ตอนที่ 165 พลักพลิกกฏทำลายรากฐาน

"แต่ฉันรู้สึก..ว่าพลังแห่งกฏนี้ค่อนข้างแปลกทีเดียว มันแตกต่างจากที่ฉันจำได้นิดหน่อย" จี้ หยุนซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ

"อย่างนั้นเหรอ"

ราชันระดับ 9 ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเหมือนกัน เขามองไปที่คริสตัลอีกครั้งอย่างระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเขารู้สึกถึงพลังที่บิดเบี้ยวในลูกแก้วคริสตัล ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

"ไม่ นี้มันไม่ใช่พลังแห่งกฏ แต่มันพลังพลิกกฏต่างหาก"

ขณะที่เขาพูด นั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพียงแค่หยิบคริสตัลขึ้นมาศึกษามันอย่างละเอียด

ยิ่งเขามองดูมันมากเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้นเท่านั้น แถมยังมีความประหลาดใจอยู่เล็กน้อย

แม้แต่ จี้ หยุนซวง ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา "พลังพลิกกฏ? มันคืออะไรกัน"

"มันเป็นพลังที่สามารถย้อนกฏได้" ราชันระดับ 9 หายใจเข้าลึกๆใบหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม

"ถ้าพลังแบบนี้ถูกวางไว้ที่พื้นที่หลักเช่นทวีปดึกดำบรรพ์ ทำจะให้ทำเพียงเกิดความยุ่งเหยิงของกฏเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นพื้นที่รองนั้นมันแตกต่างออกมา หากสิ่งนี้มันไปอยู่ที่พื้นที่รอง ที่นั้นจะถูกทำลายทันที อีกทั้งพื้นที่รองทั้งหลายที่อยู่ติดกันจะพังทลายลงตามไปด้วย"

พื้นที่รองนั้นก็คือภูมิภาคเริ่มต้น

"พวกมันต้องการใช้พลังนี้ทำลานรากฐานของทวีปดึกดำบรรพ์ของเรางั้นเหรอ?"

เมื่อประโยคสุดท้ายถูกพูดออกมา

แม้แต่คริสตัลที่อยู่ในมือก็สั่นอย่างรุนแรง แต่มันไม่เพียงพอที่จะระบายความโกรธในใจของเขา

เมื่อพื้นที่รองเหล่านั้นถูกทำลายไป ราชันหน้าใหม่จำนวนมากก็จะถูกทำลาย ทำให้ทวีปดึกดำบรรพ์ไม่มีราชันสืบทอด มันไม่ต่างอะไรกับทำลายรากฐานของพวกเขา?

วิธีการของโลกหยวนซาครานี้ชั่งชั่วร้ายยิ่งนัก!

เมื่อถึงพูดถึงพวกนั้น

แม้แต่ดวงตาของ จี้ หยุนซวง ก็เบิกกว้างพลันปิดปากลง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล

ยิ่งตัว หลิน ยู ที่อยู่ด้านข้างแล้ว

ในเวลานี้ ราวกับมีพายุได้ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา ถึงแม้ว่าจะตกใจแต่พวกเขาก็ยังเป็นเพียงแค่ราชันระดับ 6 ตัวเล็กๆ

เป็นเพราะเขาได้ยังข้อความสำคัญเข้า

โลกหยวนซาต้องการทำลายภูมิภาคเริ่มต้นของเหล่าราชันหน้าใหม่งั้นเหรอ!

นั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับภูมิภาคที่เขาอยู่มาก่อนงั้นเนหรอ?

อะไรคือความแตกต่างกันระหว่างการกลืนกินราชันทุกคนที่ก้าวสู่ระดับ 6 กับการทำลายภูมิภาคนั้น

มันเป็นไปได้ไหมว่า....

สิ่งนั้นจะถูกทำโดยราชันจากโลกหยวนซา!?

เมื่อคิดถึงมัน หลิน ยู ก็ตกใจมากขึ้นมาอีก

ความสงสัยที่ถูกเก็บงำมาเนิ่นนานก็พลันกระจ่างแจ้ง

เนื่องจากราชันจากโลกหยวนซาสามารถซ่อนเร้นกลิ่นอายแอบเข้ามายังทวีปดึกดำบรรพ์ได้

มันหมายความว่าในบรรดาราชันระดับ 10 นั้นอาจมีสุนัขจากโลกหยวนซาซ่อนอยู่ก็เป็นได้

มันต้องใช่แน่ๆ!

สุดท้ายแล้ว ในฐานะราชัน เขารู้ว่าภูมิภาคเริ่มต้นนั้นมีความสำคัญต่อทวีปดึกดำบรรพ์มากขนาดไหนแต่การทำลายภูมิภาคเริ่มต้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน

หากมันถูกค้นพบมันอาจนำมาซึ่งหายนะ

มันไม่มีช่องว่างสำหรับการทดลอง

ภายใต้ความตกใจนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังราชันระดับ 9 และจ้องมองไปยังคริสตัลสีเทานั้น

จากนั้นเขาก็เห็นราชันระดับ 9 ขมวดคิ้วขึ้นทันทีและพูดว่า "ดูเหมือนการบุกของราชันอันเดดจากโลกหยวนซาจะเป็นแผนที่เตรียมมานานแล้ว อีกทั้งยังมีโอกาศที่จะมีการเตรียมคริสตัลมามากกว่า 1 ชิ้น อีกทั้งพวกเขายังมีสามารถเก็บซ่อนกลิ่นอายได้อีก นี้เป็นเรื่องที่ยากจะรับมือ"

"แล้วพวกเราควรทำยังไงดี?" จี้ หยุนซวง ถามขึ้น

"ต้องรายงานเรื่องนี้ไปยังเบื้องบน แต่ในการค้นหาราชันที่ซ่อนเร้นอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การที่พวกเขากล้าทำแบบนี้แสดงว่าต้องมีพวกเขาแฝงตัวอยู่ในกลุ่มของพวกเราแล้ว อย่างน้อยต้องเป็นราชันระดับ 10 ขึ้นไปด้วยถึงจะสามารถกระตุ้นพลังพลิกกฏนี้ได้"

"ระดับ 10!? นี้มันไม่ได้หมายความว่า"

"ใช่แล้วในบรรดากษัตริย์แห่งอาณาจักร อาจมีคนจากโลกหยวนซาอยู่!" ราชันระดับ 9 พูดขึ้นด้วยความมั่นใจว่า "แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีใดในการซ่อนเร้นจากสายตาของพวกเราทุกคน แต่ข้าคงต้องบอกว่าวิธีที่อีกฝ่ายใช้นั้นฉลาดจริงๆ"

"เป็นไปได้ยังไงกัน..."

จี้ หยุนซวง ก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เธอเกือบจะยืนไม่อยู่

จากนั้นเขาก็พูดบางสิ่งที่นึกถึงขึ้นได้ "แต่มันมีกัษตริย์มากมายในทวีปดึกดำบรรพ์นี้ เราจะหาสายลับพวกนั้นได้อย่างไรกัน"

"นี้เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการทำ" ราชันระดับ 9 ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ "มันมีจักรวรรดิมากมายในทวีปดึกดำบรรพ์นี้ อีกทั้งยังมีอาณาจักรมากมายอยู่ภายใต้ ถ้าเจ้าไม่รู้เป้าหมายที่แน่นอน มันก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรมันมีโอกาสน้อยมาก"

เมื่อพูดแบบนั้นออกมา ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นอีกครั้ง

ในขณะเดียวกันความรู้สึกเสียใจก็แสดงออกมา

หากเขารับรู้เรื่องนี้ได้ไวกว่านี้ บางทีเขาอาจจะหยุดมันได้ทันเวลา

คนเหล่านั้นคือราชันต้นอ่อนหลายสิบล้านคนหรือหลายร้อยล้านคน หากภูมิภาคเริ่มต้นถูกทำลายจริงๆราชันที่อยู่ภายในนั้นก็จะไม่รอด ซึ่งมันจะสร้างความเสียหายให้กับทวัปดึกดำบรรพ์จนไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนได้

โลกหยวนซาเป็นพวกชั่วร้ายอย่างแท้จริงๆ

พวกมันปรารถนาที่จะยังครองทวีปดึกดำบรรพ์ของพวกเขา!

แผนในตอนนี้คือต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะหากยิ่งปล่อยล่าช้าออกไปนานเท่าไร ก็ยิ่งแย่สำหรับพวกเขา

ในไม่ช้า ราชันระดับ 9 ก็เก็บคริสตัลกับไปและพูดกับราชันที่อยู่รอบๆว่า "พวกเรากลับไปที่เมืองหนักกันก่อน! คนที่อยู่นี้เก็บกวาดซากศพให้เรียบร้อย!"

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็กระโดดขึ้นไปบนหลักของ นกฮันหยวนโดนตรงบินกลับไปยังทิศทางของเมืองหลัก เหลือทิ้งไว้เพียงผู้คนที่หวาดกลัวอยู่รอบๆ

ตั้งแต่การกระตุ้นกองทัพสัตว์ร้ายเพื่อทำลายป้อมปราการด่านตรวจ

รวมถึงการค้นพบรอยแยกมิติจนพบเข้ากับการรุกรานครั้งใหญ่

ทั้งหมดนี้ โลกหยวนซา เตรียมแผนการมาได้น่าทึ่งจริงๆ

หากมองย้อนกลับไป ตอนนี้มันถึงกับทำให้เขาสยองเลยทีเดียว

หากเป็นสถานการณ์ปกติ เขาเกรงว่าทวีปดึกดำบรรพ์ต้องเปิดศึกกับโลกหยวนซาอย่าเต็มรูปแบบไปแล้วแน่นอน นี้มันจะทำให้พวกเขาเสียหายอย่างหนักทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างไรก็ตาม คนฉลาดมักมองข้ามสิ่งสำคัญไป

ไม่ว่าแผนของพวกเขาจะถูกวางมาดีขนาดไหน มันก้ย่อมมีช่องโหว่เสมอ

โลกหยวนซาคงไม่คิดมาก่อนว่าในภูมิภาคเริ่มต้นที่พวกเขาปิดกั้นเอาไว้นั้น มีราชันหลายคนหลบหนีออกมาได้

และหนึ่งในราชันเหล่านั้นก็แข็งแกร่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ได้มาถึงสนามรบชายแดนและได้เห็นแผนการของพวกเขาด้วยตาของเขาเอง

หากมีใครในทวีปดึกดำบรรพ์รู้ควรเริ่มตรงไหนนั้น หลิน ยู คือหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน?

นี้เป็นครั้งนี้แรกที่หลิน ยู เข้าใกล้กับความจริงของการปิดกั้นภูมิภาคเริ่มต้นเข้าไปทุกที

ทำให้เขาอดไม่ได้ที่ตื่นเต้น

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสังหารศัตรูที่ต้องการจะกลืนกินเขาได้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็สามารถยืมมือคนอื่นได้

เช่นเดียวกับ... สาวงามที่อยู่ตรงหน้าเขา

อีกฝ่ายยอมรับออกมาด้วยตัวเองว่าเป็นลูกของกษัตริย์ และน่าจะเป็นลูกสาวของกษัตริย์ภายใต้จักรวรรดิเซิ่งเหยาของพวกเขา

หากเขาได้อยู่ใกล้กับ จักรพรรดิเซิ่งเหยา มันก็หมายความว่าตัวเขาจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่าก่อนที่จะรู้ว่าใครคือคนร้ายตัวจริง เขาก็ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวเองมากเกินไป เพื่อไม่ให้เป็นการเชิญให้คนเหล่านั้นมาสังหารเขา

ดังนั้นหลังจากที่เขาครุ่นคิดแล้ว เขาก็เดินมาหา จี้ หยุนซวง ที่มีใบหน้าซีดเซียว และพูดว่า "ฉันจอถามได้ไหม..เธอเป็นลูกสาวของกษัตริย์คนไหน"

เมื่อได้ยินเสียงของเขา ในที่สุด จี้ หยุนซวง ก็ฟื้นคืนสติ

แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์และไม่อยากจะพัวพันกับหลิน ยู เรื่องทรัพยากรอีกต่อไป เธอจึงถามตรงๆว่า "ทำไมจู่ๆ นายถึงถามฉันแบบนี้"

"ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากจะยืนยันอะไรบางอย่าง"

การแสดงออกของหลิน ยู นั้นจริงจังอย่างมาก ในตอนนี้เขาแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

จี้ หยุนซวง รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย แต่เธอก็ตอบตามจริง "ฉันคือ จี้ หยุนซวง ลูกสาวของกษัตริย์แห่งอาณาจักรหวงหวู่ภายใต้จักรวรรดิเซิ่งเหยา"

"ห่ะ..." ในตอนนั้นเอง ดวงตาของ หลิน ยู ก็เบิกกว้าง มองไปที่ จี้ หยุนซวง ด้วยวามตกตะลึง "คุณคือลูกสาวของราชาแห่งอาณาจักรหวงหวู่?"

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 167