ตอนที่ 158 ความเย็นที่สั่นสะท้านไปถึงกระดูก

"มีอะไรกับฉันงั้นเหรอ"

หลิน ยู ไม่สนใจปฏิกิริยาของผู้คนรอบข้างเขาถามออกไปทันที

"นายท่านขอให้ข้านำสิ่งของบางอย่างมามอบให้แก่ท่าน"

เมื่อพูดจบ โจว หยวนเว่ยก็หยิบตราสัญลักษณ์ออกมาจากแขนเสื้อส่งให้หลินยู

"นี้คือ?"หลิน ยู สงสัย

"นี้คือตราประจำตัวของนายท่าน ด้วยของชิ้นนี้ ท่านหลินสามารถมาที่วังของนายท่านได้ทุกเมื่อ เมื่อครู่ท่านหลินรีบร้อนออกมา นายท่านจึงขอให้ข้านำมันมามอบให้ท่าน"

"ดีเลย งั้นฉันไปทำภารกิจก่อน นายกลับไปบอกองค์ชายสามไว้มีโอกาสฉันคงต้องรบกวนด้วย"

หลิน ยู นำตราเก็บไว้ในกระเป๋ามิติของเขา

หลิน ยู ไม่คิดว่า ฉิน ลี่ จะมีความอดทนในการเชิญเขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้

ถึงอย่างไร เขานั้นเป็นเพียงราชันระดับ 6 ที่เพิ่งมาถึงเมืองหลักได้ 2 วัน

เขารับตรามา ต่อหน้าผู้คนมากมาย

ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ เขาก็ถูกเหมารวมแล้วว่าอยู่ฝ่ายองค์ชายสาม มันเป็นการผลักให้เข้าไปอยู่ตรงข้ามกับองค์ชายคนโตและองค์หญิงรอง

นี้คือเรื่องราวทั้งหมด

โจว หยวนเว่ย บอกลาหลิน ยู กับไปรายงานฉิน ลี่

หลิน ยู เดินออกจากห้องโถงภารกิจท่ามกลางสายตาที่จ้องมองของฝูงชน

เมื่อเขาเดินผ่าน เป่ย หยูซาน พวกเขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเขานั้นกำลังสั่น สีหน้าของพวกเขากลายเป็นตื่นตระหนก

จนกระทั่ง หลิน ยู เดินจากไป พวกเขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ขาของพวกเขาอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลงกับพื้น

เมื่อกี้...

คนที่พวกเขาหัวเราะเยาะเป็นเพื่อนขององค์ชายสามงั้นเหรอ?

ไม่ต้องพูดถึงเป่ย หยูซาน

แม้แต่เพื่อนๆของเขาก็รู้สึกเย็นไปถึงกระดูกสันหลัง ตกอยู่ในความหวาดกลัว

ดูจากท่าทีที่ โจว หยวนเว่ย มีต่อ หลิน ยู ในตอนนั้นหากหลิน ยู พูดเรื่องที่พวกเขาทำเมื่อกี้ต่อหน้า โจว หยวนเว่ย เกรงว่าเขาคงไม่มีที่ยืนในจักรวรรดิอีกต่อไป ดีไม่ดีพวกเขาอาจถูกทำลายดินแดนทิ้งด้วยซ้ำ

พวกเขาไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี้ต่อ รีบพากันหนีออกไปจากที่นี้ทันที

หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้

พวกเขาไม่กล้าสร้างปัญหาให้กับหลิน ยูอีกต่อไป

แน่นอนว่า

หากพวกเขายังกล้าสร้างปัญหาให้กับ หลิน ยู อีกเขาก็ไม่รังเกียจสั่งสอนคนเหล่านี้

เพียงแต่มันต้องลงไม้ลงมือกันบ้าง

....

หลังจากเดินออกมาจากถนนสายหลัก

หลิน ยู ไม่ได้หยุดแวะที่ไหน เขามุ่งหน้าไปยังแท่นเทเลพอร์ตที่อยู่ใกล้กับประตูเมือง เทเลพอร์ตกลับไปยังดินแดนทันที

เขาเพิ่งนึกได้ว่ามีบางอย่างที่เขาลืมทำ

นั้นคือการอัพเกรด ชิง กัง ขึ้นสู่ระดับ 7

หลังจากกลับมาถึงดินแดนเขาก็เรียก ชิง กัง และนำลูกบอลค่าประสบการณ์ออกมา 2 ลูก

[ท่านต้องการใช้ลูกบอลค่าประสบการณ์(ระดับ 6) กับนายพลพรายไม้ ชิงกัง หรือไม่]

"ใช่"

ด้วยการตอบสนอง ลูกบอลค่าประสบการณ์ทั้ง 2 ลูกได้หายไปทันที กลายเป็นลำแสงเข้าห่อหุ้มร่างกายของ ชิง กัง

หวืดดด-

ลำแสงสว่างวาบ

[ขอแสดงความยินดีด้วย นายพลพรายไม้ ชิง กัง มีค่าประสบการณ์เต็มแล้ว ตรงตามข้อกำหนดในการอัพเกรดสู่ระดับ 7 คุณต้องการอัพเกรดหรือไม่?]

"อัพเกรด"

ในชั่วพริบตา ร่างกายของ ชิง กังก็ถูกห่อหุ่มด้วยลำแสงจากเดิมที่สูง 10 กว่าเมตร มันค่อยๆเติบโตจนสูงกว่า 20 เมตรไปแล้ว

กิ่งก้านใบไม้ที่อยู่ด้านบนดูเขียวชอุ่มมาก แขนขาของมันหนาขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

ชิงกัง ได้กลายเป็น ภูติไม้สงครามโบราณได้สำเร็จ

ต่อมา

หลิน ยู ให้ชิง กัง เข้าไปเปลี่ยนร่างที่สระน้ำวิวัฒนาการ

หลังจากผ่านขั้นตอนเปลี่ยนร่างแล้ว มันก็ได้กลายเป็นทหารระดับขุนพลเหมือน หลิง ซี และคนอื่นๆ

[ชื่อ : ภูติไม้สงครามโบราณ - ชิง กัง (ราชวงศ์)]

[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา]

[ระดับ : ระดับ 7 (0/2500)]

[ความแข็งแกร่ง : 890]

[ร่างกาย : 890]

[ความว่องไว : 775]

[วิญญาณ : 775]

[สกิล : แข็งตัว , เหยียบย่ำพสุธา , เสียงคำรามแห่งโทสะ (เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธ เพิ่มค่าสถานะของพันธมิตรทั้งหมด 30% เป็นเวลา 30 วินาที) , สนามพลังแรงโน้มถ่วง (ควบคุมพลังแห่งโลก สร้างเป็นสนามพลังแรงโน้มถ่วงรอบตัวมัน ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูช้าลง , เพื่อความเร็วของพันธมิตรในขอบเขต)]

[เจ้าแห่งสนามรบ : เมื่อมีพันธมิตรอยู่ในระยะ พลังป้องกันของทหารระยะประชิดทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20%]

[หมายเหตุ : ภูติไม้โบราณที่มีขนาดใหญ่ตัวมันเกิดมาเพื่อทำสงคราม พุ่งเข้าสู่สนามรบฉีกทำลายแนวป้องกันของศัตรู ตัวมันเป็นเกราะป้องกันทั้งแข็งแกร่งที่สุดก้าวเข้าทำสงครามจากแนวหน้า]

ในที่สุด ชิง กัง ระดับ 7 ก็สามารถนำความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งมาใช้ในการต่อสู้ได้แล้ว

ไม่ต้องพูดสกิลเสียงคำรามแห่งโทสะที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้พวกเขาในเวลาสั้นๆ มันยังมี สนามพลังแรงโน้มถ่วง เพิ่มขึ้นมาจากภูติไม้สงครามโบราณตัวอื่นๆด้วย

อีกทั้งสกิลติดตัวของมันก็ดีมาก ช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้ทหารแนวหน้าได้อย่างมหาศาล เป็นตัวแท๊งที่ยอดเยี่ยมให้กับแนวหลัง

และเมื่อรวมกับพรายไม้กลุ่มใหญ่ที่ถูกเรียกออกมาโดยภูติไม้ธรรมชาติโบราณ ทำให้ความน่ากลัวของมันทวีคูณขึ้นไปอีก

แม้แต่ มังกรราชาปิศาจ มังกรสนมปิศาจ ราชสีห์เงามรณะ หรือแม้แต่ กระบองเพชรยอดนักมวย ก็สามารถได้รับผลของสกิลไปด้วย

"ถ้าอย่างนั้นฉันเสริมพลังนายด้วย มอสหุ้มเกราะกับโล่เต่าหนามเร้นลับ"

หลิน ยู คิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาสั่งให้มอสหุ้มเกราะระดับ 7 ไปเกาะติดกับชิง กัง อีกทั้งยังรวมถึงโล่เต่าหนามเร้นลับอีกด้วย

เพียงชั่วพริบตา ค่าสถานะของ ชิง กัง ก็เพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่าหวาดหวั่น

ทันใดนั้น เขาได้กลายเป็นทหารระยะประชิดที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาไปในทันที

หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว หลิน ยู ก็เทเลพอร์ตกลับไปที่เมืองหลัก

จากนั้นเขาก็พาหลิง ซี และพร้อมกับเหล่ามังกร 2 3 ตัวออกไปจากเมืองบินตรงไปยังสนามรบแนวหน้า ค่อยๆทิ้งเมืองหลักเอาไว้เบื้องหลัง

1 ชั่วโมงครึ่งต่อมา

ในที่สุดเขาก็ข้ามด่านตรวจมาถึงป่าบนภูเขา 40 กิโลเมตรทางใต้ข่างด่าน

มองจากระยะไกล จะสามารถมองเห็นทะเลสาบสีดำขนาดใหญ่ได้

มันเป็นทะเลสาบสีดำที่ได้ถูกกล่าวไว้ในภารกิจ

เขาไม่ได้คิดอะไรมากนัก สั่งให้มังกรราชาปิศาจบินไปที่นั้นทันที

เมื่อบินผ่านภูเขาและป่า เขาเห็นร่างหลายร่างกำลังต่อสู้กันอยู่ในป่า ดูเหมือนว่าจะมีราชันคนอื่นๆล่ามอนสเตอร์อยู่ซินะ

เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น

หลิน ยู เร่งความเร็วบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ออกมาจากป่าได้สำเร็จ มาถึงบริเวณใกล้เคียงของทะเลสาบทมิฟ เขาร่องลงจากชายขอบทะเลสาบ

สายลมหนาวเหนือทะเลสาบพัดกระทบกับใบหน้าของเขา ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ

ทำไมถึงหนาวแบบนี้

"นี้มันน?"

ทันทีที่เขาลงมาถึง หลิน ยู ก็อดที่จะแปลกใจ ไม่ได้คิ้วของเขาค่อยๆขมวดขึ้น

ตามรายการในภารกิจ มันควรจะมีจระเข้ทมิฟอยู่เป็นจำนวนมากรอบๆทะเลสบายทมิฟซิ

แต่ปัจจุบันรอบๆนี้ดูค่อนข้างเงียบสงบไม่มีแม้แต่เงาของปลาซักด้วย ไม่ต้องพูดถึงจระเข้เลย

หรือว่ามีกลุ่มราชันมาล่าพวกมันไปแล้ว?

หรือว่าเขามาผิดที่กัน?

หลิน ยู กระโดดลงจากหลังของ มังกรราชาปิศาจ ค่อยๆเดินมาที่ทะเลสาบ

ไม่ว่าสายตาของเขาจะมองไปทางไหน มันก็มีแต่ความว่างเปล่า มีเพียงทะเลสาบสีดำอันกว้างใหญ่อยู่ตรงหน้าเขานอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอื่นอีก

แต่ถ้าสังเกตุให้ดีจะพบว่า

มันมีร่องรอยการต่อสูกับบริเวณรอบชายขอบทะเลสาบ ดูเหมือนเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน มันดูไม่เหมือนกับร่องรอยที่จระเข้ทมิฟทิ้งเอาไว้

แปลกจริงๆ

การแสดงออกของ หลิน ยู ค่อยๆกลายเป็นเคร่งขรึม มากขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆถอยกลับมาอยู่ข้างเหล่าทหารของเขา

เขากลัวว่าที่นี้จะมีมอนสเตอร์ระดับสูงคอยดักซุ่มโจมตีอยู่ หากเขาต้องตายเพราะรางวัลจากภารกิจ มันคงไม่คุ้มเลยซักนิด

เมื่อนึกขึ้นได้ เขาก็กระโดดขึ้นไปบนหลังของ มังกรราชาปิศาจทันที พร้อมกับบินขึ้นไปบนอากาศเพื่อตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกระทันหัน!

บริเวณพื้นผิวของทะเลสาบที่เงียบสงบก็เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่

แท่งน้ำแข็งที่น่าสะพรึงกลัวหลายอันพุ่งออกมาจากทะเลสาบโจมตีใส่เขา!

ความเร็วของแท่งน้ำแข็งนั้นรวดเร็วมาก

มันเร็วซะยิ่งกว่าการโจมตีเต็มกำลังของทหารระดับ 7 ด้วยซะอีก

มันไม่เปิดโอกาศให้ทหารที่อยู่รอบตัวเข้าช่วยเหลือเขาได้เลย แท่งน้ำแข็งพุ่งมาถึงตรงหน้าเขาความเย็นยะเยือกที่มันแผ่ออกมาทำให้กระดูกของเขาถึงกับสั่นสะท้าน ราวกับว่ามันจะแช่แข็งทั่วทั้งร่างกายของเขา

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย หลิน ยู ฝืนบิดร่างกายของเขา แท่งน้ำแข็งพุ่งผ่านหัวไหล่เฉียดตัวเขาไปนิดเดียว

แกร๊ง!

ชุดของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ หลิน ยู มีบาดแผลน้ำแข็งกัดที่ไหล่ของเขา ความหนาวเย็นแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย ทำให้เลือดของเขาค่อยๆแข็งตัว

"หืออ? หลบได้งั้นเหรอ?"

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 160