บทที่ 288: ช่องว่างระหว่างขอบเขตที่ข้ามผ่านไม่ได้
เป่ยฉิงซูกังวลมากที่จะไปพบกับซุยเฮ็ง
มันไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใดนอกจากการมอบของขวัญให้กับอาจารย์ของเขา
ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาได้จัดการกับเรื่องสำนักมรณาเก้าสวรรค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
โดยเฉพาะพวกหนังสือ
ย้อนกลับไปในโลกสูญสวรรค์ เป่ยฉิงซูก็รู้ดีว่าสำหรับซุยเฮ็งแล้ว สิ่งที่มีค่าที่สุดในสำนักเซียนโบราณเหล่านี้ก็คือหนังสือที่สืบทอดต่อกันมา
ด้วยเหตุนี้เอง เพื่อจัดระเบียบหนังสือของสำนักมรณาเก้าสวรรค์ เขาจึงได้ระดมศิษย์ทั้งหมดของสำนักมรณาเก้าสวรรค์และจัดหมวดหมู่หนังสือเหล่านี้ให้เป็นระเบียบ
นี่คือของขวัญที่เขาต้องการจะมอบให้กับซุยเฮ็ง
แม้ว่าสำนักมรณาเก้าสวรรค์จะได้เป็นฝ่ายเริ่มยอมจำนนในครั้งนี้และป้องกันไม่ให้เขาได้ต่อสู้ตามที่เขาต้องการ แต่เขาก็ยังมีความสุขมากที่สามารถทำสิ่งนี้ได้
การมอบหนังสือที่คัดแยกมาแล้วให้กับอาจารย์นั้นถือเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที
เป่ยฉิงซูคิดกับตัวเอง
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเขาเดินมาถึงที่ประตูเมือง เขาก็ยิ้มกว้าง เขามีความสุขมากอยู่ในใจ เขากำลังรอคอยที่จะได้รับคำชมจากซุยเฮ็งด้วยซ้ำ
ถึงอย่างนั้น เมื่อเขาเข้ามาใกล้ประตูเมืองและกำลังจะก้าวเข้าไป จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงอันตราย
พรึ่บบบ!
ในการรับรู้ของเป่ยฉิงซู จู่ๆ ความว่างเปล่าโดยรอบก็บิดเบี้ยวราวกับว่าเขาตกลงไปในช่องว่างมิติ
เขามองเห็นได้เฉพาะสถานการณ์ภายนอก แต่คนข้างนอกก็ไม่สามารถมองเห็นเขาที่อยู่ข้างในได้ เขาถูกขังอยู่ในกรงมิติแห่งนี้
“ มันเป็นใครกัน?!” เป่ยฉิงซูตะโกน
ในเวลาเดียวกัน เขาก็มองไปรอบๆ และสังเกตทุกสิ่งที่น่าสงสัย
สิ่งที่เขาเจอตอนนี้ทำให้เขาตกใจ
ในฐานะที่เป็นเซียนอนันต์ทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ขัดเกลากายาเต๋ายุทธ์ เขาก็แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนในขอบเขตเดียวกันที่ใช้แก่นแท้เซียนเพื่อฝึกฝน ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังถูกคุมขังอย่างเงียบๆ ได้
การดำรงอยู่แบบไหนกันที่สามารถทำสิ่งนี้ได้?
ปราชญ์?
อย่างไรก็ตาม ปราชญ์บนดาวชงหยางก็น่าจะถูกปราบโดยท่านอาจารย์ไปหมดแล้วนี่?
ใครกันจะกล้าทำเรื่องแบบนี้?
เป่ยฉิงซูเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว
สิ่งนี้อยู่นอกเมืองลู่หลิงแล้ว ไม่ว่าใครจะโจมตีเขา แต่พวกเขาก็จะต้องถูกอาจารย์ของเขาสัมผัสได้อย่างแน่นอน
ในกรณีนี้ เขาก็จะต้องปลอดภัยสบายดีอย่างแน่นอน
“ ฮ่าฮ่า น่าสนใจ” ในขณะนี้ เสียงหัวเราะที่ดูสูงอายุเล็กน้อยก็ดังออกมาจากอากาศโดยรอบ “ เจ้ายังคงสงบสติอารมณ์ได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ สภาพจิตใจของเจ้าไม่เลวเลย”
จากนั้นชายชราในชุดคลุมสีม่วงหรูหราที่มีผมและเคราสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นในสถานที่แปลกประหลาดแห่งนี้
นั่นคือหมิงเจิน!
เขามองดูเป่ยฉิงซูในตอนแรกด้วยความสนใจเพียงเล็กน้อย แต่กระนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว และสีหน้าของเขาก็ดูงุนงงเล็กน้อย และจากนั้นมันก็เต็มไปด้วยความตกใจ
“ เป็นไปได้ยังไง!”
หมิงเจินดูเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที ร่างของเขาแกว่งไปมาเล็กน้อย และเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้า เป่ยฉิงซูในทันที “ เจ้ากำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาอะไรอยู่? เจ้าไม่ได้ใช้แก่นแท้เซียน แล้วเจ้ากลายเป็นเซียนอนันต์ทองได้ยังไง!”
สำหรับราขาปราชญ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตที่หก ผู้ฝึกตนขอบเขตที่ห้าก็ไม่มีความลับใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา เขามองเห็นสิ่งแปลกๆ ในตัวเป่ยฉิงซูได้อย่างง่ายดาย
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำให้เขาตกใจอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าความรู้ของเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก
มีหนทางที่จะกลายเป็นเซียนอนันต์ทองได้โดยปราศจากแก่นแท้เซียนในระบบสุริยะนี้?
บ้าบอ!
หมิงเจินจ้องไปที่เป่ยฉิงซูอย่างแน่วแน่และกัดฟัน “ เจ้ากำลังฝึกอะไร! บอกข้ามา! เจ้ากำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาอะไรอยู่? ใครสอนเจ้า? บอกข้ามา!”
เป่ยฉิงซูเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที เขามองไปที่หมิงเจินและเย้ยหยัน “ เจ้านี่เอง เจ้าคือราชาปราชญ์จากอาณาจักรราชันสุริยันสินะ?”
“ เจ้ารู้จักข้าด้วยหรอ?” หมิงเจินตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและพูดเสียงเบาว่า “ ใครให้สิทธิ์เจ้ากล้าถามข้า? ตอบคำถามของข้ามาเดี๋ยวนี้!”
“ ตอบค*ยไรล่ะ!” เป่ยฉิงซูตอบโต้
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ระดมพลังทั้งหมดในร่างกายของเขาในทันทีและฉีดพลังนี้เข้าไปในกำปั้นขวาของเขา เขายกมันขึ้นสูงและทุบมันไปทางหมิงเจิน
ทันใดนั้น พลังปราณและเลือดก็รวมตัวกันเต็มท้องฟ้า!
พลังแห่งแก่นแท้อันไร้ขอบเขตเป็นเหมือนกับมหาสมุทร มันรวมตัวกันเป็นแสงสีทองพร่างพราวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ซึ่งส่องมาจากด้านหลังเป่ยชิงซู มันทำให้เขาดูเหมือนกับเทพโบราณที่ลงมายังโลกมนุษย์
เมื่อเขาต่อยมันออกไป พลังเทวะอันไร้ขอบเขตก็ปะทุขึ้นราวกับท้องฟ้ากำลังพังทลาย
หากอยู่ในโลกภายนอกและไม่ใช่พื้นที่มิตินี้ หมัดนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนสีของโลก มันสามารถหรี่แสงตะวันและดวงจันทราและทำให้สภาพอากาศภายในระยะหนึ่งร้อยลี้เปลี่ยนแปลงไปได้
ถ้ามันทุบลงกับพื้น มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายเมืองลู่หลิงขนาดใหญ่ให้กลายเป็นหลุมลึกไร้ก้นบึ้งในทันที อาฟเตอร์ช็อกจากพลังของมันสามารถกวาดล้างรัศมีโดยรอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยลี้และจะทำลายล้างทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ ลง
นี่คือพลังของเซียนอนันต์ทอง นี่คือพลังของกายาเต๋ายุทธ์ มันเป็นการโจมตีที่ไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีพลังแห่งกฎ และเป็นเพียงการโจมตีด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพอันบริสุทธิ์และดุร้าย
ด้วยร่างกายที่ทรงพลังเช่นนี้ แม้แต่ราชาปราชญ์อย่างหมิงเจินก็ยังรู้สึกใจสั่นและแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
“ ช่างเป็นร่างกายและหมัดที่ทรงพลังอะไรแบบนี้ เหล่าเซียนอนันต์ทองที่ใช้แก่นแท้เซียนอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้ว่าพวกเขาจะรวมกำลังกันเป็นร้อยก็ตาม”
หมิงเจินขมวดคิ้วและตกใจกับพลังที่เป่ยฉิงซูแสดงออกมา เขาตะโกนอย่างเคร่งขรึม “ จะเอาแบบนี้ใช่ไหม?!”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยกมือขวาขึ้นและยื่นนิ้วออกไปเพื่อรับหมัดของเป่ยฉิงซู
มันไม่มีการใช้กฎหรือพลังศักดิ์สิทธิ์ของหัวใจเต๋า
เขาชี้ไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ
บู้มมมม!
หมัดของเป่ยฉิงซูทุบลงมา
ในเวลาเดียวกัน ทะเลแสงสีทองก็ขยายตัวออกไปพร้อมกับหมัดนี้ ด้วยออร่าพลังที่ต้องการจะทำลายล้างทุกสิ่ง มันพุ่งเข้าหาหมิงเจินราวกับดาวตก
การโจมตีดังกล่าวสั่นสะเทือนโลกอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม พลังดังกล่าวก็หยุดลงในทันทีที่มันสัมผัสกับนิ้วของหมิงเจิน
ราวกับว่าน้ำแข็งและหิมะที่ละลายเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น
ทันใดนั้นทะเลแสงสีทองก็พังทลายลง พลังที่สั่นสะเทือนโลกไม่ได้คืบหน้าไปแม้แต่นิ้วเดียวภายใต้นิ้วของหมิงเจิน
ในเวลาเดียวกันกับที่ทั้งสองปะทะกัน เป่ยฉิงซูก็รู้สึกได้ถึงพลังที่ท่วมท้นจากกำปั้นของเขา
นี่เป็นพลังที่แข็งแกร่งกว่าพลังหมัดของเขาหลายพันเท่า ยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วที่มันเพิ่มขึ้นก็ยังรวดเร็วมาก เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหันหนี—
บู้มมมม!
แขนขวาทั้งหมดของเป่ยฉิงซูระเบิด เนื้อของเขาสลายไป และกระดูกของเขาก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน แม้แต่ร่างกายซีกขวาก็ยังพิการ
เนื้อ อวัยวะภายใน และกระดูกของเขาถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด
แม้แต่หนึ่งในสามของศีรษะของเขาก็ยังปลิวหายไป และตาขวาของเขาก็ยังหายไปด้วย
รูปร่างหน้าตาทั้งหมดของเขาในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าน่าสมเพชอย่างหาที่เปรียบมิได้
และนี่เป็นเพียงกำปั้นของเขาที่โดนนิ้วหนึ่งของหมิงเจิน อีกฝ่ายยังไม่ได้โจมตีจริงๆ เลย
“ นี่คือราชาปราชญ์ จุดสูงสุดของขอบเขตที่หกหรอ?!”
เป่ยฉิงซูมองไปที่หมิงเจินซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลด้วยความตกใจ เขาพึมพำว่า “ ท่านอาจารย์พูดถูก ช่องว่างระหว่างขอบเขตใหญ่นั้นเป็นช่องว่างที่ข้ามผ่านไปไม่ได้”
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเขาก็เริ่มเรืองแสงด้วยแสงสีทอง มันเปล่งออร่าเซียนออกมาในขณะที่เขาฟื้นฟูร่างกายที่เสียหายอย่างรวดเร็ว
เป่ยฉิงซูผู้ซึ่งได้ขัดเกลากายาเต๋ายุทธ์มาแล้วนั้นมีเนื้อแท้เซียนทองแล้ว เว้นซะแต่เนื้อแท้เซียนทองนี้จะถูกทำลาย มันก็จะไม่มีทางที่จะฆ่าเขาได้
แม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกโจมตีแหลกเป็นชิ้นๆ แต่เขาก็จะยังสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
“ พลังนั่น! นี่มันแข็งแกร่งกว่าเซียนอนันต์ทองดั้งเดิมด้วยซ้ำ” หมิงเจินตกใจยิ่งกว่าเป่ยฉิงซู
เขามองไปที่แขนเสื้อของเขาและตระหนักได้ว่าแขนเสื้อของเขาก็ถูกถกขึ้นไปหนึ่งนิ้ว
การโจมตีของเซียนอนันต์ทองสามารถทำให้แขนเสื้อของราชาปราชญ์ขยับได้!
นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและไม่เคยได้ยินมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังรู้สึกตกใจ หมิงเจินก็สังเกตเห็นเนื้อแท้เซียนทองที่กำลังซ่อมแซมร่างกายของเป่ยฉิงซูและรู้สึกได้ถึงออร่าเซียนจากมัน
ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจ เขาคิดแต่เพียงว่านี่เป็นลักษณะที่คล้ายกับเมล็ดเต๋าเซียนและสามารถทำให้ผู้คนครอบครองกายาทองไร้เทียมทานได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ
ออร่าเซียนนี้แข็งแกร่งและลึกลับกว่าอย่างเห็นได้ชัด
นี่เป็นวิธีการฝึกตนที่ยอดเยี่ยมกว่าอย่างเห็นได้ชัด!!!
“ เขาไม่เพียงแต่จะมีวิธีหลีกเลี่ยงแก่นแท้เซียนเท่านั้น แต่เขายังมีเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งกว่าของเรา?” หมิงเจินเข้าใจสิ่งนี้ได้ในทันที ในเวลาเดียวกัน หัวใจของเขาก็เต้นรัวและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “ ไม่ดีแล้ว!”
หลังจากค้นพบว่าวิธีการฝึกตนของเป่ยฉิงซูนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ไม่ว่าเซียนอนันต์ทองจะทรงพลังเพียงใด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเอาชนะปราชญ์ได้
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงจะต้องมีปราชญ์อยู่ในเมืองนี้อีกแน่
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าปราชญ์ในเมืองลู่หลิงนั้นก็จะต้องได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาที่แปลกประหลาดและทรงพลังนี้ด้วยเช่นกัน มันทำให้เขามีพลังที่เหนือกว่าพวกเขามาก
แต่จะเป็นอย่างไรถ้าคนในเมืองนั้นไม่ได้เป็นเพียงปราชญ์…?
หมิงเจินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในทันที เขาเปลี่ยนเป็นลำแสงและรีบพุ่งออกไปจากพื้นที่มิติโดยวางแผนที่จะหลบหนีออกไปให้เร็วที่สุด
แต่ในขณะที่เขากำลังจะผ่านกำแพงมิติออกไป เขาก็ชนเข้ากับมันอย่างแรง พลังที่มองไม่เห็นได้กระแทกเขากลับมาที่เดิม มันป้องกันไม่ให้เขาหนีออกไปไหน
“ เป็นไปได้ยังไงกัน!” ใบหน้าของหมิงเจินแสดงออกถึงความเหลือเชื่อ
เขาใช้เคล็ดวิชาลับในการเปิดพื้นที่มิตินี้และควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ แต่กระนั้น ตอนนี้มันก็กลับถูกปลดออกจากการควบคุมของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว?
ในขณะเดียวกันกับที่เขากำลังสงสัยอยู่ จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามา
ชายหนุ่มคนนี้มีนิสัยอ่อนโยนและดูเหมือนจะไม่มีพิษมีภัย
เขามองไปที่หมิงเจินด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็มองไปที่เป่ยฉิงซูแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ เป็นยังไงบ้าง? การต่อสู้กับราชาปราชญ์น่าสนุกไหม?”
ในขณะนี้ เป่ยฉิงซูก็ได้ฟื้นฟูร่างกายของเขาเรียบร้อยแล้ว เขารีบคำนับด้วยความเคารพและกล่าวว่า “ ศิษย์คารวะท่านอาจารย์ ศิษย์ไม่แข็งแกร่งพอและไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคนนี้”
มันคือซุยเฮ็ง
“ แน่นอน หากเจ้าสามารถใช้พลังของเซียนอนันต์ทองเพื่อเอาชนะราชาปราชญ์ได้ กฎของโลกใบนี้ก็อาจจะต้องถูกเขียนขึ้นมาใหม่แล้วล่ะ” ซุยเฮ็งหัวเราะเบาๆ และส่ายหัว เขามองไปที่หมิงเจินที่กำลังระแวดระวัง “ เจ้าคิดจะโจมตีข้าหรอ?”
“ ข้า.. ข้า…” ใบหน้าของหมิงเจินเปลี่ยนเป็นซีดเซียว และเสียงของเขาก็สั่นเครือ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved