ในเวลานั้นเอง เกาเฉียวก็รู้สึกว่ามันมีเพียงดวงตาคู่นี้เท่านั้นในโลกใบนี้
ดวงตาของมันดูเหมือนจะบรรจุไว้ซึ่งความหวาดกลัวขั้นสูงสุดของสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบที่มีต่อแนวคิดเรื่องความตาย!
ร่างของเกาเฉียวแข็งทื่อ
จากนั้นภายใต้สายตื่นตะลึงของซาโคโมะ เกาเฉียวก็เคลื่อนไหวได้อย่างอัศจรรย์
พรสวรรค์–ความตายอันทรงเกียรติ!
ทักษะผู้กล้า–ทวยเทพสนทยา!
พรสวรรค์ความตายอันทรงเกียรติทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเมื่อเขาใกล้ตาย!
ส่วนทักษะผู้กล้าทวยเทพสนทยาทำให้เขาเพิกเฉยต่อบัฟด้านลบทางจิตใจของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้ แม้ว่าจะเป็นของจิตวิญญาณเทพเจ้าก็ตาม!
ยกตัวอย่างเช่นพรั่นพรึงมรณะที่มาจากแนวความคิดเรื่องความตายตรงหน้าของเขา!
สำหรับเกาเฉียว การต่อสู้จนตัวตายกับสิ่งมีชีวิตสายเลือดระดับสูงคือวิธีการตายที่เขาปรารถนาที่สุด
สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่อาจจะกลัวความตายเช่นนี้ แต่เขาก็คิดว่านี่เป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขา!
เขาย่อมไม่กวาดกลัวต่อความตายเช่นนี้
“ฮ่าๆๆ!”
เกาเฉียวหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเขาก็ไม่สนใจรอยเลือดรูปกากบาทบนหัวใจของเขาราวกับว่าเขาไม่รู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังจะหยุดเต้นเลย เขาถือขวานคมกริบเอาไว้และฟันเข้าใส่ซาโคโมะ
ทักษะผู้กล้า—เคล็ดวิชาขวานพิฆาตมังกร!
มังกรในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่เหล่ามังกรเลือดบริสุทธิ์เท่านั้น แต่มันยังหมายถึงทุกสิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดอันสูงสุง!
นี่คือทักษะผู้กล้าที่ใช้ได้กับสิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดระดับสูง! นอกจากนี้มันยังเป็นทักษะต่อสู้ที่ลึกซึ้งมากด้วย!
ซาโคโมะรู้สึกว่าถูกคุกคามเป็นอย่างมากจากทักษะผู้กล้านี้
มันถือดาบคู่เอาไว้และต่อต้านด้วยพลังทั้งหมด แต่มันก็ถูกสะกดเอาไว้ด้วยทักษะการต่อสู้ที่เหนือล้ำกว่าและเห็นได้ชัดว่ามันเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ!
บาดแผลปรากฏขึ้นบนร่างของซาโคโมะมากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของมันไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ในอึดใจต่อมา เกาเฉียวที่ถูกส่งให้กระเด็นออกไปก็ขว้างควานโลหิตในมือของเขาออกมา
ขวานโลหิตเป็นดั่งสายฟ้า และในพริบตา มันก็ฟาดเข้าใส่แขนขวาของอีกฝ่ายและตัดแขนของซาโคโมะทิ้งไป
แม้แต่ซาโคโมะก็ยังอดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดไม่ได้
นี่เป็นเพราะการโจมตีนี้มีผลกับดวงวิญญาณของมันด้วย มันไม่เพียงแต่เฉือนร่างกายของมัน แต่ยังเฉือนดวงวิญญาณของมันไปด้วย ซึ่งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับมันเป็นพันๆ เท่า!
ในเวลานั้นเอง วิกฤตแห่งความตายที่น่าพรั่นพรึงมากก็เข้าปกคลุมหัวใจของมันในทันใด
และจากนั้นมันก็ตระหนักได้ว่าท้องฟ้าได้มืดดับลงไป
หรือถ้าให้ชัดๆ มันได้ตระหนักว่าโลกของมันได้กลายเป็นสีดำ ราวกับว่ามันถูกห่อหุ้มด้วยม่านสีดำมืด
ในโลกอันดำมืดนี้ ซาโคโมะตระหนักได้ว่าการรับรู้ของมันถูกจำกัดเป็นอย่างมาก
และในทันใดนั้นเอง เงาโลหิตร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของมัน
มันคือเทพดาบราคชาซารัตติกาลซวีอัน!
เขาตวัดดาบออกไปเบาๆ เพื่อตัดแขนซ้ายของซาโคโมะ
ซาโคโมะไม่มีเวลาให้คิดเมื่อมันเห็นเช่นนี้ มันรีบควบคุมดาบคู่ดาราทมิฬให้ลอยกลับมาและฟันเข้าใส่ซวีอันที่อยู่ตรงหน้า
ซวีอันที่ถูกโจมตีกลายเป็นเงาโลหิตและหายตัวไป และซวีอันอีกร่างก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของซาโคโมะ จากนั้นก็ตัดขาขวาของมัน
หลังจากซาโคโมะควบคุมดาบคู่ดาราทมิฬให้ลอยกลับมาอีกครั้ง มันก็ตระหนักได้ว่าซวีอันร่างนี้ก็เป็นร่างเงาโลหิตด้วย
ร่างเงาโลหิตของซวีอันปรากฏขึ้นทีละร่างและหายไปอย่างรวดเร็วหลังจากสบั้นส่วนต่างๆ ของร่างกายซาโคโมะไปแล้ว
หลังจากทำแบบนี้ซ้ำๆ ไปถึงครั้งที่เก้า
ดาบที่เก้าของซวีอันก็สบั้นศีรษะของซาโคโมะ
“ตามที่คาดไว้จากสาวกของเทพแห่งความตาย”
ซวีอันพูดออกมาอย่างใจเย็นเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่าย
ม่านรัตติกาลทมิฬที่เขาได้สร้างขึ้นมาได้หายไปแล้ว และเขาก็เห็นเกาเฉียวทำหน้าไม่พอใจเท่าไร
“เจ้าขโมยเหยื่อของข้า มันไม่มีเกียรติเอาซะเลย” เขาพูดออกมาด้วยความโกรธ
อาการบาดเจ็บของเขาได้ฟื้นตัวแล้วด้วยความช่วยเหลือของโลหิตเทวะ
แม้แต่หัวใจของเขาที่หยุดเต้นไปก็เริ่มกลับมาเต้นอีกครั้ง
ซวีอันไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในตอนนี้มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรมหรือเกียรติอยู่ในสายตาของเขาเลย
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการจัดการกับเป้าหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด
ถึงกระนั้น อีกฝ่ายก็แข็งแกร่งจริงๆ แข็งแกร่งซะยิ่งกว่าเขาอีก
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเกาเฉียวได้ทะลวงเยื่อหุ้มสีดำบนร่างกายของอีกฝ่ายก่อนและทำให้เกิดข้อบกพร่องในการป้องกันทางกายภาพของอีกฝ่าย เขาคงไม่สามารถจัดการกับอีกฝ่ายอย่างง่ายดายด้วยสังหารเงาโลหิตได้
มันอาจจะยากมากที่จะบรรลุผลลัพธ์นี้เพราะมันเป็นการป้องกันทางกายภาพที่เกิดจากทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียม
เขาไม่ได้มีทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียมหรือทักษะแห่งกฎเกณฑ์จริงๆ เพื่อใช้รับมือกับมันเลย เขาไม่มีแม้แต่ทักษะผู้กล้าอย่างเคล็ดวิชาขวานพิฆาตมังกรที่ใช้รับมือกับสายเลือดระดับสูงโดยเฉพาะ เขามีแค่ทักษะการโจมตีทั่วๆ ไปเท่านั้น
“ท่านลอร์ดมียอดฝีมืออยู่มากมายจริงๆ”
ซวีอันถอนหายใจออกมา
เมื่อวานเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนตะวันสาดแสงอยู่เลย
มาวันนี้ตำแหน่งนี้ก็ได้เปลี่ยนมือไปแล้ว
แรงกดดันสูงขึ้นเล็กน้อยจริงๆ
เขาไม่ได้พูดอะไรอีกและนำศพของซาโคโมะไปให้กับท่านลอร์ด
สำหรับทหารสองล้านตัวจากกองทัพรัตติกาลเห่าหอน พวกมันก็ได้ถอนตัวกลับไปแล้ว
ความตายของซาโคโมะไม่ได้สูญเปล่าเลย
…
อีกด้านหนึ่ง โจวโจวมองไปยังการแจ้งเตือนเรื่องการสังหารตรงหน้าของเขา
[ลูกน้องของท่าน คนขายเนื้อ—เกาเฉียวและเทพดาบราคชาซารัตติกาล—ซวีอัน สังหารข้ารับใช้วิญญาณแห่งความตายระดับมหากาพย์ขั้นต้น—ซาโคโมะ ได้รับพลังงานเสริมแกร่ง+400,000,000! สามารถเก็บไอเท็มดรอปได้แล้ว!]
[พรแห่งเทพสงคราม: คนขายเนื้อ—เกาเฉียวและเทพดาบราคชาซารัตติกาล—ซวีอันได้รับพลังงานเสริมแกร่งเพิ่มเติม 8,000,000,000!]
[ประวัติผู้กล้าของคนขายเนื้อ—เกาเฉียวและเทพดาบราคชาซารัตติกาล—ซวีอันได้รับการอัพเดต!]
โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ลูกน้องสองคนนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ
หลังจากใช้เทพแห่งความตายจุติแล้ว ความแข็งแกร่งระดับมหากาพย์ขั้นต้นของซาโคโมะก็ได้เพิ่มขึ้นเป็นระดับตำนาน นอกจากนี้มันยังกลายเป็นยอดฝีมือระดับตำนานที่สามารถใช้ทักษะแห่งกฎเกณฑ์เทียมได้ด้วย!
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ยอดฝีมือเช่นนี้ก็ยังถูกสังหารโดยซวีอันและเกาเฉียว
พวกเขาแข็งแกร่งมากจริงๆ ตามที่คาดไว้จากผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียงและคะแนนชื่อเสียงระดับเทวะ!
ในไม่ช้าซวีอันก็นำศพของซาโคโมะมาให้กับโจวโจว และเกาเฉียวก็ตามมาติดๆ
“มันเป็นเพราะข้าไร้ความสามารถเองที่ทำให้กองทัพรัตติกาลเห่าหอนสองล้านตัวหนีรอดกลับไปได้!”
ซวีอันก้มหัวลง
เกาเฉียวเองก็มีปฏิกิริยาด้วยและรีบก้มหัวลงอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าสองคนทำได้ดีมากแล้ว”
โจวโจวยิ้ม
เขาไม่ได้สนใจกองทัพรัตติกาลเห่าหอนสองล้านตัวที่หนีไปได้เลย
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเขาสามารถสังหารกองทัพรัตติกาลเห่าหอนสองล้านตัวได้แต่ซาโคโมะสามารถหลบหนีไปได้แทน เขาก็อาจจะไม่พอใจก็ได้
ทั้งสองคนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
โจวโจวเก็บศพของซาโคโมะมาและเตรียมที่จะเก็บไอเท็มดรอป
จากนั้นเขาก็ลอยออกไปอยู่ตรงหน้าของเหล่าทหารและมองไปยังบาเรียเทพมังกรสีน้ำเงิน
“บาเรียเทพมังกรเวิ้งทะเล… มันช่างเป็นอุปกรณ์ป้องกันเมืองหลวงที่ดีจริงๆ”
โจวโจวพึมพำ
จากนั้นเขาก็มองไปยังราชาแห่งอาณาจักรทาฮันที่กำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าดำคล้ำอยู่ในเมืองหลวง
“ทาฮัน เจ้ามองดูพวกเราตั้งแต่ที่พวกเรามาถึงแล้ว เจ้าดูพอรึยัง?”
โจวโจวพูดอย่างใจเย็น
เสียงของเขาดังก้องไปทั่วรัศมี 50 กิโลเมตร
การรับรู้ของเขาสุดยอดมาก เมื่อเขามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก เขาก็รู้สึกถึงการจ้องมองที่ร้อนรุ่มจากภายในเมืองหลวง เพียงแค่กวาดสายตาดูเขาก็รู้ว่ามันคือราชาแห่งอาณาจักรทาฮันหลังจากได้เห็นข้อมูลของอีกฝ่าย
ราชาทาฮันย่อมได้ยินมัน
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาและมองเขาอย่างเย็นชาเท่านั้น
โจวโจวไม่ได้พูดอะไรอีก
สายตาของเขามองไปยังบาเรียเทพมังกรเวิ้งทะเลอีกครั้ง และหัวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะ
เขาพลิกมือขวาของเขา และธนูระดับเพชรขั้นสูงอันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
จากนั้นเขาก็รั้งคันธนู พลังงานโกลาหลต้นกำเนิดในร่างกายของเขาพุ่งออกมา และก่อตัวขึ้นเป็นลูกศรแห่งความโกลาหลบนธนู
ปัง!
ลูกศรเป็นดั่งสายฟ้าฟาด!
ลูกศรแห่งความโกลาหลได้กลายเป็นลำแสงอันวุ่นวายและพุ่งเข้าใส่บาเรียเทพมังกรเวิ้งทะเลในชั่วพริบตา
เปรี้ยง…
ลูกศรเจาะเข้าไปในบาเรีย
จากนั้นรอยแตกก็แผ่กระจายอย่างรวดเร็วไปทุกทิศทุกทางโดยมีจุดที่ถูกโจมตีเป็นจุดศูนย์กลาง
ครืน…
ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของทุกๆ คน บาเรียเทพมังกรเวิ้งทะเลที่กองทัพรัตติกาลเห่าหอนสองล้านตัวได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อโจมตีอยู่ตั้งนานก็ยังไม่พังทลายลง…
มันกลับแตกสลายลงเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียวเองเหรอ?!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved