“ลอร์ดเผ่าพันธุ์จักรกล… ข้าเข้าใจแล้ว”
โจวโจวได้สติกลับมาและคิดอยู่ชั่วขณะ
เขายังมีโอกาสในการใช้เข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นอีกสามครั้ง มันย่อมไม่เป็นปัญหาอะไรที่จะหาลอร์ดเผ่าพันธุ์จักรกล
จากนั้นเขาก็ไปยังราตรีประดับดาวลำที่หกและมองไปยังภูตทมิฬ ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างน่าพอใจมาก
อย่างไรก็ตาม เขาก็มีปัญหาอยู่ข้อหนึ่ง
“ทำไมพวกเราต้องสร้างโรงงานยานบินบนราตรีประดับดาวด้วย? พวกเราสร้างขึ้นในเมืองตะวันสาดแสงไม่ได้เหรอ?”
โจวโจวถามด้วยความสงสัย
“รายงานท่านลอร์ด ราตรีประดับดาวมีระบบการสร้างและซ่อมแซมยานอวกาศที่สมบูรณ์แบบที่สุดในฐานะยานอวกาศที่เสร็จสมบูรณ์ เหวินหยาได้สร้างโรงงานผลิตยานราตรีประดับดาวแห่งแรกและโรงงานผลิตยานภูตทมิฬแห่งแรกขึ้นในยานบินเพราะข้าอยากจะใช้ระบบทั้งสองนี้เพื่อสร้างโรงงานผลิตยานบินทั้งสองให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด”
“ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จทั้งสองนี้ โรงงานผลิตยานบินต่อไปที่จะสร้างขึ้นบนพื้นดินก็จะเร็วรวดและดียิ่งกว่า”
เหวินหยาร่ายยาว
โจวโจวเข้าใจแล้ว
กลายเป็นว่ายานลำที่หกและเจ็ดถูกใช้เป็นสถานที่ทดลองในสร้างโรงงาน
จากนั้นเขาก็คุยกับเหวินหยาต่อสักพัก หลังจากเขารับรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการในอนาคตของเหวินหยาสำหรับโรงงานผลิตยานบินแล้ว เขาก็ออกมาจากราตรีประดับดาวและกลับไปยังวังของลอร์ด
หลังจากกลับมาที่วังของลอร์ดแล้ว เขาก็เอาชิ้นส่วนหลักฐานกองทัพ 100 อันออกมา
โจวโจวมองไปยังชิ้นส่วนเหล่านี้ และก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา
[ท่านต้องการผสานมันหรือไม่?]
“ต้องการ!”
โจวโจวกล่าว
อึดใจต่อมา ชิ้นส่วนหลักฐานกองทัพ 100 อันก็เปล่งแสงสีขาวจางๆ ออกมาในทันใด และโอบล้อมชิ้นส่วนทั้งหมด
หลังจากผ่านไปสักพัก แสงสีขาวก็หายไป และหลักฐานกองทัพที่สมบูรณ์ก็ปรากฏขึ้นในมือของโจวโจว
โจวโจวใช้มันและเห็นหลักฐานกองทัพในมือของเขากลายเป็นละอองแสงจำนวนนับไม่ถ้วนในทันที จากนั้นข้อความสีแดงโลหิตก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
[โปรดตั้งชื่อให้กับกองทัพระดับอาณาจักรของท่าน]
“กองทัพมอนสเตอร์”
โจวโจวพูดด้วยโทนเสียงต่ำ
เมื่อเช้านี้ หลังจากกวาดล้างฟาร์มมอนสเตอร์แล้ว เขาก็มีชิ้นส่วนหลักฐานกองทัพครบ 100 อัน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มันก็มีหลายสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาได้ใช้มัน แต่ในตอนนี้ที่เขาว่างแล้ว มันจึงได้เวลาที่จะสร้างกองทัพมอนสเตอร์ขึ้นอย่างเป็นทางการ
โจวโจวเริ่มเติมข้อมูลของสมาชิกกองทัพมอนสเตอร์ไปเรื่อยๆ
หลังจากจัดการเรียบร้อยและยืนยันแล้ว ข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นมา
[ท่านได้สร้างกองทัพระดับเหล็กดำ!]
[ฟังก์ชั่นกองทัพเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว!]
[บัฟกองทัพระดับเหล็กดำ 'ความกล้าหาญ' ถูกเปิดใช้งาน]
[ท่านสามารถเพิ่มระดับกองทัพของท่านได้ด้วยการรวบรวมคะแนนการต่อสู้ เพื่อรับบัฟกองทัพระดับสูงขึ้นและผลประโยชน์อื่นๆ!]
โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
วันนี้กองทัพมอนสเตอร์อย่างเป็นทางการถูกสร้างขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ จำนวนฟาร์มมอนสเตอร์ของเขายังเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นสองเท่า อีกทั้งเขายังมุ่งเน้นไปที่การเลี้ยงวิญญาณปีศาจวายุคลั่ง ดังนั้นจำนวนชิ้นส่วนหลักฐานกองทัพที่จะได้ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกในวันพรุ่งนี้!
“บางทีพรุ่งนี้ฉันอาจจะก่อตั้งกองทัพใหม่ได้อีก”
โจวโจวคิดกับตัวเอง
มันมีกองทัพมากมายหลายประเภทอยู่ในดินแดนของเขา ดังนั้นการก่อตั้งกองทัพทั้งสองอันนี้ขึ้นมาจึงห่างไกลกับคำว่าพอมาก
ยกตัวอย่างเช่นกองทัพวาดสวรรค์ก็จำเป็นต้องมีกองทัพเป็นของตัวเอง
นอกจากนี้เขายังมีมังกรมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้เพลิดเพลินไปกับกองทัพอย่างเป็นทางการเลย ดังนั้นเขาจึงต้องจัดตั้งกองทัพอย่างเป็นทางการให้กับมังกรของเขาด้วยหลังจากมีหลักฐานกองทัพเพียงพอแล้ว
หลังจากนั้นเขาก็ต้องพิจารณาถึงการจัดตั้งทหารรับจ้างดับดาราให้เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการด้วย
สุดท้าย ลอร์ดจากพันธมิตรดาราก็จะมีจำนวนกองทัพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นในอนาคต เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการกองทัพที่อยู่ภายใต้พวกเขา และเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของกองทัพ หลักฐานกองทัพก็ย่อมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน
“หลักฐานกองทัพนี่เป็นทรัพยากรที่สำคัญจริงๆ”
โจวโจวถอนหายใจออกมา
ถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็ต้องการหลักฐานกองทัพอีกกว่า 10 อัน ซึ่งวิญญาณปีศาจวายุคลั่งก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญต่อดินแดนของเขาในอนาคตอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาก็หยุดคิดถึงมันและหยิบเอาโทเท็มหมาป่าละโมบออกมาศึกษา
ในเวลาเดียวกัน ลู่ฉ่ายเอ๋อร์ที่อยู่ในค่ายคนป่วย และกำลังรักษาทหารร่วมกันกับหมอและสาวกกลุ่มหนึ่งอยู่ เธอได้เดินออกมาจากค่ายในตอนกลางคืน
เธออดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดค่อยๆ หยุดลงในค่ายผู้บาดเจ็บ
เธอมีความสุขอย่างแท้จริงที่เห็นทหารฟื้นตัวภายใต้ทักษะทางการแพทย์ของเธอ
“แม้ว่าข้าจะไม่ได้รักษาใครมาหลายปีแล้ว แต่ฝีมือของข้าก็ยังไม่ตกลงเลย”
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์พึงพอใจมากกับผลงานของเธอในวันนี้
จากนั้นเธอก็ยืดเส้นยืดสายและกำลังจะกลับไปพัก
แต่ในเวลานั้นเอง เธอก็อึ้งไปในทันใด
นี่เป็นเพราะจู่ๆ เธอก็สังเกตเห็นว่าระดับแพทย์เทวะอมตะของเธอได้เพิ่มขึ้นจากระดับเพชรขั้นต้นเป็นระดับเพชรขั้นกลางโดยไม่รู้ตัว
เธออดอ้าปากด้วยความเหลือเชื่อไม่ได้
‘เป็นไปได้ยังไงกัน?’
แม้ว่าเธอจะหลับใหลไปนาน แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าเธอยังอยู่ห่างไกลจากระดับเพชรขั้นกลางมากก่อนที่เธอจะมาที่นี่ในวันนี้
พูดตามปกติ เธอน่าจะเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับเพชรขั้นกลางได้ภายในครึ่งปีถึงหนึ่งปี
ทำไมจู่ๆ เธอถึงเลื่อนระดับขึ้น?
เธอสับสนมาก
จากนั้นเธอก็เดินกลับไปยังที่พักและเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เธอทำในวันนี้ซึ่งมีโอกาสทำให้เธอเลื่อนระดับได้อย่างก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตาม เธอก็คิดว่าเธอก็ไม่ได้ทำอะไรที่พิเศษไปเลยจนกระทั่งเธอกลับมาถึงที่พัก
เธอได้ส่งต่อความรู้ให้กับหมอระดับสูงในวันนี้นอกเหนือจากการสอนหมอในดินแดน
หลังจากที่ลอร์ดกลับมาพร้อมกับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เธอก็ไปที่ค่ายคนเจ็บทันทีและเริ่มการรักษา
เธอไม่ได้ทำอะไรที่พิเศษเลย…
หืม?!
ในขณะที่เธอรู้สึกสับสน… เธอก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาในทันใด
ไม่!
มันมีเหตุการณ์พิเศษในวันนี้อยู่!
ลู่ฉ่ายเอ๋อร์จำได้
เมื่อเธอรักษาทหารที่บาดเจ็บในวันนี้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง จิตใจของเธอก็ปลอดโปร่งเป็นพิเศษ และปฏิกิริยาของเธอก็ไวเป็นพิเศษ เมื่อเธอใช้ความรู้ทางการแพทย์ที่เธอมี ทฤษฎีทางการแพทย์มากมายก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ
มันมีเพียงสองวิธีเท่านั้นที่หมอจะใช้ยกระดับของตัวเอง
ประการแรกคือการรักษาผู้ป่วยจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพและสะสมประสบการณ์การรักษาเพื่อรับพลังงานเสริมแกร่งเพื่อเพิ่มระดับ
ประการที่สองคือการเรียนรู้ทฤษฎีทางการแพทย์เพิ่มเติมผ่านการศึกษา
ตราบใดที่มีความรู้ทางทฤษฎีเพียงพอเกี่ยวกับเส้นทางการแพทย์และใช้มันจนเชี่ยวชาญ พลังงานเสริมแกร่งที่จำเป็นสำหรับหมอที่จะก้าวไปสู่ระดับต่อไปก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำให้หมอผู้นั้นเลื่อนระดับขึ้นไปได้
การกระทำของลู่ฉ่ายเอ๋อร์ในวันนี้สอดคล้องกับวิธีนี้เลย!
ในเวลานั้นเธอไม่ได้ให้ความสนใจกับสถานะที่แปลกประหลาดนี้มากนัก เธอคิดแต่เพียงว่าตนมีพรสวรรค์ในทางการแพทย์ก็เท่านั้น เธอเพิ่งตระหนักได้ว่ามันมีอะไรแปลกๆ ก็เมื่อเธอมีเวลาพักก็เท่านั้น