000 คนแล้ว!

นี่น่าจะเกินกว่าจำนวนขุมกำลังระดับเพชรในอาณาจักรขั้นต้นแล้ว!

ด้วยความแข็งแกร่งในระดับนี้ ดินแดนตะวันสาดแสงในตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างอาณาจักรขั้นต้นทั่วๆ ไปได้

สิ่งที่ทำให้โจวโจวประหลาดก็คือในบรรดาทหารมนุษย์ของเขา ในที่สุดก็มีทหารที่ไม่ใช่ผู้กล้าหรือผู้มีพรสวรรค์จากคะแนนชื่อเสียงที่ทะลวงระดับขึ้นเป็นระดับเหนือสามัญขั้นต้นแล้ว

โจวโจวเปิดข้อมูลของคนผู้นี้ขึ้นมาดู เขาพบว่าชื่อของคนๆ นี้คือลั่วเซิง และเขาก็เป็นนักดาบโล่

เขามาที่เมืองตะวันสาดแสงและกลายเป็นชาวเมืองตะวันสาดแสงก่อนที่จะกลายมาเป็นทหารอย่างนักดาบโล่ด้วยความช่วยเหลือของดินแดน จากนั้นด้วยศักยภาพที่สูงมากและความช่วยเหลือจากพรแห่งเทพสงคราม ความแข็งแกร่งของเขาจึงพุ่งทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากระดับเหล็กดำขั้นต้นมาสู่ระดับเหนือสามัญขั้นต้น!

นอกจากนี้เขายังเป็นทหารดาบโล่ที่มีความดีความชอบเกิน 100,000 ตามที่โจวโจวตั้งไว้เพื่อใช้แลกเปลี่ยนคู่มือลับมรดกผู้กล้าที่ตั้งไว้ในระบบแลกเปลี่ยนความดีความชอบ!

ในเวลานั้นเอง โจวโจวก็มองไปยังความดีความชอบของอีกฝ่าย เขาพบว่าอีกฝ่ายมีความดีความชอบถึง 125,460 แล้ว!

จากนั้นเขาก็มองไปยังบันทึกการแลกเปลี่ยน

เขาพบว่าอีกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมรดกผู้กล้าของแม่ทัพเทพภูตผีไปแล้ว

“คนผู้นี้ช่างมีพรสวรรค์จริงๆ”

โจวโจวยิ้มออกมา

เมื่อเขาตั้งค่าการแลกเปลี่ยนนี้ไว้ในอดีต เขาก็รู้สึกว่ามันมีโอกาสสูงที่จะมีดาวรุ่งได้รับมรดกผู้กล้าอันนี้ไป ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะอีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งในระดับเหนือสามัญขั้นต้นแล้ว และด้วยศักยภาพอันน่าทึ่งของเขา เขาก็น่าจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพของผู้กล้าระดับเหนือสามัญออกมาได้!

เขาคิดอยู่ชั่วขณะและตัดสินใจเรียกแม่ทัพในอนาคตของเขาผู้นี้เข้ามาพบ นอกจากนี้ยังมีอีกคนที่เขาจะมอบมรดกผู้กล้าของปีศาจศรวิญญาณเหมันต์ที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้ให้ด้วย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็เรียกอาลีย่าและแอทลีย์เข้ามา

“อาลีย่า ไปที่กองทัพตะวันสาดแสงและไปตามทหารที่มีชื่อว่าลั่วเซิงเข้ามา แอทลีย์ ไปเรียกอู๋ตู่เข้ามาด้วย”

โจวโจวกล่าว

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

ทั้งสองคนกล่าวด้วยความเคารพและจากไป

หลังจากนั้นไม่นาน อู๋ตู่และลั่วเซิงก็เดินเข้ามาหาโจวโจว

“คาราวะท่านลอร์ด!” x2

ทั้งสองกล่าวออกมาด้วยความเคารพ

โจวโจวพยักหน้าและมองไปยังชายหนุ่มที่มีชื่อว่าลั่วเซิง

เขาดูเหมือนจะอายุแค่ 17-18 ปีเท่านั้น เขาสวมชุดเกราะของทหารดาบโล่ระดับเหนือสามัญขั้นต้น เขามีรูปร่างผอมเพรียว ผิวขาว และหล่อเหลา เขาดูจริงจังมาก

ใครที่ได้เห็นเขาก็คงจะต้องชมว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา

สิ่งที่ทำให้โจวโจวประหลาดใจก็คือนอกจากอีกฝ่ายจะมีดาบและโล่อยู่ที่ด้านหลังแล้ว เขายังมีง้าวอีกอันด้วย

“เจ้าเชี่ยวชาญในการใช้ง้าวงั้นเหรอ?”

โจวโจวถาม

“รายงานท่านลอร์ด ครอบครัวของข้าอยู่ในกองทัพมาหลายชั่วอายุคนแล้ว อาวุธที่ข้าถนัดที่สุดก็คือง้าว นอกจากนี้ท่านพ่อยังได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาง้าวสยบอสูรให้กับข้าด้วย นอกจากนี้ข้ายังได้ฝึกฝนอาวุธประเภทอื่น แต่มันก็ไม่มีอันไหนที่แข็งแกร่งเท่ากับเคล็ดวิชาง้าวประจำตระกูลของข้า”

ลั่วเซิงรายงาน

“งั้นเจ้าก็น่าจะเหมาะสมกับมรดกผู้กล้าอันนี้มากเลย”

โจวโจวยิ้ม

อาวุธที่แม่ทัพเทพภูตผีใช้ก็คือง้าว!

“ขอรับ!”

ลั่วเซิงไม่ได้พูดประจบแต่ก็นอบน้อม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ แต่มันก็ยังมีความรักและความปรารถนาในมรดกผู้กล้าอยู่

เขาได้ฝึกฝนวรยุทธ์และอ่านตำราศึกมาตั้งแต่ยังเด็กภายใต้การดูแลของผู้อาวุโส พรสวรรค์ในสนามรบของเขาเริ่มแสดงออกมาตั้งแต่ยังเล็กแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ตั้งแต่เด็กว่าพรสวรรค์ของเขาในสนามรบเกินกว่าคนทั่วไปแล้ว!

ต่อมาเขาค่อยๆ เติบโตขึ้นและได้สัมผัสกับเรื่องในสนามรบมากขึ้น เขาจึงรู้สึกเป็นเหมือนกับปลาที่ได้ว่ายในบ่อน้ำ

ผู้อาวุโสในครอบครัวของเขาประหลาดใจมากในความสามารถของลูกหลาน ดังนั้นพวกเขาจึงเลี้ยงดูเขาด้วยพลังทั้งหมดที่มี

และเขาก็ไม่ทำให้ผู้อาวุโสเหล่านั้นผิดหวัง

เมื่อเขาอายุได้ 14 ปี เขาก็ได้อำลาครอบครัวและเข้าร่วมกับกองทัพเพียงลำพัง ต่อมาเขาก็ได้สังหารทหารระดับบรอนซ์เขียวไปหลายคนบนสมรภูมิในขณะที่เขายังเป็นคนธรรมดาที่ยังไม่มีอาชีพ!

สิ่งนี้ยิ่งทำให้เขาหยิ่งผยองมากยิ่งขึ้น!

อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นคนที่ฉลาดมาก เขารู้ว่าความเย่อหยิ่งจะทำให้ไปได้ไม่ไกลในกองทัพ ดังนั้นเขาจึงซ่อนความเย่อหยิ่งไว้ในส่วนลึกและขัดเกลาตัวเองในกองทัพ

สี่ปีต่อมา เขาก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่าลอร์ดที่เขาภักดีนั้นได้ลอบส่งกองทัพลับไปฉุดคร่าผู้หญิงมา ดังนั้นเขาจึงสังหารลอร์ดของตนและปลดปล่อยเหล่าผู้หญิงที่ถูกกดขี่ จากนั้นเขาก็ออกจากดินแดนนั้นมา

หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินว่ามีดินแดนอันสงบสุขอยู่ใกล้กับอาณาจักรออโรร่า ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่และกลายเป็นชาวเมืองตะวันสาดแสง